ตอนที่ 408 เริ่มงานเลี้ยง

ซื่อจิ่น หวนรักประดับใจ

ท่าน​อ๋อง​ทั้งหลาย​ถูก​จัด​ให้​นั่ง​อยู่​ใน​ที่​เดียวกัน

หลู่​อ๋อง​เอนกาย​เข้ามา​เอ่ย​ถาม​อวี​้​จิ​่​นว​่า​ ​“​น้อง​เจ็ด​ ​น้อง​สะใภ้​เจ็ด​รักษา​ดวงตา​ให้​น้อง​สิบ​สาม​หาย​ได้​อย่างไร​กัน​”

อวี​้​จิ​่น​เหลือบมอง​ดู​หลู่​อ๋อง​ด้วย​สายตา​เย็นชา

ทุกครั้งที่​อยู่​ด้วยกัน​ล้วน​เป็น​ต้อง​ทะเลาะเบาะแว้ง​ ​และ​เขา​ไม่เคย​เอาชนะ​ตน​ได้​เลย​ ​ใน​ครั้งนี้​พี่​ห้า​เอา​ความกล้าหาญ​มาจาก​ที่ใด​กัน

หลู่​อ๋อง​หา​ได้​สนใจ​แววตา​เยือกเย็น​ของ​อวี​้​จิ​่น​แต่อย่างใด​ ​เขา​ยิ้ม​ขึ้น​แล้ว​หัวเราะ​ว่า​ ​“​เจ้า​เล่า​มา​เถิด​”

ได้ยิน​มา​ว่า​เมื่อใด​ที่​กล่าวถึง​พระ​ชายา​เยี​่​ยน​อ๋อง​ก็​จะ​ทำให้​เจ้า​เจ็ด​โมโห​ขึ้น​ง่ายๆ​ ​แต่​สถานการณ์​เช่นนี้​หาก​เจ้า​เจ็ด​จะ​อาละวาด​โวยวาย​คาด​ว่า​คงจะ​โชคร้าย​เป็นแน่

อวี​้​จิ​่น​หยิบ​จอก​สุรา​ขึ้น​มาดื​่ม​แล้ว​ขยับ​จอก​ใน​มือ​เล่น​โดย​ไม่​กล่าว​สิ่งใด

หลู่​อ๋อง​ได้ยิน​ดังนั้น​ก็​ทำ​หน้า​เจ้าเล่ห์​ ​“​น้อง​เจ็ด​ ​เหตุใด​จึง​ไม่​บอกเล่า​”

อวี​้​จิ​่​นกัน​จอก​สุรา​มา​แล้ว​เอ่ย​ถาม​ด้วย​ใบหน้า​เยือกเย็น​ว่า​ ​“​หรือ​ข้า​ควรจะ​ไป​ถาม​พี่สะใภ้​ห้า​ดี​ ​ว่า​ช่วงนี้​พี่​ห้า​ไม่​ค่อย​เอาใจใส่​นาง​ใช่​หรือไม่​”

หลู่​อ๋อง​ได้ยิน​ดังนั้น​ก็​เอา​มือ​ลูบ​จมูก​ตน​แล้ว​ดับ​ความสงสัย​ใน​ใจ​ไป

เซียง​อ๋อง​ที่​ถูก​อวี​้​จิ​่น​ต่อย​เข้าให้​ตรง​มุม​ปาก​ใน​วัน​อภิเษก​ของ​เขา​ ​ยังคง​มี​ความคับ​แค้น​อยู่​ใน​ใจ​ไม่​คลาย​ ​ก่อน​จะ​เอ่ย​อย่าง​ไม่รู้​ร้อน​รู้​หนาว​ว่า​ ​“​พี่สะใภ้​เจ็ด​ช่าง​ลึกลับ​เหลือเกิน​ ​สามารถ​รักษา​ดวงตา​ของ​น้อง​สิบ​สาม​ให้หาย​ได้​ ​พี่​เจ็ด​ระวัง​ไว้​เป็น​ดี​ ​ควรจะ​รู้​ว่า​พี่สะใภ้​เจ็ด​มี​ความสามารถ​ใด​บ้าง​”

