ตอนที่ 406 พระชายาฉีอ๋อง

ซื่อจิ่น หวนรักประดับใจ

เมื่อ​ส่ง​พวก​นาง​ออกมา​ยัง​ปาก​ประตู​ของ​อวี​้​เหอย​่​วน​ ​อาหมา​นก​็​หยุด​ฝีเท้า​ลง​ ​นาง​เชิดหน้า​ขึ้น​แล้ว​เอ่ย​กับ​ทุกคน​ด้วย​ท่าทาง​หยิ่งผยอง​ว่า​ ​“​พระ​ชายา​ของ​พวกเรา​เป็น​คนใจดี​มีพ​ระ​เมตตา​ ​แต่​ข้า​ไม่ใช่​ ​นับจากนี้ไป​เจ้า​ทั้ง​สาม​จง​สงบเสงี่ยม​เจียมตน​ให้​มากกว่า​นี้​ ​อย่า​ทำให้​พระ​ชายา​ต้อง​โมโห​”

เมื่อ​นาง​กล่าว​จบ​ก็​โยน​กริช​ใน​มือ​ออก​ไป​ปัก​เข้ากับ​ต้นไม้​ที่อยู่​ห่าง​ออก​ไป​ไม่​ไกล​นัก​ ​ยอดไม้​สั่น​ไหว​ทำให้​ใบไม้​บางส่วน​ร่วงหล่น​ลงมา

พวก​นาง​ทั้ง​สาม​ไม่​อาจ​ซ่อน​ความหวาดกลัว​เอาไว้​ใน​ใจ​ได้​อีกต่อไป

อาหมา​นคง​จะ​เป็น​ผู้​ที่​พระ​ชายา​ปลูกฝัง​มา​เป็นแน่

“​ทั้ง​สาม​จำได้​แล้ว​หรือไม่​”

จี้ห​มัว​มัว​ตอบรับ​ด้วย​สีหน้า​ซีดเผือด​ ​นางกำนัล​อีก​สอง​นาง​ไม่กล้า​แม้แต่​จะ​เอ่ย​สิ่งใด​ออกมา

พวก​นาง​ฝืน​ร่างกาย​เดิน​ออกมา​จาก​อวี​้​เหอย​่​วน​กลับ​ไป​ยัง​ที่พัก​ของ​ตน​ ​ชิง​อวี​้​เอนกาย​พิง​ไป​ที่​กำแพง​ ​ร่างกาย​อ่อนแรง​ทรุด​ลง​ทันใด​ ​“​ข้า​ตกใจ​แทบ​แย่​ ​พระ​ชายา​อ๋อง​…​เหตุใด​จึง​เป็น​เช่นนี้​…​”

เจี้ยง​จู​สีหน้า​ซีดเผือด​ลง​เช่นกัน​ ​นาง​พยักหน้า​ซ้ำแล้วซ้ำเล่า​แล้ว​กล่าวว่า​ ​“​นั่น​น่ะ​สิ​ ​ไม่​เหมือนกับ​พระ​ชายา​อ๋อง​ที่​ข้า​จินตนาการ​เอาไว้​สักนิด​…​”

บรรดา​สตรี​ผู้สูงศักดิ์​ใน​พระราชวัง​ ​ผู้ใด​บ้าง​ที่​ไร้​ท่าทาง​อัน​สง่า​ ​สุภาพ​ ​อ่อนโยน​ ​แม้แต่​ยาม​ที่​พวก​นาง​ลงโทษ​ผู้อื่น​ก็​ทำ​เพียง​ขมวดคิ้ว​ขึ้น​เล็กน้อย​ ​จากนั้น​ก็​จะ​มีบ​่า​วรับ​ใช้​ลงมือ​จัดการ​แทน​ ​เหนียง​เหนียง​แต่ละ​นาง​ล้วน​สง่างาม​และ​ดู​มีเกียรติ

