บทที่ 420 ไม่ให้สีหน้าดีๆ

Lucky baby คุณพ่อ ต้องพยายามจีบแม่

บทที่ 420 ไม่ให้สีหน้าดีๆ

แววตาของคุณยายเปล่งประกายขึ้น มองดูเจียงหยุนเอ๋อไปหนึ่งที เผยแววตาที่สงสัย แล้วพูดว่า “ฉันว่านะ นี่ไม่ได้มาเยี่ยมเราสองคนหรอกมั้ง คงจะแอบมาดูภรรยาน้อย”

ได้ยินคุณยายพูดล้อแบบนี้ เจียงหยุนเอ๋อเริ่มมีความเขิน ส่ายหัว ทันใดนั้นก็หันไปอีกข้างหนึ่ง

“นั่นก็มีครับ ไม่ว่ายังไงแล้วภรรยาที่ขี้เหร่ก็ต้องพบพ่อตาแม่ยาย ถ้าผาไม่อยู่จะทำยังไงครับเนี่ย? การแสดงสุกๆ นี้ก็ไม่ได้ดูแล้ว?” สมองของลี่จุนถิงหมุนปรื้ด รีบตอบประโยคนี้ออกมา

ถูกลี่จุนถิงพูดแบบนี้ บรรยากาศที่มีความอึดอัดก็มีความบันเทิงขึ้นมา ต่างก็หัวเราะกันใหญ่

โดยเฉพาะคุณตาที่เห็นทั้งสอง ยิ่งอยู่ที่ยิ่งปรองดองกัน สำหรับหลานสะใภ้ในอนาคตนั้น ก็มีความหวังเป็นอย่างมาก

มองดูความปรองดองที่ไม่ปกติ โม่เสี่ยวฮุ่ยที่อยู่ข้างๆ ก็เห็นอยู่ตลอดเวลา แววตาของเธอค่อยๆ มืดมิดลง ไม่มีแสงไฟเลย

“ยังไม่พอใจเรื่องเมื่อกี้อีกหรอ?” ลี่จุนซินมองดูโม่เสี่ยวฮุ่ยที่สีหน้าไม่ดี เดินเข้ามาไม่กี่ก้าว และเติมไวน์มาแก้วหนึ่ง

มีความอึ้งเล็กน้อย โม่เสี่ยวฮุ่ยรับไวน์แดงมา แล้วส่ายหัว

“คุณตาคุณยายน่าจะเพราะสองสามปีนี้โดดเดี่ยวเกินไป ยากที่จะมีคนมาอยู่กับพวกเขา แน่นอนว่าจะมีความปกป้องกันหน่อย แม่ก็ไม่ต้องโมโหเกินไปแล้ว” ลี่จุนซินพูดปลอบใจ

ผ่านไปนานมากโม่เสี่ยวฮุ่ยจึงจะถอนหายใจ พูดด้วยความไม่พอใจ

“ฉันเข้าใจ แต่ว่าจุนซิน ฉันจะบอกให้ ตอนนี้น้องชายของแกกำลังสับสนอยู่ คุณตายคุณยายก็สับสนอยู่ เธอที่เป็นพี่สาว ห้ามเป็นเหมือนพวกเขาเด็ดขาด มีเวลาก็จับคู่ให้พวกเขาทั้งสองหน่อย” โม่เสี่ยวฮุ่ยดึงผมที่อยู่บนศีรษะมาเส้นหนึ่ง พูดด้วยความรู้สึกที่ไม่สามารถทำอะไรได้ แก้วไวน์ที่อยู่ในมือเคลื่อนไหวแรงมาก

ได้ยินคำพูดของโม่เสี่ยวฮุ่ยแล้ว ลี่จุนซินเงยหน้าขึ้น มองดูหนึ่งที จากนั้นก็รีบก้มหน้าลง อดเปิดปากพูดไม่ได้ว่า “คุณแม่ ที่จริงหนูอยากพูดมาตลอดเลยว่า แม่ แม่จะทำเกินมากเกินไปหรือเปล่า ที่จริงเจียงหยุนเอ๋อเธอเป็นคนที่ไม่แย่จริงๆ นะคะ และดูแลคุณตายคุณยายดีมาก”

