ตอนที่ 433 ใครคือผู้บงการเบื้องหลัง

สตรีมเมอร์สาว กินพิชิตอวกาศ

ตอนที่ 433 ใครคือผู้บงการเบื้องหลัง

ตอนที่ 433 ใครคือผู้บงการเบื้องหลัง

ชิงเย่สวมเสื้อคลุมตัวหลวมที่ดูสง่างาม คางของเขาดูอ้วนท้วมและมีชั้นใหญ่พิเศษจนทำให้เขาดูกลมมาก แหวนหยกโบราณสวมอยู่บนนิ้ว รองเท้าบูทได้รูปปักลวดลายสวยงาม

โรงงานขนมเปิดตัวเป็นที่เรียบร้อย ในขณะที่เขานั่งอยู่ในห้องทำงานใหม่เอี่ยม มองดูเว็บไซต์ขายของโบราณ

เงินในกระเป๋าที่อัดแน่นทำให้ครั้งนี้แตกต่างออกไป ถ้าเป็นแต่ก่อนเขาจะกล้าเปิดดูเว็บไซต์นี้หรือ?

มันคงจะทำให้เขากระอักกระอ่วนใจน่าดูหากไม่สามารถจ่ายมันได้ หรือถ้าจ่ายได้ก็คงต้องกินแกลบไปเป็นปี

แต่ตอนนี้ไม่เหมือนเดิมแล้ว! เพราะบัดนี้ห้องของเขาเต็มไปด้วยวัตถุโบราณที่เขาชื่นชอบ

ก่อนที่โรงงานขนมจะเปิดตัวขึ้น แพลตฟอร์มการซื้อขายออนไลน์นับไม่ถ้วนได้เข้ามาร่วมมือกับเขา ยังไม่รวมถึงร้านสะดวกซื้อทางกายภาพทั่วไป พวกเขาเข้ามาร้องขอเพื่อต้องการเป็นผู้ขายส่งขนมดังกล่าว

เงินใต้โต๊ะทุกประเภทและสินบนทุกชนิดเกือบทำให้เขาไม่สามารถยืนหยัดกับหลักการได้ แต่โชคดีที่เขาอดกลั้นจนผ่านช่วงเวลานั้นมาได้!

ขนมของสวี่หลิงอวิ๋นมีหลายชนิดมาก ไม่ว่าจะเป็นปลาเส้น เป็ดตุ๋นหม่าล่า พุดดิ้ง ชานม หมูแผ่น ผลไม้อบแห้ง มันฝรั่งทอดกรอบ…

ขนมแค่ชนิดเดียวยังกินไม่พอ แล้วนับประสาอะไรกับขนมที่หลากหลายเช่นนี้? ผู้คนจากห้วงดวงดาวแห่งนี้จะไปเคยเห็นขนมที่หลากหลายขนาดนี้ได้ที่ไหน?

ในบรรดาขนมขบเคี้ยวมากมายเหล่านี้ ขนมที่ผู้คนโปรดปรานก็คือปลาเส้น!

ถูกต้อง ปลาเส้นรสเป็ดของสวี่หลิงอวิ๋นได้พิชิตใจผู้คนเป็นที่เรียบร้อย แม้กระทั่งสุดยอดมือสังหารของจักรวาลแห่งนี้!

ในทางกลับกัน สวี่หลิงอวิ๋นเริ่มจัดเตรียมผลิตภัณฑ์เครื่องปรุงรสอีกครั้ง เธอกำลังจะเปิดรับร้านค้าปลีกรายย่อย!

ทันทีที่ข่าวการเปิดรับร้านค้าปลีกรายย่อยแพร่กระจายออกไป เจ้าของร้านอาหารจำนวนนับไม่ถ้วนจากเขตดาวต่างแดนก็ถูกดึงดูดจนรีบเข้ามาขอความร่วมมือ

สวี่หลิงอวิ๋นไม่จำเป็นต้องพูดอะไร เพียงแค่ค่าตัวแทนจำหน่ายก็ทำให้เธอได้รับเงินเป็นกอบเป็นกำแล้ว นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์เครื่องปรุงรสที่ทำให้เธอสามารถค้าขายได้ทุกวันจนกลายเป็นชนชั้นสูงของเคทเลอร์!