แต่​เหตุใด​พระ​ชายา​อ๋อง​ผู้​นี้​ ​จู่ๆ​ ​จึง​ได้​หยิบ​กริช​ออกมา​โดย​ไม่ทัน​ตั้งตัว​เช่นนั้น

ชิง​อวี​้​พิง​กำแพง​พยายาม​ทำ​จิตใจ​ให้​สงบ​ลง​ ​ก่อน​จะ​เอ่ย​ถาม​เจี้ยง​จู​ว่า​ ​“​เจ้า​ว่า​ ​ที่​พระ​ชายา​อ๋อง​เป็น​เช่นนี้​ ​ท่าน​อ๋อง​รู้เรื่อง​หรือไม่​”

บัดนี้​หัวใจ​ของ​เจี้ยง​จู​ยังคง​เต้น​เร็ว​นัก​ ​นาง​ใช้​มือ​ลูบ​ไป​ที่​หน้าอก​แล้ว​ถอนหายใจ​ว่า​ ​“​ต่อให้​ทรง​รู้​แล้ว​อย่างไร​ ​จาก​ที่​ข้าม​อง​ดู​ ​ท่าน​อ๋อง​ก็​แตกต่าง​จาก​คน​ทั่วไป​ ​ไม่แน่​ว่า​อาจ​ทรง​ชื่นชอบ​ที่​พระ​ชายา​อ๋อง​เป็น​เช่นนี้​”

ชิง​อวี​้​ดู​สิ้นหวัง​ ​“​ถ้าเช่นนั้น​ ​พวกเรา​ ​พวกเรา​จะ​ไม่มีวัน​ได้​ลืมตาอ้าปาก​หรือ​”

เจี้ยง​จู​ครุ่นคิด​อยู่​เนิ่นนาน​ ​ก่อน​จะ​ตอบ​ออกมา​ช้าๆ​ ​“​จู่ๆ​ ​ข้า​ก็​รู้สึก​ว่า​ชีวิต​เช่นนี้​ก็​ไม่ได้​เลวร้าย​นัก​”

ชิง​อวี​้​เบิกตา​กว้าง​ขึ้น​ทันที​ ​ใบหน้า​ของ​นาง​ตกตะลึง​ ​“​เจี้ยง​จู​ ​เจ้า​หวาดกลัว​เสีย​จน​เสียสติ​ไป​แล้ว​หรือ​”

นาง​กล่าว​พลาง​เอื้อมมือ​ไป​แตะ​หน้าผาก​ของ​เจี้ยง​จู​เพื่อ​ดู​ว่านาง​ป่วย​หรือไม่

เจี้ยง​จู​เอน​หน้า​หลบหนี​ ​น้ำเสียง​ดู​สงบ​ลง​กว่า​เดิม​ ​“​ข้า​ไม่ได้​เสียสติ​ไป​ ​ชิง​อวี​้​ ​เจ้า​ลอง​คิดดู​ว่า​บัดนี้​การ​ที่​เรา​ดูแล​เครื่องเทศ​อยู่​ใน​จวน​เยี​่​ยน​อ๋อง​ ​สบาย​กว่า​งาน​ใน​วัง​มาก​ไม่ใช่​หรือ​”

ชิง​อวี​้​ครุ่นคิด​แล้ว​พยักหน้า​ ​จะ​ว่า​ไป​แล้ว​ ​ตั้งแต่​ที่​พวก​นาง​ได้รับ​คัดเลือก​เข้ามา​เป็น​นางกำนัล​เจี้ยว​อิ่น​เมื่อ​สาม​ปีก่อน​ ​ก็​ไม่ได้​รับมอบหมาย​หน้าที่​ใด​เป็นการ​พิเศษ​ ​โดยมาก​แล้ว​มักจะ​ศึกษา​กฎ​และ​มารยาท​ ​นอกจากนั้น​ก็​เรียนรู้​เรื่อง​การ​หลับนอน​ ​หาก​จะ​กล่าวว่า​เหนื่อย​ก็​คง​ไม่ใช่​ ​แต่ทว่า​…

