บทที่ 412 ข้าเชื่อแค่ตัวเอง

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

บทที่ 412 ข้าเชื่อแค่ตัวเอง

สายตาทั้งหมดต่างมองไปทาง……อ๋องเย่ที่อยู่ในห้องส่วนตัวชั้นสองด้านหลังท่านหาน

ท่านหานมองไปทางอ๋องเย่อีกครั้ง กล่าวด้วยเสียงเคารพนบนอบ

“อ๋องเย่ แขกคนสำคัญในห้องส่วนตัวห้องนี้ยังไม่ได้เสนอราคา!”

บังเอิญ ห้องส่วนตัวที่เย่แจ๋หยิ่งชี้ไปเป็นห้องส่วนตัวที่หลานเยาเยาอยู่พอดี

ท่านหานคิด เทพธิดามาที่ร้านประมูลเสินตูครั้งแรก นั่งอยู่ข้างในนานเช่นนี้แล้ว เกือบทุกคนที่อยู่ที่นี่ต่างก็เสนอราคาออกมาแล้ว มีแต่นางที่ยังไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ

ทำให้เขาอดรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยไม่ได้

แต่สิ่งที่ทำให้ทุกคนประหลาดใจก็คือ อ๋องเย่รู้อยู่แล้วว่าห้องส่วนตัวห้องนั้นไม่เสนอราคา กลับกล่าวด้วยเสียงอันแน่วแน่ว่า:

“ของนางนั่นแหละ” น้ำเสียงไม่อนุญาตให้มีข้อสงสัย จากนั้นก็เสริมขึ้นมาอีกคำ “ไม่ว่านางจะเสนอราคาเท่าไหร่ ข้าก็ยินดีจะใช้กระเป๋าพยาบาลแลกเปลี่ยนกับนาง”

ทันทีที่คำพูดประโยคนี้ออกมา

ห้องโถงใหญ่ตกอยู่ในความโกลาหลทันที

อ๋องเย่เอาแต่ใจเด็ดขาดเช่นนี้อยู่แล้ว เพียงแต่บรรดาผู้ชมอย่างพวกเขาไม่สามารถพูดอะไรได้ทั้งนั้น มีแต่ความอิจฉาริษยาเกลียดชังเท่านั้น

ของของอ๋องเย่ เขาอยากจะจัดการอย่างไรก็จัดการเช่นนั้น ดังนั้นตอนนี้สายตาของทุกคนต่างพากันมองไปห้องส่วนตัวที่อ๋องเย่ชี้ไป

ความอยากรู้อยากเห็นของพวกเขายิ่งอยู่ก็ยิ่งมากขึ้นเรื่อยๆ

คนที่อยู่ข้างในนั้นเป็นใครกันแน่?

ทำไมอ๋องเย่ถึงเลือกห้องส่วนตัวห้องนั้นในทันที และยังให้นางจะเสนอราคาตามต้องการ นี่ถือเป็นเรื่องที่ดีมาก!

ภายใต้สายตาอยากรู้อยากเห็นและคาดหวังของทุกคน หลานเยาเยาสั่งให้จื่อซีเปิดม่านออก นางลุกขึ้นยืนข้างหน้าต่างหันหน้ามองไปทางเย่แจ๋หยิ่งที่อยู่ฝั่งตรงข้าม ริมฝีปากแดงยกขึ้นเล็กน้อย

เห็นนางปรากฏกายขึ้น

ในแววตาของทุกคนต่างก็ตกตะลึง จากนั้นตามด้วยความโล่งใจ

ที่แท้ก็เป็นเทพธิดานี่เอง!

มิน่าแปลกใจที่อ๋องเย่ถึงทำเช่นนี้!

ดูท่า เขาจะรู้ตั้งแต่แรกแล้วว่าคนที่อยู่ในห้องส่วนตัวห้องนั้นคือเทพธิดา

แต่ว่าพวกเขากลับยิ่งอยากรู้อยากเห็นมากขึ้นแล้ว……

เทพธิดาจะจ่ายเท่าไหร่ในการซื้อกระเป๋าพยาบาลอัตโนมัติลึกลับและคาดเดาได้ยากชิ้นนี้กันแน่นะ?

เท่าไหร่ดีนะ?

