บทที่354 ตบหน้าตัวเองในทันที

จอมนางข้ามพิภพ

จอมนางข้ามพิภพ บทที่354 ตบหน้าตัวเองในทันที

“กระหม่อมอยากเชิญฝ่าบาทและเหล่าขุนนางทั้งหลายไปชิมของอร่อยกัน” หยุนเฉิงเซี่ยงกล่าว

นอกราชสำนักมีกลุ่มนางกำนัลยกจานมากมายเข้ามา ทุกคนมองดูสิ่งที่อยู่ในจานด้วยความอยากรู้อยากเห็นอย่างยิ่ง

“หยุนเฉิงเซี่ยง นี่คืออะไร?” ฝ่าบาทถามด้วยความสงสัย

“ทูลฝ่าบาท เส้นเหล่านี้เป็นมันฝรั่งที่ทอดแล้วเรียกว่าเฟรนช์ฟรายส์ และกินกับซอสมะเขือเทศจะอร่อยกว่า ไม่เสียบใหญ่ๆนี้เรียกว่ามันฝรั่งเกลียวทอด สามารถใส่เครื่องปรุงตามความชอบของตัวเอง ผงยี่หร่า เครื่องเทศ รสเผ็ดและชาล้วนได้หมด และลูกกลมๆเหล่านี้เป็นสิ่งที่ทำจากมันฝรั่ง สามารถใส่ทั้งซอสมะเขือเทศหรือเครื่องปรุงก็ได้” หยุนเฉิงเซี่ยงอธิบาย

ฝ่าบาทให้คนยกมาให้ทันที แค่ดูก็รู้ว่าเป็นอาหารเลิศรสที่หยุนถิงทำ เขารีบเอามันมาและชิมดูทุกอย่าง

“ไม่เลว รสชาตินี้แปลกใหม่ มีเอกลักษณ์ อร่อย ไม่เลวเลยจริงๆ!” ฝ่าบาทชมอย่างไม่หยุดปาก

เหล่าขุนนางชั้นสูงคนอื่นๆ ได้ยิน ต่างก็รีบมาชิมดู และทุกคนต่างก็พูดชมอย่างไม่หยุดปาก

“หยุนเฉิงเซี่ยง ของอร่อยเช่นนี้ เจ้าคิดออกมาได้อย่างไร อร่อยยิ่งนัก?” ขุนนางชั้นสูงคนหนึ่งกล่าว

“หยุนเฉิงเซี่ยงสมกับเป็นหยุนเฉิงเซี่ยงจริงๆเลย มีวิธีจริงด้วย ข้านับถือยิ่งนัก”

“ข้าอยู่มาหลายสิบปี ยังไม่รู้ว่ามันฝรั่งยังมีวิธีการกินแบบนี้ด้วย รสชาติดีจริงๆ”

เมื่อได้ยินเหล่าขุนนางชั้นสูงพูดชดเชย นับถือหยุนเฉิงเซี่ยง สีหน้าของจ้าวซ่างซูก็ซีขาวลง ดูแย่มาก

หยุนเฉิงเซี่ยงคนเจ้าเล่ห์ ที่แท้เมื่อวันจงใจไปร้องไห้ต่อหน้าตันเองชัดๆ กลับถูกเขาคิดคำนวณไปซะงั้น น่าเจ็บใจชะมัด เมื่อคิดถึงภาพวาดที่ลูกชายมอบให้เขา จ้าวซ่างซูก็ยิ่งด่าว่าหยุนเฉิงเซี่ยงในใจไปใหญ่

ไอ้แก่สารเลว ร้ายกาจเช่นนี้ ชั่วเลวไร้มีศีลธรรมยิ่งนัก

“จ้าวซ่างซูเจ้าทำไม่ออกมาเอง ก็อย่าหาว่าองุ่นเปรี้ยว ทุกคนต่างก็รู้ว่าเจ้าไม่ถูกกับหยุนเฉิงเซี่ยง แต่หยุนเฉิงเซี่ยงก็คือหยุนเฉิงเซี่ยง ซึ่งไม่ใช่คนที่ธรรมดาจะเทียบได้” ขุนนางคนหนึ่งพูดเตือน

“ใช่ จ้าวซ่างซูเจ้าควรยอมรับความจริง ตำแหน่งจั่วเฉิงเซี่ยงไม่ใช่ผู้ใดก็สามารถมาเป็นได้”

“ตอนนั้นก็เป็นหยุนเฉิงเซี่ยงเป็นคนเลื่อนตำแหน่งให้เจ้า เป็นคนต้องรู้จักตอบแทนบุญคุณ อย่าไม่เจียมตัว”

หยุนเฉิงเซี่ยงฟังคำสรรเสริญเยินยอด้วยความประจบของทุกคน รู้สึกได้ใจและดีใจมาก จากนั้นจึงค่อยเอ่ยปากพูดอย่างเย่อหยิ่ง