ใน​บรรดา​องค์​ชาย​ทั้งหลาย​ ​เซียง​อ๋อง​นับว่า​เป็น​คนที​่​ไร้ความสามารถ​ที่สุด​ ​ไม่ใช่​เรื่อง​ง่าย​เลย​กว่า​ที่​พี่​เจ็ด​ซึ่ง​เติบโต​อยู่​นอก​พระราชวัง​เดินทาง​กลับมา​ ​เดิมที​เขา​คิด​ว่า​จะ​สามารถ​กดขี่ข่มเหง​ได้​ ​แต่​คาดไม่ถึง​ว่า​จะ​พบ​กับ​ความอับ​อาย​ครั้งแล้วครั้งเล่า​ ​ส่วน​อีก​ฝ่าย​ยังคง​ใช้ชีวิต​อยู่​อย่างสบายใจ

เมื่อ​คิด​เช่นนั้น​ ​ความรู้สึก​ใน​ใจ​ก็​ยิ่ง​โคลงเคลง​ ​ความอดทน​อดกลั้น​เมื่อ​พบ​เข้ากับ​อวี​้​จิ​่​นก​็​จางหาย​ไป

อวี​้​จิ​่น​ยิ้ม​ขึ้น​เบา​ๆ​ ​ดวงตา​ดุจดั่ง​นก​ฟีนิกซ์​อัน​ลึกล้ำ​คู่​นั้น​มอง​ไป​ทาง​เซียง​อ๋อง​ ​“​ต้อง​ขอแสดงความยินดี​กับ​น้อง​แปด​ด้วย​ที่​รู้​ถึง​ความสามารถ​และ​เรื่องราว​ทุกอย่าง​ของ​ว่าที่​น้อง​สะใภ้​แปด​ ​อ้อ​จริง​สิ​ ​บางที​น้อง​แปด​อาจจะ​ลืม​ไป​แล้ว​ว่า​คดี​ของ​ตระกูล​จู​ใน​ตอนนั้น​ ​เคย​ผ่านมือ​ข้ามา​ก่อน​…​”

เซียง​อ๋อง​หน้า​เขียว​หน้า​เหลือง​ ​เขา​วาง​จอก​สุรา​ลง​บน​โต๊ะ​อย่างแรง​จน​ดึงดูดสายตา​ผู้คน​รอบข้าง​ให้​จับจ้อง

ฉี​อ๋อง​เอ่ย​เตือน​ออกมา​เบา​ๆ​ ​ว่า​ ​“​น้อง​แปด​”

เซียง​อ๋อง​จึง​ได้​ระงับ​กำปั้น​ของ​ตน​ที่ตั้ง​ใจ​จะ​ซัด​ไป​ยัง​หน้า​ของ​อวี​้​จิ​่น​เอาไว้​แล้ว​สูด​ลมหายใจ​เข้า​ลึก

อย่า​กระทำการ​โดยพลการ​ ​อย่า​หุนหันพลันแล่น​ไป

ช่าง​น่า​โมโห​ยิ่งนัก​ ​ปากของ​พี่​เจ็ด​ช่าง​พล่อย​เสีย​จริง​!

“​วาจา​ของ​พี่​เจ็ด​นั้น​ช่าง​เราะร้าย​กว่า​สตรี​ ​วันนี้​น้อง​ได้​เรียนรู้​กับ​ตัวเอง​แล้ว​”​ ​เซียง​อ๋อง​กระซิบ​เยาะเย้ย

อวี​้​จิ​่น​ไม่สน​ใจ​ต่อ​คำ​เยาะเย้ยถากถาง​ของ​เขา​ ​ตอบกลับ​เพียง​ว่า​ ​“​เจ้า​พูด​ราวกับว่า​หาก​ลง​ไม้​ลงมือ​กัน​แล้ว​เจ้า​จะ​ชนะ​ข้า​อย่างไร​อย่างนั้น​”

นี่​ทำให้​เซียง​อ๋อง​รู้สึก​อึดอัด​ใจ​กว่า​เดิม

ฉี​อ๋อง​จึง​ได้​ออกมา​คลี่คลาย​สถานการณ์​ ​“​น้อง​เจ็ด​ ​น้อง​แปด​ยัง​เล็ก​ ​เจ้า​อย่า​ได้​ไป​ถือสา​เขา​เลย​”

