ตอนที่ 242 ถูกผู้ใดสังหาร

อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว

ตอนที่ 242 ถูกผู้ใดสังหาร
ตอนที่ 242 ถูกผู้ใดสังหาร

อวี้เป่าเอ๋อร์เข้าไปในประตู เด็กชายก้มหน้าลงและคุกเข่าต่อซิวเย่ตู๋ “อวี้เป่าเอ๋อร์คารวะท่านอ๋อง”

“อืม”เย่ซิวตู๋พยักหน้าตอบ “เจ้าลุกขึ้นมาเถิด ต่อไปยามพบกับข้าเจ้าไม่ต้องคุกเข่าแล้ว”

ไม่เช่นนั้นอวี้ชิงลั่วก็คงจะไม่พอใจเป็นแน่แท้

“พ่ะย่ะค่ะ” อวี้เป่าเอ๋อร์ค่อย ๆ ลุกขึ้น เขาขมวดคิ้วและรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ

เมื่อวานเขาสนทนากับท่านอ๋องแปดมากมาย เสียงของท่านอ๋องแปดดูผ่อนคลายสบายหูเล็กน้อย แต่น้ำเสียงของบุคคลผู้นี้กลับเคร่งขรึม เวลาพูดออกมานั้นให้ความรู้สึกกดดันขึ้นมาทันที

อวี้เป่าเอ๋อร์สับสนเล็กน้อย เขาค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นมองดูชายหนุ่มที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกล

ดูเหมือนว่าบุรุษผู้นั้นเพิ่งตื่นนอน คนใช้ตัวน้อยกำลังผูกหยกแขวนอย่างระมัดระวัง และจัดระเบียบรอยยับบนเสื้อผ้าให้กับเขา ผ่านไปสักพักจึงกล่าวลาและออกจากห้องนี้ไป

อวี้เป่าเอ๋อร์ค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นไปมองเข็มขัดที่คาดไว้ตรงเอว ร่างกายที่กำยำแข็งแรง และในท้ายที่สุดก็ไปหยุดที่ใบหน้าเคร่งขรึมไร้อารมณ์

ลมหายใจของอวี้เป่าเอ๋อร์พลันสะดุด เขาถึงกับลืมเรื่องมารยาทไปในบัดดล “ท่าน ท่านเป็นใคร?”

เหวินเทียนที่ยืนอยู่อีกฝั่งตกตะลึง ชายหนุ่มรีบเอ่ยบอกเด็กชาย “คุณชายอวี้ นี่ท่านอ๋องซิว อย่าเสียมารยาท”

ท่านอ๋องผู้นี้ไม่สนใจมารยาทของอวี้ชิงลั่วและหนานหนานก็จริง แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเขาจะสามารถทนต่อผู้อื่นได้ ดังนั้นตนควรจะเตือนเด็กชายเล็กน้อย

“ท่านอ๋องซิวหรือ?” อวี้เป่าเอ๋อร์สติหลุดลอยอย่างสมบูรณ์ “แต่ว่า…เมื่อวานนั้นคนที่พากระหม่อมกลับมาคือท่านอ๋องแปด เหตุใดตอนนี้จึงกลายเป็นท่านอ๋องซิวได้?”

ท่านอ๋องซิว? อวี้เป๋าเอ๋อร์กะพริบตา เด็กชายเพียงรู้สึกว่าคุ้นเคยกับชื่อนี้นัก เหมือนจะเคยได้ยินมาจากที่ไหนสักแห่ง

อวี้เป่าเอ๋อร์ขมวดคิ้วครุ่นคิด จากนั้นก็รู้สึกหนาวสะท้านขึ้นมา อ๋องซิว? คงจะไม่ใช่ท่านอ๋องผู้ที่เพิ่งกลับมาถึงเมืองหลวงที่ผู้คนเอ่ยถึงกันเป็นจำนวนมากใช่หรือไม่? เด็กชายได้ยินคนใช้ในจวนสนทนากันว่าท่านอ๋องซิวผู้นี้นั้นเย็นชาและเหี้ยมโหด เขาไม่ไว้หน้าผู้ใดเลย ผู้ที่กำเริบเสิบสานต่อเขาต่างมีจุดจบไม่ค่อยสวยนัก และผู้ที่ทำผิดต่อท่านอ๋องก็ยิ่งมีอันตรายถึงชีวิต

โดยเฉพาะเมื่อวานที่ตนหนีออกจากจวนตระกูลอวี้ ก็ได้ยินผู้คนบนถนนสนทนากัน กล่าวกันว่าวิธีสังหารเวยเยวี่ยนโหวของท่านอ๋องนั้นเลือดเย็นเป็นอย่างมาก ไม่เพียงแค่หักแขนของฝ่ายนั้น แต่ยังทุบตีเขาจนตาย ในท้ายที่สุดเวยเยวี่ยนโหวก็เกลือกกลิ้งไปด้วยความทรมานและตายลงไปในที่สุด วิธีการนั้นช่างโหดเหี้ยมเป็นอย่างมาก

บุคคลผู้นี้ที่อยู่ต่อหน้าเขา เป็นไปได้ไหมว่าคือ…เย่ซิวตู๋

แต่ตนมาอยู่ตรงนี้ได้เช่นไรกัน มาอยู่ในกำมือของเย่ซิวตู๋ได้อย่างไร?

