บทที่ 282 สถานการณ์ค่อนข้างพิเศษ

อ้อนรัก คุณภรรยาคนสวย

“หานชวน งั้นแผนของโครงการนี้ก็วางแผนไว้แบบนี้ก่อนแล้วกัน”

เสียงอ่อนโยนของหญิงสาวดังขึ้น มือเรียวเพ้นท์เล็บ ค่อย ๆ วางลงบนบ่าของชายหนุ่ม แล้วถามขึ้น “ฟ้าค่ำมืดแล้ว ไปทานอาหารเย็นด้วยกันเถอะ”

เฉินฮวนฮวนฟังหญิงสาวพูด รู้สึกเพียงว่าเสียงที่อ่อนโยนนี้แทบจะกร่อนเข้าสู่กระดูกแล้ว อีกอย่างเสียงนี้ทำให้เธอเดาได้ว่าฝ่ายตรงข้ามเป็นใครในทันที

เธอเคยได้ยินเสียงของผู้หญิงคนนี้ คือหลีซืออวิ๋น

เฉินฮวนฮวนเอามือปิดปาก ไม่กล้าพูดอะไร เธออยากแอบฟังว่าเฟิงหานชวนจะตอบว่าอะไร

วินาทีต่อมา เสียงของเฟิงหานชวนก็ดังขึ้น ยังคงเย็นชาเฉยชาอยู่แบบนั้น “ได้สิ”

เฉินฮวนฮวนได้ยินคำนี้ หัวใจก็หล่นตุบในทันที สีหน้าเผยให้เห็นถึงความผิดหวัง

ทั้ง ๆ ที่เฟิงหานชวนเคยรับปากเธอไว้ ว่าจะรักษาระยะห่างกับหลีซืออวิ๋น แต่ตอนนี้ล่ะ คนสวยเอ่ยว่าไปทานข้าว เขาแทบรอไม่ไหวที่จะตอบรับ

เชอะ!

ยังเห็นเธอที่เป็นภรรยาอยู่ในสายตาไหม?

ในตอนที่เธอกำลังโมโหอยู่เป็นอย่างมาก เธอเห็นเฟิงหานชวนลุกขึ้นยืนจากเก้าอี้ คลายเนกไทออก แล้วพูดเสียงทุ้ม “ภรรยาของฉันเฉินฮวนฮวน กำลังนอนอยู่ในห้องพักผ่อน พอดีเลยคืนนี้จะแนะนำให้พวกเธอรู้จักกันอย่างเป็นทางการ”

พูดจบ เฟิงหานชวนก็หมุนตัวกลับ แล้วพูดต่อ “ฉันไปปลุกเธอจากที่นอน…”

คำว่า “ที่นอน” คำสุดท้าย เฟิงหานชวนตั้งใจลากเสียงยาว เพราะเขาเห็นเฉินฮวนฮวนที่หลบอยู่ที่ประตูแล้ว

เฉินฮวนฮวนกับเฟิงหานชวนสบตากันอย่างไม่คาดคิด เธอจึงรีบปิดประตูลง แล้วพยายามยืดตัว อกผายไหล่ผึ่ง แสร้งทำเป็นว่าเมื่อครู่ไม่ได้แอบฟังอยู่

หลีซืออวิ๋นก็หันตัวมาพอดี จึงเห็นเฉินฮวนฮวนที่กำลังอกผายไหล่ผึ่งอยู่ สีหน้าของเธออึ้งอยู่ไม่กี่วินาที จากนั้นก็ยิ้มขึ้นในทันที

“นี่ก็คือน้องฮวนฮวน? ในที่ก็เจอตัวเป็น ๆ สักที!” หลีซืออวิ๋นทักทาย แล้วเดินสวมรองเท้าส้นสูงเข้ามาหาเฉินฮวนฮวน

เฉินฮวนฮวนยกมือขึ้น โบกมือทักทายหลีซืออวิ๋น ยิ้มเก้ ๆ กัง ๆ ทักทายเธอ “สวัสดีค่ะ คุณหลี”

“เธอรู้จักฉันเหรอ?” หลีซืออวิ๋นตะลึงนิดหน่อย

“เอ่อ…ฉัน…” เฉินฮวนฮวนนึกขึ้นได้ว่า เธอกับหลีซืออวิ๋นยังไม่เคยเจอหน้ากันมาก่อน ตามหลักแล้วควรจะไม่รู้จักฝ่ายตรงข้าม

