บทที่ 423 นายท่านเซี่ยกับความสงสัยในตัวเซี่ยฟางเฟย

เจ้าวายร้ายทั้งสาม มาให้แม่เลี้ยงอย่างข้ากล่อมเกลาเสียดีๆ

บทที่ 423 นายท่านเซี่ยกับความสงสัยในตัวเซี่ยฟางเฟย

นางเซี่ยนิมนต์ไต้ซือหวู่หยานเข้าไปในจวน รินชาเตรียมไว้ให้

“ไต้ซือหวู่หยาน ท่านหมายความว่าอย่างไรหรือที่ว่าเกิดปัญหาเกิดขึ้นในเรือน” นางเซี่ยรีบถามทันที

“ทุกอย่างกำลังรุ่งโรจน์แต่กลับพลิกผันต้องโทษใส่ตรวน!”

เมื่อได้ยินที่ไต้ซือพูด หัวใจของนางเซี่ยสั่นไหวขึ้นมา หากเซี่ยหรงอันตกลงกับเถ้าแก่เว่ย โอกาสที่เขาจะได้ติดคุกและใส่โซ่ตรวนก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้

“ไต้ซือ เหตุใดท่านถึงได้เอ่ยถึงเรื่องมีคนตกน้ำแล้วนิสัยคนผู้นั้นเปลี่ยนไปมากเล่าเจ้าคะ”

“ในจวนแห่งนี้มีพลังหยิน เป็นที่อาศัยอยู่ของพรายน้ำ วิญญาณของมันสิงสู่อยู่ในที่แห่งนี้มานานไม่ต่ำกว่าหกปีแล้ว!” ไต้ซือหวู่หยานกล่าว

ฟางเฟยอายุสิบสามเมื่อนางตกน้ำเมื่อหกปีที่แล้ว! เป็นไปได้หรือไม่ว่า…

“เมื่อหกปีก่อนมีคนตกน้ำหรือไม่?” ไต้ซือหวู่หยานถาม

“คือ…” นางเซี่ยลังเล เซี่ยฟางเฟยเป็นหลานสาวของนาง นางจึงยังมีความกังวลอยู่มาก

“หลังจากที่คนผู้นั้นตกน้ำ ผีพรายน้ำตัวนั้นได้เข้าสิงนาง ทำให้อารมณ์และนิสัยเปลี่ยนไป ทำตัวไร้สาระหาแก่นสารไม่ได้ และนำหายนะมาสู่ ตอนนี้พลังของพรายน้ำได้แผ่ไปยังทิศตะวันตกเฉียงใต้ของจวนแห่งนี้”

ทิศตะวันตกเฉียงใต้คือทิศที่ตั้งของศาลต้าหลี่ซึ่งเซี่ยฟางเฟยอยู่ที่นั่น

ตอนแรกนางเซี่ยเชื่อเพียงสามส่วน ตอนนี้เท่ากับนางเชื่อถึงหกส่วนด้วยกัน! นางเซี่ยจำได้ว่าเมื่อหกปีก่อน ตอนที่เซี่ยฟางเฟยฟื้นขึ้นมา นางดูเปลี่ยนไปราวกับเป็นคนละคน มีนิสัยฉุนเฉียวเจ้าอารมณ์มากขึ้น พูดคำบางคำ ประโยคบางประโยคที่ไม่มีใครเข้าใจ ไม่ให้เกียรตินางผู้เป็นป้า ซ้ำยังไม่ให้บ่าวไพร่คุกเข่า นางบอกว่าทุกคนล้วนเท่าเทียมกัน

นอกจากนี้ยังเล่นหูเล่นตา ไม่สงวนท่าทีต่อบุรุษ พูดจาไม่กี่คำก็เอ่ยว่านางเป็นพวกศักดินา นอกจากนี้นางยังจำเรื่องราวในอดีตไม่ได้เลย

ฟางเฟยไม่ใช่คนเดิมอีกต่อไปแต่เป็นวิญญาณของผีพรายน้ำที่มาสิงร่างของหลานสาวนาง

แล้วฟางเฟยเล่า นางหายไปไหน? หลานสาวผู้น่าสงสารของนาง! หากเป็นผีพรายน้ำจริงๆ มันจ้องทำลายชื่อเสียงของหลานสาว นำแต่ความหายนะมาสู่วงศ์ตระกูล !