หลานเยาเยาก็กำลังคิดคำถามนี้อยู่เช่นกัน

ถึงอย่างไรก็อยู่ในความสนใจของทุกคนอย่างมาก นางที่เป็นถึงเทพธิดา จะให้ดูตระหนี่ถี่เหนียวเกินไปไม่ได้ ดังนั้นนางจำเป็นจะต้องใจป้ำกล้าได้กล้าเสียหน่อย

“งั้นก็……หนึ่งเหรียญกษาปณ์ทองแดงแล้วกัน!”

ทันทีที่เสียงที่ไม่แข็งกร้าวจนดูเย่อหยิ่งไม่ถ่อมตนจนดูต่ำต้อยเงียบลง หลานเยาเยารู้สึกว่าตัวเองใจกว้างมากแล้ว เย่แจ๋หยิ่งไม่ขาดทุนก็ถือว่าดีแล้ว นางยังออกเงินตั้งหนึ่งเหรียญ!

หนึ่งเหรียญกษาปณ์ทองแดง? ? ?

ทุกคนมองหน้ากันไปมา ต่างก็พากันงงงวยสับสนกันไปหมด

“หรือว่าหูข้าจะฟังผิดไป หนึ่งเหรียญกษาปณ์ทองแดง? ตอนนั้นอ๋องเย่ใช้มุกเย่หมิงที่มีแต่คนในราชวงศ์เท่านั้นที่คู่ควรจะมีมาแลกเปลี่ยนไปเลยนะ!”

“เจ้าน่าจะฟังไม่ผิด ดูเหมือนจะใช่หนึ่งเหรียญกษาปณ์ทองแดงจริงๆ เท่าที่ข้าคาดเดา อ๋องเย่ไม่เพียงแต่จะไม่เห็นด้วยเท่านั้น น่าจะยังโกรธมากอีกด้วย”

“สวรรค์! นี่เทพธิดาอยากจะเอากระเป๋าพยาบาลอัตโนมัติโดยไม่จ่ายค่าตอบแทน! แต่ว่า คำพูดของอ๋องเย่กล่าวไว้ข้างหน้าก่อนแล้ว ถึงแม้อ๋องเย่จะโกรธ ก็ไม่น่าจะมีอะไรมั้ง?”

“ดูเหมือนจะใช่เนาะ อ๋องเย่กล่าวเอาไว้แล้ว ไม่ว่านางจะออกเงินทองเท่าไหร่ ก็จะใช้กระเป๋าพยาบาลอัตโนมัติมาแลกเปลี่ยน คำพูดที่กล่าวออกไปแล้ว ก็คือน้ำที่สาดออกไป ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้”

ทุกคนยังนึกว่า อ๋องเย่ได้ยินว่าเทพธิดาออกเงินเพียงหนึ่งเหรียญกษาปณ์ทองแดง สีหน้าจะไม่น่าดูอย่างมาก คิดไม่ถึงว่าอ๋องเย่ไม่เพียงแต่จะไม่โกรธเท่านั้น แต่ยังพยักหน้าด้วยความเอ็นดูอย่างมาก

“ได้ งั้นก็หนึ่งเหรียญกษาปณ์ทองแดง!”

หลานเยาเยาชำเลืองตามองเย่แจ๋หยิ่งอย่างเย็นชาครู่หนึ่งด้วยความเย็นชาอย่างรวดเร็ว

ผู้ชายคนนี้……

อยากจะแสดงความรักต่อหน้าคนมากมายเช่นนี้หรือ?

หรือเขาไม่เคยได้ฟังคำพูดนี้ แสดงความรักบ่อยๆความรักจะตายเร็ว(แสดงความรักต่อสาธารณชนความรักจะจบลงอย่างรวดเร็ว)หรือ?