“ฉัน? ทำเกินไป?” โม่เสี่ยวฮุ่ยยักคิ้ว ถามกลับด้วยความไม่อยากจะเชื่อ

“อื้ม ในเมื่อตอนนี้จุนถิงเจอผู้หญิงที่ตัวเองชอบแล้ว งั้นพวกเราควรจะอวยพรจึงจะถูก หนูรู้ว่าแม่ไม่ค่อยพอใจในตัวของเจียงหยุนเอ๋อ แต่ว่าในเมื่อจุนถิงชอบ หรือว่าพวกเราจะไปห้ามเขาหรอ?” ลี่จุนซินพูดความรู้สึกในใจออกมา

ตั้งแต่เล็ก ลี่จุนซินก็อยู่กับลี่จุนถิงมาโดยตลอด ฉะนั้นสำหรับน้องชายไข่ใบเดียวดันคนนี้ เธอรู้ดีที่สุดแล้ว ตลอดหลายปีมานี้ นี่เป็นครั้งแรกที่เอเห็นลี่จุนถิงรักคนคนหนึ่งขนาดนี้

ถึงแม้ว่าจะเป็นการกระทำเดียว ทุกอย่างที่เกี่ยวกับเจียงหยุนเอ๋อต่างก็อยู่ในสายตาของลี่จุนถิง ฉะนั้น เธอเข้าใจ แน่นอนว่าอดไม่ได้ที่จะทำร้ายเขาแบบนี้

“ยัยเด็กนี่เธอจะไปรู้เรื่องอะไร?” โม่เสี่ยวฮุ่ยชักสีหน้า พูดด้วยความรำคาญ

“ตอนนี้พวกเธออายุยังน้อย มักจะรู้สึกว่าความรักสำคัญ รอให้วันนี้พวกเธอมาถึงอายุของแม่แล้ว เธอก็จะรู้ว่า สิ่งที่สำคัญที่สุดคือเงินและอำนาจ ความรักบ้าบออะไร ต่างก็เป็นคำโกหก เพราะว่าเคยเสียเปรียบมาก่อน ฉะนั้นแม่ของเธอฉันตอนนี้ต้องให้ทางที่ดีกับพวกเธอ” โม่เสี่ยวฮุ่ยถอนหายใจ พูดด้วยความมีเหตุผล

และไม่รู้ว่าเป็นเพราะช่วงเวลาหรือเปล่า สรุปแล้ว ท่าทีของโม่เสี่ยวฮุ่ยในตอนนี้ ลี่จุนซินรู้สึกว่าเหมือนคนแปลกหน้ามาก

ความรู้สึกแบบนั้นที่ไม่รู้ว่าจะปฏิสัมพันธ์กันยังไง กำลังอยู่ในสมองของเธอ ตั้งแต่เล็กจนโตเธอไม่เคยเห็นโม่เสี่ยวฮุ่ยบ้าคลั่งขนาดนี้มาก่อนเลย

นี่เป็นครั้งแรกที่เธอเห็น

“แต่ว่าตอนนี้จุนถิงไม่มีแม้กระทั่งความรู้สึกพื้นฐานกับเคธี่ อย่าพูดว่าจับคู่เลย หนูว่าสภาพของทั้งสองในตอนนี้ แม้แต่วาสนาก็ไม่มี แล้วทำไมต้องบีบบังคับล่ะ” ลี่จุนซินพยายามพูดโน้มน้าว

โม่เสี่ยวฮุ่ยส่ายหัว พูดด้วยความยืนหยัดว่า “เรื่องแบบความรู้สึก สามารถพัฒนาได้ แน่นอนว่าไม่ใช่แค่วันเดียวก็พัฒนาออกมาได้ แต่ฉันเชื่อว่า สักวันเจ้าเด็กเคธี่นี้จะต้องทำให้เขารักเธอให้ได้”

หยุดพูดไปสักพัก โม่เสี่ยวฮุ่ยกระแอมคอ

“แต่ว่า…….”

“ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้หรือเป็นไปได้ ฉันถามเธอแค่ประโยคเดียว เธอเชื่อใจแม่เธอไหม?” โม่เสี่ยวฮุ่ยออกท่าไม้ตายออกมา

ลี่จุนซินพยักหน้า

“เชื่อก็พอแล้วไม่ต้องถามเยอะขนาดนั้น ตอนนี้ฉันยังมีเวลา จะต้องรีบดูแลคนอย่างพวกเธอให้ดีจะได้ไม่ให้พวกเธอก้าวผิด เดินทางผิด”

“เธอวางใจได้เลย ขอแค่ฉันโม่เสี่ยวฮุ่ยยังอยู่ ไม่มีทางให้ยัยมื้อที่สามนั่นกับลูกไม่มีพ่อเข้ามาในบ้านของตระกูลลี่แน่นอน เธออยากจะเข้ามา ต้องข้ามศพฉันไปก่อน” โม่เสี่ยวฮุ่ยขยับแหวนที่สว่างไสวตรงมือ แววตาของเขากลับไปหยิ่งยโสเหมือนตอนแรก ไม่ได้ทำสีหน้าดีๆ เลย

ลี่จุนซินลังเลไปสักพัก ยังคิดอยากจะพูดอะไรบางอย่าง ปรากฏว่าถูกโม่เสี่ยวฮุ่ยห้ามไว้

“ฉันรู้ว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ แต่ว่าแม่ ขอเตือนให้แกเชื่อฟังฉัน พวกเธอต่างก็เป็นสุดที่รักของแม่ ฉันไม่มีทางให้พวกเธอเสียเปรียบแน่นอน”

มองไปทางโม่เสี่ยวฮุ่ยหนึ่งที ลี่จุนซินก้มหน้าดื่มไวน์ต่อ

พยักหน้าด้วยความรู้สึกไม่สามารถทำอะไรได้ สำหรับโม่เสี่ยวฮุ่ยแล้ว

อีกทางหนึ่ง ลี่จุนถิงที่กำลังจะเตรียมตัวเติมชาให้ผู้อาวุโสทั้งสอง

แววตาที่คมกริบผ่านไป ในตอนที่ไม่ได้ตั้งใจ มองเห็นโม่เสี่ยวฮุ่ยและลี่จุนซินพูดกระซิบอยู่ตรงมุม

ผ่านไปหนึ่งวินาที ใบหน้าของผู้ชายมือลง แล้วหันไปจ้องทั้งสอง

สองสามวันนี้เขาก็รู้สึกแล้วว่า ไม่ปกติมาก เคธี่มักจะหาวิธีทางสร้างปัญหาตลอดเวลา ทำให้ทั้งสองใกล้ชิดกัน อีกอย่างแต่ละครั้งก็ไม่มีช่องโหว่อะไร ทำให้เขาสงสัยมาก

แต่ก็คิดไม่ออกว่าเพราะอะไรกันแน่…….

ดูแล้ว เหมือนว่าคำตอบจะออกมาแล้ว

แต่ว่าสิ่งที่โชคดีคือเขายังคงท่าทีที่เย็นชามาโดยตลอด

หลังจากผ่านไปครึ่งชั่วโมง

หลังจากทั้งสองดื่มเรียบร้อยแล้ว ลี่จุนซินกลับไปยังที่โซฟาโต

“จริงด้วยจุนถิง ในเมื่อนายก็มาแล้ว เดี๋ยวไปส่งให้ฉันหน่อยสิ แม่แกฉันช่วงนี้ร่างกายไม่ค่อยแข็งแรง ก็จะไม่เดินเยอะแล้ว” เห็นทุกคนต่างก็เงียบลง โม่เสี่ยวฮุ่ยเดินไปยังข้างกายของลี่จุนถิง พูดเหมือนจะตั้งใจแต่ก็เหมือนไม่ได้ตั้งใจ

นึกถึงที่มาของโม่เสี่ยวฮุ่ยแล้ว ลี่จุนถิงขมวดคิ้วขึ้น แต่ในไม่ช้าก็ดีขึ้น หันข้างไปแล้วหยักหน้า

ไม่มีเรื่องก็ไม่มาหา โม่เสี่ยวฮุ่ยกลับมาหาเขาให้เขาไปส่งของ แม่คนนี้น่าจะสร้างความรักอะไรบางอย่างไว้ที่นี่แล้วแหละ

แต่ว่าในเมื่อเป็นแบบนี้ สู้แผนสอนแผนไปเลย…….

“ผมรู้แล้ว เดี๋ยวผมไปส่ง” ลี่จุนถิงตอบกลับ

เห็นหน้าลูกชายตัวเองที่ยังไม่รู้เรื่องอะไร อารมณ์ของโม่เสี่ยวฮุ่ยจึงจะค่อยๆ ดีขึ้น