ฐานะของเหวินหนานทำให้เธอประหลาดใจ คำพูดของเหวินหนาน ยิ่งทำให้เธอประหลาดใจเข้าไปอีก
บริษัทหวาเถิงก็คือผู้จัดการคัดเลือก “ไอดอลหนึ่งร้อยคะแนน” ที่เธอคิดไม่ถึงก็คือ เหวินหนานที่นอบน้อมถ่อมตนมาตลอด คิดไม่ถึงว่าจะเป็นลูกสาวของบริษัทหวาเถิง
สำคัญกว่านั้นก็คือ เหวินหนานพูดเมื่อกี้ เฟิงหานชวนให้บริษัทหวาเถิงทำเรื่องมากมาย คงเป็นเรื่องเกี่ยวกับตัวเธอทั้งนั้นมั้ง?
เป็นไปตามคาด เธอเดาไม่ผิด เฟิงหานชวนช่วยเธออยู่เบื้องหลังเงียบๆจริงด้วย ถึงขนาดไม่เคยพูดถึงเลย
“ดูแล้วเธอคงไม่รู้สิ!คุณพ่อฉันไม่ให้ฉันบอกเธอ ดังนั้นฉันทำได้เพียงทำเหมือนไม่รู้ แต่ตอนนี้ไม่มีใครอยู่ ฉันอดไม่ได้ที่จะพูดไป” เหวินหนานหัวเราะออกมา เข้าใกล้ข้างหูเฉินฮวนฮวน พูดเสียงเบา “สามีเธอดีกับเธอจังเลย!”
เฉินฮวนฮวนหน้าแดง
“เพราะฉะนั้น ฉันรู้เรื่องของเธอทั้งหมด เธอก็รู้ฐานะแท้จริงของฉันแล้ว ไม่ถือสาฉันส่งเธอกลับ?” เหวินหนานยื่นมือไปทางเฉินฮวนฮวน เชิญเธอขึ้นรถ
“เหวินหนาน ขอบใจเธอมากจริงๆ แต่คนรถกำลังเดินทางมาแล้ว ฉันรอเขาที่นี่อีกสักพักก็ได้” เฉินฮวนฮวนไม่อยากจะรบกวนเหวินหนาน และลุงเฉินกำลังเดินทางมาจริงๆ
“งั้นก็ได้ วันนี้ฉันไม่ได้เป็นผู้ปกป้องสาวงาม แล้วเจอกันใหม่!” เหวินหนานบอกลาเธอ พร้อมขึ้นรถลินคอล์นคันนั้น
เฉินฮวนฮวนก็โบกมือลาเธอเหมือนกัน
หลังจากเหวินหนานออกไป ประตูใหญ่รีสอร์ตที่ห่างไกลแห่งนี้ เหลือเพียงเฉินฮวนฮวนคนเดียว ยังมีรถที่มารอรับคนที่นี่
เพียงแต่ว่าคนขับต่างพักผ่อนอยู่บนรถ ไม่มีใครลงจากรถ
ผ่านไปสักพัก เธอเห็นป้ายรถแท็กซี่ที่คุ้นตา อยู่ตรงข้ามถนน ขับมุ่งหน้ามาทางนี้ เธอจำได้ทันที เป็นรถที่ลุงเฉินขับ
เฉินฮวนฮวนโบกมือให้รถคันนั้น พร้อมเดินไปหลายก้าว เตรียมเดินข้ามถนน
ในตอนนั้นเอง รถตู้เก่าที่อยู่ไม่ไกล ตาของชายคนขับนั้นเป็นประกาย เหมือนในที่สุดก็สบโอกาส เหยียบคันเร่งทันที พุ่งมาทางเฉินฮวนฮวน
