บทที่ 506 ทำลาย
บทที่ 506 ทำลาย
น่ากลัวเกินไปแล้ว ! นี้เป็นประโยคเดียวที่ฉู่ตงใช้นิยมฉู่เหินในตอนนี้ เขานั้นต้องใช้กว่าครึ่งวันถึงจะเก็บตราประจำตัวของทุกคนที่ตายจนหมด เมื่อรวมตราประจำตัวตอนนี้ พอนับ ๆ ดูแล้ว มันมีเกินกว่า 7 พันอันเข้าไปแล้ว
เห็นได้ชัดว่าพวก 10 คนก่อนหน้านี้ไม่ได้ร่ำรวยขนาดนั้น เพราะมันคงเป็นระดับมาตรฐานสำหรับผู้ที่รอดชีวิตมาถึงตอนนี้ เมื่อมองตราประจำตัวนับพันชิ้น ไม่รู้ทำไมฉู่ตงถึงไม่สามารถดีใจขึ้นมาได้ บางทีอาจเฉพาะฉากน่ากลัวก่อนหน้านี้ละมั้ง เพราะจนถึงตอนที่เขายังรู้สึกเย็นสันหลังอยู่เลย !
ครั้งนี้ฉู่ตงไม่ได้ออกไปหาคนจากข้างนอกมาอีก ซึ่งทางด้านฉู่เหินเองก็ไม่ได้พูดอะไร เขาเพียงแค่กลับมาฝึกฝนพลังแบบเงียบ ๆ อีกครั้ง ในฐานะมนุษย์โลกคนหนึ่ง เมื่อผ่านเหตุการณ์น่ากลัวแบบนั้นมา การนิ่งเงียบเช่นนี้ถือได้ว่าเหมาะสมที่สุดแล้ว !
เวลาผ่านไป 10 วัน ทำให้ฉู่เหินเข้าใจค่ายกลตรงหน้าลึกซึ้งขึ้นไปอีก ตอนนี้ชายหนุ่มสามารถออกจากค่ายกลน่าตายนี่ได้แล้ว ! ทว่าถึงจะเชื่อแบบนั้น หากแต่ตอนที่ก้าวออกไปเขาก็ยังเลือกที่จะใช้ไฟเย็นออกมาคลุมร่างกายของตนไว้ชั้นหนึ่ง ด้วยวิธีนี้ แม้ว่าจะมีพลังธาตุมืดน่ากลัว ๆ นั้นอยู่โดยรอบ แต่พลังธาตุพวกนั้นก็จะไม่เข้ามาโจมตีเขาหรอก
ไม่รู้ว่าค่ายกลตรงหน้าสร้างขึ้นมากี่ปีแล้ว ฉู่เหินไม่กล้าประมาทแม้แต่น้อย ต้องเข้าใจว่าพลังจิตสังหารของเขาที่พึ่งสร้างนั้นน่ากลัวขนาดไหน เพราะงั้นยิ่งไม่ต้องพูดถึงค่ายกลตรงหน้าที่สร้างมาไม่รู้กี่ปีเลย มันต้องทรงพลังเกินกว่าที่เขาจะสามารถจินตนาการได้อย่างแน่นอน !!!
ถ้าเดินผิดก้าวเดียวล่ะก็ เขาก็คงต้องจ่ายค่ามันด้วยชีวิตเช่นเดียวกับคนนับร้อยพวกนั้น ! ชายหนุ่มก้าวต่อไปอย่างช้า ๆ ด้วยความระมัดระวัง ทำให้การเดินทางครั้งนี้ใช้เวลานานกว่าปกติ ! บรรยากาศรอบด้านมันทำให้เขารู้สึกกดดันเสียจนเหงื่อไหลเต็มหัวไปหมด !
เพียงแค่ไม่กี่ 10 เมตรสั้น ๆ ทว่าฉู่เหินกลับต้องใช้เวลาเดินเป็นวันถึงจะออกมาได้ โชคดีที่เขาเข้าใจค่ายกลนี้ดีแล้ว ดังนั้นทุกก้าวที่เดินจึงเป็นแต่จุดบอดของค่ายกล ไม่งั้นคงออกมาไม่ได้แน่ !
เมื่อออกมาข้างนอกแล้วมองเห็นต้นไม้สีเขียวขจีโดยรอบ ฉู่เหินก็ถึงกับถอนหายใจออกมาอย่างแรงด้วยความโล่งอก ! ต้องเข้าใจว่าเขาติดอยู่ในนั้นนานกว่าเดือนครึ่งแล้ว ! วันนี้ในที่สุดก็ได้ออกมา มันจึงทำให้ชายหนุ่มมีความสุขจนพูดไม่ออก !
