บทที่ 427 ชะตากรรมของเซี่ยฟางเฟย

ไม่ว่าเซี่ยฟางเฟยจะร้องไห้มากเพียงใด นางก็ถูกบ่าวรับใช้ลากออกไป เมื่อนางจากไปแล้ว ภายในห้องเงียบลง เซี่ยหรงอันเดินไปหาเรียกชื่อนาง

“อาตัน” อาตันคือชื่อเล่นของนาง…

เดิมทีร่างนี้ไม่ได้มีนามว่าตันเหนียง แต่ในตอนที่นางจมน้ำและฟื้นขึ้นมานางจำคำว่าอาตันได้ ทุกคนจึงเรียกนางว่าตันเหนียง ตอนเด็กๆ พ่อของนางมักจะเรียกนางเช่นนี้ จมูกของเซี่ยหรงอันแสบร้อน เขาอยากกอดบุตรสาวของตนเอง

อาตัน…ทำไมถึงได้มีชะตาชีวิตลำบากถึงเพียงนี้

เขาเป็นบิดาที่ขาดความรับผิดชอบปล่อยให้เรื่องเหลวไหลเช่นนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร?

บุตรสาวของเขาต้องอยู่อย่างลำบากนานถึงหกปี ไม่รู้เลยว่านางต้องทนทุกข์ทรมานมากเพียงใด ตันเหนียงไม่ได้สนใจเขา นางผละออกจากอ้อมแขนของบิดา หันไปพูดกับนางเซี่ยว่า

“ท่านป้า ข้ากลับก่อนนะ”

“อาตัน เจ้า…” นางเซี่ยมีสีหน้าที่ซับซ้อนมาก

นางอยากจะพูดว่าบ้านของเจ้าอยู่ที่นี่ ในที่สุดเจ้าก็กลับมาบ้านแล้ว เจ้ายังจะไปที่ไหนอีก แต่นางไม่ได้พูดออกไป อาตันยังไม่ให้อภัยเซี่ยหรงอัน เป็นเพราะความผิดที่เขาเพิกเฉยต่อมารดาและตนเอง ทั้งยังจะมีเรื่องที่นางต้องพลัดพรากจากครอบครัวไปอีกด้วย นี่เป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลาและร่วมกันแก้ไขของสองพ่อลูก

ตันเหนียงเดินไปหาถังหลี่ทั้งคู่จึงได้เดินกลับออกไป

“ไปกันเถอะ”

“อาตัน ไว้ป้าจะไปหาเจ้า” นางเซี่ยเดินไปส่งตันเหนียงถึงประตูด้วยสายตากังวลเป็นห่วง

“ไม่ต้องห่วง ข้าจะดูแลแม่นางตันเหนียงเป็นอย่างดี” ถังหลี่เอ่ยรับรองกับนางเซี่ย

นางเซี่ยมองถังหลี่ ก่อนหน้าที่ถังหลี่จะพาตันเหนียงมา นางได้แนะนำตัวว่านางเป็นคุณหนูสกุลกู้ เป็นลูกสะใภ้ของอู่โหวเย่

เมื่อนางเซี่ยได้ยินว่าคุณหนูกู้มาขอพบจึงรีบออกมาต้อนรับ และได้พบกับตันเหนียงตัวจริง ตันเหนียงฟื้นความทรงจำได้เป็นเพราะได้รับความช่วยเหลือจากถังหลี่ แม้ถังหลี่จะยังอายุน้อย แต่นางมีความน่าเชื่อถือ เมื่อได้ยินหญิงสาวพูดเช่นนั้น นางเซี่ยจึงโล่งใจขึ้น

“ถ้าเช่นนั้นข้าต้องรบกวนคุณหนูกู้ด้วยเจ้าคะ” นางเซี่ยกล่าว

ถังหลี่รีบตามตันเหนียงไปที่รถม้า ระหว่างนั่งรถไป ตันเหนียงเบือนหน้าหนีนา

“พี่สาว” ถังหลี่เรียกนางหลายครั้งจนตันเหนียงรำคาญ จึงอดไม่ได้ที่จะหันมามองถังหลี่ ดวงตาของนางนั้นแดงก่ำ

