บทที่ 422 ถูกมองทะลุปรุโปร่ง

Lucky baby คุณพ่อ ต้องพยายามจีบแม่

บทที่ 422 ถูกมองทะลุปรุโปร่ง

เคธี่มองไปที่สีหน้าแววตาของลี่จุนถิง ก็พอรู้ว่าเขาอาจจะเห็นด้วยกับสิ่งที่เธอพูด และดูเหมือนว่าคำพูดของเธอจะมีประโยชน์ขึ้นมาบ้างแล้ว

“ในเมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว ทางเราจะแก้ไขข้อบกพร่อง แต่ก็หวังว่าบริษัทของคุณจะแสดงออกถึงความจริงใจด้วย” ร่วมมือกับคนที่ใจถึงอะไรมันก็ง่ายตามไปด้วย

“แน่นอนค่ะ”เคธี่ดีดนิ้ว “ฉันจะหาโอกาสให้คุณได้เจอกับคุณพ่อ โครงการนี้ท่านเป็นคนรับผิดชอบ ฉันก็แค่แสดงความคิดเห็น การตัดสินใจทุกอย่างขึ้นอยู่ที่ท่าน”

“ได้ครับ ขอบคุณ คุณเคธี่มาก”ลี่จุนถิงพยักหน้าอย่างพึงพอใจ

โครงการนี้เป็นประโยชน์อย่างยิ่งกับบริษัทดังนั้นทั้งสองจึงได้บรรลุข้อตกลงกันอย่างรวดเร็ว

หลังจากที่ผ่านกันพูดคุยกันไปไม่นาน ปฏิกิริยาที่ลี่จุนถิงมีต่อ เคธี่ก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย

ไม่ถือว่าสนิทกันมากขึ้น แต่ความรังเกียจที่เคยมีมาก่อนหน้าก็ดูจะเบาบางลง

ในใจลึกๆของเคธี่ก็พอใจกับปฏิภาณไหวพริบของตัวเองอยู่ไม่น้อย

เมื่อเห็นว่าทั้งสองคนคุยกันได้พอประมาณแล้ว ลี่จุนซินก็เอ่ยพูดว่า:“ เห็นทั้งสองคนคุยกันมาสักพักแล้ว เราไปทานข้าวด้วยกันไหม?”

เคธี่มองไปยังลี่จุนซินแวบหนึ่ง สายตาสื่อออกถึงการชื่นชมไปให้ พี่น้องที่แสนดีของเธอก็ยังถือว่าฉลาดอยู่บ้าง แถมเปิดโอกาสให้เธออีกด้วย

ลี่จุนซินไม่รู้ว่าการที่เธอทำแบบนี้มันถูกต้องแล้วหรือไม่ เธอเองก็รู้สึกผิดต่อเจียงหยุนเอ๋อไปด้วย แต่ที่ทำแบบนี้ก็เพื่อให้เคธี่กับลี่จุนถิงได้คุยเรื่องงานกันให้เรียบร้อย ตีเหล็กมันก็ต้องตีตอนร้อนๆ

เพราะโครงการนี้ ลี่จุนซินเองก็คาดหวังให้ลี่จุนถิงคุยให้มันสำเร็จ

หากเป็นเมื่อก่อน ลี่จุนถิงคงไม่เห็นด้วยเป็นแน่ แต่สถานการณ์ในวันนี้มันเป็นกรณีพิเศษ ลี่จุนถิงก็หวังจะให้เรื่องนี้จบและสำเร็จไปโดยเร็วที่สุด

ลี่จุนถิงลุกขึ้นทันที ไปที่ราวหยิบเสื้อสูทขึ้นมา :“ได้ครับ งั้นเราไปกินข้าวด้วยกัน ผมเป็นเจ้ามือเอง”

พอพูดจบก็เดินออกจากห้องทำงานไปให้ซู่จี้งยี้จัดการเรื่องร้านอาหารให้ทันที

พอลี่จุนถิงเดินออกไปแล้วเคธี่ก็กระโดดไปยืนข้างๆลี่จุนซิน คล้องไปที่แขนของเธอแล้วเอ่ยอย่างตื่นเต้นไปว่า :“พี่น้องที่ดีของฉัน วันนี้เธอทำได้ดีมาก ”

พูดจบก็หอมแก้มลี่จุนซินไปหนึ่งฟอดแล้วก็เดินตามลี่จุนถิงออกไป

ลี่จุนซินที่มีอาการขวยเขินไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือไม่หัวเราะดี หยิบกระจกออกมาแล้วเช็ดรอยลิปสติกบนใบหน้า แล้วก็เดินตามหลังไป

ซู่จี้งยี้เป็นคนที่ช่างเลือก เขาเลือกโรงแรมที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่ง

