บทที่ 421 ระหว่างพวกเขาไม่ติดค้างต่อกันแล้ว

ปลอบใจฉัน ด้วยรักเธอ

“ชิงชิง ยังเจ็บแผลอยู่ไหม?” หันจื่ออี้รู้สึกหนักตัว ทรงตัวไม่ค่อยได้ จึงนั่งลงข้างเตียงของฮั่วชิงชิง

เธอก้มหน้า ส่ายหัว

“ผมเพิ่งกลับจากทำงานนอกสถานที่ ขอโทษด้วย ผมมาช้าไปหน่อย” หันจื่ออี้พูด “สถานการณ์ของคุณ หมอบอกผมหมดแล้ว ชิงชิง เนื้องอกที่หลังของคุณเป็นเนื้อดี คุณวางใจได้ ต่อไปไม่เป็นไรแล้ว สำหรับลูก บางทีเขาอาจจะไม่มีพรหมลิขิตกับพวกเรา ดังนั้นคุณอย่าโทษตัวเอง”

ได้ฟังคำพูดปลอบใจที่อ่อนโยนของเขา มือที่ซ่อนไว้ใต้ผ้าห่มของฮั่วชิงชิงอดไม่ได้ที่จะสั่น

ต่อไปเธอจะผลักคำปลอบใจแบบนี้ออกไปให้ไกลแล้ว

แต่ว่านี่คือชะตากรรมของเธอ เธอไม่มีทางเลือก

“ชิงชิง พวกเราอายุยังน้อย ลูกไม่อยู่แล้วก็ไม่เป็นไร รอให้คุณร่างกายหายดี อีกสองปีพวกเราค่อยมีลูกกันอีก” ขณะที่หันจื่ออี้พูด ก็ยกมือขึ้นทัดไรผมที่อยู่บนแก้มไปที่หลังหูของเธอ

ท่าทางอ่อนโยนของเขา ทำให้หัวใจของเธอเจ็บแปล๊บ

หลังจากวันนี้เป็นต้นไป พวกเขาก็จะต้องแยกกันไปคนละทางแล้ว

นับตั้งแต่ที่เธอฟื้นขึ้นมา พวกเขารู้จักกันมาปีกว่าแล้ว

ทำให้คนคนหนึ่งสูญเสียพลังชีวิต ยิ่งเมื่อเขาได้หยั่งรากลึกลงไปในใจแล้ว ความรู้สึกแบบนี้ เหมือนกับการขูดเลือดเนื้อออกมา

ฮั่วชิงชิงกัดปาก ในตอนที่กำลังจะพูดอะไรออกมา หันจื่ออี้ยื่นแขนออกมา โอบกอดเธอเบา ๆ

เธอตัวแข็งทื่อ

“ชิงชิง อันที่จริงคุณไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว” เขาพูดกระซิบข้างหูของเธอ

ฮั่วชิงชิงแอบนับเลขอยู่ในใจ จนกระทั่งเธอนับถึง 10 จากนั้นเธอก็ยกมือขึ้น กดแขนของเขาไว้ ค่อย ๆ ผลักเขาออกทีละนิด พยายามให้น้ำเสียงของตัวเองเป็นปกติ “ฉันมีเรื่องจะพูดกับคุณ”

นี่อาจเป็นครั้งแรกที่ฮั่วชิงชิงเป็นฝ่ายพูดคุยอย่างสงบ หลังจากที่เกิดเรื่องพวกนั้นขึ้นระหว่างพวกเขา

หันจื่ออี้พยักหน้า ปล่อยเธอออก แล้วพูดด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล “ตกลง ชิงชิง คุณพูดมาเถอะ”

ฮั่วชิงชิงพูด “ต่อไปคุณไม่ต้องมาหาฉันแล้ว”

หันจื่ออี้ตะลึง “ชิงชิง คุณพูดอะไร?”

