บทที่ 379 ขอโทษ

บทที่ 379 ขอโทษ

“ครูใหญ่กู้มาหาครูแล้วบอกว่าที่ห้องเราเกิดเรื่อง ครูก็เลยมาดูเพราะไม่ค่อยเชื่อ แต่ไม่คิดว่าพวกเธอจะ…”

ครูฮวางทนพูดไม่ไหว เด็กเก่งขนาดนี้ทำไมถึงทะเลาะกันล่ะ? ทั้งลงมือ ทั้งเอ่ยปากด่าทอ สองสามปีมานี้ไม่เคยเห็นเด็กทะเลาะกันรุนแรงเลย โดยเฉพาะเด็กในโรงเรียนของเรา

หลังจากการสอบเข้ามหาวิทยาลัยกลับมา ความกระตือรือร้นในการเรียนของนักเรียนก็ดีขึ้น

สิ่งที่ทำให้ครูฮวางประหลาดใจที่สุดคือ การทะเลาะกันของเด็กผู้หญิงแถมยังเป็นเด็กที่มีความสามารถอย่างซูเสี่ยวเถียน

เธอดูเป็นเด็กดีมาก น่าจะเป็นนักเรียนที่ดีไม่ใช่หรือ?

เสี่ยวปาและเสี่ยวจิ่วมองหน้ากันเมื่อได้ยินครูพูดแบบนั้น แปลว่าครูใหญ่ไม่มา? แต่ให้ครูฮวางมาแทน?

ครูใหญ่ไม่ได้พูดอะไรเลยตอนพวกเขาไปหา แค่บอกว่าให้กลับไปก่อน เดี๋ยวรีบตามไป!

ตอนนี้เด็กชายทั้งสองไม่ได้ตระหนักว่าโรงเรียนมัธยมอันดับเจ็ดไม่เหมือนกับโรงเรียนที่เรียนก่อนหน้านี้

เพราะครูใหญ่มีงานต้องทำ ต่อให้น้องเป็นคนที่ต้องอยู่ในความดูแลเป็นพิเศษ เขาก็คงตามเสี่ยวเถียนไปตลอดไม่ได้

“ครูฮวางคิดจะจัดการเรื่องนี้ยังไงครับ?”

เสี่ยวปาตระหนักถึงความเป็นจริงได้อย่างรวดเร็ว สุดท้ายเรื่องนี้ก็ต้องให้ครูฮวางออกมาจัดการ เขาจึงหันไปถาม

และอีกฝ่ายก็ไม่คิดว่าเด็กจะเอ่ยถามกันแบบนี้

แล้วจะตอบอย่างไร?

แน่นอนว่าในใจต้องการปกป้องซูเสี่ยวเถียนอยู่แล้ว

ความหมายของครูใหญ่น่าจะแบบนี้

เพราะเสี่ยวเถียนเป็นนักเรียนที่มีพรสวรรค์ที่หายากมาก แต่เธอก็เป็นเด็กซื่อสัตย์มากถึงขนาดยอมรับออกมาตรง ๆ

เขามองไปที่เธอด้วยความไม่พอใจ ความหมายในสายตาชัดเจนมาก

ถ้าเสี่ยวเถียนโดนใส่ร้ายก็เป็นไปได้ที่เธอจะโกหก และเขาก็หาเหตุผลให้ได้ด้วย

แต่ตอนนี้…

“ครูฮวางปกป้องซูเสี่ยวเถียนไม่ได้นะคะ หนูรู้ว่าเธอเรียนเก่ง แล้วพวกครูก็ชอบกันมาก แต่ไม่ว่าจะชอบขนาดไหนก็มองข้ามเด็กคนอื่นไม่ได้นะ! ครูเป็นครู ต้องเป็นแบบอย่างที่ดี อย่ากลัวอำนาจสิคะ”

ซ่งหลิงหลิงค่อนข้างฉลาดมากที่มองอะไรบางอย่างออก

เพื่อไม่ให้เสียเปรียบ เธอจึงรีบเอ่ยปากออกมา

ครูฮวางเกือบตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากแล้ว

เด็กพวกนี้ฉลาดเกินไปก็ไม่ดี!

