ตอนที่ 269 ชื่อของเจ้าคือ เปี้ยนจวง! (1)
หลี่ฉางโซ่วใจเต้นแรงเมื่อได้ยินปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่เสวียนตูถอนหายใจ เขารู้สึกกระวนกระวายใจนัก
เขาเกรงว่าปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่เสวียนตูจะเข้าใจบางอย่างผิดจริงๆ
สมมุติว่า ศิษย์ของจอมปราชญ์เทพแห่งสำนักบำเพ็ญประจิมปิดกั้นร่างหลักของเขา เขาย่อมแทบจะไม่รอดพ้นจากคลื่นลูกแรก และหากรอความช่วยเหลือเพิ่มเติมในภายหลัง แล้วขาจะหวังพึ่งพาผู้ใดมาช่วยชีวิตของเขาได้บ้าง?
ดูจากรูปการณ์ในยามนี้แล้ว ย่อมมีเพียงปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่เท่านั้น!
ปรมาจารย์จอมปราชญ์เทพแห่งสำนักจะไม่ยื่นมือเข้ามาแทรกแซงเพื่อช่วยข้า ศิษย์น้อยที่ไม่ได้เป็นเซียนจินโดยตรงอย่างแน่นอน
หลี่ฉางโซ่วย่อมรู้ตัวเองเป็นธรรมดา
ดังนั้น ตามหลักแล้ว ปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่เสวียนตูจึงเป็นผู้ช่วยให้เขารอดพ้นได้ทันการณ์ในยามคับขัน!
ภายใต้สมมติฐานนี้ เว้นแต่หลี่ฉางโซวจะเสียสติไป เหตุใดเขาจะไปทำให้ผู้สนับสนุนที่ยิ่งใหญ่ของเขา ปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่ต้องขุ่นเคืองโดยไร้เหตุผล?
ต่อให้ต้องเตรียมการจริงๆ เขาก็ต้องขอให้ท่านปรมาจารย์จอมปราชญ์มีบัญชาแล้วช่วยชีวิตเขา…
แค่กๆ นั่นไม่สำคัญ!
เรื่องของผู้บำเพ็ญเหวินจิง เป็นความคิดของท่านจอมปราชญ์เทพเพียงคนเดียวเท่านั้นและไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับศิษย์ผู้บริสุทธิ์ไร้เดียงสาเช่นข้าผู้นี้ …
อย่างมากที่สุด ก็มีความสำคัญเพียงไม่เกินยี่สิบห้าในร้อยส่วนน่า!
เมื่อได้ยินปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่ถอนหายใจ หลี่ฉางโซ่วก็จัดการกับมันในทันทีด้วยสถานะที่แข็งแกร่งที่สุดของเขา… วิธีการแสดงที่ดีที่สุดก็คือ การถอดหน้ากากของเขาออกและเลิกแสดง!
หลี่ฉางโซ่วเผยสีหน้าไม่สบายใจออกมาในทันที เขาขมวดคิ้วและยิ้มขื่นพลางถอนหายใจแล้วกล่าวว่า “ท่านปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่ นอกเหนือจากที่ท่านปรมาจารย์จอมปราชญ์สั่งการแล้ว ศิษย์ไม่ได้เสนอแนะเรื่องใดเกี่ยวกับท่านอย่างแน่นอนขอรับ!”
“อย่ากังวลไปเลย” ปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่เสวียนตูกะพริบตา เขาเข้าใจประเด็นหลักแล้ว “ก่อนหน้านี้ท่านอาจารย์สั่งให้ทำอะไรหรือ?” หลี่ฉางโซ่วเหลือบสายตาไปมองด้านข้าง ครั้นเมื่อเห็นว่าปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่ไม่ได้โกรธหรือมีสีหน้าเย็นชา เขาก็รู้สึกโล่งใจในทันที
“ท่านปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่ เรื่องเป็นเช่นนี้…”
บัดนั้น หลี่ฉางโซ่วจึงเล่าถึงเรื่องการบีบผู้บำเพ็ญเหวินจิงให้มาอยู่ใต้บัญชา
และเพื่อให้จบประโยคอย่างรวดเร็ว เขาจึงชี้แจงสั้นๆ และข้ามเนื้อหาที่อาจทำให้ปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่เข้าใจผิดได้ง่าย
เขาไม่อาจพูดเรื่องยุงอย่างเปิดเผยได้…
ดวงตาของปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่เสวียนตูเต็มไปด้วยอารมณ์เมื่อได้ยินเช่นนั้น แล้วตบไหล่หลี่ฉางโซ่ว
“ฉางโซ่ว ลำบากเจ้าแล้ว!”
