ตอนที่ 476 Marlene Into The Illusions

The Conquerors Path | เส้นทางผู้พิชิต

หิมะเย็นเฉียบกระทบผมเบาๆ ขณะที่หมาป่าน้ำแข็ง 7 ตัวกระโดดลงมาใส่ผม การลอบโจมตีของมันก็เพียงพอแล้วที่จะสังหารใครก็ได้ แต่สำหรับผมนั้นสามารถรับรู้ได้ทุกอย่างในบริเวณโดยรอบ การมีอยู่ของพลังของผมทำให้สามารถควบคุมน้ำแข็งให้หันมาโจมตีสัตว์ร้ายที่อาศัยอยู่ในดินแดนหิมะนี้ได้

แท่งน้ำแข็งขนาดมหึมาพุ่งออกมาจากพื้นดินและสังหารหมาป่าตัวนั้นไปได้อย่างง่ายดาย ในขณะที่หนามอื่นๆ สังหารหมาป่าตัวอื่นๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ 

น้ำแข็งสีขาวที่เคยสวยงามกลายเป็นสีแดงเข้ม แต่ผมกับมาร์ลีนกลับไม่สนใจมันในขณะที่เราเดินหน้าต่อไป นี่ไม่ใช่สัตว์ร้ายกลุ่มแรกที่เราเจอ และมันจะไม่ใช่กลุ่มสุดท้าย

“ฉันไม่รู้มาก่อนเลยว่านายเชี่ยวชาญเวทย์น้ำแข็งขนาดนี้” 

มาร์ลีนกระซิบข้างหูผม ลมหายใจเย็นๆ ของเธอทำให้ผมรู้สึกเสียวซ่าเล็กน้อยก่อนที่จะตอบกลับไป

“ยังมีอีกหลายเรื่องที่เธอยังไม่รู้เกี่ยวกับฉัน”

ผมไม่ได้รับคำตอบใดๆ ขณะวิ่งต่อไป เป็นเวลาประมาณ 15 นาทีแล้วตั้งแต่เรามาถึงที่นี่ และผมได้เผชิญหน้ากับสัตว์ร้ายมากมาย การรวมตัวกันของพวกมันเป็นเหมือนสัญญาณบ่งบอกว่ามีบางสิ่งที่ไม่ได้บอกเล่าหลับไหลอยู่ในเส้นทางที่ลูกศรกำลังชี้ไป

ไม่นานขณะที่ผมเดินอยู่ก็มีสัตว์ร้ายอีกตัวหนึ่งคือหมีขนสีขาวและตาสีแดงโผล่ออกมาจากพื้นดิน ความสูงของมันสูงตระหง่านเหนือผมและมีพลังอยู่ที่ระดับต้นกำเนิดขั้นที่ 7 เล็ดลอดออกมาจากภายใน อุณหภูมิลดลงจากเสียงคำรามของมัน ในขณะที่น้ำแข็งที่หมุนวนเริ่มโจมตีผมจากทุกทิศทุกทาง

ผมยังคงไม่สะทกสะท้านต่อการโจมตีนั้น เนื่องจากมีบาเรียน้ำแข็งหลายอันล้อมรอบตัวผมคอยรับการโจมตีอยู่ หนามแหลมหลายอันพุ่งขึ้นจากพื้นเพื่อแทงหมี แต่มันกลับถูกตอบโต้ด้วยแรงกระแทกที่มั่นคง เนื่องจากการป้องกันของหมีที่แข็งแกร่งกว่า

ผมไม่ได้ตื่นตระหนกและโจมตีเจ้าหมีนั่นอีกครั้งด้วยหนามหลายร้อยอันที่ตกลงมาจากท้องฟ้า ปลายหนามเหล่านั้นถูกเสริมพลังด้วยธาตุแห่งการทำลายล้าง และในทันทีที่หนามเหล่านั้นแทงทะลุ การป้องกันของหมีทั้งหมดก็ไร้ความหมายและกลายเป็นเม่นในพริบตา

ดวงตาของมันยังคงเต็มไปด้วยความไม่เชื่อในขณะที่ชีวิตของมันถูกดับลง โดยไม่พูดอะไรอีก ผมขยับตัวอีกครั้ง ในขณะที่ลูกศรในมือของผมก็สว่างขึ้นเรื่อยๆ

“ตอนนี้ฉันเริ่มกังวลเกี่ยวกับการต่อสู้เพื่อชิงตำแหน่งแล้วสิ” 

มาร์ลีนพูดด้วยน้ำเสียงเหนื่อยล้า ตัวแทนของพลังของผมสั่นคลอนความตั้งใจของเธอในการต่อสู้ที่พวกเราทั้ง 11 คนผู้ถือแหวนจะต้องเผชิญ แม้ว่าตอนนี้จะเหลือ 10 คนแล้วตั้งแต่เอลฟ์นั่นออกจากสนามไป

‘ความคิดเหล่านั้นคงจะไม่เหมือนเดิมจากนี้ไป…’

เมื่อคิดเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นกับสถาบันในไม่ช้านี้ ผมก็เดินต่อไปในขณะที่ลูกศรที่ถูกสร้างขึ้นใหม่ของผมเริ่มส่องแสงเจิดจ้าขึ้น 

ผมหยุดขณะที่ลูกศรเริ่มหมุน ผ่านไปไม่กี่วินาทีมันก็ชี้ลงมาแสดงว่าเรามาถึงที่หมายแล้ว

“ดูเหมือนเราจะถึงแล้วนะ” 

ผมพูดพร้อมกับปล่อยมาร์ลีนที่มีหน้าแดงเล็กน้อยลง

“เอาไงต่อหล่ะ?” 

