บทที่ 507 เลื่อนระดับขั้นในการต่อสู้

สุดยอดชาวประมง

บทที่ 507 เลื่อนระดับขั้นในการต่อสู้

บทที่ 507 เลื่อนระดับขั้นในการต่อสู้

ชายหัวล้านที่เพิ่งจะยกโครงกระดูกมาขวางกระบี่เอาไว้ ก็คิดไม่ถึงว่าอยู่ ๆ จะมีเปลวไฟลุกท่วมร่างตัวเองเต็มไปหมด ! วิชาแบบนี้เขาเองก็ใช้เป็น แต่เปลวไฟนี่กลับต่างออกไป ซึ่งถ้าเป็นเปลวไฟธรรมดาก็คงทำพลังวรยุทธ์อย่างเขาไม่ได้หรอก !

เปลวไฟที่ฉู่เหินปล่อยออกมา แท้จริงแล้วก็คือไฟเย็น ! และเมื่อเปลวไฟเข้าห่อหุ้มร่างของชายหัวล้านเอาไว้ มันก็เผาผลาญขึ้นมาอย่างบ้าคลั่ง เพียงพริบตาเดียวก็ได้ยินเสียงชายหัวล้านร้องโหยหวนขึ้นมา

ด้วยพลังวรยุทธ์ของชายหัวล้านที่สูงพอตัว ถึงแม้เขาจะโดยเปลวไฟเข้าไป แต่เขาก็ยังแข็งแกร่งพอที่จะหาทางหลบหนีออกมาได้ ! ว่าแล้วชายหัวล้านก็พุ่งทะยานร่างผ่านทะเลเพลิงออกไป ก่อนจะถอดเสื้อผ้าของตัวเองและเปลี่ยนเป็นอีกตัว ! ด้วยวิธีนี้ถึงทำให้เขาหลุดจากทะเลเพลิงได้

โชคดีที่เขาหัวล้าน ไม่งั้นเกรงว่าเขาคงต้องหาอะไรมาตัดผมตัวเองแล้ว ซึ่งถ้าต้องทำอย่างงั้นมันก็ออกจะน่าขำไปหน่อย และเมื่อชายหัวล้านหลบมาได้ นัยน์ตาของเขาก็แสดงให้เห็นถึงความบ้าคลั่งกระหายเลือดออกมาอย่างชัดเจน !

พอเห็นสายตาของอีกฝ่าย ฉู่เหินก็เลียริมฝีปากของตัวเอง เพราะเขาดูออกว่าที่ชายหัวล้านสามารถออกมาจากทะเลเพลิงของได้นั้น เป็นเพราะโครงกระดูกที่ถืออยู่ ! เท่านี้ก็ยืนยันได้แล้วว่าโครงกระดูกที่อีกฝ่ายถืออยู่นั้นน่าสนใจไม่ใช่น้อย !!!

อาวุธที่วิเศษขนาดนี้ เมื่อเห็นแล้วก็อดที่จะใจเต้นไม่ได้ แต่ในเมื่อรับปากกับฉู่ตงไว้แล้ว เขาก็จะไม่กลืนน้ำลายตัวเอง ! ว่าแล้วชายหนุ่มก็เก็บเปลวไฟทั้งหมดกลับมา ถ้าเป็นเพลิงธรรมดาเขาก็คงคร้านที่จะสนใจ ปล่อยไว้แบบนั้น ทว่าเปลวไฟนี้ไม่เหมือนกัน เพราะมันเป็นเปลวไฟเย็นของตัวเขา !

เขาโบกกระบี่พุ่งตัวไปหาชายหัวล้านอีกครั้ง ชายหัวล้านโบกง่ามกระดูกปักไว้กับพื้น ต่อมาฉู่เหินก็พบว่าพื้นดินสั่นสะเทือนไม่หยุด ก่อนที่จะปรากฏหนามแหลมขึ้นเต็มทั่วพื้น

ทันทีที่พื้นดินเกิดหนามแหลม ฉู่เหินก็รวบรวมกำลังเพื่อป้องกันในทันที ! วิชาที่อีกฝ่ายใช้คือ หนามธารณี ! สำหรับวิชานี้ฉู่เหินนั้นเคยอ่านเจอในหนังสือ เพียงแต่ตัวเขาเองไม่มีธาตุดินจึงไม่สามารถฝึกได้ ไม่งั้นเขาคงจะฝึกวิชานี้ไปแล้ว เพราะเขารู้สึกว่ามันเป็นวิชาที่เจ๋งมาก !

