บทที่ 420 ความจริงเป็นยังไงกันแน่

ปลอบใจฉัน ด้วยรักเธอ

หมอได้ฟังคำพูดของฮั่วชิงชิง ก็ใจร้อนขึ้นมาทันที แต่ว่าฮั่วชิงชิงพูดได้ถูกต้อง ถึงจะเป็นคนดูแล ก็ต้องมีเวลาที่นอนหลับหรือไม่ก็ไปห้องน้ำบ้าง ไม่มีทางที่จะเฝ้าฮั่วชิงชิงอยู่ตลอดเวลา

ถ้าหากฮั่วชิงชิงถือโอกาสตอนที่ทุกคนไม่ได้สังเกต กระโดดลงไปจากตรงนี้จะทำยังไง?

เธอนึกถึงแผนการที่แย่ที่สุดที่หันจื่ออี้เคยบอกกับเธอก่อนหน้านี้

หมอจึงถอนหายใจแล้วพูดขึ้น “คุณฮั่วคะ ต้องขอโทษจริง ๆ ค่ะ จนถึงตอนนี้พวกเราไม่สามารถปิดบังคุณได้อีกแล้ว”

ฮั่วชิงชิงเห็นสีหน้าของหมอ จิตใจห่อเหี่ยวในทันที

“ไม่สามารถรักษาลูกของคุณไว้ได้ เนื่องจากคุณมีเนื้องอกที่ส่วนหลังของคุณ โรคนี้กระทบต่อการพัฒนาของเด็ก ดังนั้นในตอนที่ทำการผ่าตัดเนื้องอก เด็กจึงไม่รอด…” หมอพูด “แต่ว่า คุณฮั่วยังอายุน้อย มีโอกาสอีกมากมายในอนาคต ครั้งนี้คุณรักษาตัวให้ดี อีกหนึ่งปีค่อยมีลูกก็ไม่มีปัญหาค่ะ!”

มือของฮั่วชิงชิง กุมหน้าท้องอย่างอดไม่ได้ ในดวงตาของเธอเต็มไปด้วยหยดน้ำในทันที

ลูกของเธอตายไปแล้วจริง ๆ! เดิมทีเธอคิดไว้ว่า บนโลกนี้จะมีคนที่คอยอยู่ข้างเธอโดยไร้เงื่อนไขใด ๆ แต่ว่าชั่วพริบตา ก็จากไปแบบนี้แล้ว!

ก่อนหน้านี้หมอเคยได้ยินหันจื่ออี้พูดว่า อารมณ์ของฮั่วชิงชิงไม่คงที่ แล้วก็เป็นห่วงว่าเธอจะเสียใจจนปล่อยวางไม่ได้ จึงพูดขึ้นอีก “คุณฮั่วคะ ฉันเล่าเรื่องเรื่องหนึ่งให้คุณฟังได้ไหมคะ?”

ฮั่วชิงชิงกำผ้าปูที่นอนไว้ เธอกัดริมฝีปาก แล้วร้องไห้เงียบ ๆ ไม่ได้พูดอะไร

หมอเริ่มพูด “กาลครั้งหนึ่งมีเด็กสาวคนหนึ่ง เมื่อเธอเกิดมา พ่อแม่ของเธอก็จากไป เธอถูกพ่อแม่บุญธรรมรับเลี้ยง แต่พ่อแม่บุญธรรมออกไปล่าสัตว์ ก็ถูกสัตว์ป่ากิน”

เธออยู่คนเดียวในเขาลึก ใช้ชีวิตอย่างยากลำบากมาก จนกระทั่งได้พบกับเด็กชายคนหนึ่ง

เด็กชายดีกับเธอมาก พาเธอออกจากที่นั่น แถมยังทำให้เธอได้พบเจอกับโลกภายนอก

แต่ว่าครอบครัวของเด็กชายฐานะดีมาก ถึงเขาจะชอบเด็กหญิง แต่ก็ต้องหมั้นหมายกับเด็กผู้หญิงที่ฐานะเหมาะสมกัน

