ตอนที่ 426 จบเรื่องกลับเมือง (3)

หวนคืนชะตาแค้น

​หรง​เซ​วี​ยน​กวาดตา​มอง​หรง​ไหว​แวบ​หนึ่ง​ เดิมที​เขา​คิด​ว่า​แม้​หรง​ไหว​เจ้า​คิด​เจ้า​แค้น​ ​แต่​ก็​นับว่า​เป็น​บุคคล​ที่​มองข้าม​ไม่ได้​เลย​ทีเดียว​ ​ทว่า​บัดนี้​ดูท่าทาง​แล้วก็​ธรรมดา​ ​รีบ​ถือโอกาส​กำจัด​ทิ้ง​โดยเร็ว​เสียดี​กว่า​ ​คนที​่​ทั้ง​โง่เขลา​และ​ไร้เหตุผล​มากกว่า​พวกเขา​เช่นนี้​ ​ช่าง​น่าอับอาย​เสีย​จริง

​ครั้น​หรง​เซ​วี​ยน​เห็น​หรง​ไหว​กระฟัดกระเฟียด​เดิน​ออก​ไป​เช่นนั้น​ก็​ขมวดคิ้ว​ ​จากนั้น​ก็​หันไป​มอง​หรง​เหยี​่​ยน​เอ่ย​ ​“​น้อง​เก้า​นิสัย​เด็กน้อย​เสีย​จริง​” ​บท​จะ​มาก​็​มา​ ​บท​จะ​ไป​ก็​ไป​ ​เขา​ไม่สน​ใจ​เรื่อง​ต่อจากนี้​และ​นึกถึง​ความคิด​ของ​เสด็จ​พ่อ​แม้แต่น้อย​ ​มี​เพียง​องค์​ชาย​เก้า​คนโปรด​เท่านั้น​ที่จะ​มีอิสระ​ทำ​เช่นนี้​ได้

​หรง​เหยี​่​ยน​มุ่น​คิ้ว​เล็กน้อย​ ​เอ่ย​เสียง​ขรึม​ ​“​ก็​ไม่ใช่​เสียที​เดียว​ ​พี่​รอง​ระวัง​ไว้​หน่อย​ดีกว่า​ ​ต่อให้​เรื่อง​หลังจากนี้​น้อง​เก้า​จะ​ไม่​เข้ามา​ยุ่ง​ด้วย​ ​แต่​เกรง​ว่า​เหล่า​ราษฎร​จะ​จดจำ​แต่​บุญคุณ​ของ​น้อง​เก้า​มากกว่า​”​ ​ในเมื่อ​ความดี​ความชอบ​ที่​เสริม​ให้​ดูดี​ขึ้น​และ​การ​ช่วยเหลือ​ใน​ยาม​ทุกข์ยาก​เป็นเรื่อง​ที่​ชวน​ให้​คน​ซาบซึ้งใจ​มาก​อยู่​แล้ว​ ​ถึงแม้​ตอนนี้​พวกเขา​จะ​ไม่ได้​ถือว่า​สร้างภาพ​ลักษณ์​ที่​ดีมาก​ขนาด​นั้น​ ​แต่​การกระทำ​ของ​น้อง​เก้า​เมื่อวาน​กลับเป็น​การ​ช่วยเหลือ​คนอื่นๆ​ ​ไม่น้อย​เลย​ทีเดียว

​หรง​เหยี​่​ยน​แอบ​รู้สึก​ลึก​ๆ​ ​ว่าน​้​อง​เก้า​ไม่ธรรมดา​อย่างที่​ตน​คิด​ไว้​เหมือน​เมื่อก่อน​แล้ว​ ​ส่วน​เรื่อง​กู้​หลิว​อวิ​๋น​ ​รวมถึง​เรื่อง​ครั้งนี้​ไม่มีทาง​เป็นเรื่อง​บังเอิญ​แน่นอน​ ​หาก​เป็นเรื่อง​บังเอิญ​มากมาย​ขนาด​นั้น​ ​เช่นนั้น​คง​ต้อง​มี​เงื่อนงำ​บางอย่าง​ซ่อน​ไว้​แน่นอน