อวี​้​จิ​่น​เหลือบตา​มอง​และ​ไม่ได้​เอ่ย​คำ​ใด​ต่อ​จาก​ฉี​อ๋อง

เมื่อยู​่​ต่อหน้า​พี่น้อง​ทั้งหลาย​เช่นนี้​ ​ฉี​อ๋อง​ก็​ทำตัว​ไม่​ถูก​ ​เขา​จึง​ยก​จอก​สุรา​ขึ้น​ดื่ม​แล้ว​ยิ้ม​เล็กน้อย

ระหว่าง​นั้น​ ​เซียง​อ๋อง​ก็ได้​เหลือบมอง​ดู​นางกำนัล​ ​คน​โน้น​ที​คน​นี้​ที

งานเลี้ยง​ใน​ตระกูล​ครั้งนี้​จัด​ขึ้น​อย่าง​ค่อนข้าง​กว้างขวาง​ ​นอก​เสีย​จาก​องค์​หญิง​และ​พระ​ชายา​ที่อยู่​ใน​พระราชวัง​แล้ว​ ​องค์​หญิง​ทั้งหลาย​ที่​อภิเษก​ออก​ไป​ซึ่ง​อาศัย​อยู่​ใน​เมืองหลวง​ก็ได้​เดินทาง​กลับมา​ร่วมงาน​ด้วย​ ​รวมถึง​องค์​หญิง​ในเครือ​ญาติ​ชั้นผู้ใหญ่​ ​พระ​ญาติ​มากมาย​ ​โต๊ะ​ทอด​ยาว​ออก​ไป​ครึกครื้น​ยิ่งนัก

องค์​หญิง​ใหญ่​หรง​หยาง​นับว่า​มีหน้ามีตา​ไม่น้อย​เมื่อ​อยู่​ต่อหน้า​ไท​เฮา​และ​ฮ่องเต้​ ​ดังนั้น​ตำแหน่ง​ของ​นาง​จึง​ค่อนข้างจะ​โดดเด่น

เขามอง​ไป​เห็น​ชุย​หมิง​เย​่ว​์​ที่อยู่​ข้าง​กาย​องค์​หญิง​ใหญ่​หรง​หยาง

สตรี​อายุ​สิบ​หก​ปี​วัย​แรก​แย้ม​ ​ใบหน้า​งดงาม​ชวน​ให้​หวั่นไหว​ ​กิริยาท่าทาง​สงบเสงี่ยม​ ​ผู้ใด​ที่​พบเห็น​ก็​ยาก​จะ​รู้สึก​รังเกียจ​นาง​ได้

ดูเหมือน​ชุย​หมิง​เย​่ว​์​จะ​สัมผัส​ได้​ถึง​สายตา​คู่​นั้น​ ​นาง​จึง​มอง​ไป​ทำให้​ดวงตา​ของ​ทั้งคู่​ประสานกัน

ชุย​หมิง​เย​่ว​์​พยายาม​เก็บ​กลั้น​ความรู้สึก​รังเกียจ​และ​ยิ้ม​ให้​แก่​เซียง​อ๋อง

สายตา​ของ​เซียง​อ๋อง​เปลี่ยนไป​ทันที​ ​เขา​รู้สึก​อารมณ์ดี​ขึ้น​ไม่น้อย

ก่อนหน้านี้​ ​เขา​เคย​จินตนาการ​มาก​่อ​นว​่า​หาก​ได้​แต่งงาน​กับ​สตรี​ผู้​สูงส่ง​เช่น​ชุย​หมิง​เย​่ว​์​คงจะ​ดี

ทั้ง​หน้าตา​งดงาม​ ​กิริยาท่าทาง​สง่า​ ​ที่​สำคัญ​ก็​คือ​นาง​มี​ภูมิหลัง​ที่​ดี

เพียงแต่ว่า​เขา​เอง​ก็​รู้ตัว​ดี​ว่า​องค์​หญิง​ใหญ่​หรง​หยาง​ผู้​สูงส่ง​เช่นนั้น​ ​จะ​มอง​องค์​ชาย​ที่เกิด​จาก​มารดา​ผู้​ต่ำต้อย​เช่น​เขา​ได้​อย่างไร

ความคิด​ที่​ผุด​ขึ้น​มาก​็​ถูก​ปัดเป่า​ออก​ไป​ ​เมื่อ​จู​จื่อ​อวี​้​และ​ชุย​หมิง​เย​่ว​์​ก่อเรื่อง​วุ่นวาย​เช่นนั้น​ขึ้น​ ​การ​หมั้น​หมาย​นี้​จึง​ตก​มา​อยู่​ที่​เขา​ ​แต่​ก็​ไม่ใช่​เรื่อง​น่ายินดี​นัก​ ​กลับเป็น​การ​ดูถูก​เหยียดหยาม​เสียมา​กก​ว่า

