เดิมทีหลีซืออวิ๋นคิดว่าเฟิงหานชวนและเฉินฮวนฮวนรู้จักกันได้ไม่นาน แม้ว่าจะหลงใหลในเรือนร่างและรูปลักษณ์ของเฉินฮวนฮวนก็ตาม แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าทั้งสองคนจะรู้จักกันมานาน
ตอนนี้ เธอรู้สึกเหมือนมีเสียงวิ้งๆ อยู่ในสมอง เธอนึกไม่ถึงว่าภายในระยะเวลาสั้น ๆ เฉินฮวนฮวนจะตั้งท้องเร็วขนาดนี้
ถ้าลูกของเฟิงหานชวนลืมตาดูโลก เฉินฮวนฮวนก็จะได้ครองตำแหน่ง “คุณนายตระกูลเฟิง” ไปโดยปริยาย?
“มันเกิดขึ้นกะทันหันมาก ฉันกับฮวนฮวนก็ยังไม่ได้อยากมีลูกเร็วขนาดนี้ แต่ในเมื่อมีแล้ว ก็คงต้องเลี้ยงดูให้ดีที่สุด” สีหน้าของเฟิงหานชวนนั้นนิ่งสงบ น้ำเสียงก็ราบเรียบ ท่าทางสงบนิ่งไม่สะทกสะท้านใด ๆ
หลีซืออวิ๋นรู้สึกเหมือนมีมดนับหมื่นตัวกำลังไต่ขึ้นมาอย่างฉับพลัน มันรู้สึกแย่จนหายใจไม่ออก
แต่เธอก็ยังดึงสติกลับมาได้อย่างรวดเร็ว จากนั้นก็คลี่ยิ้มด้วยความกระตือรือร้น ซึ่งเป็นรอยยิ้มไม่ยิงฟันดั่งกุลสตรีที่มีจิตใจงดงาม และพูดว่า : “งั้นก็คงเป็นความประสงค์ของฟ้าเบื้องบนแล้วล่ะ ซึ่งพิสูจน์ได้ว่าทั้งสองคนเป็นคู่ที่สวรรค์สร้างมา”
ถึงแม้ว่าเธอจะพูดออกไปแบบนี้ แต่ในใจกลับไม่ได้รู้สึกยินดีด้วยเลย
“เป็นโชคชะตาฟ้าลิขิต” ประโยคนี้เฟิงหานชวนได้หันไปมองเฉินฮวนฮวน และพูดกับเธอ
ไม่เพียงแต่ตอบคำถามของหลีซืออวิ๋นเท่านั้น แต่ยังแอบสารภาพรักกับเฉินฮวนฮวนลับ ๆ ด้วย เฉินฮวนฮวนรู้สึกว่าเขาร้ายไม่เบา
แต่ในใจกลับหอมหวานราวกับน้ำผึ้ง
……
มื้อค่ำคืนนี้พวกเขาฝากท้องไว้กับร้านอาหารหลานเซียง
เพราะร้านนี้มีวัตถุดิบสดใหม่ทั้งหมด รสชาติอร่อยถูกปาก เฉินฮวนฮวนกินจนอิ่มแปล้ จากนั้นก็ยกมือขึ้นมาลูบหน้าท้องด้วยความพอใจ
ทั้งหมดนี้เธอกินอยู่คนเดียว ส่วนหลีซืออวิ๋นและเฟิงหานชวนคุยเรื่องห้างสรรพสินค้าไปตลอดมื้ออาหาร เฉินฮวนฮวนขี้เกียจจะฟัง
แต่มีอยู่เรื่องหนึ่งที่เธอมั่นใจมาก นั้นคือความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองคน เป็นแค่เพื่อนกันจริง ๆ ไม่มีการลับลมคมในแต่อย่างใด กลับกลายเป็นเธอที่ใจแคบเกินไป
เมื่อเห็นเฉินฮวนฮวนกินอิ่มหนำสำราญแล้ว เฟิงหานชวนก็หยุดสนทนากับหลีซืออวิ๋นไปทันที ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึมลงว่า : “ฮวนฮวนต้องกลับไปกินยา ฉันจะให้ซูอวี่ไปส่งเธอแล้วกันนะ”
