บทที่ 519 ไร้คนต่อปากต่อคำ

สุดยอดชาวประมง

บทที่ 519 ไร้คนต่อปากต่อคำ

บทที่ 519 ไร้คนต่อปากต่อคำ

“พวกแกนี้มันหน้าไม่อาย ทำไมปกติฉันถึงมองไม่เห็นสิ่งที่พวกแกทำกันนะ ? ตอนนี้พอเห็นว่าศิษย์ 3 คนของพวกเราพรสวรรค์ดี ก็คิดจะแย่งไปงั้นเหรอ ! หรือว่าพวกแกลืมสิ่งที่อาจารย์ของพวกฉันทำไว้หมดแล้ว ! ไหนจะเรื่องที่แย่งคนทำอาหาร กับคนทำความสะอาดนั่นอีก ทำให้พวกเราต้องมานั่งทำกันเอง ! ”

พอฉู่เหินได้ยินก็ขมวดคิ้ว ! แม้ว่าเขาจะรู้ว่าบ้านวายุตกต่ำ แต่ก็คิดไม่ถึงว่าทั้ง 4 บ้านจะรังแกกันขนาดนี้ ! หลังจากนี้ เมื่อเขาเข้าร่วมบ้านวายุ ตนเองก็คงได้เจอกับการกลั่นแกล้งแบบนี้แน่ ! ดูท่าเขาคงต้องวางแผนการให้ดี ๆ ไม่งั้นตัวเองก็คงต้องไปทำกับข้าวและล้างห้องน้ำเองแน่ !

ต้องเข้าใจว่าเวลาฝึกฝนวรยุทธ์ของพวกเขามีค่า ใครจะเอาเวลาไปทำเรื่องแบบนั้นกัน ! เมื่อคิดถึงตรงนี้ เขาก็กลอกตาครุ่นคิดแผนการอยู่ในใจ

“ศิษย์พี่ ที่พวกคุณพูดก็ไม่ถูกต้อง ฉันคิดว่าบ้านทั้ง 4 มีคุณธรรมสูงส่งทุกคน จะไปทำเรื่องไร้ยางอายแบบนั้นได้ยังไง ! จะต้องเป็นเพราะว่าพวกเขาคิดว่าพ่อครัวของเราทำอาหารไม่อร่อย ดังนั้นถึงได้เรียกพวกเขาไปอบรมสั่งสอนละมั้ง ! หรือไม่พวกเขาอาจจะกำลังหาพ่อครัวคนใหม่ให้ก็ได้”

“เพราะไม่งั้นแล้ว ฉันก็คงจะคิดว่าทั้ง 4 บ้านนั้นชั่วช้าสารเลวมากแน่ ๆ” ฉู่เหินปั้นน้ำเป็นตัว ปิดปากไม่ให้หัวหน้า 4 บ้านพูดปฏิเสธ ! พวกเขาพากันอ้า ๆ หุบ ๆ ปากอยู่นาน ไม่รู้ว่าตัวเองควรพูดยังไงดี ! ถ้าตอนนี้พวกเขาปฏิเสธฉู่เหิน มันก็จะส่งผลต่อภาพลักษณ์พวกเขา !

งั้นไม่สู้ยอมรับผลไม้พิษที่ส่งมานี้ดีกว่าหรือ ? ผ่านไปครู่หนึ่ง พวกเขา 4 คนก็ตัดสินใจได้ แต่ฉู่เหินดูออกว่ามันมีลับลมคมใน ! เขารู้สึกว่าตัวเองควรจะเพิ่มไฟเข้าไปอีกหน่อย ไม่งั้น 4 คนนี้ต้องไม่ยอมกินผลไม้ที่เขายื่นให้แน่ !

“หัวหน้าทั้ง 4 ช่างมีจิตใจเมตตา เมื่อเห็นเรื่องที่ไม่เหมาะสมก็ไม่คิดอยู่เฉย ไม่ว่าจะอยู่ต่อหน้าศิษย์เยอะแยะและพวกอาวุโสทั้งหลายหรือไม่ก็ตาม ผมขอเดานะว่าพวกคุณทั้ง 4 กำลังคิดทำเรื่องเซอร์ไพร์พวกเราอยู่ใช่ไหม ! ถ้าแล้วงั้นทางผมต้องขอโทษด้วย ผมอาจทำเกินไปหน่อยในวันนี้ เดิมทีชื่อเสียงของพวกคุณนั้นก็มีแต่เรื่องดี ๆ อยู่แล้ว ดังนั้นมันคงไม่มีทางมัวหมองเพียงเพราะถูกพวกเราพูดขึ้นมาหรอก ! พวกคุณนี่ช่างสมกับเป็นวีรบุรุษจริง ๆ ! ”

จูเก๋อเหลียงที่ยืนฟังอยู่นั้นรู้สึกไม่ชอบใจเท่าไร แต่หลังจากฟังประโยคหลัง เขาก็อดที่จะดีใจไม่ได้ ไม่ใช่เพียงจูเก๋อเหลียง ทุกคนในที่นี้เมื่อฟังก็รู้สึกตะขิดตะขวงใจไปตาม ๆ กัน ! โดยเฉพาะหัวหน้าพรรควายุอัสนี เมื่อเขาสังเกตคำพูดของฉู่เหินดี ๆ เขาก็รู้สึกว่าชายหนุ่มคนนี้ฝีปากร้ายกาจมาก ! ในที่นี้ไม่มีใครต่อกรเขาได้เลยสักคน !!!