เธอถาม และในตอนนั้นเองที่ลูกศรในมือผมระเบิดแสงออกมาส่องเข้าตาเรา ดวงตาของมาร์ลีนปิดลงช้าๆ และเธอก็หมดสติไป ผมรับร่างของเธออย่างรวดเร็วขณะที่มองดูใบหน้าที่หลับใหลอันเงียบสงบของมาร์ลีน

“ได้ผลมากกว่าที่คิดไว้แฮะ” 

ผมพึมพำ หลังจากนี้ไปผมจะต้องนำกลยุทธ์ที่วางไว้มาใช้แล้ว 

ผมโบกมือด้วยรอยยิ้ม ทำให้น้ำแข็งเคลื่อนตัวออกไป เผยให้เห็นประตูกลที่อยู่บนพื้น เมื่อดึงมันขึ้นมาก็ปรากฏบันไดแคบๆ ที่ทอดลงสู่ใต้ดิน

“อ่าา มาเริ่มกันเลย”

 

มุมมองบุคคลที่สาม :

“อือ…อึ๊กกก…”

เสียงครวญครางแผ่วเบาออกจากปากของมาร์ลีนขณะที่เธอลืมตาขึ้น 

การมองเห็นของเธอพร่ามัวครู่หนึ่งก่อนที่จะกลับมาชัดเจนอีกครั้ง หลังจากนั้นเธอก็ได้ยินเสียงครวญครางคล้ายๆ กันจากด้านข้างของตัวเอง ทำให้เธอหันกลับมาและเห็นออสตินลุกขึ้นนั่งจากพื้นด้วยสีหน้าสับสน

“เกิดอะไรขึ้น?” 

เขาถามโดยเอามือกุมหัวเบาๆ

“ไม่รู้สิ” 

มาร์ลีนตอบขณะรู้สึกปวดตุบในหัว 

เธอยืนขึ้นและมองขึ้นไปด้านบน ในตอนนั้นเองที่ลมหายใจของเธอขาดช่วงไปจากภาพของเพดานที่ส่องแสงวิบวับ มันส่องสว่างด้วยแสงพร่ามัว ในขณะที่น้ำแข็งย้อยแผ่กิ่งก้านเต็มท้องฟ้า ทำให้เกิดสีสันที่แวววาวมากมายที่ทาสีเพดาน โดยรวมแล้วเพดานนั้นน่าทึ่งแต่ก็อันตราย

“สวยจัง…” 

เสียงแผ่วเบาหลุดออกจากริมฝีปากของมาร์ลีน

“ข้าดีใจนะที่เจ้าชอบมันนะ” 

เสียงหนึ่งดังขึ้นทำให้ทั้งมาร์ลีนและออสตินเพ่งความสนใจไปที่มัน 

ออสตินขยับเข้าไปใกล้มาร์ลีนมากขึ้นเพื่อพยุงร่างกายที่อ่อนแอของเธอ ก่อนที่เมื่อมองไปยังบริเวรรอบๆ แล้วพวกเขาถึงพบว่าตัวเองติดอยู่ในห้องที่ถูกปิดกั้นและมีน้ำแข็งปกคลุมทุกส่วน

“นี่เราอยู่ที่ไหนกัน?”

ออสตินถามด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความสับสน

“พวกเจ้าอยู่ในการทดสอบของข้า”

เสียงตอบ

“ทดสอบงั้นเหรอ? เราไม่ได้มาที่นี่เพื่อเรื่องนั้น เรามาเพื่อ-”

“เพื่อกำจัดคำสาปของผู้หญิงคนนี้สินะ ข้าทราบเรื่องราวมาจากเพื่อนเก่าแล้ว แต่พวกเจ้าก็น่าจะรู้ว่าข้าไม่ได้ใจกว้างขนาดนั้น” 

เสียงพูดดังขึ้นมาขัดออสตินและทำให้ใบหน้าของมาร์ลีนขมวดคิ้ว

“นี่มันอะไรกัน? เกิดอะไรขึ้น?” 