เหมือนกันครั้งที่แล้ว ให้คนขับรถของตระกูลหลีไปส่งหลีซืออวิ๋นที่บริษัทอาร์ ทั้งที่เดิมทีตั้งใจจะให้เฟิงหานชวนไปส่งเธอที่บ้านตระกูลหลี แต่เฉินฮวนฮวนกลับแทรกตัวเข้ามาขวาง
“หานชวน ไม่ต้องลำบากซูอวี่หรอก ฉันให้คนขับรถของบ้านฉันมารับแล้ว นายพาฮวนฮวนกลับไปก่อนเถอะ” หลีซืออวิ๋นยกมือขึ้นมาม้วนผมอย่างอ่อนโยน ดูไปแล้วเหมือนจะเข้าใจดี
“คิดเงินที่ฉันนะ ขอตัวก่อนนะ” เฟิงหานชวนลุกขึ้นยืน จากนั้นก็ดึงเฉินฮวนฮวนให้ลุกขึ้นตาม
เฉินฮวนฮวนนึกไม่ถึงว่าอิ่มปุ๊บก็ต้องกลับทันที เธอค่อย ๆ ดึงสติกลับมา จากนั้นก็รีบโบกมือไปทางหลีซืออวิ๋น : “พี่ซืออวิ๋น บ๊ายบาย!”
“บ๊ายบาย” หลีซืออวิ๋นยิ้มพร้อมกับตอบกลับไป
หลังจากนั้นเฟิงหานชวนก็จูงมือของเฉินฮวนฮวนเดินออกจากร้านอาหารหลานเซียงไป เหลือไว้แค่หลีซืออวิ๋นเพียงคนเดียว รอให้คนขับรถมารับที่ห้องวีไอพี
หลีซืออวิ๋นนึกถึงภาพที่เฟิงหานชวนจูงมือเฉินฮวนฮวนเดินออกไปอยู่ในหัวตลอดเวลา ท่าทางสนิทสนมแบบนั้น ทำให้เธอเกลียดจนต้องกัดฟันกรอด
จากนั้นก็ล้วงไปหยิบโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋าหนังจระเข้ลิมิเต็ดใหม่ล่าสุด และรีบกดโทรเบอร์ทันที : “มัวหาอะไรอยู่? ยังหาไม่เจออีกรึไง?”
เธอแทบจะตะโกนออกมาเสียงดัง
“คุณหนูหลี ผมหาเจอแล้ว! เห็นว่าวันนี้ดึกมากแล้ว ก็เลยตั้งใจว่าจะติดต่อคุณหนูไปพรุ่งนี้ เพียงแต่…..” น้ำเสียงที่เอ้อระเหยลอยชายของอีกฝ่ายดังขยายออกมา ตามมาด้วยเสียงที่แฝงไปด้วยการข่มขู่ : “เงินของคุณหนู ไม่ค่อยพอเท่าไหร่นะ”
“นายหมายความว่ายังไง? ราคาที่นายเสนอมามันไม่ต่ำเลยนะ ฉันจ่ายไปหมดแล้วด้วย นายจะเอาอะไรอีก?” หลีซืออวิ๋นเบิกตากว้าง ก่อนจะกัดฟันแน่น
ลูกน้องที่อยู่ใต้บัญชาของตัวเองหาข้อมูลเบื้องลึกเบื้องหลังของเฉินฮวนฮวนไม่ได้ ดังนั้นหลีซืออวิ๋นจึงต้องจ้างนักสืบฝีมือดี นักสืบผู้รู้ความลับมากมาย ด้วยเงินก้อนใหญ่จำนวนหนึ่ง
“คุณหนูหลี พรุ่งนี้คุณว่างไหม? สู้เราออกมาคุยกันหน่อยดีกว่า?” เฉินเจี๋ยแสยะยิ้ม ก่อนจะพูดว่า : “ถ้าคุณหนูไม่อยากรู้ ผมก็จะคืนเงินทั้งหมดกลับไปให้คุณหนู ถ้าคุณหนูอยากรู้……..”