เมื่อเป็นแบบนั้น หัวหน้าพรรควายุอัสนีจึงให้คะแนนฉู่เหินในใจ ! แต่เขาคิดว่าอาศัยเพียงคำพูดแบบนี้อย่างเดียวนั้น หัวหน้าทั้ง 4 บ้านคงไม่ยอมทำตามแน่ เพราะว่าเรื่องที่พวกเขาร่วมมือกัน มันไม่ใช่แค่วัน สองวันนี้เสียเมื่อไหร่ ! แม้ว่าเรื่องนี้จะไม่ได้เปิดเผยให้นอกรู้ แต่ทั่วทั้งพรรควายุอัสนีมีใครบ้างไม่รู้ !

แม้ว่าทุกคนจะรู้ดี แต่ใครมันจะโง่ออกหน้าแทนกันล่ะ ? เพราะถ้าขืนออกตัว งั้นก็เตรียมจบไปพร้อมกับบ้านวายุได้เลย !

ไม่ต้องพูดถึงคนอื่น กระทั่งหัวหน้าบ้านทั้ง 4 ก็ไม่กล้าเอาเรื่องนี้ออกมาพูด และแอบกระทำลับหลังแทน ! แต่มาวันนี้ เมื่อเรื่องมันแดงขึ้น เขาเชื่อว่าอาศัยความแข็งแกร่งของจูเก๋อโยวหมิง ไม่แน่ว่าอาจจะจัดการบ้านทั้ง 4 ลงก็เป็นได้ !

เพราะถ้าถูกพวกเขาอาฆาต คงมีหวังได้ปวดหัวตลอดชีวิตแน่ ๆ รังสีฆ่าฟันของคนบ้านวายุไม่ใช่เล่น ๆ และอาศัยเพียงศิษย์ของเขาไม่กี่คน ก็สามารถกำราบทั้ง 4 บ้านได้แล้ว ! ถ้าอาจารย์ของบ้านวายุเป็นคนออกโรงเองละก็ ทั่วทั้งพรรคก็ไม่มีใครควบคุมเขาได้หรอก !

ที่สำคัญก็คือ ถ้าเรื่องไปถึงขั้นนั้นละก็ พรรควายุอัสนีได้ลุกเป็นไฟแน่ ! แน่นอนว่าหัวหน้าพรรคไม่คิดอยากจะเห็นมันเกิดขึ้น !!!

ทางด้านฉู่เหินเองก็เข้าใจดี เดิมทีเขานึกว่าทั้ง 4 คนจะลดทิฐิลง และจัดการเรื่องทั้งหมดให้ถูกต้อง แต่คิดไม่ถึงว่าพวกเขาจะยังนิ่งเฉย เมื่อเห็นดังนี้ฉู่เหินก็เริ่มนั่งไม่ติดแล้ว ชายหนุ่มคิดว่าเขานั้นจะต้องใช้ยาแรงกับคนพวกนี้ซะหน่อยแล้ว !

“ทั้ง 4 ท่านมีคนเก่ง ๆ ในบ้านเต็มไปหมด น่าจะหาได้เยอะพอควรละสิ ! ตอนนี้พวกท่านคงกำลังคิดจะเลือกสักคนส่งมาให้พวกเราที่บ้านวายุอยู่สินะ ต้องลำบากท่านทั้ง 4 แล้ว เพราะผมรู้ดีว่ามันคงไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ เลยที่จะทำแบบนั้น ! ”

“ศิษย์พี่โปรดวางใจ เพราะเดี๋ยวผู้อาวุโสทั้ง 4 จะต้องเลือกมาให้พวกเราอย่างแน่นอน ! ต้องเข้าใจว่าถ้าพวกเขา 4 คนไม่ทำแบบนี้ละก็ แบบนั้นมันก็ไม่ใช่ว่าพวกเขากำลังประกาศสงครามกับบ้านวายุหรอกหรือ ! พวกเขาเป็นคนที่ทั้งฉลาดและมีคุณธรรม ดังนั้นไหนเลยจะทำเรื่องแบบนี้ได้ ! ”

“อีกทั้งที่เมื่อครู่พวกเราระเบิดอารมณ์ไป ทั้ง 4 บ้านก็คงรู้กันแล้วว่าพวกเขาควรทำยังไง และแม้ว่าฉันจะไม่ค่อยรู้กฎของพรรควายุอัสนีเท่าไร แต่เรื่องธรรมเนียมประเพณีก็พอจะรู้อยู่บ้าง ! ถ้าท่านอาจารย์ไปจิบชากับหัวหน้าบ้านอื่นสักหน่อย หรือไม่ก็ไปแลกเปลี่ยนศิลปะการต่อสู้ ผมคิดว่ามันน่าจะเป็นประโยชน์กับทั้งสองฝ่าย ! ”

เมื่อฉู่เหินพูดจบ จูเก๋อโยวหมิงที่ยืนหลืบตาอยู่ก็ลืมตาตื่นขึ้นทันที ! สายตาของเขาดูหงุดหงิดและเสียใจ ราวกับเกลียดตัวเองที่คิดหาวิธีแบบนี้ขึ้นมาไม่ได้ !