“จ้าวซ่างซู ข้ารู้ว่าเจ้าอยากได้ตำแหน่งของจั่วเฉิงเซี่ยง หากเจ้ามีความสามารถจริง ข้าก็ยินดีที่จะยอมถอยตำแหน่งให้เจ้าได้ ข้าเองก็อายุมากขนาดนี้แล้ว แต่การเป็นจั่วเฉิงเซี่ยงต้องมีความสามารถเพียงพอที่จะช่วยเหลือฝ่าบาท วิธีการเช่นที่เจ้าเสนอในวันนี้ ก็ห่วยมากนัก”

สีหน้าของจ้าวซ่างซูเหมือนดั่งกิ้งก่าเปลี่ยนสี ถูกหยุนเฉิงเซี่ยงพูดต่อหน้าทุกคนเช่นนี้ ก็อายจนแทบจะแทรกแผ่นดินหนี

แต่ต่อหน้าฝ่าบาท เขาไม่อยากให้ถูกมองว่าไร้ความสามารถ และไม่อยากถูกหยุนเฉิงเซี่ยงกดขี่ จึงพูดอย่างไม่พอใจว่า “ก็แค่ทำอาหารมันฝรั่งสองสามจานไม่ใช่หรือ มีอะไรน่าอวด นี่มันเกี่ยวอะไรกับเรื่องที่มันฝรั่งล้นเอ่อจนกลายเป็นอุทกภัยในเมืองตุ้น?”

“คำถามนี้ของจ้าวซ่างซูถามได้ดีมาก สิ่งที่ข้ากำลังจะพูดต่อไปนี้ก็คือเรื่องนี้ แม้ว่ามันฝรั่งจะเก็บไว้ได้สิบกว่าวัน แต่หลังจากนั้นรากก็จะงอกขึ้น และไม่สามารถทานได้อีก

ดังนั้นจึงไม่แนะนำให้จัดส่งไปขายในรอบๆ ดังนั้นจึงสามารถแก้ไขปัญหาได้ในทันที ก็คือาสามารถนำมันฝรั่งมาเป็นอาหารแสนอร่อยเหล่านี้ จากนั้นก็ทำรถเข็นคันเล็กๆ แล้วเดินไปด้วยขายไปด้วย

ปกติ หนึ่งเหรียญทองแดงสามารถซื้อมันฝรั่งได้หลายโล ทว่าหากทำเป็นอาหารว่างแบบนี้ก็สามารถขายอันละหนึ่งเหรียญทองแดง หรือสองเหรียญทองแดงต่อหนึ่งอัน เนื่องจากมันแปลกใหม่ และอร่อย และทุกคนก็ไม่ได้ขาดเงินน้อยนิดนี้

เช่นนี้ไม่เพียงแต่จะช่วยเพิ่มยอดขายของมันฝรั่ง แถมยังช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของเมืองตุ้นด้วย หากอาหารว่างเช่นมันฝรั่งนี้ถูกเสนอขายไปยังแคว้นต้าเยียนหรืออีกทั้งสามแคว้น เช่นนั้นก็จะต้องเพิ่มทรัพยากรทางการเงินของแคว้นต้าเยียนได้อย่างแน่นอน” หยุนเฉิงเซี่ยงอธิบาย

“ดี ดีมาก สมกับเป็นหยุนเฉิงเซี่ยงจริงๆเลย สามารถคิดวิธีแบบนี้ออกมาได้ ด้วยอาหารแสนอร่อยเหล่านี้ข้าจึงตัดสินใจใช้วิธีของเจ้า แต่ว่ารถเข็นนี้ทำอย่างไร?” ฝ่าบาทถาม

“ฝ่าบาทถามได้ดีมากพ่ะย่ะค่ะ โปรดฝ่าบาทและทุกคนเสด็จออกไปข้างนอก!” หยุนเฉิงเซี่ยงกล่าว

ฝ่าบาทรู้สึกสงสัย จึงรีบลุกขึ้นเดินออกจากห้องโถงทันที ขุนนางชั้นสูงคนอื่นๆ ก็เดินตามไป

นอกห้องโถงใหญ่ หยุนถิงและจวินหย่วนโยวยืนอยู่ตรงนั้น พร้อมกับรถเข็นคันเล็กข้างหน้าของพวกเขา

“หม่อมฉันถวายบังคมฝ่าบาท!” หยุนถิงกล่าว

“กระหม่อมถวายบังคมฝ่าบาท!” จวินหย่วนโยวกล่าว

“หยุนถิง จวินหย่วนโยวเหตุใดพวกเจ้ามาแล้วแต่ไม่เข้าไป?” ฝ่าบาทเลิกคิ้วถาม

“แน่นอนว่าก็ต้องเป็นเพราะรอให้ฝ่าบาทออกมาดูของดี นี่ก็คือรถเข็นที่หยุนเฉิงเซี่ยงพูด หม่อมฉันมาแนะนำให้ทุกคน

หม้อด้านบนนี้ใส่น้ำมัน ใช้ทอดเฟรนช์ฟราย มันฝรั่งเกลียวทอด และ ลูกชิ้นมันฝรั่ง และด้านล่างนี้ก็เป็นเครื่องมือสำหรับหั่นมันฝรั่ง เสียบมันฝรั่งเข้ากับบนตะเกียบแล้วใช้สิ่งนี้ก็จะสามารถหั่นให้เป็นมันฝรั่งเกลียวทอดได้ นี่คือเตาถ่านหินแบบพกพา วางถ่านสองสามก้อนไว้บนรถเข็น สะดวกในการเปลี่ยน เช่นนี้ก็จะสามารถทำและทอดได้ทุกเมื่อ และขายได้ทุกเมื่อ