หลี่ฉางโซ่วงันไปเล็กน้อย
จากนั้น ปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่ก็ถอนหายใจและกล่าวว่า “ทุกครั้งที่ท่านอาจารย์จัดการเรื่องบางอย่าง เขามักจะมีคำถามมากมาย เขาอยากป้องกันปัญหาในอนาคตและตัดกรรม แต่สิ่งที่ยากที่สุดในโลกก็คือ การคิดแผนให้รอบด้าน เจ้า… ยังไม่ได้เป็นเซียนจิน และท่านอาจารย์ก็… เฮ้อ! ความจริงแล้ว ข้าน่าจะเป็นคนทำเรื่องนี้ ขอบใจเจ้า ฉางโซ่ว”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น หลี่ฉางโซ่วก็รู้สึกอับจนหนทางพลางถอนหายใจออกมาพร้อมๆ กับปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่
ดังนั้นในหออบอุ่นแห่งนั้น บรรดาเครื่องมือเวทของปรมาจารย์จอมปราชญ์เทพแห่งสำนักบำเพ็ญเต๋าหยิน… ฮึ่ย!
ปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่และปรมาจารย์เต๋าน้อยแห่งสำนักบำเพ็ญเต๋าหยินต่างก็มองเฝ้าดูกระจกเพื่อสังเกตการณ์ดูแลทุกส่วนรอบๆ วังมังกรแล้วถอนหายใจ
ในขณะนั้น ทั้งสองคนต่างก็เห็นอกเห็นใจและสงสารกันและกันจริงๆ
ทว่าดวงตาของปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่เสวียนตูยังคงฉายแววแห่งความสุขออกมาเล็กน้อย
“ฉางโซ่ว เจ้าต้องเตรียมพร้อมเรื่องข้ามผ่านทัณฑ์สวรรค์เซียนจินให้มากขึ้น” ปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่สั่งการ “ยังมีอนาคตที่ดีรอเจ้าอยู่ ข้าจะรอให้เจ้าข้ามผ่านเกณฑ์นี้ ไม่ว่าอย่างไร การมีชีวิตอยู่ย่อมสำคัญที่สุด แล้วค่อยหาโอกาสชดเชยและฝึกฝนหลังจากนั้น ก็ยังไม่สายเกินไป”
หลี่ฉางโซ่วรีบพยักหน้าและกล่าวอย่างรวดเร็วว่า “ท่านปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่โปรดวางใจ หากศิษย์ไม่มั่นใจพอ ก็จะไม่พยายามทำง่ายๆ ขอรับ”
“บัดนี้ เจ้ารากฐานดีแล้ว ความจริงแล้ว ย่อมไม่ใช่ปัญหาใหญ่”
ปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่เสวียนตูยิ้มและกล่าวว่า “อย่าลืมบอกให้ข้ารู้ก่อนที่เจ้าจะข้ามผ่านทัณฑ์สวรรค์ ข้ายังคงเป็นหนี้เจ้าตามสัญญา ข้าจะปกป้อง และไม่ปล่อยให้ผู้ใดรบกวนเจ้าในยามนั้นได้”
“ท่านปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่ ศิษย์จะทำให้ท่านยุ่งยากเมื่อถึงเวลานั้นขอรับ”
หลังจากนั้น ทั้งสองต่างก็มองหน้าแล้วแย้มยิ้มให้กัน
หลี่ฉางโซ่วสงบใจได้มากขึ้น แต่สายตาจับจ้องของปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่เสวียนตูก็ดูซับซ้อนยิ่ง
มันดูเต็มไปด้วยอารมณ์ ความสุข และความโล่งใจ…
ในที่สุด เขาก็จะตกหลุมมัน!
ในที่สุดสำนักบำเพ็ญเต๋าหยินก็จะมีคนอีกคนหนึ่งที่ทำงานให้ท่านอาจารย์ได้!
มันผ่านไปกี่แสนปีแล้วนะ…
“มานั่งสิ!”
ปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่โบกมือง่ายๆ จากนั้นเก้าอี้ไม้สองตัวและโต๊ะเตี้ยก็ปรากฏขึ้นพร้อมด้วยผลไม้เซียนอันโอชะวางอยู่บนโต๊ะนั้น
ปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่ยิ้มและกล่าวว่า “ในเมื่อเจ้าเตรียมการสำหรับงานแต่งงานของอ๋าวอี่เพียงพอแล้ว ข้าก็จะเฝ้าดูจากที่นี่ และทำตามแผนเดิมของเจ้า ไม่ต้องกลัวความผิดพลาด หากมีสิ่งใดผิดไปจากแผนของเจ้า ข้าจะลงมือช่วยเจ้าจัดการเรื่องนี้ให้ทันการณ์เอง”
หลี่ฉางโซวโค้งคำนับและรู้ว่าปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่ไม่ชอบให้ผู้ใดมากความนัก จึงนั่งลงทันที
เขาไม่ได้เอ่ยขอบคุณด้วยเหตุผลเฉพาะในเรื่องนี้เช่นกัน
หากเขาขอบท่านปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่ นั่นย่อมเป็นการขอบคุณปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่เสวียนตูที่ช่วยตัวเขาเอง และเท่ากับเป็นการรับเรื่องการช่วยให้เผ่ามังกรเข้าสู่ศาลสวรรค์มาเป็นผลงานของตัวเขาเองทั้งหมด
เมื่อเขาไม่ได้ขอบคุณเขา ก็ย่อมหมายความว่า เขาเชื่อฟังคำสั่งของท่านปรมาจารย์จอมปราชญ์ และปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่เพื่อวางแผนการของเผ่ามังกร … ในชีวิตก่อนหน้านี้ หลี่ฉางโซ่วเคยถูกสังคมทำร้ายมาหลายครั้ง แล้วเขาจะไม่ใส่ใจระมัดระวังในเรื่องนี้ได้อย่างไร?
เขาสัมผัสได้ชัดเจนว่า บัดนี้ เขาและปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่กำลังมีความสัมพันธ์ดีขึ้น…
ในไม่ช้า ขณะที่เฝ้ากระจกเพื่อคอยสังเกตสถานการณ์ พวกเขาทั้งสองก็กินเมล็ดแตงหยกน้ำแข็งพิเศษจากเผ่ามังกรและลิ้มรสสุราที่อ๋าวอี่และเจียงซื่อเอ๋อร์จะดื่มในระหว่างพิธีอภิเษกหลังจากนั้น
ชั่วเวลานั้น ปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่ก็ได้ให้ความคิดริเริ่มกับหลี่ฉางโซ่ว
หากหลี่ฉางโซ่วอยากมองไปทางใด เขาก็เพียงแค่ใส่สัมผัสเซียนรับรู้เข้าไปในกระจกบานนี้ จากนั้นเขาก็จะสามารถค้นหาได้ตามต้องการ
ในขณะนั้น แม้บริเวณโดยรอบของวังมังกรทะเลบูรพาดูสงบ แต่หลี่ฉางโซ่วกลับสังหรณ์ได้ถึงวิกฤตการณ์อันตรายร้ายแรงแล้ว
อีกฝ่ายน่าจะใช้ค่ายกลเคลื่อนย้าย ขนาดใหญ่ แผนภาพสวรรค์และปฐพีขนาดเล็ก สมบัติเฉียนคุนต่างๆ และวิธีการอื่นๆ เพื่อทำการลอบโจมตีเงียบๆ
ตามข้อมูลที่ผู้บำเพ็ญเหวินจิงให้มา วังมังกรทะเลทักษิณน่าจะถูกโจมตีก่อน แล้วตามด้วย วังมังกรทะเลบูรพา…
หือ?
เดี๋ยวก่อนนะ!
หลี่ฉางโซ่วมองดูกระจกที่อยู่ข้างหน้าเขา แล้วรู้สึกหัวเราะไม่ได้ร้องไห้ไม่ออกทันที
เขาและปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่อยากไปเก็บภาพด้วยหรือไม่? แม้จะล้อเล่น แต่หลี่ฉางโซ่วก็ยังคิดอยู่ลึกๆ
หลี่ฉางโซ่วหัวเราะเยาะหยัน เขาเอาแต่คิดเรื่องงานอยู่ในใจ
ปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่เสวียนตูแห่งสำนักบำเพ็ญเต๋าหยิน จ้าวกงหมิงแห่งสำนักบำเพ็ญเต๋าเจี๋ย และหวงหลงเจินเหรินแห่งสำนักบำเพ็ญเต๋าฉาน นอกเหนือจากหวงหลงเจินเหรินแล้ว พวกเขาล้วนเป็นรุ่นใหญ่คนสำคัญที่สามารถเป็นตัวแทนของปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่แห่งสำนักบำเพ็ญเต๋าหลักที่อยู่เบื้องหลังพวกเขาได้
………………………………………………………………