“ฉินฟางฟาง!” เฉินฮวนฮวนรู้สึกพอแล้ว
ฉินฟางฟาง ไม่มีครั้งไหนที่เธอจะสงบปากเลย
“ฟางฟาง เธออย่าพูดแบบนี้ ฮวนฮวนก็เพราะหวังดีกับฉัน อย่าทำให้เสียบรรยากาศ” ติงเซียงยิ้มและอธิบายว่า: “ฮวนฮวนใจดีมาก อย่าทำให้เธออับอายสิ”
“หุบปากเหอะ รำคาญ เยว่เอ่อร์มาแล้ว ฉันจะไปหาเธอ เบื่อที่จะสนใจพวกเธอ ” ฉินฟางฟางหันศีรษะแล้วเดินจากไป
เฉินฮวนฮวนพบว่ามีบางอย่างผิดปกติ เมื่อฉินฟางฟางเดินไปไกลแล้ว เธอถามว่า: “เซียงเซียง ทำไมความสัมพันธ์ของเธอกับฉินฟางฟางถึงดีขนาดนี้? ทั้งๆที่ฟางฟางปฏิบัติกับเธอแบบนั้นมาก่อน”
“โถ่ฮวนฮวน เรื่องมันก็ผ่านไปแล้ว ฉันเองก็ไม่ได้โกรธอะไรเธอ แต่ในช่วงนี้ ฉันต้องซ้อมอะไรสักอย่างกับพวกเธอ ก็เลยต้องทำดีกันหน่อย จะได้ไม่ทำให้ความสัมพันธ์อึดอัดเกินไป” ติงเซียงอธิบายหลายประโยค
เฉินฮวนฮวนขมวดคิ้วเล็กน้อย ยังรู้สึกมีบางอย่างผิดปกติ
ติงเซียงมองดูใบหน้าที่สงสัยของเธอ ดวงตาของเธอเปลี่ยนเป็นสีเข้ม และเธอกระซิบ: “ฉันแกล้งทำเป็นเอาใจพวกเธอ เข้าใกล้เพื่อจะได้ล่วงรู้แผนของพวกเธอ”
“เซียงเซียง อันที่จริงเธอไม่จำเป็นต้องทำให้พวกเธอพอใจ รู้แผนไปก็ไม่มีประโยชน์ ไม่จำเป็นต้องทำดีกับพวกเธอ” เฉินฮวนฮวนไม่เห็นด้วยกับความคิดของติงเซียง
ติงเซียงอุทาน “โอ้ย” แล้วบ่นว่า:“ตอนนี้เธอเดบิวต์คนเดียว ไม่มีใครกดดันเธอ แต่ฉันไม่ใช่ไง ฉันต้องอยู่กับพวกเธอทั้งสามคน ถ้าฉันอยากมีวันที่ดี ฉันต้องห้ามทำให้พวกเธอขุ่นเคือง”
แท้จริงแล้ว ติงเซียงเกลียดเฉินฮวนฮวนแทบตาย เฉินฮวนฮวนคุยกับกู้ไหว่ จนได้เดบิวต์เดี่ยว เธอกับฉินฟางฟางไม่เคยมีความคับข้องใจใดๆ แต่ตอนนี้เหลือเธออยู่คนเดียวในค่ายศัตรู เธอรู้สึกจะเป็นบ้า
ดังนั้น วันที่เฉินฮวนฮวนออกไปไม่ถึงวัน เธอก็ตกลงไปค่ายของฉินฟางฟาง
แต่ตอนนี้ เธอเข้าหาเฉินฮวนฮวน เป็นเพื่อนกับเฉินฮวนฮวนต่อไป เป็นงานที่ได้รับมอบหมายจากฉินฟางฟาง เพื่อให้เธอจับตาเฉินฮวนฮวนไว้
คำตอบของติงเซียง ทำให้เฉินฮวนฮวนขมวดคิ้วมากยิ่งขึ้น เธอไม่รู้ว่าจะพูดอย่างไร อย่างไรก็ตาม เธอไม่ได้อยู่ในจุดของติงเซียง คงไม่เข้าใจความรู้สึกของติงเซียง
แต่ว่า ถ้าติงเซียงและฉินฟางฟางสนิทกันมากแล้ว ถ้าอย่างงั้นก็ต้องห้ามพูดอะไรมากกับติงเซียง
