บทที่ 409 แผนการของถังมู่หวั่น

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

บทที่ 409 แผนการของถังมู่หวั่น

คำพูดที่พูดขึ้นมาก็แข็งกร้าวขึ้น: “ดังนั้นโปรดเทพธิดาอย่าใส่ร้ายป้ายสีคุณหนูของพวกเราให้แปดเปื้อนเลย”

ใส่ร้ายป้ายสี?

หลานเยาเยาหรี่ตาเล็กน้อย สายตาเฉียบแหลมก็มองไปทางชุนซวงทันที

จิ๊จิ๊!

ช่างไม่รู้ที่ต่ำที่สูงเสียจริงๆ……

ชุนซวงถูกนางมองด้วยสายตาที่น่าหวาดกลัว แต่เพราะถือว่าเป็นสาวใช้ของจวนเฉิงเสี้ยง จึงรู้สึกว่าตนเองไม่ได้ผิด

ส่วนเสี้ยฮัวที่อยู่ข้างๆนางก็รีบโค้งคำนับที่พื้น:

“เทพธิดาขออภัย เทพธิดาโปรดขออภัย! ชุนซวงพูดไม่รู้กาลเทศะ ขอเทพธิดาอย่าถือสานาง”

เสี้ยฮัวไม่ได้พาลหยาบคายเหมือนชุนซวง นางพูดอย่างมีมารยาท ก้มหัวอย่างจริงจัง

หลานเยาเยาชำเลืองตามองนาง แล้วก็มีแผนเกิดขึ้นในใจ

แต่ว่า!

“อย่าคิดว่ายอมรับผิดแล้วข้าจะปล่อยพวกเจ้าไป ข้าแบ่งแยกเรื่องบุญคุณความแค้นอย่างชัดเจนมาตลอด

ตอนแรกข้าพักผ่อนอยู่ในห้องหรูอยู่ดีๆ ก็ถูกพวกเจ้ารบกวน ซ้ำยังตั้งใจชนประตูห้องเข้ามาแล้วพูดจาไม่น่าฟัง

สาวรับใช้ที่ไม่เห็นหัวใครอย่างพวกเจ้า ในเมื่อบุ่มบ่ามเข้ามาในมือข้าแล้ว ไม่ว่าจะเป็นคนของใคร ตราบใดที่มาล่วงเกินข้า ข้าก็ควรจะสั่งสอนมันเสีย”

หลานเยาเยาหยุดไปสักพัก และพูดต่อว่า

“น้ำชาและขนมที่อยู่ในมือของคนใช้เมื่อครู่นั้นต้องส่งมาให้ข้า”หลานเยาเยาพูดไปแล้วก็ชี้ไปที่ชุนซวง พร้อมพูดอย่างเย็นชาว่า “เจ้าชนเขา และยังตั้งใจปัดขนมที่อยู่ในมือเขาลงพื้น

เห็นว่ามันเป็นการสั่งสอนคนใช้ แต่ที่จริงแล้วมันเป็นการตบหน้าข้า”

พูดจบหลานเยาเยาก็ย้ายสายตาไปมององครักษ์ที่ยืนอยู่ข้างๆ จากนั้นก็สั่งว่า

“เจ้า ไปสั่งสอนสาวใช้ที่ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงให้ข้าที”

“ขอรับ! ข้าน้อยรับคำสั่ง”

หลังจากองครักษ์คำนับ สายตาก็หันไปมองชุนซวง พร้อมเดินไปทางนางสองสามก้าว

“เจ้าอย่าเข้ามา ข้าเป็นคนของจวนเฉิงเสี้ยง แม้จะต้องสั่งสอน ก็ไม่ต้องให้พวกเจ้าคนของตำหนักเทพธิดามาสั่งสอน……”

“เพี๊ยะ……”เสียงดังกังวาน

ชุนซวงถูกตบเข้าไปที่หูแรงๆหนึ่งที

ล้มลงไปที่พื้นทั้งตัว หน้าด้านที่ถูกตบก็แดงขึ้นมาอย่างเห็นได้ด้วยตาเปล่า

“พูดจาไร้มารยาท ตอบโต้เทพธิดา อย่าพูดว่าเป็นคนของจวนเฉิงเสี้ยงเลย แม้จะเป็นองค์ชาย เทพธิดาของเราก็กล้าสั่งสอน” องครักษ์พูดเสียงเย็นชา

ทันทีที่พูดไป หลานเยาเยาก็หรี่ตาหันไปมององครักษ์ทันที

องครักษ์นี่แปลกจริงๆ!