ฉู่เหินใช้เกราะพลังธาตุทั้ง 3 ของเขาออกมาไว้นอกร่างกายอย่างไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อย ! พอเกราะพลังธาตุสร้างเสร็จ หนามแหลมพวกนั้นก็พุ่งเข้ามาพอดี

เนื่องจากนี้เป็นวิชาธาตุดินอย่างหนึ่ง ดังนั้นทันทีที่ปล่อยวิชานี้ออกมาจึงเกิดเป็นพายุทราย ทำให้เกิดฉากที่ผู้คนโดยรอบเห็นแล้วตกใจกลัวขึ้น !

ความเร็วของฉู่เหินนั้นช้าลงมากเมื่อมาถึงโลก ดังนั้นเมื่อหนามแหลมพวกนั้นพุ่งเข้ามา เขาจึงไม่สามารถหลบได้หมด

ฉู่ตงที่ยืนสังเกตการณ์อยู่ด้านนอก เมื่อเห็นดังนั้น ดวงตาก็คล้ายจะเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ ! อีกทั้งยังเขายังโยนความเป็นคนดีทิ้งไปซะ !ตอนนี้ฉู่ตงเปลี่ยนเป็นคนที่บ้าคลั่งพร้อมที่จะฆ่าผู้คนด้านหน้าให้หมดสิ้นแล้ว !!!

ตอนนี้เขารู้สึกเกลียดตัวเองเป็นอย่างมาก ถ้าไม่ใช่เพราะตัวเองไร้ประโยชน์ ฉู่เหินก็คงไม่ต้องเจอเข้ากับอะไรแบบนี้ ! และเพราะงั้นตอนนี้เขาถึงได้รู้สึกผิด ตอนนี้ฉู่ตงนั้นเชื่อแบบสนิทใจเลยว่าฉู่เหินนั้นไม่สามารถหลบการโจมตีนี้ได้แน่

ฉู่เหินมองหนามแหลมที่ใกล้เข้ามา เขาก็พลันหยุดชะงักไปพักหนึ่งเพื่อเตรียมรับแรงกระแทก โชคยังดีที่ร่างกายเขามีเกราะป้องกันพลังธาตุอยู่ ถึงได้สามารถหายใจหายคอได้นานแบบนี้ แต่ฉู่เหินก็ไม่ได้หยุดการเคลื่อนไหว เมื่อตั้งหลักได้แล้ว ชายหนุ่มก็พุ่งตัวไปทางชายหัวล้านต่อทันที !!!

เมื่อหนามแหลมและเกราะป้องกันพลังธาตุชนกัน มันก็เกิดเสียงดังกัมปนาท ฉู่เหินพบว่าเกราะป้องกันของตัวเองนอกจากจะสั่นเพียงเล็กน้อยแล้ว มันก็ไม่มีรอยอะไรอีก ! สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้ชายหนุ่มตกใจมากทีเดียว เพราะต้องเข้าใจว่าเกราะป้องกัน 3 ธาตุของเขานั้นมีพลังแข็งแกร่งมาก ทว่าในสถานการณ์แบบนี้กลับทำให้หนามของอีกฝ่ายสั่นไหวเท่านั้น

กระทั่งต่อมาเกิดระเบิดขึ้นก็ทำให้ฉู่เหินเริ่มอยู่ไม่สุขแล้ว เดิมเขานึกว่าอาศัยเกราะพลังธาตุก็เพียงพอให้อีกฝ่ายแพ้แล้ว ! แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าถ้าเจอกับคนที่แข็งแกร่งจริง ๆ ล่ะก็ เกราะพลังธาตุที่เข้าใช้มันก็เป็นได้แค่ของไร้ประโยชน์เท่านั้น !

แน่นอนว่ามันเกี่ยวกับพลังวรยุทธ์ที่น้อยนิดของชายหนุ่ม ! ตอนนี้เขาเป็นเพียงขั้นปราชญ์ระดับต้น ขณะที่อีกฝ่ายเป็นถึงขั้นปราชญ์ระดับสูง ความแตกต่างของทั้งสองค่อนข้างมาก เมื่อเป็นแบบนี้ที่เกราะพลังธาตุของตัวเองทำอะไรอีกฝ่ายไม่ได้ก็สมเหตุสมผลแล้ว

ขณะที่ฉู่เหินยืนไม่มั่นคงนั้น ทางด้านชายหัวล้านเองก็เริ่มกังวลแล้วเช่นกัน เขานั้นคิดว่าตัวเองเจอของแข็งเข้าเสียแล้ว ! ยิ่งฉู่เหินเดินเข้ามา ชายหัวล้านก็ทำได้เพียงถอยไปเรื่อย ๆ ! เพราะงั้นชายหัวล้านจึงได้อาศัยวิชาหนามขัดขวางฉู่เหินเอาไว้

ตอนนี้ฉู่เหินสัมผัสได้ถึงพลังที่แท้จริงของอีกฝ่ายแล้ว ! เพราะเขาคิดว่าตัวเองไม่สามารถสู้คนอย่างนี้ได้ จึงคิดจะปล่อยพลังจิตสังหารออกมา ถ้าเรียกใช้ได้ทันก็ดีไป ทว่ามันไม่ทันแล้วไง ! แต่จะให้เขานอนรอเป็นผักที่อยู่บนเขียงหรือไง ! เขาก็ไม่มีวันยอมหรอก ชายหนุ่มไม่มีวันที่จะยอมแพ้เด็ดขาด !