ดังนั้นเด็กหญิงจึงตัวคนเดียวอีกครั้ง

แต่ว่า ในตอนที่เธอเตรียมตัวจะจากไป ถึงได้พบว่าตัวเองตั้งท้องแล้ว”

เดิมทีฮั่วชิงชิงไม่มีจิตใจจะฟัง แต่ว่าได้ฟังถึงตรงนี้ ก็ถูกดึงดูดโดยไม่รู้ตัว

หมอพูดต่อ “เธออยากใช้เด็กในท้องผูกมัดเด็กชาย เธอนัดเจอกับเด็กชาย แต่ว่ากลางทาง เธอกลับเห็นเด็กชายกับคู่หมั้นของเขาจูบกันอยู่ในรถ เธอรู้สึกเหมือนโลกสิ้นสลายชั่วขณะ ไม่ได้สังเกตรถที่แล่นผ่านไปมา จึงถูกชนจมกองเลือด”

ฮั่วชิงชิงใจสั่น เหมือนกับว่าเด็กผู้หญิงคนนี้ใช้ชีวิตเจ็บปวดกว่าเธอเยอะมาก

“แน่นอนว่า ลูกของเด็กหญิงตายแล้ว เธออยู่ตามลำพังในเมืองใหญ่ พูดได้ว่าไม่มีอะไรติดตัวเลย” หมอพูด “แต่ว่า คนที่ขับรถชนเธอ กลับให้งานเธอ หลังจากที่เธอแผลหาย”

“ตอนแรกเธอทำอะไรไม่เป็นเลย และก็ไม่มีความสุขมาก ๆ แต่ว่าในตอนที่ได้เห็นคุณป้าแม่บ้านของบริษัทที่งานยุ่งทุกวัน แต่ยังมีรอยยิ้มอยู่บนใบหน้า ทั้ง ๆ ที่ร่างกายเต็มไปด้วยเหงื่อ กลับพูดว่าตัวเองกำลังออกกำลังกายอยู่

ในตอนที่รู้ว่าเพื่อนร่วมงานผู้ชายข้างโต๊ะผลงานดีเลิศ แต่ว่ากลับบ้านไปทุก ๆ วันจะต้องดูแลพ่อที่พิการ…

ยังมีเรื่องราวประมาณนี้อีกเยอะแยะ ทำให้เธอรู้ว่า สิ่งที่เธอเห็นคือด้านผ่อนคลายของคนอื่น แต่ไม่ใช่ความทุกข์ที่คนอื่นเก็บซ่อนไว้ลึก ๆ ในตอนนั้นเธอถึงได้พบว่า ที่แท้ตัวเองร่างกายแข็งแรง อายุยังน้อย และก็ยังมีอนาคตที่รออยู่ มันดีกว่าหลาย ๆ คนมาก”

“ดังนั้น เธอเริ่มพยายามศึกษาทำงาน ขยันขันแข็ง เธอไม่ใช่ลูกคนรวย แต่กลับทำให้ตัวเองเปลี่ยนเป็นคนรวยรุ่นแรก ท้ายที่สุดก็ได้รับความรักที่มีความสุข”

หมอพูดจบ ก็หันไปพูดกับฮั่วชิงชิง “คุณฮั่วคะ นี่เป็นเรื่องจริง ผู้หญิงในเรื่องก็คือคุณแม่ของฉันเองค่ะ”

ฮั่วชิงชิงเงยหน้า มองไปทางหมอ ดวงตาของเธอค่อย ๆ ชัดเจนขึ้น

ขณะที่หมอพูด ก็คิดถึงหันจื่ออี้ จากนั้นก็ตบบ่าฮั่วชิงชิงเบา ๆ “ใช้ชีวิตต่อไปให้ดี แบบนี้ถึงจะไม่ทำให้คนที่ทุ่มเทเพื่อคุณหลาย ๆ คนผิดหวัง”

