บทที่410 ของขวัญจากสวรรค์
พวกคนรับใช้ในตระกูลลี่ต่างรู้กันหมด ว่าเทวดาที่อยู่ตรงหน้านี้ ยังสูงส่งยิ่งกว่าเทวดาจริงๆ เสียอีก
ในใจของลี่จุนถิงนั้น เจียงหยุนเอ๋อสำคัญกว่าถวนจื่อเป็นอย่างมาก
เจียงหยุนเอ๋อพูดพลางเดินลงไป: “ไม่ต้องลำบากคุณหรอก ของพวกนี้ฉันอยากไปซื้อเอง คุณวางใจเถอะ หมอบอกแล้วว่าให้ฉันเดินเยอะๆ หน่อย วันนี้อากาศก็ไม่เลวเลยนะ”
เจียงหยุนเอ๋อเองก็รู้สึกเสียดายที่ต้องอยู่บ้านต่อ เมื่อได้เห็นอากาศดีๆ แบบนี้
“ได้ งั้นฉันจะให้คนขับรถไปส่งคุณนะ” เจียงหยุนเอ๋อไม่เปลี่ยนไป ผู้ดูแลบ้านเองก็ไม่พูดอะไรต่อไปแล้ว
“ได้เลย” เจียงหยุนเอ๋อขอบคุณ ก่อนจะเดินไปที่สวน เพื่อรอคนขับรถมารับ
หลังจากที่เจียงหยุนเอ๋อขึ้นรถไปแล้ว ก็ออกไปจากตระกูลลี่ทันที
เมื่อผู้ดูแลบ้านเห็นเจียงหยุนเอ๋อออกไป ก็รีบโทรหาลี่จุนถิงทันที: “คุณชายลี่ คุณหญิงออกไปแล้ว”
ลี่จุนถิงขมวดคิ้วเป็นปม: “ออกไปทำอะไร?”
ผู้ดูแลบ้านรายงานไปตามความจริง: “คุณหญิงบอกว่าจะออกไปเลือกซื้อของ”
ลี่จุนถิงตบโต๊ะด้วยความไม่พอใจ พลางพูดขึ้นเสียงทุ้มต่ำ: “เรื่องนี้ให้ลูกน้องทำไม่ได้หรือไง?”
ผู้ดูแลบ้านลำบากใจ: “คุณชายลี่ คุณหญิงบอกว่าอยากไปซื้อด้วยตัวเอง ฉันก็ทำอะไรไม่ได้”
“โอเค ฉันรู้แล้วล่ะ” ลี่จุนถิงเองก็รู้ว่าผู้ดูแลบ้านเป็นคนระมัดระวังเป็นอย่างมาก ไม่มีทางกลั่นแกล้งเจียงหยุนเอ๋อแน่นอน “งั้นคุณจัดให้คนไปตามดูเธอหน่อยเถอะ อย่าให้เกิดเรื่องอะไรได้นะ”
“ได้”
เขาคิดว่าถ้าเกิดจัดคนไปตามเจียงหยุนเอ๋อสักหน่อยน่าจะไม่เกิดเรื่องอะไรขึ้นแล้ว
ตอนนี้ก็ตัดส้งหวั่นหวั่นที่เป็นมารผจญออกไปได้แล้ว
ในขณะเดียวกัน คนที่แอบตามติดอยู่ที่ตระกูลลี่เมื่อเห็นเจียงหยุนเอ๋อออกมาคนเดียว ก็รีบโทรไปรายงานลี่หุย
ในตอนนั้นลี่หุยกำลังนั่งดูภาพยนตร์อย่างสบายอารมณ์อยู่พอดี
“จริงเหรอ?” ลี่หุยรีบหยุดภาพยนตร์เอาไว้ “ครั้งนี้ได้เอาแก้วเก็บความร้อนอะไรออกไปด้วยไหม?”