หลีซืออวิ๋นหรี่ตาลงเล็กน้อย ได้แต่จำใจต้องยอม : “ได้ พรุ่งนี้บ่ายสอง ห้อง 2102 อวิ๋นซูอพาร์ทเม้นท์ 3”
“ตกลง แล้วเจอกันนะครับ~” เฉินเจี๋ยพึงพอใจมาก เขาตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงไม่จริงใจ
หลีซืออวิ๋นไม่รู้ว่าเฉินเจี๋ยจะอุบไว้ทำไม แต่เธอก็มั่นใจว่าเฉินเจี๋ยจะต้องเจอเรื่องสำคัญอะไรบางอย่างแน่นอน ไม่อย่างนั้นไม่มีทางเล่นเนื้อเล่นตัวแบบนี้
เพื่อต้องการรู้เบื้องหลังของเฉินฮวนฮวนและเฟิงหานชวน เธอจึงต้องลงทุน ยอมจ่ายเงินจำนวน 5 ล้านหยวนเต็ม ตอนนี้เฉินเจี๋ยกลับบอกว่ายังน้อยเกินไป
เมื่อคิดได้ หลีซืออวิ๋นได้แต่กำมือแน่นอย่างเงียบ ๆ
….
เฟิงหานชวนขับรถพาเฉินฮวนฮวนกลับบริษัทหมิงอวี่
เมื่อได้ยินเสียงรถ หลิวหลี่ถงก็รีบวิ่งออกมาจากห้องรับแขกทันที จากนั้นก็รีบเดินตรงไปยังข้างรถsuv สีดำอย่างรวดเร็ว
เมื่อตอนบ่ายเธอได้ยินแม่บ้านหลี่พูดว่าคุณนายสามไปบริษัทของคุณชายสามแล้ว ดังนั้นเธอจึงไม่กล้านิ่งนอนใจ ได้แต่รอสามีคู่นี้กลับมา
เธอกลัวว่าเฉินฮวนฮวนจะไปฟ้องเรื่องของเธอกับคุณชายสาม เธอไม่อยากถูกไล่ออก ดังนั้นจึงได้อกสั่นขวัญแขวนตั้งแต่บ่ายจนถึงค่ำ
จนกระทั่งประตูรถเปิดออก เรียวขายาวของผู้ชายก้าวลงจากรถ หลิวหลี่ถงรีบเอ่ยขึ้นทันที : “คุณชายสาม สวัสดีตอนค่ำค่ะ”
เมื่อเห็นหลิวหลี่ถงยืนอยู่หน้าประตูรถของตัวเอง เฟิงหานชวนก็คิดขึ้นได้ว่าเฉินฮวนฮวนอาจจะเข้าใจผิดเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างเขากับหลิวหลี่ถง เขาจึงแสดงท่าทางไม่สบอารมณ์กับหลิวหลี่ถง
“ออกไป!” เขาตำหนิด้วยเสียงเย็นชา
เพราะรถจอดอยู่บนลานกว้าง โคมไฟดวงเล็กของลานกว้างค่อนข้างริบหรี่ เฉินฮวนฮวนที่กำลังสะลึมสะลือ แทบจะอยู่ในภาวะกึ่งหลับกึ่งตื่น ไม่ทันได้สังเกตว่ามีคนเดินเข้ามา
เสียงเมื่อสักครู่ของเฟิงหานชวนทำให้เธอตกใจจนเด้งตัวขึ้นมานั่ง จากนั้นก็หันไปมองที่นั่งของเฟิงหานชวน พบว่าเฟิงหานชวนลงจากรถไปแล้ว และกำลังยืนอยู่ตรงข้ามหลิวหลี่ถง
เฉินฮวนฮวนขยี้ตาเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยถามออกไป : “เกิดอะไรขึ้น?”
