บทที่ 518 การเลือกของฉู่เหิน

สุดยอดชาวประมง

บทที่ 518 การเลือกของฉู่เหิน

บทที่ 518 การเลือกของฉู่เหิน

เพราะเตรียมตัวมาแล้ว ดังนั้นเขาถึงได้มาเร็วกว่า ! เมื่อมาถึงตัวฉู่เหิน เขาก็คว้าชายหนุ่มมาไว้ในอ้อมแขน ! และหายตัวไปอีกครั้งก่อนจะปรากฏตัวห่างออกไปหลายไมล์ ! เมื่อร่างของเขาหายไป มันก็เป็นจังหวะเดียวกันกับที่เสาค้ำฟ้าระเบิดจนเกิดเสียงดังสนั่นพอดิบพอดี !

บนท้องฟ้าปรากฏเป็นควันรูปเห็ดขึ้น ! ลานทดสอบกลายเป็นหลุมกว้างขนาดใหญ่อันหนึ่ง มันลึกเสียจนมองไม่เห็นก้นหลุม เท่านี้ก็ทราบแล้วว่าแรงระเบิดมีอานุภาพมากมายขนาดไหน !

แม้ว่าจะพาฉู่เหินเคลื่อนย้ายมาได้แล้ว แต่ชายหนุ่มก็คล้ายจะยังตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่ เพราะเขาคิดว่าเมื่อกี้ตัวเองเกือบจะตายอยู่ตรงนั้นแล้ว ต้องเข้าใจว่าอาศัยความสามารถของตัวเองคิดจะหนีจากรัศมีระเบิดนั้นเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย เพราะแบบนี้เขาถึงรู้สึกซาบซึ้งใจจูเก๋อโยวหมิงที่ช่วยไว้ !

เพียงแต่จูเก๋อโยวหมิงนั้นคล้ายจะเย็นชาเป็นพิเศษ เขาไม่ได้รู้สึกสนใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นเท่าไร ! แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเหล่าผู้อาวุโส หรือว่าพวกหัวหน้าหน่วยต่าง ๆ พวกเขาต่างก็พากันมองฉู่เหินด้วยสายตาที่เปลี่ยนไปแล้ว !

ถ้าเพื่อคนมีพรสวรรค์ขั้น 8 คนเดียวแล้วต้องผิดใจกับตระกูลหลิว พวกเขายังลังเลไม่แน่ใจ แต่ตอนนี้ถ้าเพื่อคนที่เป็นพรสวรรค์ขั้นเทพโลหิตล่ะก็ พวกเขารู้สึกว่าคุ้มค่าที่จะเสี่ยง !

เมื่อเห็นแบบนี้พวกผู้อาวุโสและหัวหน้าบ้านทั้ง 4 ก็รีบเดินเข้าไปหาทันที ก่อนจะเริ่มโน้มน้าวฉู่เหิน ! พอเห็นฉากนี้ชายหนุ่มก็อดคิดในใจไม่ได้ว่าคนพวกนี้ช่างเห็นแก่ตัวเกินไปแล้ว ! ตอนยังไม่รู้ว่าตัวเองมีพรสวรรค์ขั้นไหน ก็พากันหลบหน้าหลบตาหนีห่างกันหมด

มาตอนนี้พอรู้ว่าตัวเองพรสวรรค์ขั้นเทพโลหิต ก็พากันเดินเข้ามารุมล้อม คนแบบนี้ทำให้เขารู้สึกขยะแขยง ! แต่คำพวกนี้เขาไม่ควรพูดออกมาไป เพราะตอนนี้เขายังมีเรื่องกับตระกูลหลิวอยู่ ไม่ควรหาศัตรูเพิ่ม !

“หัวหน้าบ้านทั้ง 4 ผมฉู่เหินไม่อาจเข้าบ้านของพวกคุณได้หรอก ! เดิมทีก่อนจะทำการทดสอบ ผมก็เลือกว่าจะเข้าบ้านของพวกคุณสักบ้านเหมือนกัน ! แต่ว่าคนที่รับผิดชอบรับคนเข้าบ้านพวกนั้นพูดว่า คนแบบผมไม่ควรอยู่ที่บ้านของพวกคุณ เหมาะแค่เพียงคนทำความสะอาดห้องน้ำเท่านั้น ! ”

“อีกทั้งยังมีคนบอกว่า ถ้าผมกล้าเข้าบ้านพวกคุณ เขาคนนั้นจะคิดหาวิธีฆ่าผมให้ได้ ! ผมเป็นเพียงเด็กกำพร้าคนหนึ่งเท่านั้น ยิ่งไปกว่านั้นผมก็ไม่อยากล้างห้องน้ำด้วย ! ดังนั้นต้องขอโทษพวกคุณทั้ง 4 แล้ว”

เมื่อได้ยินประโยคดังกล่าว ใบหน้าของหัวหน้าทั้ง 4 คนก็เปลี่ยนสี ก่อนจะหันไปมองคนทำหน้าที่รับคนใหม่ตาขวาง ! นัยน์ตายังเต็มไปด้วยรังสีฆ่าฟัน พวกเขาคิดไม่ถึงว่าตัวเองต้องพลาดเด็กหนุ่มอัจฉริยะแบบนี้ เพราะลูกศิษย์น่าตายของตัวเอง !