ไม่รู้​ว่านาง​นึกถึง​สิ่งใด​อยู่​ ​แววตา​ของ​ชิง​อวี​้​ฉาย​ถึง​ความหวาดกลัว​ออกมา

เจี้ยง​จู​ก็​รู้สึก​เช่นเดียวกัน​ ​“​สาม​ปี​มานี​้​มี​คืน​ใด​บ้าง​ที่​พวกเรา​ได้​นอนหลับ​อย่างสงบ​สุข​ ​ทาง​กลับกัน​ ​เมื่อ​เดินทาง​มาถึง​จวน​อ๋อง​แห่ง​นี้​ ​และ​ได้รับ​มอบหมาย​ให้​ดูแล​ใน​เรื่อง​เครื่องเทศ​ ​ข้า​รู้สึก​ว่า​ผ่อนคลาย​มากกว่า​เดิม​ ​ใน​ตอนแรก​ข้า​คิด​ว่า​พระ​ชายา​อ๋อง​จะ​เป็น​เช่น​สตรี​ชั้นสูง​ทั่วไป​ที่​เคย​พบ​ ​เมื่อ​พระ​ชายา​ย้าย​เข้ามา​อยู่​ใน​จวน​แล้วก็​คงจะ​จัดการ​ให้​พวกเรา​เข้า​ปรนนิบัติ​ท่าน​อ๋อง​ ​แต่​จาก​เมื่อ​ครู่​มองดู​แล้ว​เรา​คง​ไม่ต้อง​ทำ​เช่นนั้น​ ​ก็​ไม่ใช่​เรื่อง​แย่​แต่อย่างใด​ ​เรา​อาศัย​อยู่​ใน​จวน​อ๋อง​มี​กิน​มีดื​่ม​ไม่ต้อง​กังวล​ ​อีกทั้ง​เรา​คือ​นางกำนัล​ที่​ฮ่องเต้​ทรง​ประทาน​มา​ให้​เป็น​รางวัล​ ​เพียงแค่​เรา​ไม่​ทำให้​พระ​ชายา​อ๋อง​ขุ่นเคือง​ ​ไม่ว่า​ใคร​ก็​คง​ไม่กล้า​ข่มเหง​เรา​ ​เจ้า​คิด​ว่า​อย่างไร​”

ชิง​อวี​้​ยังคง​คิด​ไม่​ตก​ ​นาง​กัด​ริมฝีปาก​แล้ว​กล่าวว่า​ ​“​เจี้ยง​จู​ ​เมื่อ​ครู่​เจ้า​ก็​เอ่ย​ออกมา​เอง​ว่า​พวกเรา​นั้น​คือ​รางวัล​ที่​ฮ่องเต้​ประทาน​มา​ให้​ ​หาก​เรา​ไม่ได้​ปรนนิบัติ​ท่าน​อ๋อง​ ​แต่​เจ้า​คิด​ว่า​ผู้อื่น​จะ​กล้ามา​สู่ขอ​เรา​หรือ​ ​และ​หาก​เป็น​เช่นนี้​พวกเรา​…​พวกเรา​ก็​จะ​ต้อง​โดดเดี่ยว​ไป​จนตาย​หรือ​”