“จริงอยู่ที่ก่อนหน้านี้ฉันรับปากแต่งงานกับคุณ จริงอยู่ที่ฉันใจเต้นเพราะคุณ” ฮั่วชิงชิงสูดลมหายใจเข้าลึก “แต่ว่า ตั้งแต่ที่ฉันเห็นคุณทำให้พ่อของฉันโมโหจนแทบจะตาย ความรู้สึกที่ฉันมีต่อคุณก็ไม่เหลือแล้ว”

เธอบังคับให้ตัวเองพูดต่อไป “ตอนนี้ คุณแตะต้องฉันฉันก็รู้สึกอึดอัด กระทั่งรู้สึกว่าโชคดีมากที่ลูกของเราไม่ได้เกิดมา แบบนี้เขาก็จะได้ไม่ต้องเติบโตในสภาพแวดล้อมความสัมพันธ์ที่แปลกประหลาด แบบนี้ระหว่างพวกเราก็ไม่มีความสัมพันธ์ใด ๆ ต่อกัน”

“ชิงชิง…” หันจื่ออี้ขมวดคิ้วเล็กน้อย “ผมคิดมาตลอดว่า ถ้าลูกเกิดมาจะเปลี่ยนแปลงทุกอย่าง ผมรู้ว่าคุณชอบเด็ก ผมก็ชอบ ดังนั้นต่อไป…”

“ไม่มีต่อไปอีกแล้ว” ฮั่วชิงชิงมองตาหันจื่ออี้ “ฉันเกลียดความรู้สึกที่คุณสัมผัสฉัน ฉันรับไม่ได้ที่จะต้องคบหากับคุณ”

หันจื่ออี้รู้สึกจุกในลำคอ แต่ก็ไม่ได้ขัดเธอ

“พวกเราเลิกกันเถอะ ต่อไปไม่ต้องเจอหน้ากันอีกแล้ว!” ฮั่วชิงชิงพูด “คุณไม่จำเป็นต้องรู้สึกรับผิดชอบใดๆ กับฉัน ฉันก็ไม่ต้องการการรับผิดชอบใด ๆ จากคุณ จากนี้ไป พวกเราคือคนแปลกหน้าต่อกัน!”

“ชิงชิง คุณจริงจังใช่ไหม?” หันจื่ออี้สายตาเคร่งขรึม

เขารู้สึกเจ็บแผล เหมือนกับฝืนได้ไม่นานแล้ว

“ใช่ ฉันจริงจัง” ฮั่วชิงชิงพูดทีละคำ “เพราะฉันรู้สึกว่าคบหากับคุณแล้วอึดอัด ดังนั้นเพื่อเป็นการดีต่อทั้งคู่ ก็อย่าทนทุกข์ต่ออีกเลย!”

“ดังนั้นคุณอยู่กับผม คุณรู้สึกทุกข์ทรมานมากเหรอ?” หันจื่ออี้อดไม่ได้ที่จะลูบแผลใต้เสื้อนำ

“ใช่ ทุกข์ทรมานมาก!” ฮั่วชิงชิงพูด “สองวันมานี้ไม่ได้เจอคุณ ในที่สุดฉันก็รู้สึกสบายใจแล้ว”

หันจื่ออี้ได้ยินคำพูดของเธอ ก็ครุ่นคิดอยู่หลายวินาที สีหน้าของเขายังคงอ่อนโยน แม้แต่น้ำเสียงก็แผ่วลงเล็กน้อย “ตกลง ผมเข้าใจแล้ว งั้นผมไม่รบกวนคุณแล้ว ชิงชิงต่อไปตัวคนเดียว ดูแลตัวเองให้ดี”

ขณะที่พูด เขาค้ำของเตียง ลุกขึ้นยืนอย่างยากลำบาก รู้สึกเวียนหัว หันจื่ออี้จึงหยุดนิ่งอยู่หลายวินาที แล้วมองฮั่วชิงชิงอีกครั้ง

เธอหันหน้าไปอีกด้านไม่ได้มองเขา แต่ว่าเขาสามารถดูสีหน้าของเธอออกได้ เธอคงคิดดีแล้ว