ในขณะเดียวกัน เธอได้พบกับองค์ชายรองในคำเล่าขานด้วย

องค์ชายรองเป็นคนอ่อนโยนอย่างที่อวี้ซินว่าไว้ แต่สวี่หลิงอวิ๋นกลับรู้สึกว่าเขากำลังเสแสร้งจนทำให้ผู้คนรู้สึกอึดอัดใจ

ถึงกระนั้นเธอก็ยังได้ติดต่อกับองค์ชายคนอื่น ๆ อีกด้วย

องค์ชายใหญ่เป็นคนพูดน้อย ส่วนองค์ชายสามเป็นพวกเอ้อระเหยลอยชาย

องค์ชายทั้งสามต่างมีดีคนละอย่าง และไม่ใช่องค์ชายธรรมดาแน่นอน

โธ่เอ๊ย! การเมืองแบบนี้ไม่เหมาะกับเธอเอาเสียเลย

โอคาซีแอบวิจัยทางเทคโนโลยีอยู่เงียบ ๆ และในที่สุดเขาก็ค้นพบข้อมูลครั้งใหญ่

“อะไรนะ?” สวี่หลิงอวิ๋นรู้สึกว่าสติปัญญาของเธอกำลังถูกทำลาย!

โอคาซีพยักหน้า “ใช่ครับ เป็นแบบนั้น…”

สวี่หลิงอวิ๋นมองดูกระดาษแผ่นเล็กที่เขายื่นมาให้ รู้สึกถึงหัวใจที่กำลังกระโดดออกมา เคยมีคำกล่าวบนอินเทอร์เน็ตบอกไว้ว่าคุณจะรู้ได้อย่างไรว่าคุณตกหลุมรักคนหรือตกหลุมรักหมา?!

เมื่อเธอเห็นว่าชื่อผู้บงการรายใหญ่ที่อยู่เบื้องหลังการค้ามนุษย์คือองค์ชายรอง เธอก็รู้สึกว่าตัวเองยังอ่อนประสบการณ์เกินไป!

“แน่ใจแล้วใช่ไหมคะว่าเป็นเขา? เพราะเขาเกี่ยวข้องกับจอมพลเอเดนและมนุษย์อีกนับไม่ถ้วน” สวี่หลิงอวิ๋นรู้สึกเหลือเชื่อ

โอคาซีค้นพบความลับที่ซ่อนอยู่ได้อย่างไร?

โอคาซีใช้เวลาครุ่นคิดครู่หนึ่งก่อนจะพูดขึ้น “อวี้ซินส่งข้อมูลของผู้รับส่งตราสินค้ามาให้ผมตั้งแต่เริ่มแรกที่เราติดต่อกัน ผมเริ่มตรวจสอบข้อมูลนั้นจนคัดกรองชายคนหนึ่งได้ คนคนนั้นมาจากหน่วยงานขององค์ชายใหญ่”

“เป็นคนจากหน่วยงานขององค์ชายใหญ่เหรอ?”

“ใช่!” โอคาซีจับมือเธอและพยักหน้าเล็กน้อย “คิดไม่ถึงใช่ไหม? พอหลังจากนั้นผมก็บังเอิญค้นพบระบบตรวจสอบจำนวนนับไม่ถ้วน และเห็นว่าใครบางคนได้ติดต่อกับคนสนิทขององค์ชายรอง แต่ร่องรอยบนอินเทอร์เน็ตถูกลบทิ้งไปหมดแล้ว ผมรู้สึกได้ว่าจะต้องมีอะไรไม่ชอบมาพากลที่นี่”

“ได้เฝ้าดูพวกเขาบ้างไหมคะ?” สวี่หลิงอวิ๋นถาม

“ดูอยู่ครับ” โอคาซียิ้มเบา ๆ ขณะที่รอยยิ้มดังกล่าวทำให้สวี่หลิงอวิ๋นตกตะลึง ผู้ชายคนนี้หล่อไม่บันยะบันยังตลอดเวลาเลยสินะ “ไม่กี่วันก่อนผมเห็นว่าพวกเขาเริ่มติดต่อกันอีกครั้งโดยยังคงใช้รหัสที่ผมถอดออกมา”

“ตามเนื้อหาที่ถอดรหัสออกมาได้ ผมรู้สึกว่าสถานที่ลับแห่งนี้น่าจะเป็นจุดที่พ่อค้าจับเผ่าพันธุ์มนุษย์มารวบรวมไว้ หลังจากค้นพบที่นั่น ผมก็รื้อถอดระบบป้องกันและให้อวี้ซินนำกำลังคนไปช่วยเหลือคนที่ติดอยู่ด้านใน”

“หลังจากที่ทุกคนได้รับความช่วยเหลือแล้ว ผมคิดว่าการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่นี้จะต้องรู้ไปถึงหูผู้ที่อยู่เบื้องหลังแน่ เพราะงั้นผมเลยมุ่งไปที่คนสนิทขององค์ชายรอง”