เขา​ไม่ใช่​คน​เก็บ​ขยะ​ ​เหตุใด​จึง​ไม่​เอ่ย​ถาม​เขา​สัก​คำ​ก็ได้​นำ​ขยะ​เหม็น​เน่า​มายัด​เยียด​ใส่​ไว้​ที่​เขา​เล่า

จะ​ว่า​ไป​แล้วก็​คง​เพราะ​เห็น​เขา​ว่าง่าย​ ​ไม่มี​อำนาจ​ใน​การ​ปฏิเสธ​ได้

แต่ว่า​เมื่อ​เซียง​อ๋อง​นึกถึง​รอยยิ้ม​อัน​อ่อนโยน​ของ​หญิงสาว​เมื่อ​ครู่​ ​ก็​ทำให้​ความคิด​ใน​ใจ​ของ​เขา​สั่นคลอน

บางที​นาง​เอง​อาจจะ​เพียงแค่​เผลอไป​…

ชุย​หมิง​เย​่ว​์​เผยอ​ริมฝีปาก​ขึ้น​เล็กน้อย

นาง​รู้ดี​ว่า​หาก​เป็น​เช่น​ท่าน​แม่​ ​ซึ่ง​ปฏิบัติ​ต่อ​ท่าน​พ่อ​อย่าง​แข็งกร้าว​เช่นนั้น​คง​ไม่ได้

หัวใจ​ของ​คนเรา​ไม่ได้​ทำ​ขึ้น​จาก​เหล็ก​ ​โดยเฉพาะอย่างยิ่ง​หัวใจ​ของ​ชายหนุ่ม​ ​เพียงแค่​ประคอง​ไว้​อย่าง​อ่อนโยน​ดุจ​สายน้ำ​ ​เพียงแค่​มี​ความอดทน​ ​คง​ไม่มีหัว​ใจ​ดวง​ใด​ที่​ไม่​อาจ​ทำให้​อบอุ่น​ขึ้น​ได้

แต่​เสด็จ​แม่​ของ​นาง​กลับ​ไม่​ทำ​เช่นนั้น

เสด็จ​แม่​รัก​เสด็จ​พ่อ​มาก​ ​แต่​นาง​ก็​ไม่​อาจ​ละทิ้ง​ศักดิ์ศรี​ของ​องค์​หญิง​ลง​ไป​ได้​ ​หลาย​ปี​มานี​้​ความสัมพันธ์​ระหว่าง​ทั้งสอง​จึง​ได้​ห่างเหิน​กัน​ ​สุดท้าย​ก็​เป็น​เสด็จ​แม่​เอง​ที่​ต้อง​ลำบากใจ​และ​ขมขื่น

เหตุใด​จึง​ต้อง​ทำ​เช่นนี้​เล่า

จาก​ที่​ชุย​หมิง​เย​่ว​์​มองดู​แล้ว​ ​องค์​หญิง​ใหญ่​หรง​หยาง​ไม่​ต่าง​กับ​คนโง่​ ​และ​ตัวนาง​จะ​ไม่​ทำผิด​พลาด​ซ้ำ​เดิม

มีชื่อเสียง​ไม่ดี​แล้ว​อย่างไรเล่า​ ​รอ​ให้​นาง​แต่ง​ออก​ไป​แล้ว​นาง​จะ​กุม​หัวใจ​ของ​เซียง​อ๋อง​ให้​อยู่หมัด

หลังจากที่​ฮ่องเต้​และ​ฮองเฮา​ประทับ​ลง​ ​จิ​่ง​หมิง​ฮ่องเต้​ก็ได้​เอ่ย​ขึ้น​ว่า​ ​“​ใน​วันนี้​ข้า​ดีใจ​ยิ่งนัก​ที่​ดวงตา​ของ​องค์​หญิงฝู​ชิง​รักษา​จน​หาย​เป็นปกติ​ ​ต่อจากนี้​ไปฝู​ชิง​ก็​จะ​สามารถ​มองเห็น​โลก​อัน​งดงาม​นี้​ได้​เช่นเดียวกับ​พวก​เจ้า​ ​และ​สามารถ​เห็น​ทุกท่าน​ได้​ ​ข้า​ขอดื​่ม​เพื่อ​เป็นการ​ฉลอง​ให้​กับ​วันนี้​”