ตอนที่เจียงหยุนเอ๋อออกไปครั้งก่อนนั้นได้เอาข้างไปให้ลี่จุนถิงที่บริษัท เมื่อคนที่แอบสอดส่องบอกว่าเจียงหยุนเอ๋อออกไปแล้ว ลี่หุยเลยรีบวางทุกอย่างลง ก่อนจะรีบตามไป
สุดท้ายใครจะรู้ว่าจะไปที่บริษัทลี่ซื่อกรุ๊ป เมื่อลี่หุยเห็นว่าตัวเองเข้าไปทั้งๆ แบบนี้ไม่ได้ เลยกลับบ้านไปด้วยความไม่พอใจ
เพราะการรอเจียงหยุนเอ๋อออกมาอีกครั้งมันไม่ง่ายเลย และก็ไม่รู้ด้วยว่าการที่เจียงหยุนเอ๋ออยู่บ้านตลอดนั้นมันน่าสนุกตรงไหน
“เปล่า ครั้งนี้ออกไปเที่ยว ฉันเห็นเธอใส่แว่นกันแดดด้วย”
ลี่หุยแสดงสีหน้าดีใจเป็นอย่างมาก: “โอเค ตามไปก่อน เดี๋ยวรอให้เธอถึงที่หมายก่อน แล้วค่อยมาบอกฉัน ฉันจะรีบตามไปที่นั่นเลย”
ลี่หุยพูดพลางปิดโทรทัศน์ ก่อนจะหยิบกุญแจรถพลางรีบบึ่งไปที่ที่คนตามสอดส่องส่งที่อยู่มาให้
ระหว่างทาง อารมณ์ของลี่หุยก็ดีเป็นอย่างมาก พลางอดไม่ได้ที่จะผิวปากขึ้นมาระหว่างทาง
ครั้งนี้ถือเป็นโอกาสที่ดีที่ได้เข้าใกล้ผู้หญิงที่คิดถึงมาหลายวันแล้ว
ตั้งแต่ที่ได้เห็นรูปนั้น ในหัวของลี่หุยก็คิดไม่ตกเลย ว่าถ้าได้ผู้หญิงที่สวยปานนั้นมาเป็นของตัวเอง จะต้องเป็นโชคดีที่สุดแน่นอน
เพียงไม่นาน คนที่คอยบอกข่าวก็ส่งที่อยู่มาให้
ลี่หุยมองข้อความที่เข้ามาในโทรศัพท์ จากนั้นแววตาก็ลุกเป็นประกาย พลางเหยียบคันเร่ง ก่อนจะเร่งไปให้ถึงที่หมายในทันที
หลังจากที่ลี่หุยหาที่จอดรถเจอ ก็รีบตรงเข้าไปในห้างทันที
เมื่อรู้ว่ามาอยู่ที่นี่ ลี่หุยก็ดีใจเป็นอย่างมาก เพราะในที่ที่มีคนพลุกพล่านแบบนี้ ตัวเองจะทำอะไรก็ง่ายไปหมด
ตอนนี้เขาแค่อยากจะสร้างสถานการณ์ขึ้นมาก็พอแล้ว
หลังจากที่เจียงหยุนเอ๋อมาถึงที่ห้างแล้ว เพราะว่าเธอมีเป้าหมายอยู่แล้ว ดังนั้นเลยขึ้นไปที่ชั้นห้า เพราะเป็นชั้นที่ขายของสำหรับแม่ลูกอ่อนโดยเฉพาะ
เจียงหยุนเอ๋อเห็นร้านที่ตกแต่งได้ไม่เลวเลยเดินเข้าไปในร้านเด็กอ่อนนั้นทันที
ต้องรู้ด้วยว่าสำหรับลูกค้าแล้ว การตกแต่งของร้านมันสำคัญเป็นอย่างมาก
มันเป็นการตัดสินเลยว่าคุณจะดึงดูดลูกค้าได้หรือเปล่า หลายๆ ครั้งที่คนเลือกซื้อของตามความชอบของตัวเอง ถึงจะซื้อไปแล้วพบว่าไม่ได้มีประโยชน์อะไรก็ตาม
เจียงหยุนเอ๋อเห็นว่าในร้านมีเสื้อผ้าตัวเล็กๆๆ สีสันสดใสมากมาย ดูไม่ซับซ้อน แถมยังน่ารักมากอีกด้วย
โดยเฉพาะรองเท้าคู่เล็กๆ พลางคิดว่าเด็กคนหนึ่งตัวเล็กขนาดนี้ เท้าเล็กเท่าฝ่ามือ จนแทบจะคิดว่านี่เป็นของขวัญจากสวรรค์เลยล่ะ
พนักงานขายเข้ามาแนะนำสินค้ากับเจียงหยุนเอ๋ออย่างเป็นมิตร
ในเมื่อจะซื้อของให้ลูกของตัวเอง เจียงหยุนเอ๋อก็ไม่เลือกชุ่ยๆ แต่จะต้องเลือกผ้าฝ้ายอย่างดี และมีคุณภาพ