แม้ว่าการตกแต่งของโรงแรมจะค่อนข้างทันสมัย แต่เมื่อเทียบกับผู้หญิงแล้ว แบบนี้ก็ถือว่าเหมาะสมดี

ยิ่งไปกว่านั้นสภาพแวดล้อมแบบนี้ไม่เพียงแค่คุยเรื่องงาน แต่ก็ยังเหมาะแก่การมาผ่อนคลายได้ด้วย เข้ากับสถานการณ์ในตอนนี้ของลี่จุนถิง

เดิมทีว่าจะพาเคธี่ไปกินอาหารฝรั่ง เพราะเป็นคนต่างชาติ แต่พอถามความเห็นของเคธี่เคธี่บอกว่าเธอชอบอาหารจีนมากกว่า ซู่จี้งยี้จึงได้ตัดสินใจจองที่นี่

“นั่งลงเถอะ ไม่ต้องเกรงใจนะ น้องชายฉันเป็นเจ้ามือ เราจะได้จัดหนักกันสักหน่อย” ลี่จุนซินดึงเก้าอี้ออกและนั่งลง

“วางใจเถอะ ฉันไม่เกรงใจหรอก ”เคธี่พูดแล้วมองไปยังลี่จุนถิง

ลี่จุนถิงใบหน้ายังคงเรียบนิ่งไม่เปลี่ยน ดึงเก้าอี้ออกแล้วก็นั่งลง การเคลื่อนไหวยังคงสง่างาม ราวกับเจ้าชายที่เดินออกมาจากภาพวาด

เนื่องจากลี่จุนถิงเป็นลูกค้าวีไอพี อาหารอันโอชะมากมายจึงถูกนำมาเสิร์ฟอย่างรวดเร็ว

“คุณชายลี่ คุณอยากจะพบกับพ่อฉันยังไงดีคะ ?”เคธี่เริ่มเอ่ยถามลี่จุนถิง ให้ลี่จุนถิงเลือกโอกาสที่เขาคิดว่าตัวเองจะได้เปรียบมากที่สุด

ลี่จุนถิงที่ตั้งใจกินข้าวอยู่ :“คุณจัดการได้เลย”

สำหรับลี่จุนถิงแล้วสถานที่ไหนก็ไม่ได้สำคัญอะไร แต่มันอยู่ที่ว่าอีกฝ่ายจะยอมรับในตัวเขาหรือเปล่ามากกว่า แน่นอนว่าเขาไม่จำเป็นต้องกังวล

“บังเอิญพ่อฉันจะกลับมาในอีกสองวันนี้ และจะมีงานเลี้ยงต้อนรับ งั้นคุณก็มาตอนนั้นแล้วกัน”

ลี่จุนถิงพยักหน้า

หลังจากนั้น ก็ไม่ได้คุยเรื่องงานกันอีก บรรยากาศที่น่าอึดอัดก็เกิดขึ้นมาทันที

เคธี่ลองเอ่ยถามเกี่ยวกับเรื่องส่วนตัวของลี่จุนถิง ลี่จุนถิงที่ตอบบ้างไม่ตอบบ้างหรือตอบก็เป็นเพียงคำสั้นๆ

เมื่อลี่จุนซินเห็นว่าเคธี่เริ่มไม่พอใจแล้วเธอจึงได้เปลี่ยนเอาเรื่องอื่นมาคุยแทน จึงพอให้คลายความตึงเครียดลงไปได้บ้าง

แต่เคธี่เองก็ไม่ได้คิดมากอะไร รู้ตัวว่าก้าวก่ายเขามากเกินไป จึงแสร้งทำเป็นคุยกับลี่จุนซินและไม่ได้สนใจอะไร

หลังจากทานอาหารเสร็จ เคธี่ดูเหมือนจะไม่ได้คำตอบอะไรเพิ่มเติม แต่ก็ยังดีที่ทัศนคติของลี่จุนถิงที่มีต่อเธอนั้นเปลี่ยนไป

วันงานเลี้ยงต้อนรับก็มาถึง

วันนี้เคธี่ตื่นเช้าเป็นพิเศษ เธอมาทำสปา เพราะอยากจะแต่งตัวออกมาให้ดูดีที่สุด พอปรากฏตัวขึ้นก็หวังว่าจะสร้างความประหลาดใจและตกตะลึงให้กับลี่จุนถิงได้บ้าง

เคธี่มองตัวเองในกระจก ทุกคนรอบตัวต่างบอกเธอว่าเธอนั้นสวยงามเหมือนเทพธิดานางฟ้า เกิดมาพร้อมกับใบหน้าที่งดงาม ทำให้มีคนมากมายต่างหมายปองเธอและต้องการจะเข้าหาเธอ