ศิษย์พวกนั้นใบหน้าถอดสีเป็นแถบ ๆ พวกเขารู้ชะตาตัวเองแล้วว่าต้องจบสิ้นแน่ ส่วนภายในใจของพวกเขาก็แอบคับแค้นว่าต่อไปจะไม่ประจบคนตระกูลหลิวอีกแล้ว ! แต่ก็ไม่รู้ว่ากว่าจะถึงตอนนั้นพวกเขาจะถูกแตะออกไปก่อนไหม !

สำหรับว่าคนพวกนี้จะคิดยังไงนั้น ฉู่เหินไม่ได้สนใจ เขาคิดว่ากรรมใดใครก่อก็สมควรรับกรรม ! แต่เมื่อเขาคิดจะเข้าร่วมพรรควายุอัสนีแล้ว ถ้างั้นเขาก็ต้องหาบ้านอยู่สัก 1 บ้านถึงจะถูก ! ตอนนี้ฉู่เหินมองออกว่าตัวเองมี 2 ทางเลือก 1 คือเลือกที่จะอยู่กับผู้เฒ่าสักหนึ่งคนที่อยู่ในพรรค เพราะเมื่อเป็นแบบนี้ก็ไม่ต้องสังกัดบ้านใดแล้ว !

ทว่าการแสดงออกของเหล่าผู้เฒ่าก่อนหน้านี้ ทำให้ฉู่เหินรู้สึกไม่พอใจเล็กน้อย ถ้าต้องไปอยู่กับพวกเข้า ฉู่เหินก็คงอึดอัดไม่น้อย ! ส่วนอีกทางเลือกก็คือเข้าบ้านวายุ ได้ยินมาว่าบ้านวายุสูญเสียวิชาที่สืบทอดกันมาไปแล้ว ทว่าลูกศิษย์แต่ละคนกลับมีความสามารถที่เก่งกาจทั้งนั้น !

การเข้าบ้านวายุดูจะเป็นทางเลือกดีที่สุดสำหรับชายหนุ่ม เพราะนอกจากนี้แล้วก็คงมีแต่การเป็นศิษย์ผู้สืบทอดตำแหน่งหัวหน้าพรรคเท่านั้นถึงจะอยู่ต่อไปได้ ! เพียงแต่ตำแหน่งนี้เขาไม่ได้รู้สึกอยากได้ ! มันมาพร้อมกับความรับผิดชอบมากมาย และความวุ่นวายไม่สิ้นสุด !

ดังนั้นฉู่เหินจึงไม่ต้องการเป็นผู้สืบทอด ! ว่าแล้วชายหนุ่มจึงเดินไปที่ด้านหน้าของจูเก๋อโยวหมิง

“ท่านผู้นี้ เมื่อครู่ต้องขอบคุณท่านมากที่ช่วยเหลือ ไม่งั้นเกรงว่าตอนนี้ชีวิตของผมคงจะรักษาเอาไว้ไม่ได้แล้ว ! และด้วยการช่วยเหลือของคุณ มันจึงถือได้ว่าผมและบ้านวายุมีชะตาต่อกัน ! ถ้าท่านเห็นด้วยล่ะก็ ผมอยากจะเข้าบ้านวายุได้หรือไม่ ! ” ฉู่เหินยืนผสานมืออยู่หน้าจูเก๋อเหลียง พร้อมพูดออกมาอย่างจริงจัง !

ตอนนี้จูเก๋อเหลียงเรียกได้ว่าตะลึงไปแล้ว เขาคิดไม่ถึงว่าฉู่เหินจะยินดีเลือกบ้านวายุ ! ด้วยพรสวรรค์ของฉู่เหิน เขาจะเป็นผู้สืบทอดของหัวหน้าบ้านสักคนก็ยังเหลือเฟือ ! แต่อีกฝ่ายกลับไม่ทำแบบนั้น ทว่ากลับเลือกตอบแทนบุญคุณด้วยการเข้าบ้านวายุแทน !

เมื่อเป็นแบบนี้เขาจึงรู้สึกดีกับฉู่เหินมากกว่าเดิม ! เป็นเพราะเขาชอบคนที่รู้จักตอบแทนบุญคุณ ! ว่าแล้วจูเก๋อเหลียงก็หันไปส่งสายตาให้กับอาจารย์ของตัวเอง ! อันที่จริง ถ้าอาจารย์ไม่อยู่ที่นี่ เขาก็คงจะตกลงไปแล้ว แต่ในเมื่ออาจารย์อยู่ที่นี่ด้วยในตอนนี้ งั้นก็ต้องฟังความเห็นจากเขาสักหน่อย !

“ฉันมีลูกศิษย์ทั้งหมด 8 คน ถ้านายเข้ามาก็จะกลายเป็นคนที่ 9 !” จูเก๋อโยวหมิงตอบ พอฉู่เหินได้ยินดังนั้นก็คุกเข่าลงกับพื้น และกราบเขาเป็นอาจารย์ ! พอคนอื่น ๆ เห็นฉากนี้ พวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมาด้วยความเสียดาย !