เพราะมีส่วนผสมที่ทำให้สงบในยาแก้อักเสบ ดังนั้นหลังจากที่หันจื่ออี้ตื่นมาครั้งแรก ก็หลับไปอีก

ในตอนที่เขาลืมตาขึ้นอีกครั้ง ก็ค่ำแล้ว

เขารู้สึกว่าเทียบกับที่ตื่นมาเมื่อครู่ร่างกายดีขึ้นเล็กน้อยแล้ว เหมือนว่าเดิมทีแทบจะขยับไม่ได้ ตอนนี้สามารถพึ่งพาพละกำลังของตัว ฝืนลุกขึ้นนั่ง

พยาบาลที่อยู่ด้านข้างเห็นเขาขยับ จึงรีบเข้ามา “คุณหันคะ ตอนนี้คุณต้องพักผ่อนเยอะ ๆ คุณต้องการอะไร ฉันช่วยคุณไหมคะ?”

หันจื่ออี้พูด “ภรรยาของผมเป็นยังไงบ้างแล้ว? เธอตื่นแล้วยัง? รู้สึกว่าดีหรือไม่ดี?”

“ภรรยาของคุณ…” พยาบาลหยุดพูดกลางคัน

“เธอทำไม?” หันจื่ออี้หนักใจ

“ภรรยาของคุณพบว่าเธอไม่ได้ตั้งครรภ์ ดังนั้นเมื่อครู่พวกเราหมดหนทาง จึงบอกเธอไปว่าลูกไม่อยู่แล้ว” พยาบาลพูดขออภัย

“งั้นเธอเชื่อไหมครับ?” หันจื่ออี้พูดขึ้นอย่างกระตือรือร้น “หลังจากที่เธอได้ฟัง อารมณ์เป็นยังไงบ้าง?”

“เธอเชื่อแล้ว แต่ว่าอารมณ์ตกต่ำนิดหน่อย” พยาบาลพูด “แต่ว่าพวกเราพูดโน้มน้าวเธอแล้ว เธอน่าจะรับได้ในไม่ช้า”

หันจื่ออี้ได้ฟังแล้วหนักใจนิดหน่อย

ไม่ได้ เขารู้สึกว่าดูกับตาตัวเองถึงจะวางใจ

เวลาที่เขารู้จักกับฮั่วชิงชิงก็ถือว่าไม่สั้น หลังจากทั้งสองแต่งงานกันก็อยู่ด้วยกันกว่าครึ่งปี ภายนอกฮั่วชิงชิงดูค่อนข้างอ่อนแอ

เธอมีหลักการของตัวเอง ในหลาย ๆ ครั้ง เธอซ่อนความทุกข์ของเธอไว้อย่างดี ไม่เคยแสดงออกใด ๆ ทั้งสิ้น

เขาเข้าใจ ถ้าเธอรู้ว่าเขาบริจาคไตให้เธอ เธอไม่เอาแน่นอน ไม่แน่อาจจะเกิดผลข้างเคียง

คิดถึงตรงนี้ หันจื่ออี้ขยับร่างกายเบา ๆ อีกครั้ง แต่พบว่าตัวเองยังขยับไม่ค่อยได้ จึงตัดสินใจนอนรักษาตัวสักหนึ่งคืน พรุ่งนี้เช้าค่อยไปเยี่ยมเธอ

วันนั้น ตอนกลางวันฮั่วชิงชิงหลับ ๆ ตื่น ๆ พอถึงตอนดึก จู่ ๆ กลับกระปรี้กระเปร่า

เธอลืมตา พบว่าตัวเองไม่มีความง่วงสักนิด จึงอดไม่ได้ที่จะลูบท้องน้อยของตัวเอง

ตรงนั้นเดิมทีมีชีวิตน้อย ๆ อยู่ แต่ว่ากลับอยู่ในร่างกายของเธอไม่ถึงหนึ่งเดือน ก็จากไปแล้ว

เธอไม่ใช่แม่ที่ได้มาตรฐาน แม้แต่เด็กคนหนึ่งก็รักษาไว้ไม่ได้

ส่วนพ่อของเด็ก…

ฮั่วชิงชิงนึกขึ้นได้ว่า หันจื่ออี้ไปทำงานนอกสถานที่สามวันแล้ว แต่กลับไม่มีข่าวคราวสักนิด

เกรงว่าแม้แต่เรื่องที่ลูกของเธอไม่อยู่แล้ว เขาก็คงไม่รู้เลย!