ผู้คน​ใน​ห้องโถง​จึง​ได้​ยก​จอก​สุรา​ขึ้น​พร้อม​เอ่ย​สรรเสริญ​ยินดี​ที่​ดวงตา​ของ​องค์​หญิงฝู​ชิง​กลับมา​มองเห็น​โลก​อัน​งดงาม​นี้​ได้​อีกครั้ง

บรรยากาศ​อัน​น่า​ปลื้มใจ​เช่นนี้​ ​ฮองเฮา​อด​ไม่ได้​ที่จะ​หลั่ง​น้ำ​พระ​เนตร

ธิดา​ของ​นางกำนัล​ที่สุด​ก็ได้​มี​วันนี้​ ​มี​วันที่​ยืน​อยู่​ต่อหน้า​ผู้คน​มากมาย​และ​รับคำ​อวยพร​สรรเสริญ​ ​ไม่ต้อง​เก็บตัว​อยู่​แต่​ใน​พระราชวัง​อย่าง​ห่อเหี่ยว​อีกต่อไป

จะ​ไม่​ให้​นาง​ปลาบปลื้ม​ใจ​ได้​อย่างไร

วินาที​นี้​ ​นาง​ไม่ใช่​ฮองเฮา​ ​แต่​นาง​เป็นมา​รดา​คน​หนึ่ง

หลังจาก​การ​ปล่อยวาง​ใน​ระยะเวลา​อัน​สั้น​สิ้นสุดลง​ ​ฮองเฮา​ก็ได้​กลับคืน​สู่​รอยยิ้ม​อัน​งดงาม​ดังเดิม​แล้ว​เอ่ย​ขึ้น​ว่า​ ​“​การ​ที่ฝู​ชิง​สามารถ​มองเห็น​แสงสว่าง​อัน​งดงาม​ได้​เช่นนี้​ ​ต้อง​ขอบใจ​พระ​ชายา​เยี​่​ยน​อ๋อง​เป็น​อย่างยิ่ง​ ​ดังนั้น​จอก​นี้​ข้า​ขอดื​่ม​ให้​แก่​พระ​ชายา​เยี​่​ยน​อ๋อง​”

เจียง​ซื่อ​โค้ง​กาย​คารวะ​ไป​ทาง​ฮองเฮา​ ​“​หม่อมฉัน​มีบุญ​ยิ่ง​เพ​คะ​ ​ทั้งนี้ทั้งนั้น​เป็น​เพราะ​องค์​หญิง​มี​ความเมตตา​กรุณา​ ​เฉลียวฉลาด​ ​สั่งสม​บุญมา​มากมาย​ ​สวรรค์​เบื้องบน​ไม่​อาจ​ทน​ให้​นาง​ต้อง​พบ​กับ​ความยากลำบาก​เช่นนี้​ต่อไป​ได้​…​”

บัดนี้​ทุกคน​ซึ่ง​อยู่​ใน​ที่​นั้น​จึง​ได้​คลาย​ความสงสัย​เรื่อง​ที่​พระ​ชายา​เยี​่​ยน​อ๋อง​รักษา​ดวงตา​ให้​แก่​องค์​หญิงฝู​ชิง​ลง

แต่​พวกเขา​ก็​เกิด​ความรู้สึก​สงสัย​สิ่งใหม่​ขึ้น​มา​ ​พระ​ชายา​เยี​่​ยน​อ๋อง​รักษา​ดวงตา​ของ​องค์​หญิงฝู​ชิง​ได้​อย่างไร

ทว่า​ด้วย​สถานการณ์​เช่นนี้​ ​แม้​จะ​มีคำ​ถาม​มากมาย​ใน​หัวใจ​ก็​ทำได้​เพียง​สงบ​ลง​และ​อดกลั้น​เอาไว้​ ​ทำให้​บรรยากาศ​รอบข้าง​ดู​อึดอัด​ใจ​เล็กน้อย

จิ​่ง​หมิง​ฮ่องเต้​จึง​ได้​หัวเราะ​ออกมา​อย่าง​มีความสุข​ว่า​ ​“​เรา​ล้วน​เป็น​คนใน​ตระกูล​เดียวกัน​ ​วันนี้​ไม่จำเป็น​ต้อง​รักษา​มารยาท​ใด​หรอก​ ​พวก​เจ้า​ไม่จำเป็น​ต้อง​เกร็ง​เพียงนั้น​”