เขารู้ว่าเธอไม่มีวันฆ่าตัวตายอีก

ดังนั้นเขาไม่ต้องเป็นกังวลอีกแล้ว ไม่ได้ติดค้างอะไรเธออีกแล้ว

หันจื่ออี้หมุนตัวกลับ เดินออกจากห้องผู้ป่วยช้า ๆ

เพราะว่าฮั่วชิงชิงไม่ได้มองไปทางหันจื่ออี้ ดังนั้นจึงไม่รู้เลยว่า หันจื่ออี้เดินค้ำกำแพงออกไปอย่างยากลำบาก

หันจื่ออี้ฝืนเดินออกไป เขาเพิ่งจะเดินถึงประตูห้องผู้ป่วยของตัวเอง ก็ฝืนต่อไม่ไหว รู้สึกหน้ามืด แล้วเป็นลมล้มไป…

ในตอนที่หันจื่ออี้เดินออกไป ฮั่วชิงชิงก็กลั้นน้ำตาไม่ได้อีกต่อไป น้ำตาไหลออกมาไม่หยุด

เธอรู้ว่า ประโยคที่เขาพูดว่าให้ดูแลตัวเองให้ดี คือการยอมรับคำพูดของเธอทั้งหมด

บางทีนี่อาจจะเป็นการพูดคุยกับเขาครั้งสุดท้ายแล้ว

ในตอนนี้เอง เธอได้ยินเสียงมาจากด้านนอก แล้วก็เสียงอุทานเบา ๆ ของพยาบาล “คุณหัน!”

ฮั่วชิงชิงใจเต้น ทำไมเสียงพยาบาลเป็นแบบนี้?

จากนั้นเธอก็ได้ยิน เสียงผู้หญิงอีกคนตะโกนอย่างร้อนใจ “ตรงนี้มีคนไข้เป็นลมล้มไป…”

ใครเปืนลม?!

ฮั่วชิงชิงยิ่งอยู่ยิ่งร้อนรน แต่ว่าร่างกายของเธอหนัก จนขยับไม่ได้ ดังนั้นถึงจะร้อนใจก็ทำอะไรไม่ได้

จนกระทั่งผ่านไปสิบนาที มีพยาบาลเข้ามาตรวจร่างกาย ฮั่วชิงชิงจึงอดไม่ได้ที่จะถามขึ้นอย่างเป็นกังวล “หมอคะ เมื่อกี้ฉันได้ยินเหมือนว่าข้างนอกมีคนเป็นลม คือใครเหรอคะ?”

พยาบาลมองดูฮั่วชิงชิง สายตาตำหนิเล็กน้อย แต่ก็หายไปในไม่ช้า

เธออธิบาย “คนไข้ที่เพิ่งเข้ามา”

“งั้นทำไมฉันถึงยินพวกเขาตะโกน…

“คุณฮั่วคะ เรื่องที่คุณพูด ฉันไม่ค่อยแน่ใจ ตอนนั้นฉันไม่อยู่” พยาบาลเอ่ยขึ้น

“ค่ะ” ฮั่วชิงชิงกระวนกระวายนิดหน่อย

แต่ว่าเธอคิดย้อนไป หันจื่ออี้ร่างกายแข็งแรงขนาดนั้น แล้วก็ในตอนที่เขาเข้ามา ดูสีหน้าเหนื่อยล้าเล็กน้อย น่าจะยุ่งมาก คนที่เป็นลมไม่น่าจะเป็นเขา

เธอบังคับให้ตัวเองหยุดคิดวุ่นวาย ในตอนบ่ายวันนั้น ฮั่วชิงชิงได้รับสัญญาหย่าร้าง

ผู้ช่วยพิเศษของหันจื่ออี้เอามาส่ง เขายื่นให้ฮั่วชิงชิง บอกว่าหันจื่ออี้เซ็นชื่อแล้ว ถ้าหากเธอดูแล้วไม่มีปัญหา ก็เซ็นชื่อ เมื่อพวกเขานัดเวลากัน ก็สามารถไปเซ็นหย่าได้เลย