เธอไม่เชื่อว่ารูปลักษณ์หน้าตาของเธอนั้นจะเทียบกับเจียงหยุนเอ๋อไม่ได้ และหลังจากแต่งหน้าทำผมแล้วจะยังไม่สามารถดึงดูดความสนใจของลี่จุนถิงได้

สำหรับงานเลี้ยงครั้งนี้ เคธี่ตั้งใจสั่งตัดชุดราตรีที่เหมือนกับดวงดาวบนท้องฟ้า ไล่เรียงระดับสีฟ้าจากอ่อนไปเข้ม กระโปรงประดับไปด้วยเพชร เมื่อขยับเพชรเหล่านั้นจะเปล่งแสงประกายระยิบระยับ ประหนึ่งนางฟ้าที่ลงมาจากสวรรค์

เมื่อเห็นตัวเองในกระจก ปากของเคธี่ก็ยกยิ้มด้วยความมั่นใจ

เมื่อเทียบกับการเตรียมตัวอย่างจริงจังของเคธี่แล้วลี่จุนถิงก็ดูสบายๆ เขาให้ซู่จี้งยี้เตรียมชุดสูทที่ยังไม่เคยได้ใส่มาชุดหนึ่ง สระผมแล้วเป่ามันจนเกือบแห้งก็ออกไปงานเลี้ยงทันที

ถึงแม้ว่าจะเป็นเพียงการแต่งกายที่เรียบง่าย แต่ทุกท่วงท่าก็ที่ทำให้หญิงสาวในงานเลี้ยงไม่อาจที่จะละสายตาไปได้

“คุณชายลี่”เคธี่มาถึงที่งานนานแล้ว ตอนแรกคิดว่าลี่จุนถิงจะมาเร็วกว่านี้ ไม่คิดว่าเพิ่งจะมาถึงในตอนนี้

ลี่จุนถิงได้ยินเสียงคนเรียก หันหลังกลับไป ที่แท้ก็เป็นเคธี่นี่เอง

รอบตัวเคธี่มีผู้ชายหลายคนรายล้อม พอเห็นเคธี่เอ่ยเรียกลี่จุนถิง ทุกคนสายตาต่างมองจ้องไปยังชายหนุ่ม แต่ลี่จุนถิงก็ไม่ได้สนใจกับสายตาเหล่านั้น แล้วเดินตรงเข้าไปหาเคธี่

เมื่อเคธี่เห็นลี่จุนถิงเดินมา ใจเธอก็พองโตไปด้วยความสุข เดินเข้าไปแล้วคล้องไปที่แขนของลี่จุนถิง ลี่จุนถิงมาแล้วเขาจะได้สลัดพวกผู้ชายที่น่ารำคาญเหล่านี้ออกไปเสียที

ลี่จุนถิงรู้ว่าเคธี่จงใจใช้เขาเพื่อไล่คนเหล่านี้ออกไป ดังนั้นเขาจึงไม่ได้ปฏิเสธอะไร เพราะยังไงก็คงต้องไว้หน้าเธอบ้าง

แต่พอเดินออกมาไกลแล้วเคธี่ก็ยังคงคล้องแขนลี่จุนถิงไว้ไม่ได้ปล่อย และดูเหมือนจะไม่ยอมปล่อยมันเลยด้วยซ้ำ

ลี่จุนถิงเอ่ยพูดเสียงต่ำว่า:“ คุณเคธี่ ผมมีครอบครัวแล้ว รบกวนสำรวมกิริยาท่าทางด้วยครับ”

แม้ลี่จุนถิงจะพูดถึงขั้นนี้แล้ว แต่เคธี่เองก็ยังก็ไม่คิดที่จะปล่อย:“แต่เมื่อกี้คุณก็ไม่ได้ปฏิเสธ”

พูดพลางพิงร่างตัวเองไปกับลี่จุนถิง

ลี่จุนถิงไม่ได้ยืนนิ่ง เขาหลบไปด้านข้างด้วยความรังเกียจ แล้วดึงเอามือตัวเองออกมา:“เมื่อกี้ที่ผมไม่ปฏิเสธ เพราะผมรู้ว่าคุณเคธี่จงใจใช้ผมเพื่อกันกลุ่มคนเหล่านั้นออกไป และตอนนี้คนพวกนั้นก็ไม่อยู่แล้วผมหวังว่าเราควรจะรักษาระยะห่างกันไว้ด้วย”

หลังจากถูกลี่จุนถิงเผยไต๋ออกมาเคธี่ก็ไม่ได้รู้สึกละอายแต่อย่างใด กลับพูดอย่างดื้อรั้นไปว่า:“ ถูกคุณมองออกจนได้”