ดูท่าจะเอาไว้ไม่ได้

จื่อซีและจื่อเฟิงเองก็ขมวดคิ้วแน่น ย้ายสายตาไปมองที่เขาทันที

องครักษ์ที่จู่ๆก็ถูกคนจำนวนมากจ้องมองก็หน้าซีดลงเล็กน้อย ทันใดนั้นก็โต้ตอบกลับมา รีบคุกเข่าข้างเดียวแล้วเอ่ยว่า:

“ข้าน้อยพลั้งปาก โปรดเทพธิดาลงโทษ”

พลั้งปาก?

เฮอะ!

เกรงว่าจะตั้งใจหน่ะสิ!

แต่หลานเยาเยาก็ไม่ได้คิดเล็กคิดน้อยอะไร เพียงแค่ยิ้มบางๆ จากนั้นก็พูดกับเขาว่า: “ไม่เป็นไร ครั้งหน้าก็ระวังหน่อย”

“เอาหล่ะ ข้าไม่อยากเห็นพวกนางสองคนอีก เจ้าไปกำจัดพวกนางซะ”

ทันทีที่คำพูดนั้นออกไป!

สีหน้าขององครักษ์ก็ตกใจ รีบหันมามองเทพธิดาเพื่อดูว่าตนเองไม่ได้ฟังผิดไปใช่ไหม

เสี้ยฮัวและชุนซวงเองก็ตกใจ สีหน้าซีดเผือด

แต่จื่อซีกับจื่อเฟิงทำเหมือนกับไม่ได้ยินอะไร ยังนิ่งสงบ

“เทพ เทพธิดา ต้องการจะฆ่าพวกนาง?” องครักษ์ถามอย่างลังเล

“เอ้? อ้อ เจ้าฟังผิดแล้ว หน้าที่ของเจ้าก็คือโยนพวกนางออกไป อย่ามาขวางหูขวางตาข้าอีก”

“ขอรับ!”

ชุนซวงและเสี้ยฮัวถอดหายใจอย่างโล่งอก แต่เมื่อครู่เพิ่งตกใจกับคำพูดของเทพธิดา ตอนนี้จึงไร้เรี่ยวแรงอยู่ที่พื้น

องครักษ์เองก็ดูเหมือนแอบถอนหายใจโล่งอก มองสาวใช้สองคนนั้นอย่างเย็นชา และโน้มตัวเพื่อไปยกพวกนางขึ้นมา วางแผนจะลากออกไปโยนทิ้ง

ในขณะนั้นเอง!

“ชุนซวง เสี้ยฮัวพวกเจ้าเป็นอะไร?”เสียงอ่อนโยนน่าฟังดังขึ้นมาจากระเบียงทางเดิน

ชุนซวงและเสี้ยฮัวก็เหมือนคว้าฟางเส้นสุดท้ายไว้ได้ มองถังมู่หวั่นที่ค่อยๆเดินมาช้าๆด้วยความตื่นเต้น

ถังมู่หวั่นลูกสาวภรรยาเอกของจวนเฉิงเสี้ยง นางงดงาม รูปร่างน่าหลงใหล ท่าทางอ่อนช้อย ใบหน้าสะสวย

เมื่อเห็นสองสาวใช้ของตนเองถูกหิ้วเหมือนลูกเจี๊ยบ ก็มีความโหดร้ายฉายขึ้นในแววตา แต่มันก็หายวับไป

เมื่อองครักษ์เห็นว่าใครมา นัยน์ตาก็เป็นประกาย วางสาวใช้สองคนที่เขาหิ้วอยู่ลงอย่างเงียบๆ

จากนั้นก็ก้าวขึ้นมา และคารวะถังมู่หวั่น:

“คุณหนูถัง คุณหนูทั้งสองของท่านพูดจาไร้มารยาท ล่วงเกินเทพธิดาของเรา ข้ากำลังจะโยนพวกนางออกไปจากร้านประมูลเสินตู”

ได้ยินดังนั้น!

ถังมู่หวั่นพยักหน้าน้อยๆ จากนั้นก็มองชุนซวงและเสี้ยฮัวอย่างโมโห และมายังประตูห้องหรู พร้อมคำนับเทพธิดาที่ใส่ชุดแดง

“หม่อมฉันคารวะเทพธิดา!”

“อื้ม!”