“ใช่สิ ฮวนฮวน เพลงของเธอแต่งเสร็จหรือยัง? ฉันอยากฟังเธอร้องเพลงจัง” ติงเซียงถามอย่างกังวล
“เสร็จแล้ว แต่ตอนนี้คนเยอะมาก ไม่ร้องดีกว่า” เฉินฮวนฮวนไม่อยากปล่อยทำนองของเพลงออกมาล่วงหน้า
“ฮวนฮวน ฉันอยากฟังจริงๆ ร้องให้ฉันฟังหน่อยสิ นี่คนยังมาไม่ถึงครึ่งเลย เยอะที่ไหน?” ติงเซียงเขย่าแขนของเฉินฮวนฮวน ต้องร้องเพลงให้เธอ
เฉินฮวนฮวนรู้สึกว่าไม่ได้เจอกันนานกว่าครึ่งเดือน ติงเซียงดูเหมือนจะเปลี่ยนไปมากจริงๆ แม้ว่ายังมีความสัมพันธ์ที่ดีกับเธอ แต่ก็ทำให้เฉินฮวนฮวนรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ
“ลืมมันไปเถอะ ไม่ร้องดีกว่า” เฉินฮวนฮวนส่ายหัวเบาๆ
“โอ้ย ฮวนฮวน เธอทำตัวน่าเบื่อจัง! ฉันแค่อยากฟังนิดหน่อย สนองความต้องการฉันหน่อยไม่ได้เลยเหรอ?” ติงเซียงยืนกราน
“หยางหยางยังมาไม่ถึง ฉันจะไปโทรหาเธอก่อนนะ” หลังจากนั้น เฉินฮวนฮวนก็ลุกขึ้นและเดินออกไปจากห้องโถง
เมื่อเห็นว่าเฉินฮวนฮวนเมินเฉยต่อตัวเอง ติงเซียงก็กระทืบเท้าของเธออย่างดุดัน โชคดีที่เธอเปลี่ยนไปค่ายของอันเยว่ ถ้าอยู่กับเฉินฮวนฮวน เธอคงจะไม่ได้อะไรเลย
ทันทีที่ เฉินฮวนฮวนออกจากห้อง เธอก็เห็นหลินอวี่หยางเดินมาช้าๆ หลินอวี่หยางก็เห็นเธอพอดี จากเดินมาช้าๆเป็นรีบวิ่งมา
“ฮวนฮวน!” หลินอวี่หยางรีบตรงไปหาเฉินฮวนฮวนและกอดเธอทันที
ในวินาทีถัดมา ดูเหมือนเธอจะนึกขึ้นอะไรบางอย่าง รีบปล่อยเฉินฮวนฮวน และถามด้วยความกลัวว่า: “ฮวนฮวน เธอเป็นอะไรหรือเปล่า? ฉันวิ่งเข้าหาเธอแรงไปหน่อย จะเป็นอะไรไหม…”
เธอเข้าใจสิ่งที่หลินอวี่หยางพูด เฉินฮวนฮวนส่ายหัวและอธิบายว่า: “มันไม่เปราะบางขนาดนั้นหรอก”
เพราะหลินอวี่หยางและเฟิงหานชวนรู้จักกันดี ช่วงครึ่งเดือนที่ผ่านมาเธอมาที่บ้านหลายครั้ง ดังนั้นหลินอวี่หยางจึงรู้เกี่ยวกับสภาพร่างกายของ เฉินฮวนฮวน
“ฉันบอกแล้ว เธอไม่ควรเข้าร่วมการแข่งขัน ถึงแม้ฉันจะอยากให้เธอมาเป็นเพื่อน แต่ฉันคิดว่า…สุขภาพของเธอสำคัญกว่า” หลังจากหลินอวี่หยางพูดจบ เธอมองไปรอบๆ เธอกลัวว่าอาจจะหลุดปาก ทำให้คนอื่นเกิดความสงสัย
“ไม่เป็นไร ฉันแค่ร้องเพลง รายการที่ต้องเต้นฉันไม่เข้าร่วม ส่วนรอบสุดท้ายแล้วแต่โชคชะตา” เฉินฮวนฮวนยิ้มจางๆ
เธอแค่ไม่อยากเสียใจทีหลัง ตอนนี้เธอไม่คาดหวังกับอันดับหรืออะไรทั้งนั้น