เจี้ยง​จู​เหล่​ตาม​อง​ด้วย​ท่าทาง​แข็งทื่อ​ราวกับ​แท่ง​เหล็ก​ ​“​เหตุใด​จึง​ต้อง​ออกเรือน​เล่า​ ​การ​ออกเรือน​นั้น​ก็​เพื่อ​จะ​ได้​มี​อาหาร​กิน​และ​เครื่องนุ่งห่ม​ใช้​ ​เรา​ใช้ชีวิต​อยู่​ใน​จวน​อ๋อง​ไม่ต้อง​กังวล​เรื่อง​กิน​เรื่อง​ดื่ม​และ​เครื่องนุ่งห่ม​ ​เหตุใด​จะ​ต้อง​ดิ้นรน​ไป​เป็น​ภรรยา​คนอื่น​ ​แล้ว​คอย​ซักผ้า​ทำกับข้าว​ให้​พวกเขา​เล่า​ ​พวกเรา​ลำบากลำบน​มาค​รึ​่ง​ชีวิต​ ​แต่​ชาย​เหล่านั้น​เมื่อ​แก่ตัว​ลง​มีเงิน​ ​ก็​จะ​รับ​อนุภรรยา​เข้ามา​อีก​”

ประโยค​ของ​เจี้ยง​จู​ราวกับ​สายฟ้า​ฟาด​ลงมา​กลาง​ใจ​ชิง​อวี​้​ ​เป็นการ​เปิด​มุมมอง​โลก​ใหม่​ให้​แก่นาง

“​เจี้ยง​จู​ ​เมื่อ​ได้ยิน​เจ้า​กล่าว​แบบนี้​ ​จู่ๆ​ ​ข้า​ก็​รู้สึก​ว่า​เป็นจริง​ดังนั้น​…​”

โดยมาก​แล้ว​นางกำนัล​ใน​พระราชวัง​ล้วน​มาจาก​ครอบครัว​ที่​ยากจน​ ​แม้ว่า​เมื่อ​อายุ​ครบ​ยี่สิบ​ห้า​ปี​พวก​นาง​ก็​จะ​ต้อง​ออกจาก​วัง​แล้ว​เดินทาง​กลับบ้าน​เกิด​ ​แต่​นางกำนัล​ผู้​ที่​เคย​เห็น​ความรุ่งเรือง​ ​ใช้ชีวิต​กิน​ดีมี​สุขอยู่​ใน​พระราชวัง​ ​นอก​เสีย​จาก​บิดา​มารดา​อันเป็น​ที่รัก​แล้ว​ ​ไม่มี​สิ่งจูงใจ​ใด​ที่จะ​ทำให้​พวก​นาง​กลับ​ไป​ยัง​บ้านเกิด​อีก​ ​บิดา​ของ​ชิง​อวี​้​ออกรบ​และ​จากไป​เมื่อ​หลาย​ปีก่อน​ ​เจี้ยง​จู​จึง​มี​เพียง​มารดา​ ​พี่ชาย​และ​พี่สะใภ้​ ​บ้าน​นั้น​นาง​คง​ไม่​อาจ​กลับ​ไป​ได้​อีก

“​ไป​กัน​เถอะ​ ​เข้าไป​ใน​เรือน​ของ​พวกเรา​กัน​”​ ​เจี้ยง​จู​เอื้อมมือ​ออก​ไป​ทาง​ชิง​อวี​้

ชิง​อวี​้​จับมือ​ของ​เจี้ยง​จู​เอาไว้​ ​ทั้งสอง​คน​เดิน​ตรง​เข้าไป​ด้านใน​ด้วยกัน

ภายใน​ลาน​ ​แสงแดด​ส่อง​กระทบ​ ​ใบไม้​เขียวชอุ่ม

จี้ห​มัว​มัว​รีบ​เดิน​ตรง​เข้าไป​ที่​ร้าน​เรือน​ด้านหน้า​เพื่อ​พบ​กับ​จั่ง​สื่อ

จั่ง​สื่อ​เพิ่งจะ​เดิน​ออกมา​จาก​ห้อง​ทรงพระ​อักษร​ของ​อวี​้​จิ​่น​ได้​ไม่นาน​ ​เขา​กำลัง​รู้สึก​ปวดใจ​ที่​ท่าน​อ๋อง​ไม่ยอม​เชื่อฟัง​คำสั่งสอน​ ​แต่​คิดไม่ถึง​ว่า​เมื่อ​จี้ห​มัว​มัว​เดิน​ตรง​มาก​็​ได้​แต่​ถอนหายใจ