ก่อนที่สายตาของเขาพวกเขาจะกลับไปตกอยู่ที่ฉู่ตงและหลิวฮุ่ยแทน ! ทว่าฉู่ตงและหลิวฮุ่ยเองก็เดินยิ้มมาทางจูเก๋อเหลียงเช่นกัน ก่อนที่พวกเขาทั้งสองจะพร้อมใจกันพูดว่า “ศิษย์พี่ท่านนี้จะยินดีรับพวกเราทั้ง 2 คนเข้าบ้านวายุหรือไม่ ! ”

จูเก๋อเหลียงได้ยินก็ทั้งดีใจและตกใจ หลายปีมาแล้วที่บ้านวายุของพวกเขารับศิษย์ใหม่ไม่ได้เลยสักคนเดียว ไม่ต้องพูดถึงพวกที่พรสวรรค์ดี ๆ กระทั่งพรสวรรค์ธรรมดายังไม่เลือกบ้านวายุพวกเขาเลย ! แต่ตอนนี้บ้านวายุกลับมีศิษย์เข้าบ้านมาถึง 3 คน แล้วจะไม่ให้เขาดีใจได้ยังไง !

“เดิมทีในชีวิตฉันกะจะรับลูกศิษย์เยอะสุดแค่ 9 คน ! แต่ในเมื่อพวกนายเป็นเพื่อนกัน งั้นฉันก็จะรับพวกนายเป็นศิษย์ด้วยละนะ แต่แม้จะมีอาจารย์ ทว่าพวกนายก็ต้องพึ่งพาตัวเองด้วย ในอนาคตจะสำเร็จหรือไม่ขึ้นอยู่กับการกระทำของพวกนาย ! ” จูเก๋อโยวหมิงพูดพร้อมหัวเราะไปด้วย !

ราวกับฟ้าหลังฝน ! ใบหน้าเขายิ้มแย้มอย่างยินดีที่เขามีศิษย์มาใหม่ถึง 3 คน ! ส่วนทั้ง 4 บ้านที่เหลือก็ได้แต่เสียดายในสิ่งที่เกิดขึ้น !

ปกติแล้วเด็กที่พรสวรรค์ดีมักจะถูกพวกเขาแย่งไป มาวันนี้บ้านวายุกลับสามารถรับเด็กพรสวรรค์ชั้นยอดได้ 3 คน ! เมื่อเป็นแบบนี้ก็เท่ากับว่าบุญหล่นใส่หัวพวกบ้านวายุแล้ว ! พอคิดได้แบบนี้ พวกเขา 4 คนก็เริ่มหวั่นไหว !

“หัวหน้าพรรค ฉันรู้สึกว่ามันไม่ยุติธรรมเลย เราควรให้เด็กใหม่ที่มีพรสวรรค์ชั้นยอดกระจายไปที่บ้านต่าง ๆ จะให้บ้านวายุบ้านเดียวได้ยังไง ! ” หัวหน้าบ้านรวมดาราพูดขึ้นอย่างไม่สบอารมณ์

พอได้ยินประโยคนั้น สายตาของจูเก๋อโยวหมิงก็เข้มขึ้น และตามมาด้วยรังสีฆ่าฟันที่ถูกปล่อยออกมา ราวกับถ้าอีกฝ่ายพูดอีกคำเดียว เขาจะฆ่าทิ้งซะ อย่างไรก็ตาม สายตาทุกคู่ก็พากันจ้องมาที่ฉู่เหินเป็นตาเดียว ก่อนที่พวกเขาจะพากันก็พยักหน้าอย่างเห็นด้วย พอเห็นแบบนั้น ฉู่เหินก็รู้ได้ในทันทีว่าศิษย์และอาจารย์ของตัวเองนั้น ถึงแม้จะพลังวรยุทธสูง ทว่าฝีปากของพวกเขากลับย่ำแย่ยิ่ง !

“โอ้โห ไม่คิดว่าประเพณีพรรควายุอัสนีจะดีขนาดนี้ ! ถ้าแบบนี้พอเข้าพรรคไปแล้วฉันคงจะรู้สึกดีใจมาก ๆ แน่ ! เดิมขั้นตอนการรับก็ควรจะเป็นไปอย่างยุติกรรมแบบนั้นอยู่แล้ว ! แต่ทำไมบ้านวายุถึงแทบจะไม่มีศิษย์เลยกันนะ ? เอ๋ มันช่างน่าสงสัยเสียจริง ! ” ฉู่เหินพูดด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม และหัวเราะไปด้วย ซึ่งประโยคดังกล่าวมันก็ทำให้ใบหน้าของหัวหน้าทั้ง 4 บ้านย่ำแย่แบบสุด ๆ !

กลับเป็นจูเก๋อเหลียงที่ตอนแรกไม่รู้จะตอบโต้ยังไง พอได้ยินประโยคนี้ก็เหมือนจะสะกิดใจ เดินไปข้างหน้าหนึ่งก้าวพร้อมด้วยใบหน้าที่แสดงให้เห็นถึงความโมโห !