บทที่ 505 การฆ่าที่น่ากลัว

สุดยอดชาวประมง

บทที่ 505 การฆ่าที่น่ากลัว

บทที่ 505 การฆ่าที่น่ากลัว

แต่ในวินาทีนี้เอง พวกเขาก็ได้เห็นเข้ากับฉากอันน่าสยดสยอง เพราะมีบางอย่างเกาะอยู่บนหลังของพวกคนที่กำลังวิ่งหนี ด้านหลังของคนพวกนั้น มีเด็กเกาะเอาไว้แน่น !

เจ้าเด็กพวกนั้นพากันยิ้มแสยะ พร้อมกับหันกลับมามองพวกคนที่ยืนอยู่และทำท่าจุ๊ปากราวกับจะบอกห้ามพูด ฉันกำลังจะเล่นกับเขาอยู่ !

หลังจากเห็นฉากนี้เข้าไปทุกคนก็ยิ่งหวาดกลัว และเมื่อจ้องมองต่อไป พวกเขาก็พบว่าพวกคนที่กำลังวิ่งหนีนั้น จู่ ๆ ร่างกายของคนพวกนั้นก็พากันแห้งเหี่ยวอย่างรวดเร็ว เพียงพริบตาคนทั้งหมดก็ร่างแห้งติดกระดูก ก่อนจะล้มลงไปกับพื้นพร้อม ๆ กับที่ผีเด็กพวกนั้นหายไป !

คนที่เหลือรอดได้แต่สูดหายใจเข้าด้วยความหนาวเหน็บ ก่อนที่จะพากันหันมองที่หลังของตัวเอง เพื่อดูว่ามีเด็กตัวเล็ก ๆ ที่กำลังจุ๊ปากอยู่ด้านหลังของตนหรือเปล่า !

ไม่เพียงพวกเขา กระทั่งฉู่เหินเองยังอ้าปากค้างพูดไม่ออก ! เขารู้สึกตกใจมากกับผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น เพราะถ้าหากเปลี่ยนเป็นตัวเองที่เข้าไปในนั้นละก็ น่ากลัวว่าก็คงไม่รอดเหมือนกัน !!

กลับมาทางด้านพวกที่อยู่ในค่ายกล เมื่อเห็นเด็กที่เกาะอยู่บนหลังพวกนั้น คนที่เหลือก็พากันตัวสั่นเทา ความหวาดกลัวแพร่กระจายไปทั่วร่างของพวกเขา เห็นฉากนี้คนที่พอจะรู้เรื่องค่ายกลก็เริ่มอยู่ไม่สุขแล้ว ! เพราะเขายืนอยู่ตรงนี้มาครึ่งวันแล้ว ก็ยังหาวิธีแก้ไม่ได้สักที !

ทุกคนพากันถอยหลังด้วยความจนตรอก และเพื่อป้องกันไม่ให้เด็กมาเกาะที่หลัง พวกเขาจึงหันหลังชนกัน เพื่อทำให้ด้านหลังไม่มีช่องว่างให้เจ้าพวกเด็กน่ากลัว ๆ นั้นปีนขึ้นมาได้ !

พวกเขาพากันเดินเกาะกลุ่มกันไปเรื่อย ๆ ทว่าอยู่ ๆ ก็รู้สึกว่าพื้นด้านล่างสั่น ก่อนที่จะเกิดเป็นรอยแตกอันน่าสยดสยอง ! ภายในรอยแตกนั้น มันได้เต็มไปด้วยมือแห้ง ๆ มากมายที่พากันไขว่คว้าทุกอย่างเท่าที่จะทำได้ เมื่อเห็นฉากนี้เข้าไป ชายที่เห็นคนแรกก็ถึงร้องออกมาและตกใจจนแทบสิ้นสติ

จังหวะเดียวกันนั้นเอง รอยแตกตรงหน้าพวกเขาก็พลันขยายออก ก่อนที่มือพวกนั้นจะพากันปีนป่ายขึ้นมาบนผิวดิน เผยให้เห็นถึงร่างที่พวกเขาคุ้นตาเป็นอย่างดี เพราะแท้จริงแล้วเจ้าของมือแห้ง ๆ พวกนี้ก็คือพวกที่เพิ่งจะวิ่งหนีไปเมื่อกี้ยังไงล่ะ !