ฮั่วชิงชิงเห็นเงื่อนไขข้างต้นที่เอนเอียงไปทางตนเอง รู้สึกจุกอกเป็นอย่างมาก

ด้านบนเขียนว่า หันจื่ออี้โอนชื่อบ้านที่หนิงเฉิงเป็นชื่อของเธอ ถือว่าเป็นการชดเชยความสัมพันธ์สามีภรรยาของพวกเขากว่าครึ่งปี

อีกอย่างด้าน Huo Group เขาบอกว่าจะส่งเพื่อนที่ไว้ใจได้ไปช่วยเธอบริหารจัดการ รอให้เธอหาย ค่อยส่งต่อกิจการให้เธอ สำหรับค่าตอบแทนในช่วงเวลานั้น เขาไม่เอาสักนิด

ฮั่วชิงชิงหยิบปากกา เซ็นชื่อตัวเองลงอย่างยากลำบาก

เหมือนกับว่าเซ็นชื่อนี้แล้ว ระหว่างพวกเขา ก็ไม่มีอะไรต่อกันอีก

ฮั่วชิงชิงระงับความรู้สึกที่หัวใจแทบจะฉีกขาดเอาไว้ เธอเงยหน้าพูดกับผู้ช่วยพิเศษของหันจื่ออี้ “ประธานหันของพวกคุณ…”

ผู้ช่วยหวังคิดว่าฮั่วชิงชิงรีบร้อนดำเนินการ เมื่อนึกถึงเจ้านายของตัวเองที่หยอดน้ำเกลืออยู่ห้องข้าง ๆ รู้สึกไม่พอใจขึ้นกว่าเดิม

น้ำเสียงของเขาแข็งทื่อเล็กน้อย “คุณฮั่วครับ ถึงคุณอยากจะสะบัดความสัมพันธ์กับประธานหันในตอนนี้เป็นอย่างมาก ยังไงก็ต้องรอให้คุณสามารถลงจากเตียงได้ก่อนไหม? เพราะสำนักงานเขตไม่ใช่บริษัทซอฟต์แวร์ของพวกเราเป็นคนเปิด ไม่สามารถบริการให้ได้ถึงที่!”

ฮั่วชิงชิงสูดหายใจ ออกแรงกำปากกาที่อยู่ในมือ

เมื่อครู่เธอแค่อยากจะถามว่าหันจื่ออี้เป็นยังไงบ้างแค่นั้น…

ผู้ช่วยหวังเอาเอกสารที่ฮั่วชิงชิงเซ็นชื่อกลับไป จากนั้นก็พูด “ช่วงนี้ประธานหันของพวกเราไปทำงานนอกสถานที่ ไม่สะดวกรับโทรศัพท์ ต่อไปถ้าหากคุณต้องการอะไร โทรหาผมก็พอ”

ขณะที่พูด เขายื่นนามบัตรใบหนึ่งมา

ฮั่วชิงชิงได้ยินว่าหันจื่ออี้ไปทำงานนอกสถานที่ ก็รู้สึกโล่งใจ

ที่แท้คนที่เป็นลมไม่ใช่เขา แบบนี้ก็ดีแล้ว

ผู้ช่วยหวังพูดจบ ก็หยิบเอกสารแล้วออกไปจากห้อง เพียงแต่ เขาไม่ได้กลับไป แต่ไปห้องที่อยู่ด้านข้าง

ตอนนี้หันจื่ออี้ให้น้ำเกลืออยู่ เขาหลับตา คิ้วขมวดเล็กน้อย เหมือนกับเจ็บปวดมาก

ผู้ช่วยหวังเดินเข้ามา มองดูสถานการณ์ของหันจื่ออี้ แล้วก็ถามหมอ “หมอครับ คุณหันเป็นยังไงบ้างแล้วครับ?”

