บทที่ 430 เขาต้องมาแน่
“บางส่วน ? ”อันซีหนีรับเอกสารมาจากซาติง
“ครับ” ซาติงพยักหน้า “ลี่จุนถิงคนนี้ไม่ธรรมดาเลยครับ เบื้องหลังคงไม่ได้ใสซื่ออย่างที่เห็น ”
อันซีหนีหรี่ตาลงมอง เขาสงสัยว่าทำไม Anthony ที่ถูกคุมขังอยู่ในสถานีตำรวจเล็กๆและไม่สามารถให้ความช่วยเหลือออกมาได้ ที่แท้เบื้องหลังเป็นเพราะมีลี่จุนถิงคอยสั่งการอยู่นี่เอง
อันซีหนีเปิดดูเอกสาร เอกสารเหล่านี้ปรากฏเพียงลี่จุนถิงเป็นผู้บริหารของบริษัทลี่ซื่อกรุ๊ป และยังมีธุรกิจต่างๆทั้งในและนอกประเทศ รวมถึงอิทธิพลทางการเมืองที่มีของลี่จุนถิง
แค่เพียงรายละเอียดพวกนี้ ก็มีเนื้อหาไปหลายสิบหน้าแล้ว
แต่สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นเพียงเปลือกนอกเท่านั้น ดูไปแล้ว ลี่จุนถิงคนนี้ก็เป็นชายหนุ่มที่เพียบพร้อมสมบูรณ์เลยทีเดียว
ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่เด็กหนุ่มอายุยังน้อยจะประสบความสำเร็จได้ขนาดนี้ คนคนนี้ไม่ธรรมดาจริงๆ ยิ่งไปกว่านั้นเบื้องหลังที่แท้จริงของชายหนุ่มคงยากเกินที่จะคาดเดาได้
“แล้วข้อมูลด้านอื่นล่ะ?”ประวัติเพียงผิวเผินเช่นนี้ไม่เพียงพอต่อความต้องการของอันซีหนี
ต้องรู้ทุกเรื่องของลี่จุนถิง ถึงจะจัดการกับคนแบบเขาได้
“นายท่านใจเย็นๆครับ ข้อมูลเชิงลึกของเขากำลังตรวจสอบอยู่ครับ ในส่วนเบื้องหลังของลี่จุนถิงนั้นดูท่าจะลำบากเล็กน้อย” เพียงเพราะจะสืบเสาะประวัติของลี่จุนถิงซาติงเองก็ต้องใช้ความพยายามอยู่มาก ใครใช้ให้ชายหนุ่มประวัติโชกโชนกันละ
“เอาเส้นสายที่มีตอนนี้ให้ฉันก่อน เบื้องลึกเบื้องหลังค่อยให้ทีหลังแล้วกัน” อันซีหนีมีแผนจะจัดการกับคนใกล้ตัวก่อน หากมีศัตรูที่เป็นแนวร่วมได้ก็จะยิ่งส่งผลดี
ลี่จุนถิงคนนี้ช่างร้ายนัก กล้าดียังไงมาทำกับน้องชายเขาแบบนี้ ในใจเขาผูกอาฆาตพยาบาทกับลี่จุนถิง
ในช่วงบ่าย ซาติงได้รวบรวมเอกสารที่เกี่ยวข้องกับคนใกล้ชิดของลี่จุนถิงมายื่นให้กับอันซีหนี
อันซีหนีมองเอกสารในมือ คนที่ไม่พอใจในตัวลี่จุนถิงนั้นมีไม่น้อย แต่ก็ไม่มีใครที่พอจะช่วยเหลือเขาได้เลย
สุดท้ายแล้ว อันซีหนีก็หวังจะใช้ลี่หุย
“คนนี้คือ……”อันซีหนีชี้ไปยังรูปของลี่หุย
ซาติงมองไปแวบหนึ่ง แล้วตอบว่า :“ชายคนนี้น้องชายต่างมารดาของลี่จุนถิง อยู่ประเทศจีน เขาเป็นลูกนอกสมรส ที่ไม่ถูกเปิดเผย แต่เท่าที่รู้ พ่อของลี่จุนถิงอยากจะพาเข้าบ้าน แต่ปู่ของลี่จุนถิงไม่ยอมรับ ”
“อ้อ?” อันซีหนีเลิกคิ้วขึ้น เหมือนเจอของเล่นบางอย่างเข้าให้แล้ว“ดูไปแล้วคนคนนี้น่าจะช่วยงานเราได้?”