เธอรู้สึกจุกอก เข้าใจปัญหาระหว่างพวกเขา แต่ว่าไม่ว่ายังไง ก็ผ่านอุปสรรคนี้ไปไม่ได้

เธอคิดไว้ ถ้าหากลูกของเธอเกิดมาได้อย่างราบรื่น บางทีเพื่อเด็ก พวกเขาคงจะลืมเรื่องที่ไม่มีความสุขพวกนั้นไปชั่วคราว แล้วตั้งใจดูแลลูกจนเติบใหญ่ หรือสักวัน จะสามารถคลายปมนั้นไปได้จริง ๆ

แต่ว่าตอนนี้ตัวเชื่อมโยงเพียงหนึ่งเดียวไม่อยู่แล้ว เช่นนั้น…

มือของเธอจับผ้าห่มไว้ เป็นเพราะออกแรงมาก ผ้าห่มถูกเธอจับจนเป็นรอยยับไปหมด

ด้วยการออกแรงแบบนั้น ในที่สุดเธอก็ตัดสินใจบางอย่างได้

เธอกับหันจื่ออี้ไม่มีทางเป็นไปได้ แทนที่ทุกคนจะเจ็บปวด แทนที่จะรบกวนเขา สู้ปล่อยวางกันและกันดีกว่า

ก่อนหน้านี้ เธอไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วจริง ๆ แต่ว่าหลังจากที่มีลูก ความรู้สึกแปลกประหลาดแบบนั้น ทำให้เธอรู้สึกว่าคนเราไม่ควรจะจมดิ่งอยู่กับความเจ็บปวด เพราะว่าไข่ที่ปฏิสนธิขนาดเล็กสามารถพัฒนาเป็นคนได้ ทำไมเธอจะต้องทอดทิ้งชีวิตหนึ่งไปง่าย ๆ?

ดังนั้นรอให้เขากลับมา เธอจะคุยกับเขาให้ชัดเจน

นับตั้งแต่นี้ไป ก็เลิกขาด ไม่ต้องเจอกันอีก!

ขณะที่ฮั่วชิงชิงครุ่นคิด เธอก็ค่อย ๆ หลับไป

วันต่อมา หลังจากที่หันจื่ออี้ตื่นมา แล้วถามพยาบาล ได้ยินว่าฮั่วชิงชิงก็ตื่นแล้ว เขาจึงคิดหาวิธีล่อพยาบาลออกไป จากนั้นก็พยายามลุกนั่งบนเตียง

หลังจากที่ปรับร่างกายอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็ขยับขา จากนั้นก็พยุงลุกขึ้น

ยังคงเจ็บแผลอยู่มาก แต่ว่า ความรู้สึกแบบนี้สำหรับหันจื่ออี้แล้ว ไม่นับประสาอะไร

เขาหยิบเสื้อผ้าปกติจากห้องเปลี่ยนเสื้อผ้ามาเปลี่ยน หลังจากที่มั่นใจแล้วว่าตัวเองดูไม่เหมือนคนป่วย เขาก็แอบออกจากห้องพักผู้ป่วย

ห้องพักผู้ป่วยของเขากับฮั่วชิงชิง ห่างกันเพียงสองห้อง

หันจื่ออี้เดินถึงหน้าประตู เห็นพยาบาลเดินออกมาจากห้องของฮั่วชิงชิง เขาจึงแอบเข้าไปโดยไม่ให้ซุ่มเสียง

เธอเพิ่งได้รับการผ่าตัดใหญ่ เทียบกับเขาแล้ว ร่างกายของเธอแย่กว่ามาก

ดังนั้นฮั่วชิงชิงนอนอยู่บนเตียง สีหน้าดูซีดเซียวมาก ไม่ได้เจอเพียงไม่กี่วัน เหมือนกับผอมลงไปเยอะมาก เพราะแบบนี้ตาจึงดูโตขึ้น

ได้ยินเสียงเคลื่อนไหว ฮั่วชิงชิงคิดว่าเป็นหมอ เธอไม่ได้หันหน้าไป แต่กลับถามขึ้นโดยตรง “หมอคะ นานแค่ไหนกว่าแผลจะหายเจ็บ?”