ส่วนเรื่องของสี ตอนนี้ยังไม่รู้ว่าเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง สีฟ้าก็เหมาะดี ถ้าเกิดว่าเป็นสีชมพูแล้วเกิดเป็นผู้ชายขึ้นมามันอาจจะตลกไปหน่อย
หลังจากที่เจียงหยุนเอ๋อเลือกอย่างตั้งใจแล้ว ก็เลือกชุดผ้าฝ้ายมาได้ชุดหนึ่ง กับรองเท้าเล็กๆ คู่หนึ่งก่อนจะเดินออกไป
แต่หลังจากที่ผู้หญิงเลือกซื้อของที่ตัวเองอยากได้เสร็จ ก็ควบคุมอะไรไม่ได้แล้ว เพราะเจียงหยุนเอ๋อเดินเข้าไปอีกร้านหนึ่ง เพื่อดูของเล่นน่ารักๆ แล้วก็ของเล่นที่ฝึกพัฒนาการ เพื่อให้ลูกได้พัฒนาสมองด้วย
เจียงหยุนเอ๋อเลยซื้อของมากมายไม่หยุด
พลางถือของเต็มไม้เต็มมือไปหมด
แต่พูดตามตรง การเดินเที่ยวนั้นพาคนอื่นออกมาด้วยจะดีกว่ามาก
ตอนนี้รู้สึกปวดตัวไปหมด เพราะของพวกนั้นทำให้เปลืองแรง แต่วันนี้มีชีวิตชีวาดี เลยไม่ได้รู้สึกเหนื่อยอะไร
จนถึงตอนนี้ก็เดินเล่นพอประมาณแล้ว เจียงหยุนเอ๋อเลยคิดจะกลับบ้านไป
ตอนที่เดินผ่านชั้นสองนั้น ก็เห็นร้านขายชุดผู้ชายโดยบังเอิญ พลันมีชุดหนึ่งที่ดึงดูดสายตาของเจียงหยุนเอ๋อพอดี
ผู้หญิงที่มีคู่ เวลาเห็นเสื้อผ้าในร้าน ก็มักจะคิดถึงตอนที่ผู้ชายของตนเองนั้นสวมใส่
เจียงหยุนเอ๋อคิดว่าชุดที่ตัวเองเห็นอยู่ตอนนี้เหมาะกับลี่จุนถิงเป็นอย่างมาก เลยตัดสินใจซื้อของให้ลี่จุนถิงด้วย
เมื่อคิดขึ้นได้ว่าไม่ได้ซื้อของให้ลี่จุนถิงมานานแล้ว ถึงแม้ว่าลี่จุนถิงจะไม่ได้ต้องการอะไร แต่ก็ถือเป็นน้ำในเล็กน้อยก็แล้วกัน
หลังจากที่เจียงหยุนเอ๋อเข้าไปในร้าน ก็พบว่าเสื้อผ้าของร้านนี้มีแต่ของที่ตัวเองชอบทั้งนั้น เลยเอาของที่ซื้อมาวางเอาไว้ในมุมของเคาน์เตอร์ ก่อนจะเริ่มเลือกเสื้อผ้าให้ลี่จุนถิง
ในตอนนั้นเองลี่หุยก็เดินจากข้างนอกเข้าร้านมาเหมือนกัน
เมื่อครู่ ลี่หุยเดินตามเจียงหยุนเอ๋ออยู่ตลอด พอเห็นว่าเจียงหยุนเอ๋อเดินเข้าร้านเสื้อผ้าชาย ก็เห็นว่าโอกาสของตัวเองมาถึงแล้ว เลยเดินตามเข้าไป
พนักงานขายเข้ามาหา: “ยินดีต้อนรับ”
“อือ คุณไปทำงานของคุณเถอะ ฉันจะดูเอง” ลี่หุยไม่ชอบให้คนอื่นมายืนติดกับตัวเอง มันน่ารำคาญไม่น้อยเลย
พนักงานขายได้ฟังดังนั้นก็รีบเดินจากไป
ลี่หุยเลือกเสื้อผ้าในร้าน แต่แววตานั้นมองไปทางเจียงหยุนเอ๋อเหมือนไม่ได้ตั้งใจอยู่ตลอด
เจียงหยุนเอ๋อกำลังเลือกเสื้อผ้าให้ลี่จุนถิงอย่างมีความสุข ดังนั้นเลยไม่ได้สนใจสายตาของลี่หุยเลยแม้แต่น้อย
เจียงหยุนเอ๋อเลือกชุดได้หลายชุดแล้ว: “พนักงานขาย รบกวนช่วยเอาเสื้อผ้าพวกนี้ใส่ถุงด้วย”
“ได้เลย” พนักงานขายรู้สึกดีใจอยู่ไม่น้อย ที่วันนี้ธุรกิจไปได้ด้วยดี