บทที่ 430 พี่สวี่เจวี๋ยนิสัยไม่ดี

ถังหลี่พิงไปที่อกกว้างของเว่ยฉิง

“สามี ทำไมท่านมาที่นี่ได้” ถังหลี่ถามอย่างอ่อนหวาน

“วันนี้ข้าเลิกงานเร็ว ตอนที่กำลังกลับข้าเห็นคนขับรถม้าจึงถามว่าเจ้ารออยู่ไหน เมื่อรู้ว่าอยู่ที่โรงน้ำชาข้าจึงมารับเจ้า” เว่ยฉิงพูดเบาๆ

“ท่านใจดีอีกแล้ว” ถังหลี่พูด

“ไหนรางวัลข้าล่ะ?”

ในขณะที่พูด เว่ยฉิงก้มหน้าเอียงแก้มเข้าหาภรรยา ถังหลี่จุมพิตเข้าที่แก้มของเขา ชายหนุ่มจูบกลับที่ใบหน้าของถังหลี่ เว่ยฉิงขี่ม้าไปช้าๆ ทำให้ทั้งสองคนได้มีเวลาพูดคุยกัน

ถังหลี่พูดถึงตันเหนียงและเล่าถึงเรื่องของตันเหนียงกับไป๋มู่หยางให้เว่ยฉิงฟัง

“ตอนนี้ตำแหน่งเจ้ากรมอาญายังว่างอยู่หรือไม่?” ถังหลี่ถามเสียงเบา

“ข้ากำลังวางหมากอยู่” เว่ยฉิงตอบ

ถังหลี่คิดว่าเว่ยฉิงจะมีโอกาสในตำแหน่งเจ้ากรมอาญา แต่เมื่อคิดอีกมุมหนึ่งเว่ยฉิงเพิ่งเข้ามายังเมืองหลวงได้ไม่นาน รากฐานอำนาจของเขายังคงไม่หยั่งรากลึก กรมอาญามีความซับซ้อน การชิงไหวชิงพริบจากทุกฝ่ายนั้นไม่ง่ายเลย จึงไม่ควรรีบร้อนเกินไป

“การสืบสวนของตระกูลเซียวเป็นอย่างไรบ้าง?” ถังหลี่ถาม

“ข้ายังไม่รู้เลย”

“ระมัดระวังด้วยล่ะ” ถังหลี่กำชับ

มีคนที่อยู่เบื้องหลังเป็นจำนวนมากที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นี้ อำนาจของพวกเขายังไม่ได้มีมากนัก พวกเขาจึงต้องก้าวทีละก้าวอย่างระมัดระวัง มิเช่นนั้นอาจจะถูกบดขยี้จนตายได้

“อืม”

ทั้งสองพูดคุยกัน ไม่นานนักก็ถึงจวนอู่โหว

“ถึงแล้ว”

เว่ยฉิงลงจากหลังม้า อุ้มถังหลี่ เขาเหวี่ยงบังเหียนส่งต่อให้บ่าวรับใช้แต่ไม่ยอมปล่อยถังหลี่พลางกอดหญิงสาวไว้แน่น

นายน้อยและฮูหยินน้อยรักกันมาก เป็นภาพที่คุ้นตาดีของบ่าวในจวนอู่โหว เว่ยฉิงอุ้มถังหลี่ไปที่ห้องนอนพร้อมกับปิดประตูทันที

เขาโน้มใบหน้าลงไปจูบถังหลี่ หัวใจดวงน้อยของหญิงสาวเต้นแรง ใบหน้าเล็กๆ ของนางแดงเรื่อขึ้นดูเย้ายวนใจ เว่ยฉิงผละออกหลังจากจูบนางจนหายใจไม่ทัน

“ไปดูซานเป่ากันเถอะ” ถังหลี่กล่าว

เว่ยฉิงจูงมือถังหลี่ไปลานฝึกซ้อมด้วยกัน เมื่อเข้าไปใกล้พวกเขาได้ยินเสียงที่เต็มไปด้วยพละกำลังของซานเป่าดังออกมา ร่างเล็กๆ กำลังรำเพลงดาบอยู่ตรงหน้า ซานเป่าสวมชุดสีดำมัดมวยผมสองข้างไว้ที่ศีรษะ นางร่ายรำเพลงดาบด้วยความกระฉับกระเฉง

ดาบที่ซานเป่าถือส่องประกายอยู่ในตอนนี้เป็นดาบจริง เงาที่สะท้อนอยู่ในดาบเป็นใบหน้าอ่อนเยาว์ของซานเป่า ดวงตาของนางมีความมุ่งมั่น ทั้งถังหลี่และเว่ยฉิงยืนมองนางด้วยความภาคภูมิใจ