“ห​มัว​มัว​ ​เหตุใด​จึง​ถอนหายใจ​เช่นนั้น​”

“​จั่ง​สื่อ​ ​หน้าที่​นี้​ข้า​คง​ไม่​อาจ​ทำได้​อีกต่อไป​”

เมื่อ​ฟัง​เสียง​จี้ห​มัว​มัว​ถอนหายใจ​ออกมา​ ​จากนั้น​ก็​เล่าเรื่อง​อัน​ยืดยาว​ให้​ฟัง​จน​เสร็จสิ้น​แล้ว​ ​สีหน้า​ของ​จั่ง​สื่อ​ก็​ดู​ตื่นเต้น​เป็นพิเศษ​ ​ผ่าน​ไป​ชั่วครู่​จึง​ได้​เอ่ย​ว่า​ ​“​เนื่องจาก​เป็น​เช่นนี้​ ห​มัว​มัว​จึง​ต้อง​พยายาม​ให้​มากกว่า​เดิม​ ​และ​ชี้นำ​พระ​ชายา​ให้​กลับมา​สู่​หนทาง​ปกติ​ให้​จง​ได้​”

จี้ห​มัว​มัว​ทำ​สีหน้า​หม่นหมอง​แล้ว​กล่าว​ออกมา​อย่างไร​้​เรี่ยวแรง​ว่า​ ​“​เดิมที​ข้า​คิด​ว่า​เพียง​ต้อง​เผชิญหน้า​กับ​การ​ทำให้​ท่าน​อ๋อง​ ​และ​พระ​ชายา​อ๋อง​ต้อง​ไม่พอ​พระทัย​เท่านั้น​ ​แต่​ข้า​คิดไม่ถึง​ว่า​อาจมี​อันตราย​ถึง​ชีวิต​ได้​ ​ที่​ข้า​เดินทาง​มา​ใน​วันนี้​ก็​เพื่อ​ต้องการ​บอก​กับ​จั่ง​สื่อ​ว่า​ ​นับจากนี้ไป​ข้า​จะ​ดูแล​เพียงแค่​บ่าว​รับใช้​ ​ส่วน​ท่าน​อ๋อง​และ​พระ​ชายา​อ๋อง​ทั้งสอง​ล้วน​มี​ความคิดเห็น​เป็น​ของ​ตนเอง​ ​ข้า​ไม่​อาจจะ​เข้าไป​ยุ่งเกี่ยว​ได้​”

เมื่อ​จี้ห​มัว​มัว​กล่าว​จบ​ ​นาง​ก็​หันหลัง​เดิน​จากไป

“ห​มัว​มัว​ ห​มัว​มัว​!​”​ ​จั่ง​สื่อ​ไล่ตาม​ไป​แต่​ไม่ทัน​ ​เขา​กระทืบเท้า​แล้ว​ทำท่า​ห่อเหี่ยว​ ​“​เมื่อ​พบ​เจอ​กับ​ปัญหา​ก็​ถอย​หนี​ ​ไม่​อาจ​คาดหวัง​สิ่งใด​กับ​สตรี​ได้​จริงๆ​!​”​

ตัว​เขา​ใน​ฐานะ​จั่ง​สื่อ​อาจจะ​คอย​ตักเตือน​ท่าน​อ๋อง​ได้​ ​แต่​จะ​ไป​ยุ่งเกี่ยว​กับ​พระ​ชายา​ได้​อย่างไร​ ​เมื่อ​คิดได้​ดังนั้น​ชาย​ชรา​ก็​รู้สึก​ว่า​อนาคต​ใน​วันข้างหน้า​ช่าง​มืดมน​เหลือเกิน