ตอนนี้คนพวกนั้นปีนขึ้นมาจากพื้นด้วยดวงตาไร้แวว อีกทั้งริมฝีปากยังอ้าออกคล้ายกำลังโกรธและต้องการจะพูดอะไรบางอย่าง เพียงแต่ศพแห้ง ๆ พวกนั้นกลับพูดออกมาไม่เป็นภาษา ทำให้ฟังไม่ออกว่าพูดอะไรอยู่ !

เมื่อพวกนั้นก้าวมาใกล้ก้าวหนึ่ง ทุกคนก็ถอยหนึ่งก้าว ! ตอนนี้พวกเขามีแต่ความหวาดกลัว ก่อนที่ใครก็ไม่รู้จะตะโกนมาว่า “ไม่ช้าก็เร็วยังไงก็ตาย ถ้างั้นก็สู้กับพวกมันดูสักตั้งไปเลย !” เพียงประโยคนี้ประโยคเดียวก็ราวกับปลุกความหวังของทุกคนขึ้นมา

ต่อมาทุกคนก็พากันพุ่งโจมตีซากศพแห้ง ๆ นั้น เดิมพวกเขานึกว่าศพพวกนี้จะจัดการยาก แต่คิดไม่ถึงว่าเพียงไม่กี่กระบวนท่า พวกมันก็กลายเป็นฝุ่นปลิวหายไปอย่างง่ายดายแล้ว ซึ่งเมื่อผลออกมาเป็นแบบนี้ ทุกคนก็ยิ่งมีกำลังใจ !

ทว่าก็ต้องดีใจได้ไม่นาน เมื่อฝุ่นพวกนั้นพากันรวมตัว และกลายเป็นซากศพแห้ง ๆ พวกนั้นอีกครั้ง ! ครั้งนี้ใบหน้าของพวกมันดูจะโกรธเคืองมากทีเดียว พากันยื่นมือออกมาราวกับจะคว้าอะไรบางอย่าง เมื่อฉากนี้ปรากฏสู่สายตา หัวใจของพวกคนที่เหลือรอดก็พากันเต้นระรัวด้วยความหวาดกลัว !

อย่างไรก็ ในจังหวะนั้นเอง จู่ ๆ ด้านหน้าของพวกเขาก็ปรากฏดวงไฟขนาดใหญ่ขึ้น ดวงไฟนั้นมีสีเขียวมรกต และแม้ว่าจะเป็นดวงไฟ แต่มันกลับให้ความรู้สึกเย็น ! ทุกคนมองดวงไฟอย่างระแวง ก่อนที่จะมีหัวมากมายผุดขึ้นภายในนั้น !

หัวที่ผุดขึ้นมาพวกนั้นพากันเคลื่อนไหวมาทางพวกเขา พอเห็นฉากนี้คนนับ 100 ก็ไม่สามารถสงบจิตสงบใจได้อีกต่อไป ต่างพากันร้องและวิ่งหนีไปคนละทิศละทางอย่างขวัญเสีย ! มีบางคนที่ตกใจเสียใจเลือดไหลออกทวารทั้งเจ็ดก็มี ซึ่งหลังจากนั้นไม่นานคนพวกนั้นก็พากันเน่าเปื่อยและทิ้งไว้เพียงหัวกะโหลก !

มีบางคนที่ใจกล้าหน่อยลองโจมตีดูไม่กี่ครั้ง แต่การโจมตีทั้งหมดกลับทะลุผ่านตัวอีกฝ่ายไปราวกับไม่มีประโยชน์ อีกทั้งคนที่วิ่งหนีไปก็จะถูกศพแห้ง ๆ จับแล้วเกาะไปตามตัวอีกด้วย !

พอเห็นแบบนี้พวกเขาก็รู้สึกหมดหนทาง ! ได้แต่ยืนอย่างโง่งมให้ศพพวกนั้นเดินเข้ามาใกล้ และในขณะนั้นเอง มันก็ได้มีหลุมฝังศพลอยขึ้นมาจากพื้นที่ละอัน ๆ

หลุมฝังศพพวกนั้น ตอนแรกนั้นพวกเขามองเป็นเพียงเนินเขาเล็ก ๆ เท่านั้น ทว่าไม่รู้ว่าเพราะอะไรตอนนี้หลุมนั้นถึงลอยอยู่ในอากาศได้แบบนี้ น่าเสียดายที่ก่อนหน้าไม่ได้สนใจ จึงพึ่งมารู้ตัวเอาตอนที่มันลอยขึ้นมาแล้ว

เห็นเพียงตอนนี้อยู่ ๆ ก็มีหลุมศพ 2 หลุมลอยอยู่เหนือหัวคนคนหนึ่ง ก่อนต่อมาจะเห็นว่าหลุมศพอันนี้ปล่อยแสงสีดำออกมา และในทันทีที่แสงสีดำโดนตัวของคนคนนั้น ร่างกายของเขาก็สั่นสะท้าน ก่อนที่จะแห้งเหี่ยวอย่างรวดเร็ว !