มาร์ลีนถามด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา

“พวกเจ้ารู้ไหมว่าชายชราที่ส่งพวกเจ้ามาที่นี่เป็นเพื่อนของข้า และตัวข้าเองก็มีพลังที่จะสามารถลบล้างคำสาปของเจ้าได้อยู่ แต่ข้าอยากจะทำมันอย่างสนุกสนาน และระหว่างทาง เจ้าอาจได้รับผลตอบแทนบางอย่าง”

เมื่อได้ยินคำพูดนั้นทั้งออสตินและมาร์ลีนก็เงียบไปก่อนที่ออสตินจะถามขึ้นมาอย่างลังเล

“หรือว่าคุณคือ…”

“มังกร? ใช่ ข้าเป็น นี่เป็นเพียงหนึ่งในการทดสอบเล็กๆ ที่ข้าเหลือไว้เพื่อความสนุก” 

เสียงนั้นตอบ ทำให้ทั้งสองคนเงียบไป 

มาร์ลีนเริ่มเข้าใจว่านี่ไม่ใช่เวลามาบ่นและเปลี่ยนท่าทางพูดด้วยน้ำเสียงแสดงความเคารพ

“แล้วพวกเราต้องทำอะไรถึงจะได้รับความช่วยเหลือจากคุณงั้นเหรอคะ?”

มาร์ลีนไม่ใช่ผู้หญิงที่ง่ายต่อการหลอกลวงอย่างแน่นอน เธอเคยมีประสบการณ์กับพลังของมังกรในตอนที่กลับมาจากดินแดนเร้นลับแล้ว และความไว้วางใจของเธอที่มีต่อออสตินก็สูงเสียดฟ้า นอกจากนี้ความสามารถในการจัดการทั้งเธอและออสตินโดยที่พวกเธอไม่สามารถต่อสู้กลับได้บ่งชี้ว่าบุคคลที่เป็นปัญหานั้นมีพลังอันยิ่งใหญ่ ด้วยเหตุนี้มาร์ลีนจึงไม่มีอะไรจะเสียจากการให้ความเคารพ

“ข้าสร้างบททดสอบนี้ขึ้นเพื่อทดสอบขีดจำกัดของอารมณ์, ความไว้วางใจและความรัก ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้ข้าหลงใหลมาเป็นเวลานาน บททดสอบจะดำเนินการกับพวกเจ้า 2 คนเป็นรายบุคคล โดยที่เจ้าจะต้องผ่านส่วนลึกที่สุดของความรู้สึก…”

เสียงของมังกรมีกลิ่นอายแห่งอำนาจ สะท้อนด้วยเสน่ห์อันละเอียดอ่อน 

“เพื่อที่จะได้รับความช่วยเหลือจากข้า เจ้าต้องพิสูจน์ความมีค่าควรและความทุ่มเทของเจ้า บททดสอบที่รออยู่ข้างหน้าคือ – บททดสอบความซื่อสัตย์และความรักของเจ้า”

สายตาของมาร์ลีนจับจ้องไปที่ออสติน การแสดงออกของเธอผสมผสานระหว่างความมุ่งมั่นและการวางอุบาย เธอพร้อมที่จะทำทุกอย่างเพื่อหลุดพ้นจากคำสาปที่พันธนาการตัวเอง 

โดยไม่รู้ถึงเจตนาที่แท้จริงของออสติน เขามองเธอด้วยรอยยิ้มบางๆ แล้วพูด

“มาดูกันว่าเราจะทำอะไรได้บ้าง”

เมื่อได้ยินคำพูดของเขา มาร์ลีนก็ยิ้มขณะที่คำตอบของเธอถูกเปล่งออกมา

“เราจะเข้ารับการทดสอบค่ะ”

“ดี พวกเจ้าจะต้องทำการทดสอบเป็นรายบุคคล โดยที่ความปรารถนาของพวกเจ้าทั้ง 2 จะถูกทดสอบจนถึงขีดจำกัด ก่อนอื่นเลยเด็กน้อย ข้าหวังว่าพวกเจ้าจะไม่ยอมแพ้ซะก่อนนะ”

เมื่อมังกรพูดจบ คริสตัลแวววาวก็ปรากฏขึ้นต่อหน้ามาร์ลีน พร้อมด้วยคำพูดของมังกร

“นี่คือคริสตัลแห่งความปรารถนา สิ่งประดิษฐ์อันทรงพลังที่สามารถพาเจ้าเข้าสู่ภาพลวงตา เจ้าต้องเดินทางผ่านเขาวงกตแห่งภาพลวงตาและเผชิญกับความปรารถนาที่ลึกที่สุดของพวกเจ้าเอง”

หลังจากที่คำพูดของมังกรจางหายไป มาร์ลีนก็หันไปมองออสตินซึ่งพยักหน้าเพื่อบอกให้เธอเริ่มก่อน 

เมื่อเข้าใจท่าทางของเขา เธอจึงแตะคริสตัลและหลับไปในไม่ช้า ในตอนนั้นเองที่ออสตินรับร่างของเธอไว้ด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ที่ปรากฏบนใบหน้าของเขาขณะกระซิบกับเธอ

“ไปเถอะ ใช้ชีวิตผ่านภาพลวงตานับร้อยที่ความรักของเธอเป็นของฉันเสมอ”

เสียงกระซิบของเขาเพียงพอที่จะทำให้ความเชื่อมั่นของมาร์ลีนสั่นคลอนได้เลยหากเธอได้ยิน

 

 

 

-Donate-

True Money Wallet ID : mraxzy 

ไทยพาณิชย์ : 4051572923 //ชาคริต