เสียงดัง“โครม”
โลกทั้งใบเงียบสงบไป
“คุณเฉิน” ลุงเฉินเหยียบเบรก เปิดประตูรถพุ่งออกไป
เห็นเฉินฮวนฮวนนอนจมกองเลือดอยู่กลางถนน คนขับที่มารอรับอยู่รอบๆ ต่างลงจากรถมาดูสถานการณ์
มีลุงใจดี รีบจับคนขับรถตู้ที่จะหลบหนี ลุงเฉินโทรหาเฟิงหานชวนด้วยความตกใจ
…
ตอนเฟิงหานชวนรีบไปถึงโรงพยาบาลรุ่ยเอิน หมอกำลังช่วยชีวิตเฉินฮวนฮวนอยู่
เดิมวันนี้หรงจิ่นซิวต้องอยู่บ้านพักผ่อน ได้ยินข่าวเรื่องนี้ ก็รีบมาทันที ตามหลังเฟิงหานชวนมาไม่กี่นาที
“เฮียสาม เฮียใจเย็นก่อน ผมเข้าไปดูสถานการณ์ให้เฮีย ศัลยแพทย์ของโรงพยาบาลเราเก่งเรื่องผ่าตัดที่สุด” หรงจิ่นซิวตบที่ไหล่ของเฟิงหานชวน นอกจากปลอบ เขาก็ทำอะไรไม่ได้
“พาฉันเข้าไป!”เฟิงหานชวนจับแขนหรงจิ่นซิวไว้ มือเรียวนั้นกลับสั่นมากๆ
หรงจิ่นซิวลำบากใจเล็กน้อย แต่สุดท้ายก็พยักหน้า พูดกำชับ“หลังจากเข้าไปแล้ว ห้ามตื่นตระหนกเด็ดขาด ไม่งั้นจะกระทบการผ่าตัด เฮียคิดดีๆ อีกที”
“พาฉันเข้าไป ฉันอยากเจอเธอ” เฟิงหานชวนกุมศีรษะ รู้สึกเหมือนหัวใกล้จะระเบิดออกมาอย่างนั้น
เมื่อหลายชั่วโมงก่อน ผู้หญิงคนนี้ยังคุยเล่นกับเขาแท้ๆ ทำไมเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้?
ทำไม!
“เฮียต้องนิ่งไว้รู้ไหม?” หรงจิ่นซิวกดที่ไหล่เขา พูดจริงจัง“เธอไม่มีคนในครอบครัวแล้ว เฮียเป็นคน
ซัปพอร์ตเธอ เพราะฉะนั้นเฮียจะเป็นอะไรไปไม่ได้ ควบคุมอารมณ์ตัวเองไว้”
พูดจบ หรงจิ่นซิวเรียกพยาบาลคนหนึ่งมา เตรียมชุดปลอดเชื้อสองชุด เตรียมพาเฟิงหานชวนเข้าห้องผ่าตัด
ในตอนนั้น พยาบาลห้องผ่าตัด มีเลือดอยู่เต็มมือวิ่งออกมา ถามอย่างร้อนใจ “ใครเป็นญาติคนไข้ ? ใครเป็นคนไข้?”
“ผมครับ!” เฟิงหานชวนหน้าซีดขาว ริมฝีปากและมือทั้งสองข้างสั่นอยู่ เดินไร้เรี่ยวแรงไปหยุดตรงหน้าพยาบาล
หรงจิ่นซิวก็รีบวิ่งเข้าไป พวกเขาทั้งสองสวมชุดปลอดเชื้อ พยาบาลจ้องมองไป ถึงตะโกนอย่างตกใจ “รองผู้อำนวยการหรง!”