เมื่อหลิวหลี่ถงได้ยินว่า “ออกไป” เมื่อสักครู่ ร่างทั้งร่างตกอยู่ในอาการอึ้งงัน คิดแค่ว่าเฟิงหานชวนให้เธอเก็บกระเป๋าออกไปจากบ้าน เธอแค่รู้สึกเหมือนเลือดในร่างกายมันแข็งตัวไปชั่วขณะ
ที่แท้เฉินฮวนฮวนก็ไปฟ้องเรื่องของเธอจริง ๆ!
“พรึ่บ” เสียงหนึ่งดังขึ้น หลิวหลี่ถงคุกเข่าตรงหน้าของเฟิงหานชวน ก่อนจะร้องไห้คร่ำครวญ : “คุณชายสาม ให้โอกาสฉันอีกสักครั้งเถอะนะคะ ฉันอยากทำงานนี้จริง ๆ ขอร้องละคะ คุณชายอย่าไล่ฉันออก…….”
เฉินฮวนฮวน : “?”
เธออึ้งงั้นไป เฟิงหานชวนไล่หลิวหลี่ถงออกงั้นเหรอ?
นอกจากคำว่า “ออกไป” อย่างอื่นเธอก็ไม่ได้ยินอะไรอีก
เฉินฮวนฮวนรีบเปิดประตูฝั่งข้างคนขับลงมาทันที จากนั้นก็เดินอ้อมรถตรงไปยังข้างกายของเฟิงหานชวน
เมื่อเห็นเฉินฮวนฮวนเดินมา หลิวหลี่ถงรีบพุ่งตัวไปหาเฉินฮวนฮวนทันที มือทั้งสองข้างกอดขาของเฉินฮวนฮวนไว้แน่น ก่อนจะร้องขอ : “คุณนายสาม ฉันไม่ได้ตั้งใจจะพูดแบบนั้นนะคะ คุณนายให้โอกาสฉันอีกครั้งนะคะ ต่อไปฉันจะดูแลคุณอย่างดี ให้โอกาสฉันอีกครั้งเถอะนะคะ!”
เมื่อเฉินฮวนฮวนเห็นหลิวหลี่ถงร้องไห้อย่างน่าสงสาร เธอเองก็ทำอะไรไม่ได้ นอกจากหันไปพูดกับเฟิงหานชวนว่า : “ให้โอกาสเธออีกสักครั้งเธอนะคะ เธอทำงานว่องไว ถ้าเปลี่ยนคนอีก คนใช้ในบ้านเก่าก็คงจะไม่พอ คนใหม่ก็ต้องเข้ามาปรับตัวกันอีก”
“อื้อ” เฟิงหานชวนตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงเย็นชา
เมื่อเห็นเฟิงหานชวนพยักหน้าตอบรับ จิตใจของหลิวหลี่ถงก็ฮึกเหิมขึ้นมาทันที เธอลุกขึ้นยืนจากพื้น เช็ดคราบน้ำตา จากนั้นก็พูดด้วยเสียงสะอื้นว่า : “คุณชายสาม คุณนายสาม วางใจได้เลยค่ะ ฉันจะตั้งใจทำงานอย่างดีที่สุด”
เฟิงหานชวนไม่ได้สนใจ เอื้อมมือออกไปโอบเอวของเฉินฮวนฮวน จากนั้นก็โน้มหน้าลงมากระซิบข้างหูของเธอด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า : “ผมจะพาคุณไปกินยานะครับ”
“ค่ะ” เฉินฮวนฮวนพยักหน้า จากนั้นก็แนบชิดเข้าไปในอ้อมกอดของเฟิงหานชวน
ทั้งสองคนเดินเข้าไปในห้องรับแขกอย่างสนิทสนม ส่วนหลิวหลี่ถงกลับยังยืนอยู่ที่เดิม มองตามแผ่นหลังของพวกเขาสองคนจนลับหายไปตรงหน้าของเธอ
เธอกำมือทั้งสองข้างแน่น ทำงานได้ว่องไว เฉินฮวนฮวนคิดว่าเธอเป็นแค่คนรับใช้เหรอ?
ก็แค่ไก่บ้านไร้ค่าที่กลายเป็นหงส์ฟ้า แต่กล้าแสดงความเป็นนายหญิงอย่างมั่นใจต่อหน้าของเธอ!