หัวหน้า 4 บ้านที่ได้ยินฉู่เหินพูด พวกเขาก็ได้แต่สาปแช่งชายหนุ่มอยู่ในใจ ! พวกเขารู้สึกว่าถูกคนคนนี้เล่นเข้าให้แล้ว โดยเฉพาะตอนที่พวกเขามองหน้าจูเก๋อโยวหมิงที่ไม่ได้มองมาด้วยสายตาที่ดีเลย ทำให้พวกเขาอดไม่ได้ที่จะตัวสั่นเทา !

พอเห็นว่าในอนาคตจะต้องเจอกับเรื่องยุ่งยากก็นั่งไม่ติดแล้ว ถ้าให้สู้กับจูเก๋โยวหมิง พวกเขา 4 คนไม่ใช่คู่ต่อสู้แน่ ๆ กระทั่งเรียกเหล่าผู้เฒ่าที่อยู่ด้านหลังพวกเขามาช่วยก็คงเปล่าประโยชน์ ! เมื่อคิดได้แบบนั้น หัวหน้าทั้ง 4 บ้านก็พากันจ้องฉู่เหินอย่างโกรธแค้น !

ทว่าที่พวกเขาโกรธที่สุดก็คือศิษย์ที่ทำหน้าที่รับเด็กใหม่นั่น ถ้าไม่ใช่เพราะปากพวกนั้นหาเรื่องฉู่เหินก่อน ชายหนุ่มตรงหน้าก็คงไม่เล่นงานพวกเขาแบบนี้ ! เมื่อคิดถึงตรงนี้ ทั้ง 4 คนก็มองศิษย์ของตัวเองอย่างกินเลือดกินเนื้อ !

ศิษย์ที่มีหน้าที่รับเด็กใหม่ขนลุกเป็นแถบ ๆ มองเห็นสายตาอาฆาตแค้นของหัวหน้าบ้านตัวเอง ก็อดตัวสั่นไม่ได้ ! ตอนนี้พวกเขาไม่มีทางเลือกมากแล้ว พวกเขาเพียงหวังว่าจะสามารถมีชีวิตรอดต่อไปเท่านั้นเป็นพอ

ทว่าพวกเขาก็รู้ดี เกรงว่าครั้งนี้พวกเขาต้องได้รับโทษแล้ว โทษสถานเบาที่สุดก็คือถูกไล่ออกจากพรรค ถ้าหนักขึ้นมาหน่อย น่ากลัวว่าต้องถูกทำลายพลังวรยุทธ์ เพราะครั้งนี้พวกเขาสร้างความเสียหายให้กับบ้านตัวเองอย่างสาหัส !

เพราะกระทั่งตอนนี้หัวหน้าทั้ง 4 บ้านก็ยังคิดว่าถ้าฉู่เหินยอมเข้าบ้านของพวกเขา พวกเขาก็จะเลี้ยงดูสั่งสอนชายหนุ่มอย่างดี ! แต่พวกเขานั้นไม่รู้เลยว่า ตั้งแต่ฉู่เหินทำการทดสอบของพรรควายุอัสนีเสร็จ ชายหนุ่มก็ไม่คิดจะเข้าบ้านพวกเขา 4 คนอยู่แล้ว ! แม้ว่าบ้านพวกเขาทั้ง 4 จะโดดเด่น แต่ก็ถูกจำกัดความเป็นอิสระ !

เมื่อเปรียบเทียบแล้ว วิทยายุทธ์อะไรเขาก็ไม่ได้ขาดแคลน สิ่งเดียวที่เขาขาดมีเพียงวิชาหายากเท่านั้น ! อย่างไรก็ตาม เขาเชื่อว่าวิชาแบบนี้ไม่ว่าบ้านใหญ่ไหน ๆ ก็มี ! แต่ถ้าเขาอยู่บ้านวายุ เขาจะมีอิสระมากกว่า ดังนั้นการเลือกนี้ในครั้งนี้จึงเป็นสิ่งที่เขาคิดมาดีแล้ว !

ยิ่งไปกว่านั้นหลังจากที่ชายหนุ่มมาถึงที่นี่ เขาก็ได้เห็นความหยิ่งยโสของทั้ง 4 บ้าน เมื่อเป็นแบบนี้เขาก็ยิ่งไม่อยากเข้าบ้านทั้ง 4 เข้าไปอีก ! กลับกับ จูเก๋อเหลียงนั้นเป็นคนที่ช่วยเหลือเขามาตั้งแต่ต้น ทำให้ฉู่เหินรู้สึกซาบซึ้งใจมาก ! ซึ่งมันก็เป็นสาเหตุหลักที่เขาเลือกเข้าบ้านวายุยังไงล่ะ !