ฉู่ตงในตอนนี้นั้นฟื้นตัวเต็มที่แล้ว อีกทั้งพลังวรยุทธ์ก็เหมือนจะมีสัญญาณเลื่อนขั้นนิดหน่อย ถ้าฉู่ตงเลื่อนขั้น เขาก็น่าจะกลายเป็นขั้นปราชญ์ระดับสูงสุด ! หลังจากทั้ง 2 เจอกัน แน่นอนว่าพวกเขาย่อมมีหลายสิ่งที่อยากพูดคุยกัน เพราะเมื่อนับดูดี ๆ แล้วนั้น พวกเขาไม่ได้เจอกันเกือบครึ่งปีแล้ว
ต่อมาชายหนุ่มก็ทำการเก็บพลังจิตสังหารทั้งหมดกลับมา ! หลังจากติดแหง็กอยู่ครึ่งเดือน ในที่สุดฉู่เหินก็รู้สึกกลับมาเป็นอิสระอีกครั้ง ! เมื่อได้กลับมาดูโลกใบนี้อีกครั้ง พวกเขาก็เลือกที่จะนั่งลงและพูดคุยแลกเปลี่ยนเรื่องราวระหว่างที่หลงกัน
ซึ่งทางฉู่ตงก็ได้เล่าว่าหลังจากที่พวกเขาแยกจากกันเพราะเฮอร์ริเคนในครั้งนั้น ตัวเขาก็ถูกพัดตกในแม่น้ำ ! โชคดีที่มีผู้หญิงที่ไปตกปลาช่วยพากลับมา บาดแผลที่ฉู่ตงได้รับ ทำให้เขาต้องรักษาอยู่เกือบหนึ่งเดือนกว่าถึงจะรักษาหาย ! ซึ่งหลังจากรักษาเสร็จเขาก็ถูกพาเข้าร่วมทีมปกป้องหมู่บ้านชาวประมงในทันที
เนื่องจากฉู่ตงมีความสามารถโดดเด่น ถึงได้เข้าร่วมงานคัดเลือกของพรรควายุอัสนี ! เรียกได้ว่าเขานั้นไม่ได้พบเจอความลำบากอะไรมาก กลับเป็นฉู่ตงเสียมากกว่าที่ได้แต่ตกตะลึงเมื่อได้ยินเรื่องราวของฉู่เหิน ! เขาคิดไม่ถึงว่าคนที่แข็งแรงอย่างฉู่เหิน จะถูกผู้หญิงคนหนึ่งจับตัวไปเป็นหนูทดลองยา !
ถ้าตอนนั้นไม่มีหมาป่าไปช่วยละก็ เกรงว่าวันนี้พวกเขา 2 คนคงไม่ได้เจอกันแล้ว ทั้ง 2 ได้แต่ถอนหายใจออกมาด้วยความรู้สึกที่ว่าโลกใบนี้ช่างโหดร้ายชะมัด !
ทั้ง 2 นั่งคุยกันโดยไม่สนใจคนอื่น แน่นอนว่าต้องทำให้คนอื่นสังเกตเห็นพวกเขาอย่างแน่นอน ไม่เพียงแต่ผู้คัดเลือก แม้แต่สัตว์ที่อยู่บริเวณนั้นก็พบพวกเขาเช่นกัน ! เดิมทีพวกเขาถูกค่ายกลบังตาเอาไว้ คนอื่นถึงได้มองไม่เห็น แต่ในเมื่อตอนนี้ฉู่เหินเอาพลังจิตสังหารออกไปแล้ว คนอื่น ๆ จึงสามารถมองเห็นพวกเขาได้อย่างชัดเจน !
เพราะแบบนี้คนที่คิดไม่ดีจึงค่อย ๆ เดินเข้ามาใกล้ และเมื่อคนพวกนั้นเข้าใกล้ทั้ง 2 คน ฉู่เหินกับฉู่ตงกึงกับถอนหายใจออกมา เดิมทีพวกเขากะจะไม่ฆ่าใครแล้วนะ เพราะฉากก่อนหน้านี้ทำให้ส่งผลกระทบต่อจิตใจพวกเขาเกินไป !
แต่ในสถานการณ์แบบนี้ ถ้าคุณไม่ฆ่างั้นก็รอให้คนอื่นมาเอาชีวิตไปเถอะ ! พวกเขาเรียกอาวุธของตัวเองอย่างจนปัญญา และตั้งท่าเตรียมพร้อม ไม่ใช่ว่าฉู่เหินไม่อยากใช้พลังจิตสังหารของตัวเอง แต่เมื่อเขาเห็นถึงฉากการฆ่าที่น่าสยดสยองนั้นแล้ว มันก็ทำให้หัวใจของเขาเต้นรั่วด้วยเช่นกัน !
เมื่อเห็นฉู่เหินและฉู่ตงตั้งท่าเตรียมพร้อม คนพวกนั้นที่จากเดิมย่องเข้ามาเงียบ ๆ ก็ไม่สนใจอะไรแล้ว วิ่งพุ่งมาทางนี่ทันที อีกทั้งใบหน้าของพวกเขายังเต็มไปด้วยความเหี้ยมเกรียม ราวกับว่าต่อให้ฉู่เหินและฉู่ตงจะพูดอะไรมันก็ไม่เข้าหัวสมองของพวกเขาอีกแล้ว !