อย่างไรก็ตาม เธอกำลังจะมีลูก เธอไม่มีแรงพอที่จะแข่งขันในรอบลึก และไม่สามารถจัดตั้งกลุ่มได้
“อืม ถือว่าเป็นช่วงเวลาอดิเรกแล้วกัน ฉันได้ยินมาว่าคนท้องมีแนวโน้มมักจะเป็นโรคซึมเศร้า” หลินอวี่หยางพิงหูของเฉินฮวนฮวนและพูดด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบาที่สุด
“สมเหตุสมผล อาจจะเป็นเช่นนั้น” เฉินฮวนฮวนก็พยักหน้าเห็นด้วย
ในตอนแรกเธอเกือบจะหดหู่เพราะพ่อแท้ๆของเด็ก แต่โชคดีที่เฟิงหานชวนอยู่ที่นั่นและทุกอย่างก็จบลง
…
หลังจากที่สมาชิกทุกคนมาถึงแล้ว หนี้ซวงได้จัดประชุมสำหรับทุกคนโดยพูดถึงจุดสนใจของการบันทึกรายการและขั้นตอนการแข่งขันเป็นหลัก
ทุกคนฟังอย่างระมัดระวัง นี่เป็นเพียงการประชุมธรรมดา ดังนั้นจึงไม่มีกล้องอยู่รอบๆ และไม่ใช่รายการบันทึกจริง
หลังจากประชุมเสร็จ พนักงานก็พาทุกคนไปดูสถานที่ ทำความคุ้นเคยกับรอบๆรีสอร์ท แล้วจึงแยกย้ายกันไป
ยกเว้นเฉินฮวนฮวนและเหวินหนาน ทีมอื่นๆต้องการพักในรีสอร์ทและฝึกซ้อมสักพัก เพื่อสัมผัสบรรยากาศของสถานที่จัดงาน
หลินอวี่หยางและเฉินฮวนฮวนจะออกไปพร้อมกัน แต่ทีมของหลินอวี่หยางต้องการอยู่ซ้อม หลินอวี่หยางเลยไปก่อนไม่ได้ เธอไม่ใช่คนที่ขาดความรับผิดชอบ ดังนั้นเธอจึงไม่สามารถไปกับเฉินฮวนฮวนได้
เฉินฮวนฮวนและเหวินหนานเดินไปที่ประตูรีสอร์ทด้วยกัน รถลีมูซีนค่อยๆหยุดอยู่ตรงหน้าพวกเธอ
เฉินฮวนฮวนตกตะลึง เกือบจะคิดว่าเฟิงหานชวนส่งคนมารับเธอ จนกระทั่งบอดี้การ์ดเปิดประตูรถและเรียก “คุณหนู” มองไปที่เหวินหนาน
เฉินฮวนฮวนรู้ในทันทีว่ามารับเหวินหนาน
“ฮวนฮวน บ้านเธออยู่ที่ไหน? ฉันจะไปส่งเธอ” เหวินหนานถามด้วยรอยยิ้ม
“ไม่เป็นไร เหวินหนาน เธอกลับก่อนเลย” เฉินฮวนฮวนโบกมืออย่างสุภาพและปฏิเสธ
“ฉันรู้ตัวตนของเธอ ดังนั้นเธอไม่จำเป็นต้องปิดบังอะไรฉันหรอก” เหวินหนานกระพริบตาอย่างเจ้าเล่ห์
เฉินฮวนฮวนตกใจเล็กน้อยและถามว่า: “เธอรู้ตัวตนของฉัน?”
“ใช่” เหวินหนานพยักหน้าและกล่าวว่า: “เธอเป็นภรรยาของคุณชายสามตระกูลเฟิง ใช่ไหม?”
“เธอรู้ได้อย่างไร?” เฉินฮวนฮวนประหลาดใจ
“พ่อของฉันเป็นประธานของบริษัทหวาเถิง คุณชายสามตระกูลเฟิงขอให้พ่อของฉันทำหลายเรื่อง” เหวินหนานทำหน้าบึ้ง แกล้งทำเป็นบ่น
เฉินฮวนฮวนเบิกตากว้าง ร่างกายของเธอก็นิ่งอึ้งไปทั้งตัว