บรรยากาศ​จึง​ได้​ครึกครื้น​ขึ้น​มา​อีกครั้ง

ฮ่องเต้​ตรัส​ถึง​เพียงนี้​แล้ว​ ​ต่อให้​ทุกคน​จะ​ไม่กล้า​ละเมิด​กฎ​ ​แต่​ก็​ต้อง​ทำให้​บรรยากาศ​ครึกครื้น​ขึ้น​มา

องค์​หญิงฝู​ชิง​มอง​ไปร​อบ​ข้าง​ด้วย​ความประหลาดใจ​ ​นาง​มีความรู้สึก​ว่า​ต่อให้​มอง​ทั้งวัน​นาง​ก็​ไม่​เบื่อ

ฮองเฮา​ตบ​ลง​ที่​มือ​ของ​องค์​หญิงฝู​ชิง​เบา​ๆ​ ​แล้ว​กล่าวว่า​ ​“​อา​เฉวียน​ ​อยาก​จะ​นั่ง​อยู่​ข้าง​กาย​แม่​ ​หรือ​ไป​นั่ง​กับ​บรรดา​พี่น้อง​ของ​เจ้า​เล่า​”

ใน​วันนี้​องค์​หญิงฝู​ชิง​นับว่า​เป็นตัว​เอก​ของ​งาน​ ​การ​ที่จะ​นั่ง​อยู่​ข้าง​กาย​ฮ่องเต้​และ​ฮองเฮา​มิใช่​ว่า​ไม่เหมาะสม​ ​อีก​อย่าง​นี่​คือ​งานเลี้ยง​ใน​ตระกูล​ ​ฝ่า​บาท​พอ​พระทัย​และ​อยาก​ให้​ผู้ใด​นั่ง​ข้าง​กาย​ ​ผู้ใด​ก็​สามารถ​นั่ง​ได้

องค์​หญิงฝู​ชิง​อด​ไม่ได้​ที่จะ​มอง​ไป​ยัง​บรรดา​พี่น้อง​สตรีที​่​ยัง​ไม่​ออกเรือน​เหล่านั้น

สตรี​น้อย​ใหญ่​จำนวน​สิบ​กว่านาง​นั่ง​ล้อมรอบ​อยู่​ที่​โต๊ะ​เดียวกัน​ ​มอง​ไป​แล้ว​ช่าง​ครึกครื้น​เหลือเกิน

“​ลูก​ไป​ที่นั่น​ได้​หรือ​เพ​คะ​”

“​ย่อม​ได้​ ​ไป​เถิด​”​ ​ฮองเฮา​ยิ้ม​แล้ว​ให้กำลังใจ​นาง

องค์​หญิงฝู​ชิง​จึง​ได้​ยก​ชายกระโปรง​ขึ้น​แล้ว​เดิน​ตรง​เข้าไป​ ​ซึ่ง​นางกำนัล​ได้​จัดเตรียม​เก้าอี้​เอาไว้​ก่อนหน้า​แล้ว​ ​และ​เชิญ​ให้​องค์​หญิงฝู​ชิง​นั่งลง

“​พี่​สิบ​สาม​ ​ดวงตา​ของ​พี่​ช่าง​งดงาม​ยิ่งนัก​”​ ​เด็กหญิง​คน​หนึ่ง​เข้ามา​สนทนา​กับ​องค์​หญิงฝู​ชิง​ ​อายุ​ไล่เลี่ยกัน​ ​ใบหน้า​ทรงกลม​เหมือน​ผล​ส้ม​ของ​นาง​ยิ้ม​ออกมา​ด้วย​ความ​ร่าเริง​ ​ก่อน​จะ​เอ่ย​ถาม​ด้วย​ความ​ซุกซน​ว่า​ ​“​พี่​สิบ​สาม​ ​ลอง​เดา​ดู​สิว​่า​ข้า​เป็น​ใคร​”

องค์​หญิงฝู​ชิง​ตั้งใจ​มองดู​เด็กหญิง​ผู้​อยู่​ตรงหน้า​ ​ก่อน​จะ​เอ่ย​ออกมา​อย่างมั่นใจ​ว่า​ ​“​น้อง​สิบห้า​?​”