“ซูเสี่ยวเถียน บอกครูหน่อยว่าทำไมต้องตบเพื่อน แล้วก็ด่าเพื่อนด้วย” เขาถาม

ถึงจะอยากปกป้องซูเสี่ยวเถียนก็ตาม แต่ไม่ว่าเด็กห้องนี้จะมีภูมิหลังครอบครัวหรือตำแหน่งอะไรใด ๆ ก็ไม่สามารถก่อเรื่องได้ง่าย ๆ หรอกนะ

เขาเป็นครูชั้นผู้น้อย จะโดนยุไม่ได้!

เรื่องนี้ต้องได้รับการจัดการอย่างเหมาะสมเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาใหญ่ขึ้น

“คุณฮวางคะ เพื่อนในห้องเป็นพยานได้ค่ะว่าซ่งหลิงหลิงด่าหนู หนูก็เลยตบเธอ!” เสี่ยวเถียนดูสงบมาก ราวกับว่าไม่กลัวจะถูกลงโทษ

ครูฮวางพูดไม่ออก ซ่งหลิงหลิงด่าก็เลยลงไม้ลงมืองั้นหรือ?

แต่มันก็มีเหตุผล อย่างน้อยก็พิสูจน์ได้ว่าเรื่องนี้เป็นเสี่ยวเถียนที่ก่อเรื่อง รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าชายหนุ่ม

“แบบนี้นี่เอง แล้วนักเรียนซ่งหลิงหลิง บอกครูหน่อยสิว่าด่าเพื่อนทำไม?”

“หนู…” ซ่งหลิงหลิงไม่รู้จะพูดอะไร

เธอด่าคนอื่นก่อนก็จริง แต่ไม่คิดว่าเสี่ยวเถียนจะเอาเรื่องนี้ขึ้นมาพูด

“เธอด่าซูเสี่ยวเถียนใช่ไหม?”

พอเห็นเด็กหญิงไม่โต้แย้ง น้ำเสียงเขาก็เข้มงวดขึ้นเล็กน้อย

“หนู หนูแค่ไม่ชอบที่ซูเสี่ยวเถียนอวดดีค่ะ!” เธอตอบอย่างแข็งกร้าว

“วันนี้มีสอบนะ แต่ก่อนสอบพวกเธอกลับสร้างเรื่องขึ้นทำให้ครูลำบากใจมาก แต่ถ้าเราแก้ไขปัญหาเรื่องนี้ ก็รังแต่จะถ่วงเวลาของเขาอื่นเขา!”

ถึงเวลาเริ่มสอบแล้วด้วย แต่ยังไม่ได้ทำอะไรเลย ครูฮวางทำได้เพียงขอโทษเด็ก ๆ

โชคดีที่นักเรียนพวกนี้ไม่ใส่ใจเรื่องอื่นมากกว่าเรื่องสอบ

“ครูฮวางคะ พวกเรารอสอบได้ค่ะ ครูต้องจัดการเรื่องนี้ให้ชัดเจนก่อนนะคะ ไม่งั้นมันจะส่งผลกระทบต่อความสามัคคีของเราในอนาคตนะ!”

พอมีคนเริ่มก็มีคนตาม เด็กคนอื่น ๆ แสดงความเห็นชอบทันที

“ครูคะ หนูว่าถึงหนูจะพูดไม่ดีทำให้ไม่พอใจ แต่เสี่ยวเถียนก็ไม่ควรตบคนอื่นอยู่ดีค่ะ โดยเฉพาะตอนที่หนูโดนตบแล้วเพื่อนอย่างหลิวเสี่ยวหงก็ช่วยพูดเพื่อความยุติธรรมของหนู แต่ซูเสี่ยวเถียนก็ไปด่าเขา!” ซ่งหลิงหลิงหวังมากว่าเรื่องนี้จะได้ผล

เป็นการดีที่สุดที่จะไล่ซูเสี่ยวเถียนออกไปจากห้องสิบแปด

ซูเสี่ยวเถียนไม่ได้พูดอะไร เธอเอาแต่ก้มหน้ามองเล็บราวกับมีดอกไม้ติดอยู่

“ซูเสี่ยวเถียน บอกครูทีว่าทำไมถึงด่าเพื่อน!” ครูฮวางปวดหัวมาก

ก่อนหน้านี้ทำไมมองไม่ออกเลยนะว่าเสี่ยวเถียนจะเป็นเด็กแสบแบบนี้น่ะ?