บัดนี้​เจียง​ซื่อ​จึง​ใช้ชีวิต​ได้​อย่างสงบ

ด้าน​ของ​จิ​่ง​หมิง​ฮ่องเต้​เมื่อ​อ่าน​สาสน์​ที่​กราบทูล​ทั้งสิ้น​เรียบร้อย​แล้ว​ ​ก็ได้​เปิด​อ่าน​จดหมาย​ลับ​ของ​ผู้บัญชาการ​หน่วย​องครักษ์​จิ​่น​หลิน

สำหรับ​จิ​่ง​หมิง​ฮ่องเต้​แล้ว​ ​จดหมาย​ลับ​ที่​ส่ง​มาจาก​ทาง​องครักษ์​จิ​่น​หลิน​น่าสนใจ​มากกว่า​สาส์น​กราบทูล​ของ​บรรดา​ขุนนาง​เหล่านั้น​มาก​นัก​ ​โดยเฉพาะอย่างยิ่ง​ใน​นั้น​มีเรื่อง​ที่​เขา​รับสั่ง​ลง​ไป​เป็นการ​ส่วนตัว

อาทิเช่น​ ​การ​สืบ​ประวัติ​ของ​พระ​ชายา​เยี​่​ยน​อ๋อง​ใน​อดีต

รายงาน​ลับ​ของ​องครักษ์​จิ​่น​หลิน​นั้น​มักจะ​ใช้​คำ​ตรงไปตรงมา​ตอบ​ได้​อย่างชัดเจน

เมื่อ​จิ​่ง​หมิง​ฮ่องเต้​ทรง​อ่าน​จบ​ ​ก็ได้​คลาย​ความกังวล​ใน​ใจ​ลง

พระ​ชายา​เยี​่​ยน​อ๋อง​เติบโต​มา​ใน​จวน​ไม่ได้​ออก​ไป​ไหน​ ​นอก​เสีย​จาก​รูปลักษณ์​ที่​งดงาม​แล้ว​นาง​ก็​ไม่มี​สิ่งใด​ที่​โดดเด่น​ ​อีกทั้ง​ไม่​ค่อย​จะ​ได้​ติดต่อ​สนทนา​กับ​ผู้ใด

เมื่อ​เป็น​เช่นนี้​ ​สิ่ง​ที่ว่า​พระ​ชายา​เยี​่​ยน​อ๋อง​กล่าวว่า​รู้​ทุกสิ่ง​อย่าง​บน​โลก​นี้​ก็​ไม่มี​สิ่งใด​ติดขัด

ถึงอย่างไร​ก็​เป็น​เพียง​เรื่องเล็ก​น้อย​ ​ไม่ได้​เกี่ยวข้อง​หรือ​ส่งผล​กระทบ​ต่อ​เรื่องใหญ่​ใด​ ​หลังจากที่​ทอดพระเนตร​ดูแล​้ว​ ​จิ​่ง​หมิง​ฮ่องเต้​ก็ได้​วาง​จดหมาย​ลับ​เอาไว้​ด้าน​ข้าง​ ​เขามอง​ซ้าย​มอง​ขวา​ ​แล้ว​หยิบ​หนังสือ​บทละคร​ที่​วาง​ไว้​ใต้​ล่าง​จดหมาย​กอง​โต​เป็น​ภูเขาเลากา​ขึ้น​มา​อ่าน​อย่างสนุกสนาน

งานเลี้ยง​ฉลอง​เนื่องใน​โอกาส​ที่​ดวงตา​ของ​องค์​หญิงฝู​ชิง​กลับมา​มองเห็น​ได้​เป็นปกติ​จะ​จัด​ขึ้น​หลังจากนี้​อีก​สอง​วัน​ ​ซึ่ง​นับว่า​เป็น​งานเลี้ยง​ภายใน​ตระกูล​ ​ดังนั้น​ผู้​ที่​ได้รับ​หนังสือ​เชิญ​จึง​มี​เพียง​เชื้อพระวงศ์​เท่านั้น