ในตอนที่เธอหน้าเสียจนจิกเล็บเท้า เฟิงหานชวนก็พูดอธิบายขึ้น “ฮวนฮวนฟังออกว่าเป็นเสียงของเธอ ฉันเคยแนะนำเธอกับฮวนฮวน เธอเป็นเพื่อนของพวกเรา”

“ที่แท้ก็เป็นแบบนี้เอง ฉันนึกว่าฮวนฮวนเคยเจอฉันที่ไหนมาก่อนนะเนี่ย!” หลีซืออวิ๋นเอามือปิดปาก แล้วหัวเราะเบา ๆ

รอยยิ้มของเธอ ดูสง่าราศรีมาก ทำให้สายตาของเฉินฮวนฮวนติดหนึบอยู่บนตัวของหลีซืออวิ๋น

ถ้าหากเธอคือเฟิงหานชวน ผู้หญิงสวยมีสง่าราศีขนาดนี้อยู่ตรงหน้า เธอคงไม่แต่งงานกับเฉินฮวนฮวน ต้องแต่งงานกับหลีซืออวิ๋นแน่นอน!

“คุณหลีคะ คุณสวยมากจริง ๆ ค่ะ!” เฉินฮวนฮวนอดไม่ได้ที่จะชื่นชม

ไม่พูดไม่ได้ว่า ก่อนหน้านี้เฉินฮวนฮวนเคยเห็นรูปของหลีซืออวิ๋น แต่ตอนนี้ได้เจอตัวจริง เห็นได้ว่าตัวจริงสง่างามกว่าในรูป แล้วก็สวยกว่าในรูป

จู่ ๆ ถูกเฉินฮวนฮวนชม ทำให้หลีซืออวิ๋นอึ้งไปนิดหน่อย จากนั้นก็ยิ้มแล้วพูดขึ้น “ฮวนฮวน เธอชมเกินไปจริง ๆ! เธอก็น่ารักมาก ความสวยของแต่ละคนไม่เหมือนกัน”

หลีซืออวิ๋นพูดเก่งมาก เฉินฮวนฮวนเขินจนหน้าแดง

เห็นพวกเธอเข้ากันได้ดี เฟิงหานชวนก็โล่งใจ เดิมทีเขายังเป็นกังวลว่าเด็กขี้หึงในบ้านคนนี้ จะไม่ไว้หน้าเขาเสียแล้ว

เดิมทีเขากะว่าจะรักษาระยะห่างกับหลีซืออวิ๋นจริง ๆ แต่ตอนบ่ายวันนี้หลีซืออวิ๋น ไม่ได้บอกเขาไว้ก่อนว่าจะนำแผนโครงการมาหาเขาถึงที่นี่ด้วยตัวเอง เขาจึงทำได้เพียงต้อนรับเธอ

“ซืออวิ๋น ตอนนี้สถานการณ์ของฮวนฮวนค่อนข้างพิเศษ ฉันกะว่าจะพาเธอไปทานอาหารเย็นที่ร้านอาหารหลานเซียง” เฟิงหานชวนตัดตอนการพูดคุยระหว่างทั้งสอง แล้วพูดกับหลีซืออวิ๋น “ร้านอาหารหลานเซียงรสชาติค่อนข้างจืด เธอไม่แคร์นะ?”

เฉินฮวนฮวนได้ยินว่าร้านอาหารหลานเซียง ก็ถลึงตาโตในทันที นี่เป็นร้านที่มีชื่อเสียงมาก ๆ ร้านอาหารสั่งสดทำสด ทำอาหารจีนเป็นหลัก

วัตถุดิบสดใหม่เป็นอย่างมาก ผักสดเก็บสด ๆ สัตว์เล็กถูกฆ่าเป็น ๆสัตว์ใหญ่ถูกฆ่าภายในวันนั้นเป็นเนื้อที่สดใหม่ และส่วนผสมก็แสนจะเรียบง่ายในตอนปรุงอาหาร ไม่มีการเติมเครื่องปรุงรสเคมี แม้กระทั่งบางเมนู ใส่เพียงแค่เกลืออย่างเดียวเท่านั้น

ร้านนี้บอกเลยว่าจองคิวได้ยาก เพราะว่าทำสดขายสด ใช้เวลานานมาก ในหนึ่งวันรับลูกค้าตามจำนวนที่กำหนด มีหลายคนมากที่ต่อคิวไม่ได้

“อาหาน พวกเราไปร้านอาหารหลานเซียง จะไม่ได้ทานไหม? ฉันได้ยินว่าไม่จองคิวล่วงหน้าหลายวัน ก็ไม่มีคิวแล้ว” เฉินฮวนฮวนพูดขึ้นทันที