“ครูฮวาง หลิวเสี่ยวหงเป็นคนบอกว่าการด่ามันไม่เป็นอะไร ไม่เจ็บด้วย หนูก็ไม่ควรจะไปใส่ใจ เพราะงั้นก็เลยด่าดูค่ะว่าไม่ใส่ใจหรือเปล่า!”

เสี่ยวเถียนเอ่ยทั้ง ๆ ที่ใบหน้ายังเต็มไปด้วยรอยยิ้ม และรอยยิ้มก็มีร่องรองความเสียดสี ทำเอาหลิวเสี่ยวหงและซ่งหลิงหลิงทนไม่ไหวจนเก็บความโกรธเอาไว้ไม่อยู่

โชคดีที่พวกเธอยังมีสติ รู้ว่าอยู่ต่อหน้าครูเลยไม่สามารถโกรธได้

“แบบนั้นเองหรือ? พวกเธอบอกซิว่านักเรียนหลิวเสี่ยวหงพูดแบบนั้นหรือเปล่า?” ครูฮวางมองเด็กคนอื่น ๆ ในห้อง

เสี่ยวปากับเสี่ยวจิ่วไม่ได้พูด

แต่เป็นตู้หย่งเฮ่อที่เอ่ยปากแทน

“ผมยืนยันได้ครับคุณครูว่าหลิวเสี่ยวหงบอกว่าด่าคนมันไม่เจ็บ ไม่ต้องไปใส่ใจหรอก”

หากเป็นคนอื่นที่ยืนขึ้นเพื่อเป็นพยานให้ ซ่งหลิงหลิงคงไม่เสียใจมากนัก

เธอจ้องมองเด็กชาย ไม่อยากเชื่อว่าอีกฝ่ายจะแทงกันด้วยมีดแบบนี้

เขาไม่รู้หรือว่าเธอชอบเขามากแค่ไหนน่ะ?

เขาไม่ใส่ใจความสัมพันธ์ที่มีต่อกันตั้งแต่ยังเด็กเลยหรือ แถมยังปกป้องยัยจิ้งจอกซูเสี่ยวเถียนอีก?

พอตู้หย่งเฮ่อเอ่ย คนอื่น ๆ ก็ส่งเสียงตาม

“ใช่ค่ะครู เรื่องวันนี้คือซ่งหลิงหลิงมาหาเรื่องก่อนแล้วก็ด่าซูเสี่ยวเถียนก่อน อีกฝ่ายเลยด่ากลับแล้วก็ตบด้วย หลังจากนั้นหลิวเสี่ยวหงก็ออกมาช่วยแล้วบอกว่าโดนด่าไม่เห็นจะเป็นอะไรเลย ซูเสี่ยวเถียนเลยด่ากลับ แต่ไม่คิดว่าเขาจะโมโหขึ้นมาจนเกือบลงมือด้วย”

คำอธิบายชัดเจนมาก

จากนั้นเด็ก ๆ ก็พยักหน้าเพื่อยืนยัน

ครูฮวางสอนซ่งหลิงหลิงแล้วตามด้วยหลิวเสี่ยวหง

เด็กสองคนนี้ฉลาดมากนะ แล้วทำไมพอได้ยินสิ่งที่ตัวเองทำ ถึงทำเหมือนคนโง่เขลาแบบนี้ล่ะ?

“นักเรียนซ่งหลิงหลิง ครูไม่สนใจหรอกนะว่าเธอด่าทำไม แต่ด่าคนอื่นก่อนแบบนี้มันไม่ถูกต้อง ขอโทษซูเสี่ยวเถียนด้วย!” ครูฮวางได้ข้อเท็จจริงแล้วก่อนจะเอ่ยออกมา