“ซานเป่าของเราเก่งจริงๆ” เว่ยฉิงกล่าว

แม้อายุจะยังน้อยแต่อนาคตคงไปได้ไกลอย่างแน่นอน

“แน่นอน ซานเป่าของเราจะเป็นแม่ทัพหญิงในภายหน้านะ”

ถังหลี่พูดอย่างภูมิใจ นางสามารถจินตนาการได้ถึงรูปลักษณ์ของแม่ทัพหญิงในชุดรบนักรบถือดาบยาวมองลงมายังสนามรบเบื้องล่างได้ ถังหลี่กวาดสายตามองไปเห็นว่าตู้เย่นั่งพิงต้นไม้ด้วยท่าทีที่เกียจคร้านเขากำลังอ่านหนังสืออยู่ในมือ ถังหลี่และเว่ยฉิงเดินไปที่ด้านหน้าเห็นว่าเป็นตำราพิชัยยุทธ์เล่มหนึ่ง

แม้ว่าตู้เย่จะเกิดมาเป็นนักฆ่าแต่เขามีพรสวรรค์ในการวางแผนรบทัพจับศึกเป็นอย่างมาก ในนวนิยายต้นฉบับตู้เย่เป็นคนรอบคอบ รู้จักใช้กลยุทธ์พลิกแพลงต่างๆ นานา เหล่าทหารนับถือเขาราวกับเป็นเทพเจ้าสงคราม

ในนวนิยายเล่มนั้นซานเป่าได้รับตำราของตู้เย่โดยบังเอิญหลังจากที่นางได้เป็นแม่ทัพหญิง ซานเป่าจึงได้ใช้กลยุทธ์นี้ในการสู้รบ

แม้ในนวนิยาย ซานเป่าจะได้รับตำราศึกจากตู่เย่ หากพวกเขากลับไม่ได้เป็นศิษย์และอาจารย์กัน ถังหลี่รู้สึกเสียดาย แต่ทว่าตอนนี้ทั้งคู่ได้เป็นอาจารย์และศิษย์กันอย่างเต็มตัวแล้ว เขาสามารถสอนซานเป่าได้ด้วยตัวเอง ตู้เย่วางตำราในมือลงมองสามีภรรยาทั้งคู่

“ตำราพิชัยสงครามเป็นอย่างไรบ้าง?” ถังหลี่ถาม

“มีแต่ข้อบกพร่องมากมาย” ตู้เย่กล่าว

“ทำไมท่านไม่ลองเขียนเองล่ะ” ถังหลี่ยิ้ม ดวงตาของตู้เย่เป็นประกายเห็นได้ชัดว่าเขาสนใจมาก

“ข้าไม่ได้ฝึกฝนเกี่ยวกับมัน เพียงแค่รู้จากในตำราเท่านั้น”

“พ่อและพี่ชายคนรองของข้าอยู่ในค่ายทหาร ท่านอยากลองเข้าไปในค่ายดูไหม?” ถังหลี่ถาม ทำให้หัวใจของตู้เย่เต้นระรัว คงดีมากหากเขาได้เห็นด้วยตาของตนเอง

“ท่านพ่อท่านแม่”

ซานเป่าวิ่งเข้ามาอย่างรวดเร็วหลังจากที่รำเพลงดาบจบไปอีกหนึ่งกระบวนท่า

“ท่านอาจารย์จะไปค่ายทหารหรือ?” นางเงยหน้าขึ้นดวงตาของเด็กหญิงเป็นประกาย

“ข้าก็อยากไปเหมือนกัน”

“แต่เจ้ายังเด็ก” เว่ยฉิงพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉย

ซานเป่าหันกลับไปกอดเอวของถังหลี่และพูดอย่างหงุดหงิด

“ท่านแม่ ข้าคิดถึงท่านลุงรอง ไปหาเขากันเถอะ” เสียงของซานเป่าที่พูดกับถังหลี่นั้นออดอ้อนมากใครล่ะจะต้านทานได้ ท่านพ่อและพี่ชายของถังหลี่อยู่ในค่ายทหาร แม้ตอนนี้จะไม่มีการสู้รบ แต่พวกเขาก็ยังคงเฝ้าระวังภัย อีกอย่างหากมีตู้เย่ไปด้วยซานเป่าจะปลอดภัยแน่นอน

“หากอาจารย์ของเจ้าสัญญาว่าจะพาเจ้าไป เจ้าก็ไปได้” ถังหลี่กล่าว

ซานเป่ารีบวิ่งไปหาตู้เย่ทันที นางพยายามเอาอกเอาใจเขาทุก

“ท่านอาจารย์ ท่านเจ็บมือไหม?”