ในสายตาของเธอ เธอเป็นกังวลว่าจะได้ทานข้าวไหว แต่กลับมองข้ามคำพูดที่เฟิงหานชวนพูดในตอนเริ่มต้น

อีกอย่าง หลีซืออวิ๋นไม่เหมือนกับเธอ หลีซืออวิ๋นก็จับประเด็นหลักได้สองที่ หนึ่งคือ “สถานการณ์ของฮวนฮวนค่อนข้างพิเศษ” อีกอย่างก็คือ “อาหาน” คำเรียกที่เฉินฮวนฮวนเรียกเฟิงหานชวน

“อาหาน” คำเรียกนี้ เป็นคุณแม่ที่เสียชีวิตไปแล้วของเฟิงหานชวนเรียกเขาโดยที่ไม่เหมือนใคร เฟิงหานชวนไม่อนุญาตให้คนอื่นเรียกเขาว่า “อาหาน” ดังนั้นไม่มีคนเรียกเขา “อาหาน”

แต่ตอนนี้ เฉินฮวนฮวนเรียก “อาหาน” อย่างเปิดเผย เดิมทีคิดว่าเฟิงหานชวนจะโกรธ แต่วินาทีต่อมา หลีซืออวิ๋นกลับเห็นด้วยตาตัวเองว่าเฟิงหานชวนยิ้มมุมปาก แล้วยกมือลูบหัวเฉินฮวนฮวนเบา ๆ

ใช้น้ำเสียงอ่อนโยนที่สุดโดยที่เธอไม่เคยได้ยินมาก่อนพูดกับเฉินฮวนฮวน “เด็กโง่ ผมจะให้คุณไม่ได้ทานข้าวได้ยังไง?”

เฉินฮวนฮวน “…”

จากนั้นเฉินฮวนฮวนถึงนึกขึ้นได้ ว่าเธอดูถูกความสามารถของเฟิงหานชวน เป็นถึงประธานของบริษัทอาร์ ยังจำเป็นต้องต่อคิวอีกเหรอ?

ไม่ว่าจะใช้เส้น ใช้หน้าตา เขาต้องมีวิธีอยู่แล้ว

“หานชวน ฮวนฮวนสุขภาพไม่ค่อยดีเหรอ? เมื่อกี้นายพูดว่าสถานการณ์ของเธอค่อนข้างพิเศษ ถ้าฮวนฮวนไม่สบาย อาหารมือนี้ก็ไม่ต้องทานก่อนหรอก พาเธอไปโรงพยาบาลก่อน” หลีซืออวิ๋นเป็นฝ่ายเอ่ยขึ้น น้ำเสียงยังคงอ่อนโยนดังเดิม

เธออยากจะถามให้ชัดเจนว่า สถานการณ์พิเศษนี้ มันพิเศษยังไง

“ไปโรงพยาบาลแล้ว” เฟิงหานชวนโอบบ่าของเฉินฮวนฮวนอย่างเป็นธรรมชาติ แล้วกอดเธอไว้ในอ้อมกอด น้ำเสียงจริงจังมาก “ฮวนฮวนตั้งครรภ์แล้ว ดังนั้นอาหารการกินต้องระวังหน่อย”

“ตั้ง ตั้งครรภ์แล้ว?” หลีซืออวิ๋นตะลึงไปเลย เผยให้เห็นสีหน้าที่แทบไม่อยากจะเชื่อ “พวกนายเพิ่งจะแต่งงานได้ไม่นานนี่!”

เฉินฮวนฮวนคิดไม่ถึงว่าเฟิงหานชวนจะพูดออกมาเร็วขนาดนี้ ทำให้เธอรู้สึกเก้กัง ยิ่งไปกว่านั้นคือรู้สึกผิด ในเมื่อเด็กคนนี้ ไม่ใช่เลือดเนื้อเชื้อไขของเฟิงหานชวน

เพียงแต่ความเก้กังนั้นก็เพียงชั่วครู่เดียว หัวใจของเธอเต็มไปด้วยความหวานในทันที เฟิงหานชวนบอกกับคนอื่นแบบนี้ เห็นได้ว่าเธอให้ความสำคัญกับเด็กคนนี้ขนาดไหน

ยังไงก็ตามหลีซืออวิ๋นไม่ได้สังเกตเห็นถึงสีหน้าที่เปลี่ยนไปของเฉินฮวนฮวน ในตอนนี้เธอช็อก ช็อก ช็อก