“ไปสืบข้อมูลของนายคนนี้มา ฉันอยากจะดู เพื่อทำความรู้จักกับคนคนนี้ให้มากขึ้น ”
เพียงเวลาไม่ถึงหนึ่งชั่วโมงซาติงก็ได้นำข้อมูลของลี่หุยมาให้กับชายหนุ่ม ข้อมูลของ ลี่หุยถ้าเทียบกับลี่จุนถิงแล้ว มันหาง่ายกว่ามาก
“คนคนนี้น่าจะใช้งานง่าย” อันซีหนีเห็นประวัติของลี่หุย ลูกนอกสมรสอย่างลี่หุยที่ไม่พอใจกับสถานะของตัวเองแบบนี้ควบคุมได้ง่ายที่สุด และคนแบบนี้เขาก็เจอมานักต่อนักแล้ว
“งั้นให้ผมติดต่อเขาตอนนี้เลยไหมครับ?”ซาติงเอ่ยถาม
อันซีหนีครุ่นคิดอยู่สักพัก แล้วก็พยักหน้าตกลง :“อืม นัดเขาให้ฉัน ฉันอยากจะเจอเขา”
ลี่หุยที่กำลังเล่นเกมอยู่ทันใดนั้นโทรศัพท์ก็มีสายเรียกเข้าที่ไม่รู้จักโทรเข้ามา
“ฮัลโหล นั้นใครอ่ะ?”คนที่มากวนเวลาเล่นเกมของลี่หุยล้วนแต่สร้างความหงุดหงิดให้กับชายหนุ่มทั้งสิ้น
“คุณใช่คุณลี่หุยไหมครับ?” ซาติงน้ำเสียงเอ่ยพูดอย่างเป็นการเป็นงาน
ลี่หุยหนีบมือถือไว้กับหูและไหล่ มือทั้งสองข้างยังเคาะไปที่แป้นพิมพ์ไม่หยุด :“ใช่ คุณเป็นใคร?”
“เจ้านายของผมมีความประสงค์ที่จะร่วมมือกับคุณ ไม่ทราบว่าคุณสนใจไหมครับ?”
“เจ้านายของคุณ ? แล้วคุณเป็นใคร ? อย่ามาทำผมเสียเวลามีอะไรก็รีบพูดมา ”ลี่หุยเริ่มจะหมดความอดทน
ซาติงก็ไม่อ้อมค้อม:“ผมขอพูดเพียงคำเดียว เจ้านายผมกับคุณมีศัตรูคนเดียวกัน นั่นก็คือลี่จุนถิง”
เมื่อได้ยินคำว่าลี่จุนถิง มือของลี่หุยก็หยุดชะงักลงทันที มือขวาจับไปที่โทรศัพท์ คิ้วขมวดขึ้นแล้วถามกลับไปว่า:“คุณหมายความว่ายังไง ?”
“ผมหมายความว่า เจ้านายของผมต้องการจะเป็นพันธมิตรกับคุณ เพื่อจัดการกับลี่จุนถิง”
“แต่ผมไม่รู้จักคุณ” แม้ว่าเรื่องนี้จะล่อตาล่อใจอยู่มาก แต่ ลี่หุยก็กลัวว่าจะเป็นกลลวงมากกว่า
“ไม่เป็นไรครับ เรามาทำความรู้จักกันก่อนได้ หากคุณสนใจ พรุ่งนี้เก้าโมงเช้า ที่โรงแรมโรงแรมหลันยิ่ง เจ้านายผมจะรอคุณอยู่ที่นั่น ” ซาติงพูดจบก็วางสายไปทันที
ลี่หุยรีบตอบกลับไปว่า :“เดี๋ยวก่อน แล้ว……”
ยังไม่ทันที่ลี่หุยจะพูดจบ ในสายก็มีเพียงเสียง “ตู๊ดๆๆ”ดังขึ้นมา
ลี่หุยมองไปยังหน้าจอที่ปรากฏว่าวางสายไปแล้ว ความสงสัยในใจก็ยิ่งก่อตัวกันมากขึ้น
ตกลงแล้วเป็นใครกันแน่ ?