และรถเข็นคันเล็กนี้มีสี่ล้อ จึงสะดวกในการเข็น ออกไปขายตอนกลางวัน และเข็นกลับบ้านตอนกลางคืนโดยไม่ต้องกังวลว่าจะถูกขโมย ” หยุนถิงอธิบาย และหยิบมันฝรั่งอันหนึ่งออกมาสาธิตในทันที

ฝ่าบาทรู้สึกประหลาดใจมาก และพอใจมาก “วิเศษ วิเศษมาก!”

“ฝ่าบาท แม้ว่าสองเหรียญทองแดงจะไม่มากนัก ทว่าหากทุกคนก็ได้สัก-หนึ่งสองเหรียญทองแดง แคว้นต้าเยียนมีคนมากเช่นนี้ แถมคนทั้งสี่แคว้นก็เยอะเช่นนี้ รวมแล้วก็เป็นเงินจำนวนมากทีเดียวเลย

เพื่อความสะดวกของทุกคน ฝ่าบาทสามารถออกราชโองการให้ประชาชนสามารถจอดรถเข็นข้างถนนในยามราตรีได้ ทุกคนแค่นำมันฝรั่งกลับไปก็ได้แล้ว และวันรุ่งขึ้นก็แค่ยกมันฝรั่งตะกร้าหนึ่งมาวางก็สามารถออกไปขายแผงได้แล้ว

หากมันฝรั่งหรือถ่านไฟหมดระหว่างทาง มันฝรั่งและถ่านไฟตรงไหนก็มีจำหน่าย และสามารถเติมได้ในบริเวณใกล้เคียง เช่นนี้ก็ไม่เสียเวลาในการขาย กระหม่อมมีรูปวาดในการทำรถเข็นนี้ ฝ่าบาทโปรดตรวจดู” หยุนเฉิงเซี่ยงอธิบาย และนำรูปวาด

“ดี วิธีนี้ใช้ได้ วิธีนี้สามารถแก้ปัญหาของมันฝรั่งล้นเอ่อ แถมยังสามารถขายในราคาสูงเพื่อพัฒนาธุรกิจได้อีกด้วย ไม่เลวจริงๆ ทหารรีบนำวิธีและรูปวาดรถเข็นของหยุนเฉิงเซี่ยงส่งไปให้เจ้าเมืองของเมืองตุ้นทันที และให้เขาทำการผลิตจำนวนมาก พยายามให้ได้หนึ่งคันต่อหนึ่งคน และค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่จำเป็นล้วนเอาจากท้องพระคลัง!” ฝ่าบาทออกคำสั่ง

“ฝ่าบาททรงปราดเปรื่อง!” ทุกคนโห่ร้อง

หยุนเฉิงเซี่ยงมองดูท่าทางที่อัดอั้นความโกรธของจ้าวซ่างซู ก็รู้สึกได้ใจยิ่งนัก มองดูลูกสาวของตัวเองและยกนิ้วให้นาง

สมกับเป็นถิงเอ๋อร์จริงๆเลย วิธีที่นางคิดขึ้นมานั้นยอดเยี่ยมจริงๆ

หลังจากหยุนเฉิงเซี่ยงกับจวินหย่วนโยวแนะนำเสร็จแล้ว ก็ออกจากวังไป ที่ประตูวัง หยุนถิงก็ได้ยินนางกำนัลพูดเกี่ยวกับเรื่องงานเลือกนางสนม

“ซื่อจื่อ จะซื่อจื่อแล้วหรือ?” หยุนถิงถาม

“อีกหนึ่งเดือนก็เป็นวันงานเลือกนางสนม ช่วงเวลานี้ของปีล้วนสนุกสนานยิ่งนัก ผู้หญิงจำนวนมากที่พยายามคิดหาวิธีเพื่อดึงดูดความสนใจของฝ่าบาท เพื่ออยากยกระดับขึ้นมาเป็นคนที่มีฐานะหรือตำแหน่งที่สูงขึ้น” จวินหย่วนโยวตอบ

หยุนถิงส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้ “สาวที่อายุพอเหมาะเช่นนี้แต่กลับอยากคิดหาทุกวิถีทางแย่งความโปรดปราน ปัดแข้งปัดขากัน ต่างฝ่ายต่างพยายามหลอกลวงซึ่งกันและกัน เพียงเพื่อให้ได้มาซึ่งความโปรดปรานจากผู้ชายเพียงคนเดียว ช่างเป็นเรื่องน่าเศร้าจริงๆ”

จวินหย่วนโยวฟังคำอุทานของนาง นัยน์ตามีร่องรอยของความโปรดปรานฉายออกมา รู้ว่านังหนูนี้ชอบความอิสระที่สุด แต่ก็ยังแกล้งถาม “หรือว่าเจ้าไม่อยากเข้าวัง?”