“พวกแก 2 คนอยากรอดหรืออยากตาย ถ้าอยากรอดให้เอาตราประจำตัวมาแลกซะ ไม่งั้นพวกแกตายแน่ ! ” ชายหัวล้านคนหนึ่งมองหน้าทั้ง 2 แล้วพูด
“ดูแล้วแกก็ไม่เห็นจะเก่งตรงไหน ตอนนี้ฉันจะให้โอกาสไว้ชีวิตพวกแกสักครั้ง เอาตราประจำตัวออกมา ไม่งั้นฉันจะฆ่าพวกแกซะ ! ” ฉู่เหินตอบโต้ด้วยประโยคแบบเดียวกัน ทำให้พวกนั้นมองมาด้วยสายตาเหี้ยมเกรียม!
“มารดามันเถอะ พวกแก 2 คนมันหน้าไม่อายจริง ๆ ! ในเมื่อพวกแกอยากตาย งั้นพวกฉันจะสนองให้เอง” เมื่อพูดจบ ชายหัวล้านก็ตัวกระตุกครั้งหนึ่ง ก่อนที่ลมปราณจะทะลักออกมาอย่างบ้าคลั่ง ! สำหรับคนที่มีพลังวรยุทธ์ที่ต่ำกว่าเล็กน้อย เมื่อเจอกับพลังระดับนี้เข้าไป พวกเขาก็คงได้แต่ยืนนิ่งเพราะถูกแรงกดดันจนหายใจไม่ออก !
เพราะคนคนนี้มีพลังวรยุทธ์อยู่ที่ขั้นปราชญ์ระดับสูงแล้ว ด้วยพลังขั้นนี้ถือว่าเป็นผู้คัดเลือกระดับต้น ๆ เลยก็ว่าได้ เมื่อเขาปล่อยพลังออกมา ฉู่เหินก็เหมือนจะจำเขาขึ้นมาได้ เพราะคนคนนี้ไม่ใช้ใครอื่น เขาก็คือคนที่ได้อันดับ 3 ในเขาวงกตนั้น !
ครั้งก่อนฉู่เหินทำการขโมยของรางวัล 2 อันดับแรกมาได้ คิดไม่ถึงเลยว่าวันนี้ตนจะมีโอกาสได้ของวิเศษอันดับ 3 มาไว้ในครอบครองแล้ว !
หลังจากนั้นก็เห็นเพียงคนคนนี้โบกมือ ก่อนที่โครงกระดูกจะมาอยู่ในมือทั้ง 2 ข้างของเขา โครงกระดูกนี้ก็คือของรางวัลที่เขามองข้ามไปเมื่อครั้งก่อน ! ดูเหมือนว่านี้จะเป็นชะตาลิขิตของฟ้า !
ฉู่เหินคิดในใจก่อนจะโบกมือและกระบี่ก็ปรากฏขึ้นที่มือของเขา ! ต้องเข้าใจว่าตอนนี้อาวุธที่เขาสามารถนำออกมาได้มีเพียงกระบี่นี้เล่มเดียว ! สำหรับกระบองจตุรธาตุนั้น ถ้ายังหาวัตถุดิบที่เหมาะสมให้มันเลื่อนระดับไม่ได้ล่ะก็ ตอนนี้ก็ยังใช้งานมันไม่ได้
อาวุธระดับต่ำ ๆ ที่เขามีนั้นมันเทียบกันไม่ติดกับกระบี่ไม่มือ เพราะแบบนี้ถ้าใช้กระบอกจตุรธาตุโจมตีละก็ น่ากลัวว่าคงจะไม่สามารถสร้างบาดแผลให้อีกฝ่ายได้เลย
หลังจากโบกมือเรียกกระบี่มาแล้ว ฉู่เหินก็พูดกับคนข้าง ๆ เขาว่า “นายรออยู่ตรงนี้ก่อน เดี๋ยวฉันไปแย่งอาวุธของมันมา แล้วจะเอามาให้นายใช้เอง ! ” อาวุธของฉู่ตงนั้นยังคงเป็นกระบี่ยาวที่ได้มาจากตระกูลฉู่ ! ดังนั้นหลังจากมาถึงโลกนี้มันก็ใช้การแทบไม่ได้แล้ว !
ฉู่ตงที่ได้ยินแบบนั้นย่อมดีใจ เพราะเขาไม่มั่นใจสักนิดว่าตัวเองจะสามารถจัดการอีกฝ่ายได้ ! แม้ว่าตอนนี้เขาจะรู้ว่าพลังวรยุทธ์ของฉู่เหินเทียบกับตัวเองไม่ได้ แต่เขาก็เชื่อว่าชายหนุ่มนั้นมีโอกาสจัดการเจ้าหัวล้านตรงหน้ามากกว่าเขาอย่างแน่นอน !
ต่อมาก็เห็นฉู่เหินก้าวไปด้านหน้าและรำกระบี่อย่างฉับพลัน ก่อนที่กระบี่ที่โค้งเหมือนจันทร์เสี้ยวจะถูกเขาฟันออกไป! พร้อม ๆ กับเปลวไฟที่ถูกปลดปล่อยออกมา พุ่งตรงเข้าใส่ชายหัวล้านอย่างรวดเร็ว !