“ตอนนี้สถานการณ์เป็นยังไง?” หรงจิ่นซิวถามทันที
“สถานการณ์คนไข้เข้าขั้นอันตราย และยังตั้งท้อง ร่างกายเจ็บหนัก คงรักษาเด็กไว้ไม่ได้ และม้ามแตกต้องเอาออก” พยาบาลพูดอย่างรวดเร็ว ในมือยังจับเอกสาร พูดว่า“ตอนนี้ต้องให้ญาติคนไข้เซ็นยินยอม”
“ไม่ต้องยินยอม ให้หมอหวังผ่าตัดได้ทันที” หรงจิ่นซิวไม่สนความคิดของเฟิงหานชวน พูดออกไปทันที
“ค่ะ รองผู้อำนวยการหรง ฉันไปเดี๋ยวนี้” พยาบาลวิ่งกลับห้องผ่าตัดอย่างรีบร้อน
เฟิงหานชวนยื่นอึ้งอยู่ที่เดิม ตอนได้สติ ถอยหลังไปหลายก้าว ทรุดนั่งลงที่พื้น
ตาขาวของเขาแทบจะแดงไปหมด สองมือกุมศีรษะ สั่นไปทั้งตัว
ไม่รู้ผ่านไปนานแค่ไหน มองไฟสีแดงที่ห้องผ่าตัด เฟิงหานชวนถึงได้สติกลับมาช้าๆ มองชุดปลอดเชื้อบนตัว เขาลุกขึ้นเดินไปทางห้องผ่าตัด
“ฮวนฮวนต้องกลัวมากแน่ ๆ ฉันจะไปอยู่เป็นเพื่อนเธอ ฉัน… ”
หรงจิ่นซิวหยิบเข็มออกมา ปักเข้าไปที่หลังของเฟิงหานชวน วินาทีต่อมา เฟิงหานชวนหมดสติไป
“เฮียสาม ถึงแม้ตื่นมาเฮียจะเกลียดผม แต่ตอนนี้การผ่าตัดของเฉินฮวนฮวนต้องดำเนินการด้วยความสงบ ผมกลัวว่าหลังจากเฮียเข้าไปอารมณ์จะไม่นิ่ง เฮียพักผ่อนไปก่อนเถอะ”
หรงจิ่นซิวถอนหายใจออกมาหนักๆ ให้หลายคน พาเฟิงหานชวนไปห้องคนไข้
…
หลังจากนั้นหนึ่งวัน
เฉินฮวนฮวนลืมตาขึ้น เห็นตรงหน้าขาวโพลน
เป็นห้องคนไข้
นาทีต่อมา ความเจ็บที่ไม่จบสิ้นแล่นขึ้นมา เธอสูดอากาศเย็นเข้าไป คิ้วขมวดกันแน่น
ได้ยินเสียง เฟิงหานชวนนั่งตัวตรงทันที เห็นเฉินฮวนฮวนที่ตื่นมา เขาจับมือของเธอด้วยความตื่นเต้น
“ฮวนฮวน ฮวนฮวน…”
เมื่อวานหลังจากที่เขาตื่นมา ต่อยหรงจิ่นซิวไปหนึ่งมัด แล้ววิ่งมาห้องคนไข้ อยู่เป็นเพื่อนเฉินฮวนฮวนจนถึงตอนนี้ ไม่ห่างแม้แต่ก้าวเดียว
“อาหาน” เฉินฮวนฮวนอ้าปาก รู้สึกลำคอแทบจะเปล่งเสียงออกมาไม่ได้
“คุณรู้สึกยังไงบ้าง? เจ็บตรงไหนหรือเปล่า?”เฟิงหานชวนตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา แทบจะไม่ผ่อนคลายลงแม้วินาทีเดียว
แม้หมอจะพูด เฉินฮวนฮวนปลอดภัยแล้ว แต่เห็นผ้าสีขาวพันทั่วตัวเฉินฮวนฮวน เบ้าตาเขาก็แดงเลย
“อาหาน คุณอย่าร้อง ฉันสบายดี ไม่ได้เจ็บขนาดนั้น” แม้จะเจ็บมาก แต่เฉินฮวนฮวนยังคงกัดฟันปฏิเสธ
หยุดไปสักพัก เธอพูดขึ้นช้าๆ “เกิดอุบัติทางรถยนต์จริงๆ ฉันไม่ได้ฝันไป ฉันยังนึกว่าฉันแค่ฝันไปเอง”
เฟิงหานชวนจับมือเธอไว้ วางที่แก้มตัวเอง ร้องไห้ออกมาเงียบๆ
“จริงสิ ลูกล่ะ? ลูกยังอยู่ไหม?” นึกถึงเด็กในท้อง เฉินฮวนฮวนพลิกมือไปจับมือของเฟิงหานชวน ถามอย่างร้อนใจ
เฟิงหานชวนพูดไม่ออกไปสักพัก แล้วส่ายหน้าเงียบๆ
มือของเฉินฮวนฮวนตกลงมาทันที ห้อยอยู่ข้างเตียง หมดสติไป…