ฉู่เหินอยากจะใช้พลังที่แท้จริงโจมตีชายหัวล้านตรงหน้าด้วยการฟันให้ตาย ๆ ไปซะ ! เพียงแต่ที่ทำให้เขาโมโหก็คือยิ่งเขาเข้าใกล้เท่าไร อีกฝ่ายก็เอาแต่ถอยหลัง ! มันทำให้เขาไล่ตามอีกฝ่ายไม่ทัน

ยิ่งโมโหในใจเขาก็ยิ่งรู้สึกไม่ยอมแพ้ ชายหนุ่มทำการโคจรพลังกิเลนซ้ำไปซ้ำมา ด้วยวิธีนี้ทำให้พลังวรยุทธ์ของเขาเพิ่มขึ้นเล็กน้อย โดยที่เขาไม่ทันสังเกตเห็น

อีกทั้งพลังของเกราะพลังธาตุของเขาก็เริ่มไหววูบ ราวกับจะหายไปได้ตลอดเวลา ถ้าเกราะพลังธาตุหายไปล่ะก็ อาศัยกายเนื้อของเขาอย่างเดียวจะสามารถหลบพ้นไหมนะ ! เพราะตอนนี้เขาเริ่มรู้สึกถึงอันตรายก่อเกิดขึ้นในใจบ้างแล้ว !

และถึงแม้เกราะป้องกันจะติด ๆ ดับ ๆ ทว่าในใจฉู่เหินกลับสงบนิ่ง เหลือไว้เพียงความรู้สึกอยากเอาชนะ ! ต่อมาการต่อสู้ก็ได้เริ่มขึ้นอีกครั้ง ก่อนที่ร่างกายของเขาจะเปล่งแสงสีทองออกมา ! มองไกล ๆ ราวกับอรหันต์ร่างทอง

ตอนนี้เองที่ทำให้ชายหัวล้านอ้าปากค้าง เพราะเขาได้ยินเสียงปริร้าวมาจากเกราะป้องกันของอีกฝ่าย เมื่อเห็นฉากนี้ชายหัวล้านก็รู้แล้วว่าอีกฝ่ายมีเวลาไม่นาน สำหรับชายหัวล้านแล้วนั้น นี่คือแสงแห่งชัยชนะของเขา ดังนั้นทำไมเขาจะไม่ดีใจล่ะ !

ขนาดฉู่เหินยังอยากแย่งชิงง่ามกระดูกของเขา แล้วทำไมเขาจะไม่อยากแย่งกระบี่ของฉู่เหินบ้างล่ะ ! เขามองออกว่ากระบี่นี้วิเศษกว่าง่ามกระดูกของตัวเองแน่นอน ! เพราะงั้นเมื่อเห็นฉู่เหินจะแพ้ เขาก็อดที่จะเผยรอยยิ้มออกมาไม่ได้ !

ทางด้านฉู่เหินที่กำลังโคจรพลังกิเลนอย่างรวดเร็ว ทันใดนั้นเขาก็ตะโกนออกมาอย่างโมโห “แกจะไม่ให้ฉันทะลวงอีกเหรอวะ ! ” ไม่กี่วันก่อนหมิงอู่ของเขาลึกซึ้งขึ้นหลายชั้น แม้ว่าจะไม่ได้โคจรพลังดวงดาวตัวเอง แต่ในสภาวะหมิงอู่ก็ทำให้พลังดวงดาวของเขาเพิ่มระดับขึ้นอย่างรวดเร็ว !

กระทั่งไม่กี่วันก่อนเขาสามารถทะลวงขอบเขตได้แล้ว แต่ก็ยังไม่อาจทะลวงได้สำเร็จ วันนี้เพราะพลังของชายหัวล้านบีบบังคับ ทำให้ในที่สุดเขาก็สามารถทะลวงได้สำเร็จ ! ในชั่วชณะนั้นชายหนุ่มได้เลื่อนขั้นจากปราชญ์ระดับต้นขั้นต้นเป็นขั้นกลางแล้ว ทำให้พลังการโจมตีของเขาเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว !

และก็เป็นตอนนี้เอง ที่จู่ ๆ เขาก็ได้เรียกเสียงดังออกมาในร่างกาย ก่อนที่ชายหนุ่มนั้นจะเลื่อนขั้นอีกครั้งจนกลายเป็นปราชญ์ระดับต้นขั้นสูงได้สำเร็จ !