แต่ไม่ว่ายังไง ไปดูก่อนแล้วค่อยตัดสินใจอีกที
อีกฝั่งนี้ซาติงที่วางสายไปแล้วก็รายงานกับอันซีหนี
“ว่ายังไง?”อันซีหนีที่สูบซิการ์อยู่ หันหน้าไปยังหน้าต่าง “จัดการเรียบร้อยหรือยัง?”
“ตามคำสั่งครับ ผมแจ้งวันเวลาและสถานที่ให้เขาไปแล้ว ไม่รู้ว่าเขาจะมาตามนัดหรือเปล่า”
อันซีหนียกยิ้มที่มุมปาก น้ำเสียงชัดเจน :“เขาต้องมาแน่”
เช้าวันถัดมา
อันซีหนีตื่นแต่เช้า หลังเก็บทุกอย่างเรียบร้อย ก็มุ่งหน้าตรงไปยังโรงแรมโรงแรมหลันยิ่ง
ลี่หุยนอนไม่หลับทั้งคืน ครุ่นคิดด้วยความสงสัยว่าใครกันที่โทรมาหาเขา
ด้วยความอยากรู้อยากเห็นลี่หุยได้มาที่โรงแรมโรงแรมหลันยิ่งตามที่ซาติงได้แจ้งเอาไว้เมื่อวาน
แต่เขาไม่ได้รีบร้อนที่จะเข้าไปด้านใน เข้าซ่อนตัวอยู่หลังรถและคอยสังเกตการณ์อยู่ห่างๆ มองหาดูบุคคลที่น่าสงสัย
ในตอนนี้สายตาของเขาจับจ้องไปยังชายหนุ่มสองคนที่นั่งอยู่ริมหน้าต่าง
ทั้งสองคนดูเหมือนคนจีน มีคนหนึ่งสวมเสื้อกันหนาวสีกากี กางเกงสูทสีเทาเข้ม และรองเท้าหนังที่มันวาวกำลังนั่งจิบกาแฟอย่างสบายใจ
อีกคนสวมใส่สีดำทั้งชุด ยืนอยู่ข้างชายคนนั้นในใจลี่หุยคิดว่าคงจะไม่ใช่พวกเขาหรอกมั้ง ?
ในร้านกาแฟเดียวกันนั้น ก่อนที่ลี่หุยจะมาถึงซาติงก็สังเกตเห็นเขาแล้ว
“คุณชายครับ ลี่หุยมาถึงแล้วครับ ” สายตาที่กว้างไกลของซาติงมองเห็น ลี่หุยที่ทำตัวลับๆล่อๆอยู่ด้านนอก “แต่ดูเหมือนเขาจะไม่เข้ามานะครับ ”
“เขาคงกำลังเดาว่าเราเป็นใคร”อันซีหนีไม่แม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมา คนอย่างลี่หุยในสายตาเขาก็เป็นแค่คนที่ไร้ตัวตน
เรื่องน่ารังเกียจ และความคิดสกปรกเหล่านั้นอันซีหนีเข้าใจดี
“งั้นเรารอเขาอยู่ตรงนี้เหรอครับ?”
“ไม่ โทรเรียก ให้เขาเข้ามา”
“ครับ”ซาติงรับคำแล้วหยิบโทรศัพท์ออกมา กดโทรไปยังเบอร์ของลี่หุย
ลี่หุยที่กำลังซุ่มสำรวจอยู่อย่างระมัดระวังว่าพอจะมีใครที่เข้าเค้าความน่าจะเป็นไปได้บ้าง จังหวะนั้นเองโทรศัพท์ในกระเป๋าก็ดังขึ้น ทำให้เขาสะดุ้งตกใจ
“โอ๊ยแม่ง ใครกันวะ” ลี่หุยหยิบมือถือขึ้นมา มองไปยังเบอร์ที่โทรเข้ามา พบว่าเป็นเบอร์ที่โทรหาเขาเมื่อวานนี้มองสำรวจไปยังบริเวณโดยรอบทันที แล้วจึงกดรับสาย :“ฮัลโหล”
“คุณลี่ วันนี้คุณมาตามที่เราได้นัดกันไว้ไหมครับ?”