เรื่องที่เร่งด่วนเห็นทีจะต้องป้องกันไม่ให้เซี่ยหรงอันหลงผิดทำเรื่องที่เสี่ยงคุกเสี่ยงตารางเช่นนี้

“ไต้ซือท่านช่วยไปพบกับเซี่ยหรงอันน้องชายของข้าได้หรือไม่? ท่านช่วยเล่าให้เขาฟังอีกครั้งเถอะ” นางเซี่ยอ้อนวอน

“ได้สิ” ไต้ซือหวู่หยานพยักหน้า

ที่นอกห้องนางเซี่ยเจอกับเซี่ยหรงอัน สีหน้าของเขาดูหดหู่ราวกับตัดสินใจบางอย่างได้แล้ว

“หรงอัน นั่นเจ้าจะไปไหน?”

“พี่สาว ข้าฝันว่าฟางเฟยกำลังทรมาน นางตะโกนขอให้ข้าช่วย ข้าต้องช่วยนาง!” เซี่ยหรงอันกล่าว

หวู่หยานมองนายท่านเซี่ย เซี่ยหรงอันกำลังละทิ้งอุดมการณ์เดิมของตน เขาจึงมีทีท่าหดหู่เศร้าหมอง

“หรงอันใจเย็นก่อน” นางเซี่ยรีบพูดอย่างรวดเร็ว

“หรงอัน ฟางเฟยไม่ใช่บุตรสาวของเจ้าและหลานสาวของข้า นางไม่ใช่ฟางเฟย นางเป็นผีพรายน้ำที่เข้ามาสิงร่างของฟางเฟย! นางมาเพื่อทำลายเจ้า ทำลายตระกูลเซี่ย!”

นางจะมาทำให้ตะกูลเซี่ยพินาศไป

เสียงของนางเซี่ยดังขึ้นเรื่อยๆ เซี่ยหรงอันจ้องไปที่พี่สาวของตนเอง

“พี่สาว ท่านหมายความว่าอย่างไร?”

“ไต้ซือ ท่านเข้ามาก่อนเถอะเจ้าค่ะ”

ทั้งสามคนนั่งลงที่ด้านนอกของห้อง นางแนะนำไต้ซือหวู่หยานให้น้องชาย

“ไต้ซือหวู่หยานมาจากภูเขาตงฮั่ว ไต้ซือได้โปรดบอกน้องชายข้าด้วยเถิด”

นางเซี่ยรีบพูด เขาจึงเริ่มเล่าเกี่ยวกับพรายน้ำที่อยู่ในจวน และเมื่อเขาเริ่มพูดว่าบุตรสาวของเขาในตอนนี้ไม่ใช่เซี่ยฟางเฟย เซี่ยหรงอันรับไม่ได้เมื่อบุตรสาวของตัวเองเปลี่ยนไปเป็นคนอื่น นี่มันช่างเป็นเรื่องเหลวไหล!

“หรงอัน เจ้าจำได้ไหมตอนที่ฟางเฟยฟื้นขึ้นมาจากจมน้ำแล้วนางจำเรื่องอะไรไม่ได้เลย พูดอะไรก็ไม่มีใครเข้าใจนาง อีกทั้งนิสัยเปลี่ยนไปราวกับคนละคน” นางเซี่ยกล่าว

“หากตอนนี้เซี่ยฟางเฟยไม่ใช่บุตรสาวของข้า แล้วนางอยู่ที่ไหน..”

“ไม่…นางเป็นบุตรสาวของข้า” เซี่ยหรงอันกุมหัวและพึมพำ

….

ไต้ซือหวู่หยานไม่ได้อยู่ที่จวนสกุลเซี่ยนานนัก ไม่ช้าเขาก็ออกไปจากจวนเซี่ย

เมื่อเขาเข้าไปในบ้านหลังหนึ่ง ไต้ซือผู้นั้นเปลี่ยนเป็นเด็กหนุ่มในชุดสีดำ ที่น่าทึ่งมากก็คือไม่มีใครจำเขาได้เลยแม้แต่น้อย ถึงจะเห็นหน้าแต่ทุกคนจะลืมเขาไปทันที ไม่นานนักร่างของเขาก็หายไป เขาไปปรากฏตัวอีกครั้งที่จวนอู่โหว

เด็กหนุ่มเข้าไปในห้องๆ หนึ่ง ที่นั่นมีคนผู้หนึ่งยืนหันหลังมองออกไปนอกหน้าต่าง

“นายหญิงขอรับ”

ถังหลี่ปิดหน้าต่างหันกลับมา

“ฉือซื่อ เป็นอย่างไรบ้าง?” ถังหลี่ถาม

ฉือซื่อเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ถังหลี่ฟัง

“เซี่ยหรงอันไม่เชื่อว่าบุตรสาวของตนถูกผีสิงขอรับ”

“แล้วเขาตกลงร่วมมือกับเว่ยชิงชูหรือเปล่า?” ถังหลี่ถาม

“เรื่องนี้เขายังไม่ตัดสินใจขอรับ”