“มองอะไร!” ตันเหนียงพูดห้วนอย่างหงุดหงิด

นางพูดจาด้วยน้ำเสียงไม่ดีเลย แต่ถังหลี่กับสัมผัสได้ถึงความโกรธและอับอายในน้ำเสียง อาตันผู้นี้เป็นคนเข้มแข็งมาก ทว่าหยิ่งในศักดิ์ศรีไม่น้อย

“ตอนที่ข้าจำท่านพ่อกับท่านแม่ได้ ข้าร้องไห้หนักมากจนเลือดกำเดาไหลเลย” ถังหลี่เล่าให้ฟังอย่างไม่อาย

ร้องไห้จนเลือดกำเดาไหลเลยหรือ? สภาพคงจะแย่กว่านางมากนัก ตันเหนียงยิ้มออกมา

“ยัยโง่”

“เจ้าอายุน้อยกว่าข้าหรือ?”

จู่ๆ ถังหลี่ก็จำอะไรบางอย่างได้เซี่ยฟางเฟยอายุแค่สิบเก้าปีเท่านั้น ถังหลี่อายุยี่สิบปี ตันเหนียงน่าจะเป็นน้องสาวนาง

“ตราบใดที่ร่างนี้อายุมากกว่าเจ้า เจ้าย่อมเรียกข้าว่าพี่สาว ไม่เช่นนั้นข้าจะไม่สนใจเจ้า”

ถังหลี่เข้าใจว่าตันเหนียงรักศักดิ์ศรี นางจึงคล้อยตามอย่างไม่ขัดคอ

“ได้เลยพี่สาว”

มุมปากของตันเหนียงยกโค้งขึ้นอย่างพอใจ นางจ้องถังหลี่แววตามีความซาบซึ้งขอบคุณ

“ถังหลี่ ขอบคุณเจ้ามาก”

ขอบคุณที่ช่วยให้ความทรงจำของนางกลับมา ขอบคุณที่ทำให้นางรู้ว่าตัวเองเป็นใคร หากคนผู้นั้นยังครอบครองร่างกายของนางต่อไปอีก ไม่รู้ว่าจะทำให้เกิดหายนะเช่นไร

แม้ว่านางจะไม่อยากคุยกับบิดาแต่สกุลเซี่ยคือครอบครัวของตน

นางไม่อยากให้สกุลเซี่ยถูกทำลาย หากเป็นเช่นนั้นมารดาของตันเหนียงคงเสียใจมากเช่นกัน

โชคดีเหลือเกิน…

“ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไร เรื่องของพี่ชายก็ถือว่าเป็นเรื่องของข้าเช่นกัน”

ถังหลี่ไม่ต้องการให้ผู้หญิงที่เดินทางข้ามมิติเช่นเซี่ยฟางเฟยสร้างเรื่อง ทั้งไม่อยากให้ข้าราชการน้ำดีอย่างเซี่ยหรงอันต้องหลงทางผิด จบลงด้วยชื่อเสียงที่พินาศย่อยยับ ตอนนี้นางสามารถเปลี่ยนชะตากรรมของทุกคนได้แล้ว ถังหลี่มีความสุขมาก

ตันเหนียงที่ถูกเย้าแหย่ก็มีความสุขเช่นกัน มุมปากของนางยกโค้งขึ้น แต่นิสัยที่เก็บตัวของนางจึงไม่ชอบที่จะเปิดเผยความรู้สึกให้ใครรับรู้ได้

“เสื้อผ้าเจ้าคับไปแล้ว ข้าจะกลับไปตัดชุดใหม่ให้เจ้าสักสองชุด” ถังหลี่รีบกอดแขนตันเหนียงทันที

“ขอบคุณพี่สาว”

……

จวนสกุลเซี่ย

นางเซี่ยและเซี่ยหรงอันนั่งมองหน้ากันเงียบๆ อยู่พักหนึ่ง ไม่มีใครคิดมาก่อนว่าคุณหนูเซี่ยที่อยู่ด้วยกันทุกวันจะไม่ใช่เซี่ยฟางเฟยบุตรสาวของเขา แต่เป็นคนอื่น

ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา เขาให้ความรักกับคนอื่น ทว่าบุตรสาวแท้ๆ ของตัวเองกลับตกทุกข์ได้ยากอยู่ข้างนอก ทำให้เขาสงสารบุตรสาวของตัวเองอย่างบอกไม่ถูก นี่เขาเป็นพ่อประเภทไหนกัน! เซี่ยหรงอันรู้สึกเกลียดตัวเองมากขึ้น

“หรงอัน อย่าโทษตัวเองเลย ใครจะคิดว่ามีเรื่องเช่นนี้เกิดขึ้นได้ ”

“ข้าอยากขอโทษอาตัน…นาง อาตัน…”

“นางกลับไปที่จื้ออวิ๋นโหล่วน่ะ” นางเซี่ยพูด

“พวกเราคงต้องขอบคุณนายท่านไป๋ที่ดูแลและช่วยชีวิตอาตันไม่ให้นางลำบากจนเกินไป”

นี่คือสิ่งเดียวที่นางเซี่ยรู้สึกว่าโชคดีมาก นางดีใจที่ความจริงถูกเปิดเผย ต้องขอบคุณการมาเยือนของไต้ซือหวู่หยาน หากไม่มีไต้ซือล่ะก็น้องชายของนางคงตอบตกลงและช่วยเซี่ยฟางเฟยให้พ้นคดี

ไม่เพียงแต่ทำลายชื่อเสียงตัวเองเท่านั้น เซี่ยฟางเฟยตัวปลอมยังทำลายชื่อเสียงของอาตันอีกด้วย…

ดาวหายนะของสกุลเซี่ย

โชคดีที่พวกเขายังไม่ถูกดาวหายนะดวงนี้พิฆาต เรื่องที่ยากที่สุดคือร่างกายของเซี่ยฟางเฟยมีสายเลือดของตระกูลเซี่ยไม่ง่ายเลยที่จะจัดการอย่างใดอย่างหนึ่ง

“หรงอันเจ้าจะทำอย่างไรกับนาง?” นางเซี่ยถาม

“สั่งปิดปากทั้งจวน ห้ามนางออกไปไหนอีก บอกไปว่านางป่วยหนัก” เซี่ยหรงอันกล่าว การกักบริเวณเอาไว้ในจวนเป็นทางออกที่ดีที่สุด

เซี่ยฟางเฟยถูกขังอยู่ในเรือนที่ห่างไกลตระกูลเซี่ย ภายใต้การจับตาของบ่าวรับใช้

เซี่ยฟางเฟยไม่เคยมีท่าทีที่ดีต่อบ่าวรับใช้เลยสักครั้ง

นางเคยพูดเอาไว้ว่าพวกเรามีความเป็นคนเท่าเทียมกัน อย่าได้คุกเข่าให้กันอีกเลย แต่พฤติกรรมของนางกลับตรงกันข้าม บ่าวรับใช้จึงไม่ชอบนาง

เมื่อก่อนนางเป็นคุณหนูสกุลเซี่ยผู้สูงศักดิ์ เป็นเจ้านายของจวนแห่งนี้ พวกเขาไม่อาจแตะต้องนางได้ แต่หลังจากที่เซี่ยฟางเฟยไม่ได้รับการหนุนหลังตามใจจากนายท่านเซี่ยอีกต่อไป ชีวิตของนางจึงลำบาก นางถูกกักบริเวณห้ามออกไปไหน เสื้อผ้าที่เคยหรูหรากลับกลายเป็นธรรมดา อาหารที่กินก็ไม่ใช่รสดีเลิศอะไร บ่าวรับใช้ไม่เห็นหัวนาง พวกเขาต่างรุมกลั่นแกล้งรังแก แม้ว่านางจะพยายามเป็นอย่างมากที่จะขอเข้าพบนายท่านเซี่ยอีกสักครั้ง ไม่ว่าจะใช้เล่ห์กลอย่างไร เขาก็ไม่เคยมาหานางอีก

แต่เซี่ยฟางเฟยยังไม่ยอมรับ นางคิดว่าตอนนี้ร่างกายของนางเป็นคนสกุลเซี่ย นางจึงขู่ว่าจะฆ่าตัวตาย