“ตอนแรกผมคิดว่าคนสนิทขององค์ชายรองน่าจะเป็นสายลับนอกเครื่องแบบที่ถูกวางตัวไว้ข้างองค์ชายรองเฉย ๆ ผมเลยใช้หุ่นยนต์นาโนเข้าไปสอดแนมบทสนทนาของเขากับคนอื่น แต่คิดไม่ถึงว่ามันจะเป็นอักษรลับ พอผมไขรหัสเข้าไปได้ถึงรู้ว่าองค์ชายรองแอบจัดการธุรกิจค้าขายมนุษย์มาตลอด”

“เขาสมรู้ร่วมคิดการค้าขายเผ่าพันธุ์มนุษย์กับชนชั้นสูงคนใหญ่คนโต แต่นามกลับไม่เคยปรากฏชื่อ” โอคาซีพูด “นั่นคือเหตุผลที่เขาแสดงตนสนับสนุนกฎหมายการค้าขายมนุษย์อย่างเปิดเผยเสมอมา ก็เพื่อให้ได้แรงสนับสนุนจากจอมพลเอเดน”

“อำนาจทางการทหารของจอมพลเอเดนมีความสำคัญต่อองค์ชายมาก องค์ชายรองถึงได้จงใจปกปิดเจตนารมณ์ที่แท้จริงของเขา เมื่อไหร่ก็ตามที่เขาได้ครองราชย์ เมื่อนั้นเหตุการณ์เลวร้ายที่คาดไม่ถึงอาจจะเกิดขึ้น!”

หลังจากที่สวี่หลิงอวิ๋นได้ยินเช่นนั้น เธออยากจะบอกว่ามันช่างเป็นโลกมายาเสียเหลือเกิน!

“แล้วท่านได้บอกข้อสันนิษฐานนี้กับจอมพลเอเดนและอวี้ซินหรือยังคะ?” สวี่หลิงอวิ๋นถาม “อีกอย่าง อวี้ซินบอกว่ามีสายลับในเผ่าพันธุ์มนุษย์ด้วย พอจะรู้ไหมคะว่าเป็นใคร?”

“ยังไม่ได้ตรวจสอบเลยครับ” โอคาซีพูด “อาจจะต้องใช้เวลาหน่อย สายลับปิดซ่อนตัวดีมากและไม่ยอมเผยตัวออกมา ถ้าอยากจะจับตัวอีกฝ่ายให้ได้ ทางเดียวที่จะทำได้ก็คือต้องสร้างสถานการณ์ขึ้นมา”

แต่จะสร้างสถานการณ์อย่างไรดี?

หากไม่สามารถจับสายลับได้ สายลับก็อาจจะตกใจและซ่อนตัวให้มิดชิดกว่าเดิม

สวี่หลิงอวิ๋นไปเยี่ยมชมตลาดมืดในวันรุ่งขึ้นอีกครั้ง เธอพบกับอวี้ซินระหว่างทางและยื่นกระดาษให้เขา

แผ่นกระดาษที่บันทึกข้อมูลเอาไว้ถูกส่งต่อให้อวี้ซินด้วยคำพูดที่กระชับ

อวี้ซินมองดูมัน ก่อนที่เม็ดเหงื่อจะเริ่มไหลออกมา

บอนาร์ยังคงนอนอยู่ในถ้ำ ตราบใดที่มีมันอยู่ มนุษย์ก็ไม่ต้องเผชิญหน้ากับปัญหาอะไร

เดิมทีอวี้ซินจะส่งมนุษย์พวกนี้ไปยังจักรวรรดิดวงดาวภายในสองวัน แต่ตอนนี้เขากลับเปลี่ยนใจทันทีที่เห็นกระดาษแผ่นดังกล่าว

พวกเขาได้ช่วยเหลือมนุษย์พวกนี้มาสักพักหนึ่งแล้ว และหากเขาเร่งรับไปที่จักรวรรดิดวงดาว เขาอาจจะถูกซุ่มโจมตีระหว่างทางได้

แม้ว่าพวกเขาจะมีบอนาร์ แต่ตัวแปรระหว่างทางกลับมีมากจนเกินไป นอกจากนี้ สิ่งสำคัญที่สุดที่ควรทำในตอนนี้คือการตามจับสายลับ

อวี้ซินไม่เข้าใจว่าทำไมคนที่เป็นสายลับจะต้องฆ่าพวกเดียวกันด้วย?

เขาอุทิศตนในการปลดปล่อยเผ่าพันธุ์มนุษย์ แต่กลับไม่เข้าใจว่าทำไมคนบางคนถึงได้ฉุดรั้งไม่ให้เผ่าพันธุ์มนุษย์ก้าวไปข้างหน้า?