หมอพูด “แผลของเขาพวกเราทำการเย็บให้ใหม่แล้ว แต่หัวเข็มที่เขาถอดออก ตอนนี้อักเสบนิดหน่อย จึงเป็นไข้ 39 องศา ตอนนี้พวกเราให้ยาปฏิชีวนะกับยาลดไข้ให้เขา ไข้น่าจะค่อย ๆ ลดลงมา”

เลขาได้ฟัง ก็เหลือบมองสัญญาในมือ ความไม่พอใจเพิ่มขึ้นกว่าเดิม

วันนี้เขาได้รับสายโทรศัพท์จากหมอ บอกว่าหันจื่ออี้เป็นลม จึงรีบตามมา

ในตอนที่เขามาถึง หันจื่ออี้ไม่ได้สติ ผ้าก๊อซบนแผลมีรอยเปื้อนเลือด

เขาทำงานกับหันจื่ออี้มาหลายปีแล้ว เคยเห็นสภาพอ่อนแอแบบนี้ของหันจื่ออี้ซะที่ไหน?

ดังนั้น เมื่อได้รู้ว่าหันจื่ออี้ไปพบฮั่วชิงชิง จากนั้นเมื่อออกมาจากห้องผู้ป่วยก็เป็นลมไป เขาจึงเริ่มไม่พอใจ

ความไม่พอใจแบบนี้เพิ่มขึ้นจนถึงจุดสูงสุด ในตอนที่หันจื่ออี้ฟื้นขึ้นมาในช่วงเวลาสั้น ๆ บอกให้เขาทำสัญญาหย่าร้างชุดหนึ่ง และให้เพิ่มเงื่อนไขพวกนั้น

ถึงแม้จะมีเรื่องส่วนตัวที่เขาไม่ควรถาม แต่ว่าตั้งแต่ที่อยู่โรงพยาบาล หันจื่ออี้ปฏิบัติต่อฮั่วชิงชิงอย่างไร ผู้ช่วยพิเศษอย่างเขาคนนี้รู้ดีเป็นอย่างมาก

ผลปรากฏว่า เจ้านายของเขาไม่เพียงแต่บริจาคไตให้ผู้หญิงคนนั้น แล้วยังได้รับการตอบแทนที่ไร้เยื่อใยแบบนี้ เขาจึงเริ่มเกลียดชังฮั่วชิงชิงขึ้นมา

แต่ว่า หันจื่ออี้สั่งอย่างเคร่งครัด ไม่ให้หมอพยาบาล แล้วก็เขา ทุกคนห้ามบอกความจริงกับฮั่วชิงชิง ดังนั้นยิ่งไม่พอใจมากกว่าเดิม ผู้ช่วยหวังทำได้เพียงทำตามคำสั่ง!

เขาอยู่ข้างเตียงของหันจื่ออี้สักพัก แล้วนึกธุระขึ้นได้ จึงกำชับให้พยาบาลดูแลหันจื่ออี้ให้ดี จากนั้นก็ออกไปอย่างเร่งรีบ

ในตอนที่หันจื่ออี้ตื่นมา เป็นตอนบ่ายวันที่สองแล้ว

เขายังคงเวียนหัวนิดหน่อย เพียงแต่ดีขึ้นกว่าวันก่อนเยอะแล้ว

เขาถามสถานการณ์ของฮั่วชิงชิงกับหมอ เมื่อได้ฟังว่าเธอปกติดีทุกอย่าง จึงกำชับกับหมออีกครั้ง ว่าถ้าหากฮั่วชิงชิงออกจากโรงพยาบาล อย่าให้เธอรู้ว่าอันที่จริงเธอไม่ใช่ผ่าตัดเนื้องอก แต่เป็นการผ่าตัดเปลี่ยนไต

เขานึกคิด เขาใช้ความไร้เดียงสาของเธอครั้งหนึ่ง ขณะเดียวกันก็ได้ช่วยเธออีกครั้ง บางทีระหว่างพวกเขาคงไม่ติดค้างอะไรกันแล้วจริง ๆ

ในเมื่อเธออยากเป็นอิสระจริง ๆ เช่นนั้นเขาก็ให้อิสระกับเธอ!