“คุณชายอวี้ คุณชายอวี้?” เหวินเทียนเห็นว่าเด็กชายยังคงจ้องมองท่านอ๋องอยู่ เมื่อมองดูการแสดงออกของท่านอ๋องก็เห็นได้ชัดว่าไม่พอใจเล็กน้อย จึงรีบสะกิดอีกฝ่าย เรียกเขาให้ได้สติกลับมา

อวี้เป่าเอ๋อร์ตกตะลึงไปครู่หนึ่ง เมื่อเด็กชายได้สติกลับมา เวลานั้นจึงคุกเข่าลงไปกับพื้น “ท่านอ๋องซิว เป่าเอ๋อร์นั้นไร้มารยาท ท่านอ๋องได้โปรดอย่าได้ถือสา”

เย่ซิวตู๋เดินไปนั่งอีกฝั่งของโต๊ะด้วยท่าทางไร้ความรู้สึก ชายหนุ่มก้มหน้าลงไปมองเด็กชาย ก่อนจะเอ่ยขึ้นเบา ๆ “ลุกขึ้นเถิด ข้าบอกแล้วว่าไม่ต้องคุกเข่า”

“…พ่ะย่ะค่ะ” อวี้เป่าเอ๋อร์ไม่เข้าใจ เหตุใดท่านอ๋องจึงปฏิบัติต่อเขาเป็นพิเศษ?

เย่ซิวตู๋ส่งสายตาให้เหวินเทียน ชายหนุ่มจึงรีบนำเก้าอี้มาวางไว้ด้านข้างอวี้เป่าเอ๋อร์ “คุณชายอวี้เชิญนั่งตรงนี้”

อวี้เป่าเอ๋อร์แอบชำเลืองมองเย่ซิวตู๋ พยายามจะยับยั้งมือเท้าไว้ เด็กชายรู้สึกไม่สบายใจนัก โดยเฉพาะการไม่สามารถคาดเดาความคิดที่โหดร้ายของพระองค์ได้ เรื่องนี้จึงทำให้เขาเป็นกังวลขึ้นไปอีก

ท้ายที่สุดแล้วท่านอ๋องแปดคิดสิ่งใดอยู่ เหตุใดจึงต้องปล่อยตนไว้ที่ตำหนักท่านอ๋องซิว เหตุใดจึงต้องพาเขามาพบท่านอ๋องซิว?

อวี้เป่าเอ๋อร์รู้สึกหงุดหงิดและไม่พอใจเล็กน้อย เขาหนีออกมาจากจวนตระกูลอวี้เพื่อไปพบเสนาบดีฝ่ายขวา เหตุใดจึงถูกส่งตัวมาที่นี่?

“เจ้าคือน้องชายของอวี้ชิงลั่วใช่หรือไม่?”

น้ำเสียงเยือกเย็นทำให้อวี้เป่าเอ๋อร์เงยหน้าขึ้นมาทันที แต่เมื่อสบเข้ากับแววตาเฉียบคมของเย่ซิวตู๋ เด็กชายก็รีบก้มหน้าลงไปอีกครั้ง

แต่ครั้นได้ยินชื่อของอวี้ชิงลั่ว เด็กชายก็ได้สติและรีบระแวดระวังขึ้นมาหลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็ตอบกลับไปอย่างเงียบ ๆ “พ่ะย่ะค่ะ”

อวี้เป่าเอ๋อร์รู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมาก เหตุใดท่านอ๋องซิวจึงเอ่ยถึงพี่สาวของตนขึ้นมา? พี่สาวของตนจากโลกนี้ไปหกปีแล้ว ในโลกนี้นอกจากตัวเขาเองแล้วจะมีผู้ใดนึกถึงพี่สาวของเขาอีก มีแต่เขาที่ยังจำได้อยู่ว่าตนนั้นเคยมีพี่สาว

เมื่อนึกถึงเรื่องเหล่านี้ อวี้เป่าเอ๋อร์ก็รู้สึกเจ็บปวดขึ้นมา

เย่ซิวตู๋ดันแก้วชาให้เด็กชายแก้วหนึ่ง จ้องมองดูสีหน้าที่คาดเดาไม่ได้ของอีกฝ่าย อวี้เป่าเอ๋อร์ผู้นี้ยังเด็กนัก พูดจาก็น้อยคำ แต่ภายในใจกลับมีความคิดอยู่ไม่น้อย

“กับพี่สาวเจ้าแล้ว เจ้ามีความทรงจำเกี่ยวกับนางมากแค่ไหน?”

พี่สาวหรือ?