หลังจากนั้นหลุมศพอันที่ว่าก็ขยายใหญ่ขึ้นมากกว่าตอนแรกเป็นเท่าตัว ! และไม่ใช่เพียงแค่นั้น เพราะตอนนี้หลุมศพอื่น ๆ เองก็ได้ลอยอยู่เหนือหัวคนอื่น ๆ แล้วเช่นกัน !

ยิ่งคนตายมากขึ้นเท่าไร พลังจิตสังหารก็คล้ายจะยิ่งแข็งแกร่งมากขึ้นเท่านั้น ฉู่เหินขมวดคิ้ว เขามองสำรวจพลังจิตตรงหน้า ! ก่อนที่ชายหนุ่มจะรู้สึกว่าพลังที่ปล่อยออกมานั้นเป็นจิตสังหารของธรรมชาติ ดังนั้นเขาจึงไม่รู้จริง ๆ ว่ามันจะยังจำเจ้าของที่สร้างมันได้ไหม !

เมื่ออยู่ในอาณาเขตของพลังจิตสังหาร ก็คงได้แต่ร้องออกมาอย่างน่าเวทนาเท่านั้น เมื่อสิ้นเสียงร้อง 1 ชีวิตก็ได้ดับสูญตามไปด้วย ! พอเห็นแบบนี้ฉู่เหินก็เริ่มรู้สึกทนดูไม่ได้ แม้ว่าคนพวกนี้จะสมควรตายก็ตาม

ชายหนุ่มรู้ดีว่าโลกนี้เป็นเหมือนปลาใหญ่กินปลาเล็ก ถ้าคุณไม่แข็งแกร่ง ไม่อำมหิต งั้นก็เตรียมตัวตายได้เลย เพราะมีแต่คนที่ชนะเท่านั้นถึงจะเขียนประวัติศาสตร์ได้ ในโลกใบนี้ไม่มีกฎเกณฑ์ ไม่มีความเสมอภาค และก็ยิ่งไม่มีความยุติธรรม

ถ้าคุณอยากได้อะไรก็ต้องอาศัย 2 มือของตัวเอง ขอเพียงแค่คุณแข็งแกร่งคุณก็จะได้ทุกสิ่ง ถ้าคุณอ่อนแอ งั้นคุณก็ไม่สมควรได้สิ่งที่ต้องการ ! เพราะในโลกใบนี้ไม่มีที่ยืนให้คนอ่อนแอ

การสังหารหมู่ผ่านไปอย่างรวดเร็ว ในที่สุดเสียงกรีดร้องก็เงียบลง ส่วนคนนับ 100 ที่เข้ามาก็ได้ตายไปหมดแล้ว ต้องเข้าใจว่าคนนับ 100 นี้ไม่ได้ถือว่าเก่งกาจอะไร มีเพียงแค่ 20 คนเท่านั้นที่อยู่ในขั้นปราชญ์ระดับสูงสุด นอกนั้นอยู่ในขั้นที่ย่ำแย่กว่านั้นอีก !

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้เขายิ่งมั่นใจว่าพลังจิตสังหารนั้นยิ่งเวลาผ่านไปก็ยิ่งแข็งแกร่ง ! ถ้าเขาได้ศึกษาจนเข้าใจทั้งหมดล่ะก็ไม่รู้ว่าจะเป็นยังไง ซึ่งฉู่เหินก็ได้แต่เดาว่าพอถึงตอนนั้นน่ากลัวว่าอาณาเขตของพลังจิตสังหารก็คงกลายเป็นเหมือนกับสุสานขนาดใหญ่ !

ฉู่ตงได้แต่เหม่อลอยอย่างโง่งม เขาเห็นทุกอย่างตั้งแต่ต้นจนจบ เรียกได้ว่าแม้จะไม่ได้เกิดขึ้นกับตัว แต่ภาพที่เกิดขึ้นก็ทำให้เขาตกใจจนตัวสั่นแล้ว ตอนนี้ในสายตาเขา ฉู่เหินไม่ใช่คนธรรมดาอีกต่อไปแล้ว ลึก ๆ แล้วเขายังแอบกลัวด้วยซ้ำ