ซึ่ง​ใน​วันนั้น​เป็นจังหวะ​พอดี​กับ​ที่​เจียง​ซื่อ​เดินทาง​กลับ​จวน​บ้านเกิด​เพื่อ​คารวะ​บิดา​มารดา​ ​เมื่อ​เป็น​เช่นนี้​คง​ทำได้​เพียง​ส่ง​คน​มาบ​อก​นาง​ที่​จวน​ตง​ผิงปั​๋ว​ ​ให้​เดินทาง​ไป​ช้า​หน่อย

ไม่ต้อง​เอ่ยถึง​สีหน้า​ของ​คนอื่น​ใน​จวนปั​๋​วว​่า​มีท​่า​ทาง​เช่นไร​เมื่อ​ได้รับ​จดหมาย​ ​เจียง​ซื่อ​และ​อวี​้​จิ​่​นก​็​รีบ​นั่ง​รถม้า​มุ่ง​ตรง​เข้าไป​ยัง​พระราชวัง​แต่เช้า​ตรู่

งานเลี้ยง​ครั้งนี้​จัด​ขึ้น​ใน​ตำหนัก​ฉาง​เซิง​ ​โดย​ให้ความสำคัญ​ไม่​ต่าง​จาก​เทศกาล​ตง​จื้อ​และ​ปีใหม่​ ​งานเลี้ยง​ใน​พระราชวัง​อัน​ยิ่งใหญ่​เช่นนี้​เห็นได้ชัด​ว่า​ทั้ง​ฮ่องเต้​และ​ฮองเฮา​ให้ความสำคัญ​กับ​องค์​หญิงฝู​ชิง​เพียงใด

เจียง​ซื่อ​และ​อวี​้​จิ​่น​เดินทาง​มาถึง​ค่อนข้าง​เช้า​ ​เมื่อ​ก้าว​เข้าไป​ใน​ประตู​ใหญ่​ของ​ห้องโถง​ ​ทั้งสอง​คน​ก็​ต้อง​แยก​ออกจาก​กัน​ ​โดย​มี​โดย​มีนา​งกำ​นัล​เดิน​นำ​ทั้งสอง​ไป​สู่​ที่นั่ง​ซึ่ง​จัดเตรียม​ไว้

เจียง​ซื่อ​เพิ่งจะ​นั่งลง​ ​ก็ได้​ยิน​น้ำเสียง​อัน​อ่อนโยน​ดัง​ขึ้น​ว่า​ ​“​น้อง​สะใภ้​เจ็ด​?​”

ความรู้สึก​หนาวเย็น​ที่​ไม่​อาจ​ควบคุม​ได้​แผ่ซ่าน​ออกมา​จาก​ก้นบึ้ง​ของ​หัวใจ​ ​ในไม่ช้า​ก็​พลุ่งพล่าน​ไป​สู่​แขนขา​ทั้ง​สี่

เจียง​ซื่อ​ถู​ไป​ที่​นิ้วมือ​อัน​เยือกเย็น​ของ​นาง​แล้ว​มอง​ไป​ยัง​ต้นเสียง

พระ​ชายา​ฉี​อ๋อง​เผยอ​ริมฝีปาก​เรียว​บาง​ยิ้ม​ขึ้น​เล็กน้อย​ ​ท่าทาง​ของ​นาง​ดู​อ่อนโยน​ใจดี​และ​เป็นมิตร​ ​“​ใน​วัน​อภิเษก​ของ​น้อง​สะใภ้​เจ็ด​มี​ผู้คน​มากมาย​เหลือเกิน​ ​คาด​ว่า​คง​จำ​ข้า​ไม่ได้​ ​ข้า​คือ​พี่สะใภ้​สี่​ของ​เจ้า​”