เพียงแต่ หลังจากที่เธอถาม ไม่ได้ยินคำตอบจากหมอ

ฮั่วชิงชิงจึงหันหน้ามา ก็เห็นเงาที่คุ้นเคย

เพราะว่าเธอนอนอยู่ ดังนั้นจึงดูหันจื่ออี้สูงกว่าเมื่อก่อน แต่ว่าแสงแดดส่องไปที่หน้าเขา ฮั่วชิงชิงกลับเห็นสีหน้าของเขาซีดขาวเล็กน้อย

เธออดไม่ได้ที่จะกะพริบตา มองดูเขามากกว่าเดิม

เขาดูเหมือนจะผอมลง สีหน้าดูอ่อนแรง ริมฝีปากแดงชุ่มเมื่อก่อน ตอนนี้ดูเข้มขึ้นเล็กน้อย

ผมของเขายุ่งเล็กน้อย ใบหน้ามีหนวดสั้น ๆ เหมือนกับไม่ได้โกนมาหลายวันแล้ว

ทำไมเขาถึงกลายเป็นแบบนี้?

ฮั่วชิงชิงสงสัยอยู่ในใจ แต่ว่าเมื่อคิดได้ว่าจะตัดความสัมพันธ์กับเขา เธอจึงเก็บความสงสัยเอาไว้

เขาคงไปทำงานนอกสถานที่จนเหนื่อยสินะ? เขาต้องบริหารส่วนของHuo Group กับ บริษัทซอฟต์แวร์ในประเทศในเวลาเดียวกัน จะต้องเหนื่อยมากแน่นอน

ก็ดี เธอเลิกกับเขา ต่อไปเธอเรียนบริหาร Huo Groupด้วยตัวเอง เขาจะได้มุ่งมั่นกับธุรกิจบริษัทซอฟต์แวร์ของตัวเอง ไม่ถึงกับต้องเหนื่อยจนร่างกายย่ำแย่

เพียงแต่เมื่อคิดได้ว่าจะแยกกันแล้ว หัวใจของฮั่วชิงชิง ก็เจ็บปวดเหมือนกับถูกอะไรบางอย่างฉีกขาด

จากนัน ภาพคืนนั้นที่พ่ออ้วกออกมาเป็นเลือด ใบหน้าของพ่อเต็มไปด้วยความหมดหวังคุกเข่า คำนับอยู่ต่อหน้าหันจื่ออี้ ไม่หยุด ทำให้เดิมทีหัวใจของฮั่วชิงชิงที่สั่นคลอน ก็เด็ดเดี่ยวอีกครั้ง!

บางทีพวกเขาคงจะไม่มีโชคชะตาต่อกันจริง ๆ!

ไม่ว่าจะยืนอยู่ในมุมของเขาหรือว่าของเธอ เป็นพ่อแม่ที่สนิทกัน ความเกลียดชังแบบนี้ จะแก้ไขมันได้ยังไง?

แม้แต่ความหวังเดียว…ลูกในท้องของเธอ ก็ไม่เหลือแล้ว! ดังนั้น พวกเขาเป็นไปไม่ได้จริง ๆ!

เธอบีบบังคับสายตาตัวเองไม่ให้มองเขาอีก

แต่ว่าถึงจะไม่ดู ฮั่วชิงชิงก็สามารถรู้สึกได้ว่า หันจื่ออี้เดินเข้ามาทีละก้าว จนถึงข้างเตียงของเธอ