มาได้พอดีจริงๆ ไม่ขาดไม่เกินไปสักนาที

หลังจากถังมู่หวั่นยืดตัวตรง ก็รีบมองไปยังชุนซวงและเสี้ยฮัว นัยน์ตาเต็มไปด้วยความผิดหวัง:

“พวกเจ้าทำให้ข้าผิดหวัง เทพธิดาเป็นแขกผู้มีเกียรติของแคว้นฮั่น ตำแหน่งเทียบเท่ากับองค์หญิง ยังกล้าพูดจาไร้มารยาทเช่นนี้ ไม่ต้องให้เทพธิดาสั่งสอน ข้าก็จะสั่งสอนพวกเจ้าอย่างสาสมเอง”

พูดจบก็ส่งสายตาให้สาวใช้ผู้ติดตามด้านหลัง

“เสี่ยวเหลียน เจ้าสั่งสอนสาวใช้ต่ำต้อยที่ไม่เคารพเทพธิดาสองคนนี้แทนเทพธิดาซิ”

เสี่ยวเหลียนที่ยืนอยู่ข้างหลังถังมู่หวั่น คำนับเล็กน้อยและตอบรับว่า:

“เพคะ คุณหนู”

เสี่ยวเหลียนดูเหมือนเป็นคนที่เข้าถึงง่าย แต่แววตานั้นมีความดุร้ายไม่เปลี่ยน นางเดินเข้าสองสามก้าว และตบเข้าไปที่หูของชุนซวงและเสี้ยฮัวติดต่อกันคนละสองสามที

“เพี๊ยะ……”

“เพี๊ยะ……”

“เพี๊ยะๆๆ……”

ตบเข้าไปที่บ้องหูแต่ละที เสียงดังก้องกังวานเข้าสู่หู แต่ชุนซวงและเสี้ยฮัวไม่กล้าร้อง ทำได้เพียงปล่อยให้นางตบ

หลังจากตบเสร็จแล้ว

พวกนางสองคนแบกหน้าโง่ๆไว้แล้วพูดอ้อนวอน:

“คุณหนูพวกเราผิดไปแล้ว พวกเราไม่กล้าอีกแล้ว ที่จริงข้าน้อยถูกใส่ร้าย ก็เห็นชัดๆอยู่ว่าห้องหรูนี้คุณหนูได้จองมาก่อนแล้ว พวกเราจะรู้ได้ที่ไหนกันว่าเทพธิดาจะอยู่ด้านใน”

“ใช่! ข้าน้อยเพียงแค่อยากชิงห้องกลับมาให้ท่าน โดยไม่ได้รู้เลยว่าไปล่วงเกินเทพธิดาแล้ว

คิดไม่ถึงว่าเทพธิดาจะไม่ชอบพวกเรา ไม่เพียงแต่จะให้คนมาตบพวกเรา ยังเกือบจะฆ่าพวกเราด้วย

ตอนนี้ยังให้คนมาไล่พวกเราออกไปอีก คุณหนู เทพธิดากำลังหาเรื่องท่านอยู่นะ!”

ชุนซวงเลี่ยงงานหนักไปหางานเบา ไม่ยอมพูดเรื่องที่พวกนางพูดจาไร้มารยาท ทำตัวหยาบคายออกมา

ทั้งยังพูดออกมาอีกว่าเทพธิดามาแย่งห้อง ทำร้ายพวกนาง พูดเกินความจริงออกมา

หลานเยาเยาเห็นพวกนางเล่นละครก็ไม่พูดอะไร

เสี่ยวเหลียนที่อยู่ข้างๆถังมู่หวั่น มองพวกนางอย่างสะอิดสะเอียน

มาจนป่านนี้แล้วยังไม่รับผิดอีก แถมยังคิดโยนความผิดให้เทพธิดาอีก โง่จริงๆ

ถังมู่หวั่นหน้านิ่ง ขมวดคิ้ว คำรามเบาๆ:

“กำเริบเสิบสานนัก เทพธิดานั้นอวยพรประชาชน อ่อนโยนต่อผู้คน ไม่ทำเรื่องพรรคนั้นออกมาหรอก อีกอย่างวันนี้ข้าก็ไม่ได้จองห้องหรู

พวกเรานั้นพูดจาไร้มารยาทต่อเทพธิดาออกมาก่อน เสี่ยวเหลียน ดูท่าพวกนางยังไม่สำนึกผิด ตบนางต่อ”

ถังมู่หวั่นพูดจบก็สั่งให้เสี่ยวเหลียนตบหูพวกนางต่อ

ชุนซวงและเสี้ยฮัวนั้นมึนแล้ว

แต่ตอนก่อนที่พวกนางเข้ามาร้านประมูลเสินตู เสี่ยวเหลียนนั้นบอกว่าคุณหนูจองห้องหรูเอาไว้ อีกทั้งยังเป็นห้องที่จองปกติ

ทำไมตอนนี้ถึงกลายมาเป็นเช่นนี้?

พวกนางจึงรีบร้องไห้ขอความเมตตา

“คุณหนูพวกเราผิดไปแล้ว นี่มันเป็นความเข้าใจผิด พวกเราสำนึกผิดแล้วจริงๆ……”

เสี่ยวเหลียนยกมุมปากขึ้น: “มาสำนึกตอนนี้ ก็สายไปแล้ว”