เมื่อนึกถึงสิ่งที่จะทำต่อจากนี้ แววตาของหลานเยาเยาก็ขรึมลงเล็กน้อย ยิ้มเจื่อนๆมุมปากขึ้นมา จากนั้นก็อ้าปากเล็กน้อย

“เช่นนั้นก็ขอบคุณมาก”

หลังจากที่ขอบคุณเสร็จ นางก็หยิบหนึ่งเหรียญกษาปณ์ทองแดงออกมา วางเอาไว้บนขอบหน้าต่าง “เหรียญกษาปณ์ทองแดงอยู่ตรงนี้ เชิญอ๋องเย่มารับด้วยตัวเอง”

การประมูลด้วยเหรียญกษาปณ์ทองแดงเหรียญเดียวในร้านประมูลเสินตูยังไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน นี่ก็เพียงพอจะทำให้ทุกคนประหลาดใจแล้ว

แต่ที่ทำให้คนประหลาดใจยิ่งกว่าก็คือ คาดไม่ถึงว่าเทพธิดาจะให้อ๋องเย่ไปเอาด้วยตัวเอง นี่ต้องมีความมั่นใจในตัวเองมากขนาดไหนกัน!

อีกทั้ง!

การกระทำเช่นนี้เห็นได้ชัดว่าเป็นการท้าทาย!

ดังนั้นในเวลานี้ ทุกคนต่างก็ตกใจจนอ้าปากค้าง

สาวสวยที่อายุน้อยบางคน ได้ยินคำนี้แล้ว เดิมทีก็อิจฉาที่เทพธิดาได้รับความโปรดปรานจากอ๋องเย่อยู่แล้ว ทีนี้ เห็นเทพธิดาท้าทายอ๋องเย่เช่นนี้ ในใจพวกนางก็ยิ่งไม่สมดุลอย่างมาก

แต่ละคนแทบอยากจะทวงความเป็นธรรมให้อ๋องเย่

แต่……

พวกนางไม่กล้าพูด ไม่กล้าพูดแม้แต่คำเดียว ทำได้แต่ใช้สายตาเกลียดชังและรังเกียจจ้องมองตรงๆไปที่เทพธิดาที่ไม่รู้ฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ

ฮึ!

อ๋องเย่ที่ชาญฉลาดและโดดเด่นของพวกนาง ไม่มีทางที่จะไปเอาเหรียญกษาปณ์ทองแดงเหรียญเดียวที่ห้องส่วนตัวของเทพธิดาอย่างเด็ดขาด

แต่ทว่า……

ภายใต้สายตาที่ตกตะลึงอีกครั้งของทุกคน ใบหน้าที่หล่อเหลาราวกับเทพบุตรถูกเนรเทศมาจากสรวงสวรรค์ของอ๋องเย่ ก็บินเหินออกมาจากหน้าต่าง บินไปทางห้องส่วนตัวที่เทพธิดาอยู่โดยตรง

ภายใต้สายตาแต่ละคู่ที่จ้องจนลูกตาใกล้จะถลนออกมา อ๋องเย่เข้าไปในห้องส่วนตัวของเทพธิดา เมื่อเขายืนนิ่งแล้ว ก็ไปหยิบเอาเหรียญกษาปณ์ทองแดงที่วางเอาไว้บนขอบหน้าต่างอย่างเอื่อยเฉื่อย

ใครจะคิด……

สีหน้าท่าทางของหลานเยาเยาในตอนนี้ขรึมลง ในแววตาฉายแววเจตนาฆ่าขึ้นมาแวบหนึ่ง

มือของอ๋องเย่เพิ่งจะแตะไปที่เหรียญกษาปณ์ทองแดงเหรียญนั้น มุมปากก็ยังยิ้มขึ้นมาอย่างเบาบาง มีดสั้นที่แหลมคมเล่มหนึ่ง ก็ปรากฏขึ้นมาในมือของหลานเยาเยาแล้ว

จากนั้น แทงไปทางช่วงท้องของอ๋องเย่อย่างไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อย

ณ เวลานี้ดูเหมือนเวลาจะหยุดลง

หลานเยาเยามองดูเย่แจ๋หยิ่งอย่างเย็นชา เย่แจ๋หยิ่งมองไปที่ท้องของตนเองด้วยความเจ็บปวด แล้วมองไปที่สีหน้าท่าทางที่เย็นชาของหลานเยาเยา

และตั้งแต่เมื่อกี้อารมณ์ของทุกคนก็แปรปรวนอยู่ตลอด ในตอนนี้ได้เห็นภาพนี้แล้ว ความรู้สึกอัดแน่นไปทั้งตัว ราวกับหัวใจหยุดเต้นไปกะทันหัน

“เพราะอะไร?”