“ท่านอ๋องหมายถึง…พี่สาวจริง ๆ ของข้าหรือพ่ะย่ะค่ะ?” อวี้เป่าเอ๋อร์เอ่ยถามขึ้นอย่างลังเลใจ ที่เด็กชายเป็นกังวลใจนั้นก็คือท่านอ๋องผู้นี้จะถูกอวี้ชิงโหรวหลอกเข้าเสียแล้ว และตกหลุมรักสตรีแย่ ๆ เช่นนั้น

ถ้าเป็นเช่นนั้นจริงก็แย่เอาเสียมาก ๆ

การแสดงออกของเย่ซิวตู๋ยังคงเป็นแบบเดิม “เราหมายถึงอวี้ชิงลั่ว”

“พี่…พี่สาวของกระหม่อมนั้นเป็นคนดี แต่นางจากโลกนี้ไปแล้วเมื่อหกปีก่อน ตอนนั้นกระหม่อมเพิ่งจะอายุได้สี่ปี จึงจำอะไรไม่ค่อยได้” อวี้เป๋าเอ๋อร์ไม่กล้าจะเอ่ยอะไรมากมายนัก เพียงแค่เล่าเรื่องผิวเผินเท่านั้น แต่เรื่องพวกนี้ทุก ๆ คนก็น่าจะรับรู้แล้ว

เย่ซิวตู๋หัวเราะขึ้นอย่างเย็นชา สิบเอ็ดปี อันที่จริงแล้ว ถึงแม้ว่าเด็กคนนี้จะถูกกักเอาไว้ แต่กลับรับรู้เรื่องราวไม่น้อยเลย

สิบเอ็ดปี ในตอนที่ชายหนุ่มอายุได้สิบเอ็ดปี เขาก็ได้เข้าใจถึงความคิดของหมู่เฟยแล้ว เขาเองก็ถูกลอบสังหารมาหลายครั้ง เรื่องที่ควรจะรับรู้ก็รับรู้แล้ว

อวี้เป่าเอ๋อร์ผู้นี้ หลายปีมานี้คงถูกมองว่าเป็นคนบ้า เขาคงจะคิดมากอยู่ไม่น้อย

“จริงด้วยสิ พี่สาวของเจ้าจากไปเมื่อหกปีก่อนแล้ว ข้าได้ยินมาว่านางถูกสังหาร เนื่องจากแอบนอกใจสามี”

ถึงแม้ว่าคนที่นางนอกใจมาหาก็คือตัวเขาเอง และเขาก็รู้สึกว่าเหตุการณ์ครั้งนั้นมันดีเสียมาก ๆ

“เรื่องการนอกใจนั้นเป็นการผิดศีลธรรมโดยแท้ จึงจะถูกสังหาร และนางก็ถูกฟ้าผ่าก็ถือว่าเป็นการชดใช้แล้ว”

อวี้เป่าเอ๋อร์ตกตะลึง ทันใดนั้นเส้นขนทั่วร่างกายของเขาก็ลุกชันขึ้นมา เด็กชายจับจ้องไปที่เย่ซิวตู๋ด้วยแววตาดุดันราวกับว่าลืมสถานะตัวตนของเย่ซิวตู๋ไปเสียสนิท และเอ่ยขึ้นอย่างโกรธเคือง “พี่สาวของกระหม่อนนั้นไม่ได้ทำเรื่องผิดศีลธรรม นางตายอย่างไม่ได้รับความเป็นธรรม ไม่เป็นธรรมอย่างมาก นางถูกคนจัดฉากสังหาร หากท่านยังพูดจาดูถูกนาง กระหม่อมก็จะกัดท่านให้ตาย”

“…” เหวินเทียนตกตะลึงไปชั่วขณะ และตกใจกับอารมณ์ที่แตกต่างของอวี้เป่าเอ๋อร์เป็นอย่างมาก

เหตุใดเด็กน้อยผู้นี้จึงมีปฏิกิริยาเช่นนี้เมื่อเอ่ยถึงพี่สาวของตนเอง ในตอนที่แม่นางอวี้แต่งงานกับอวี๋จั้วหลิน เด็กคนนี้อายุก็ได้สี่ปี จากสี่ปีจนถึงสิบเอ็ดปีนั้น แม้แต่ช่วงเวลาสั้น ๆ ของเขากับอวี้ชิงลั่วก็นับว่าว่างเปล่า เกรงว่าเขาจะจดจำรูปลักษณ์ของนางไม่ได้ด้วยซ้ำ เหตุใดจึงยังปกป้องแม่นางอวี้อยู่?

เย่ซิวตู๋กลับไม่แปลกใจเลย ชายหนุ่มเหลือบมองและเอ่ยขึ้นเบา ๆ “อ้อ ถูกคนสังหารเช่นนั้นหรือ แล้วผู้ใดเล่า?”

…………………………………………………………………………………………………………………….

สารจากผู้แปล

ท่านอ๋องกำลังทำการสอบสวนพยานปากเอกอยู่ใช่ไหมเนี่ย

ไหหม่า(海馬)