“เขากำลังสงสัย แต่ยังไม่อยากยอมรับ” ถังหลี่พูดขึ้น

เขาคงรับไม่ได้ เมื่อรู้ว่าบุตรสาวเพียงคนเดียวของตัวเองไม่ใช่คนเดิมอีกต่อไป เมื่อความจริงได้เปิดเผยขึ้นมา ความเข้มแข็งในจิตใจของเขาคงจะพังทลายลง เซี่ยหรงอันช่างน่าสงสารจริงๆ

ตอนนี้เขากำลังต่อสู้กับความสงสัยที่ได้เกิดขึ้นในหัวใจของเขา ซึ่งมีทางออกอยู่สองทาง หนึ่งเขายอมรับมันด้วยความเจ็บปวด และทางออกที่สองคือล้างสมองของตนเองพยายามเชื่อและตอกย้ำว่าคนผู้นี้คือบุตรสาวของตน ไปพบเว่ยชิงชูและช่วยเซี่ยฟางเฟย

ถังหลี่ไม่รู้ว่าวิญญาณของเซี่ยฟางเฟยแท้จริงแล้วกลับชาติมาเกิดหรือยัง? หรือจะเป็นวิญญาณที่เร่ร่อน

“พาข้าไปดูสถานที่ที่เซี่ยฟางเฟยตกน้ำหน่อยเถอะ”

ถังหลี่เป็นคนที่ชอบลงมือทำเลย หลังจากที่นางครุ่นคิด นางจึงได้เดินทางไปยังสถานที่เกิดเหตุเมื่อหกปีก่อนนั้น เมื่อถังหลี่ตรวจสอบก็พบว่าเซี่ยฟางเฟยไม่ได้ตกน้ำเพราะอุบัติเหตุ แต่เป็นการกระโดดลงไปเพื่อช่วยชีวิตใครบางคน…

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้แสดงให้เห็นว่าคุณหนูเซี่ยเป็นคนดีมากจริงๆ แต่นางกลับถูกหญิงสาวที่ทะลุมิติมาทำลายชื่อเสียงจนย่อยยับ เป็นคนดีที่ไม่ได้รับผลตอบแทนที่ดี

ในที่สุดรถม้าก็แล่นมาหยุดริมแม่น้ำ

เมื่อถังหลี่ลงจากรถม้า นางเห็นคนผู้หนึ่งยืนอยู่ที่ริมแม่น้ำ ร่างนั้นสวมเสื้อคลุม มองเห็นหน้าไม่ชัดนัก เห็นแค่แผ่นหลังว่าเป็นหญิงสาวที่มีทาทางสง่างามเท่านั้น เมื่อถังหลี่เดินเข้าไปใกล้ นางรู้สึกคุ้นเคยอย่างประหลาด ในที่สุดถังหลี่ก็จำนางได้

“พี่ตันเหนียง”

ตันเหนียงถอดหมวกของเสื้อคลุมออก แต่ยังมีผ้าคาดเอาปิดใบหน้าไว้ครึ่งหนึ่ง เฟยให้เห็นดวงตาคู่สวยของนาง

“พี่ตันเหนียง เหตุใดท่านจึงมาอยู่ที่นี่”

“ข้าแค่อยากมาเท่านั้น …ทำไมล่ะ ข้ามาไม่ได้หรือ?” ตันเหนียงถาม

“ได้สิ ท่านสามารถมาได้ทุกวันหากท่านต้องการ” ถังหลี่กล่าวด้วยรอยยิ้ม

“ใครจะมารับลมหนาวทุกวัน” ตันเหนียงกลอกตา

พี่สาวคนนี้ทำนางพูดไม่ออกจริงๆ

อย่างไรก็ตามรูปลักษณ์ที่สง่างามและท่ากลอกตาเช่นนั้น กลับดูแล้วน่าชมและน่ารักอีกด้วย

“ข้าจะปล่อยให้พี่สาวต้องโต้ลมได้อย่างไร ข้าจะปกป้องท่านเอง” ถังหลี่เอนตัวไปหานางและทำท่าทีทะเล้น ตันเหนียงดูท่าที่กางแขนออกของถังหลี่ราวกับเป็นโล่กันลมให้นาง ก่อนจะพูดเบาๆ

“เจ้าโง่หรือ?”

แต่มุมปากใต้ผ้าคลุมนั้นกลับยกขึ้น ตันเหนียงหันศีรษะไปทางแม่น้ำ นางขมวดคิ้วราวกับว่ากำลังพยายามนึกเรื่องบางอย่างอยู่