สีหน้าท่าทางเย่แจ๋หยิ่งเจ็บปวด แววตาที่ลึกล้ำแสดงออกถึงความเศร้าเสียใจสุดซึ้ง

“เพราะอะไร? จะเพราะอะไรได้? ตอนที่ท่านฆ่าสาวใช้ของข้า ไม่เคยคิดเลยหรือว่าจะมีวันนี้?

ท่านเข้าหาข้าด้วยเพียรพยายามอย่างยิ่งยวดเช่นนี้ ก็แค่ต้องการให้ข้ากลายเป็นมีดที่แหลมคมในมือของท่าน ที่เป็นอยู่ในตอนนี้ ท่านพอใจมากใช่ไหม?

เย่แจ๋หยิ่ง ชีวิตชดใช้ด้วยชีวิต ชีวิตของช่าจื่อถึงเวลาชดใช้คืนมาได้แล้ว”

กล่าวจบ

นางก็ดึงมีดสั้นที่อยู่ในมือออกมา ช่วงท้องของเย่แจ๋หยิ่งมีเลือดไหลออกมาอย่างรวดเร็วทันที

มองไปที่เลือดสีแดงขนาดใหญ่นั้น หลานเยาเยาเดินโซเซถอยหลังออกไปทันที มีดสั้นตกลงไปบนพื้นมีเสียง “คว้าง” ดังขึ้นมา

“เย่แจ๋หยิ่ง อย่าหาว่าข้าโหดร้าย ท่านเป็นคนโหดร้ายต่อข้าก่อน”

เย่แจ๋หยิ่งอดกลั้นความเจ็บปวดเอาไว้ อยากจะถามแค่คำเดียว

“ข้าไม่ได้ฆ่านาง ทำไมเจ้าถึงไม่เชื่อข้า?”

“ข้าไม่เชื่อใครทั้งนั้น รวมถึงท่านด้วย”

กล่าวจบ หลานเยาเยาก็ปิดตาลงแล้ว ออกคำสั่งด้วยความไร้น้ำใจ:

“ฆ่า!”

ในห้องโถง ผู้คนที่ได้สติกลับมาก็เดือดดาลขึ้นมาทันที เสียงของความหวาดกลัว เสียงของความพลุ่งพล่าน เสียงของความโกรธเคือง ล้วนแต่พุ่งเป้ามาที่หลานเยาเยาที่เป็นเทพธิดาคนนี้

เสียงที่มากมายเช่นนี้ ปะปนรวมกันไปหมด จ้อกแจ้กจอแจหาที่เปรียบไม่ได้

และในห้องส่วนตัวของเย่แจ๋หยิ่ง โม่เหลียงเฉินถูกภาพที่อยู่ตรงหน้าทำเอารับมือไม่ทัน เห็นรอยเลือดสีแดงสดนั่น เห็นถึงเรื่องที่เย่แจ๋หยิ่งเจ็บปวด

เขารู้สึกเย็นชาขึ้นมาในใจ จากนั้นก็บินเหินออกมา

ทันทีที่เข้าไปในห้องส่วนตัวของหลานเยาเยา ก็ตบหลานเยาเยาไปหนึ่งฝ่ามือด้วยความโกรธ

หลานเยาเยาลืมตาทั้งคู่ขึ้นมา มองดูเขาด้วยสายตาเย็นชา แม้แต่จะหลบออกไปก็ยังขี้เกียจจะหลบออกไป แค่ยิ้มเย้ยหยันผ่านริมฝีปากแดงนั้นเล็กน้อยเท่านั้น

จื่อเฟิงเหวี่ยงดาบขวางฝ่ามือของโม่เหลียงเฉินเอาไว้โดนตรง

พลาดจากการโจมตี โม่เหลียงเฉินก็ปกป้องเย่แจ๋หยิ่งไว้ด้านหลังทันที กล่าวด้วยสีหน้าท่าทางโกรธ:

“เจ้ารู้หรือไม่ว่าเจ้ากำลังทำอะไร? เขาดีต่อมากเจ้าเช่นนี้ วางเจ้าเอาไว้ในส่วนลึกสุดใจ ทำเพื่อเจ้ามากมายหลายอย่าง

เจ้ากลับจะฆ่าเขา เจ้ายังมีมโนธรรมสักเล็กน้อยหรือไม่?