“กระหายน้ำหรือไม่ ข้าจะไปเอาน้ำมาให้นะ”

“ท่านอาจารย์มีก้อนหินขวางทางท่าน ข้าจะเอาออกให้เอง”

ถังหลี่อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา ซานเป่าประจบเอาใจตู้เย่ถึงเพียงนี้ก็พอจะรู้คำตอบแล้ว คืนนี้นางจะเขียนจดหมายไปหาท่านพ่อและพี่รองของนาง บิดาของถังหลี่รักนางมากเขาจะตามใจนางอย่างแน่นอน

ในตอนเย็นวันนั้นเว่ยจื่ออั๋งและสวี่เจวี๋ยกลับมาจากสำนักศึกษาหลวง ตอนนี้ทั้งคู่มีอายุมากขึ้นแล้ว เด็กหนุ่มทั้งสองตัวยืดขึ้นดูสูงโปร่ง เมื่อพวกเขายืนคู่กันนั้นดูเป็นหนุ่มหล่อที่ชวนหลงใหล

“ดูนี่” สวี่เจวี๋ยสะกิดเรียกเว่ยจื่ออั๋ง

เว่ยจื่ออั๋งหันไปมองและเห็นว่าเว่ยจื่ออี้กำลังเดินกลับมาจากข้างนอก ในมือถือตำราไว้ เขาก้มหน้าอ่านอย่างไม่ดูทาง เรียกความสนใจจากสวี่เจวี๋๋ยได้เป็นอย่างดี สวี่เจวี๋๋ยเหยียดเท้าไปขวางเว่ยจื้ออี้ไว้ เด็กหนุ่มหลบไม่พ้น ทำให้เว่ยจื่ออั๋งรีบไปพยุงทันทีเพราะกลัวน้องชายจะหกล้ม เมื่อตั้งสติได้เว่ยจื่ออี้ก็โมโหขึ้นมาทันที

“พี่ใหญ่ ดูพี่สวี่เจวี๋ยสิ!”

เว่ยจื่ออั๋งหันไปมองสวี่เจวี๋ยที่ตอนนี้กำลังภูมิใจกับการกลั่นแกล้งได้ เขาหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง

“บนถนนมีรถม้ามากมาย นี่ข้ากำลังสอนบทเรียนให้เจ้าอยู่นะเว่ยจื่ออี้” สวี่เจวี๋ยพูดอย่างจริงจัง

“ใช่แล้วอย่ามัวแต่ก้มหน้าอ่านตำรา ต้องคำนึงถึงความปลอดภัยด้วยนะ” เว่ยจื่ออั๋งหันไปพูดกับเว่ยจื้ออี้

เว่ยจื่ออี้”…………….”

แล้วที่เขาโดนแกล้งทุกคนจะไม่สนใจหรือ?

เว่ยจื้ออี้หันไปมองสวี่เจวี๋ยเห็นรอยยิ้มของอีกฝ่ายดูเจ้าเล่ห์มาก

พี่สวี่เจวี๋ยนิสัยไม่ดี!

…….

มื้อเย็นของครอบครัว

หลังจากทานอาหารเย็นเสร็จ ถังหลี่และเว่ยฉิงกลับไปที่ห้องนอนของพวกเขา ทั้งสองใช้เวลาอาบน้ำด้วยกันอย่างแนบแน่นเป็นเวลานาน ถังหลี่ถูกอุ้มไว้ในอ้อมแขนของเว่ยฉิง ใบหน้าของนางแดงระเรื่องงดงาม พวกเขาพูดคุยกัน

ถังหลี่เล่าให้ฟังถึงฝางเหมี่ยวโดยบอกว่าอาชีพที่นางทำอยู่นั้น ในยุคที่ถังหลี่จากมาเป็นอาชีพที่มีความสำคัญเป็นอย่างมาก เมื่อถังหลี่พูดถึงฝางเหมี่ยวนางรู้สึกคุ้นเคยกับชื่อนี้ ทันใดนั้นดวงตาของนางก็สว่างวาบขึ้น นางจำได้แล้วว่าฝางเหมี่ยวอยู่ในนิยายทั้งมีส่วนเกี่ยวข้องกับพี่ชายของนางอีกด้วย!