​หรง​เซ​วี​ยน​เงียบ​ไป​ครู่หนึ่ง​ ​พยักหน้า​แล้ว​เอ่ย​ ​“​ในเมื่อ​เป็น​เช่นนั้น​บัดนี้​คนที​่​สำคัญ​ที่สุด​ก็​คือ​ฉิน​อ๋อง​”​ ​ใช่​ว่า​หรง​เซ​วี​ยน​จะ​มอง​หรง​จิ​่น​ไม่​ออก​ ​แต่​ความจริง​หรง​จิ​่น​ไม่มี​อะไร​เลย​ ​เขา​มี​เพียง​ความรักใคร่​โปรดปราน​ของ​เสด็จ​พ่อ​เพียง​อย่าง​เดียว​เท่านั้น​ ​ทว่า​หรง​ไหว​กลับ​แตกต่าง​กัน​ออก​ไป​ ​ถึงอย่างไร​เขา​ก็​ขึ้นชื่อว่า​เป็น​หลาน​คนโต​ของ​ฮ่องเต้​ ​รวมถึง​มี​ฮองเฮา​ใน​วัง​เป็น​แรง​หนุน​ ​กระทั่ง​อิทธิพล​มากมาย​ที่​จื้อ​อ๋อง​ทิ้ง​ไว้​ ​สิ่ง​เหล่านี้​อด​สร้าง​ความระแวง​ให้​พวกเขา​ไม่ได้

​หรง​เหยี​่​ยน​พยักหน้า​กล่าว​ ​“​พี่​รอง​พูด​ถูก​”​ หรง​จิ​่น​เป็น​เช่นไร​ค่อย​ลอบ​สังเกตการณ์​แบบ​ลับ​ๆ​ ​แต่​ภัย​คุกคาม​อย่าง​หรง​ไหว​กลับ​วาง​ทนโท่​อยู่​ตรงหน้า​ ​ดังนั้น​คง​ไม่​กำจัด​ไม่ได้

​มู่​ชิง​อี​และ​หรง​จิ​่น​ยังคง​เดิน​อยู่​ใน​หมู่บ้าน​เล็ก​ๆ​ ​ที่​วุ่นวาย​อย่าง​ช้าๆ​ ​ราษฎร​รอบด้าน​ไม่ได้​มีท​่า​ที​อกสั่นขวัญแขวน​เฉกเช่น​เมื่อวาน​แล้ว​ ​ถึงแม้​จะ​ปรากฏ​ความหดหู่​และ​โศกเศร้า​บน​ใบหน้า​ ​แต่​เริ่ม​มีแสง​สว่าง​รำไร​โผล่​มา​ให้​เห็น​บ้าง​ ​บุรุษ​ร่าง​กำยำ​มากมาย​เริ่ม​สาละวน​อยู่​กับ​การ​ทำความสะอาด​กอง​หิมะ​และ​ซากปรักหักพัง​ ​ส่วน​คน​เฒ่า​คนแก่​และ​เด็ก​ๆ​ ​ก็​ช่วยกัน​เก็บของ​ที่​ยัง​ใช้ได้​ภายใต้​ซากปรักหักพัง​เหล่านั้น

​ครั้น​เห็น​พวกเขา​เดิน​ย่างกราย​เข้ามา​อย่าง​ช้าๆ​ ​พวก​คนแก่​และ​เด็ก​ๆ​ ​ก็​แห่​เข้ามา​รายล้อม​พวกเขา​ไว้

​“​ขอบ​พระทัย​ท่าน​อ๋อง​…​และ​ขอบคุณ​ใน​บุญคุณ​ของ​คุณชาย​ที่​ช่วย​พวกเรา​ไว้​ด้วย​”​ ​ผู้เฒ่า​อายุ​ราว​หกสิบ​ปี​เส้น​ผม​ขาวโพลน​คน​หนึ่ง​ก้าว​ขึ้น​มา​พร้อม​ก้มลง​คำนับ​บน​พื้น​ ​มู่​ชิง​อี​รีบ​ใช้​สอง​มือ​ประคอง​ร่าง​ผู้เฒ่า​ไว้​แล้ว​เอ่ย​ ​“​ท่าน​ผู้เฒ่า​ทำ​อะไร​กัน​ ​รีบ​ลุกขึ้น​มา​เร็ว​เข้า​”

​หรง​จิ​่​นที​่​อยู่​ด้าน​ข้าง​กลัว​ว่านาง​จะ​พยุง​ไม่ไหว​ถึง​ได้​ยื่นมือ​เข้าไป​ประคอง​ผู้เฒ่า​ด้วย​อีก​แรง​ ​เวลานี้​ผู้เฒ่า​คน​นั้น​เลย​ก้มลง​คำนับ​ไม่ได้​ ​จากนั้น​เลย​ทำได้​เพียง​มอง​พวกเขา​แน่นิ่ง​ ​“​เมื่อวาน​…​หาก​ไม่ได้​ท่าน​อ๋อง​กับ​คุณชาย​มาช​่วย​ไว้​ได้​ทันท่วงที​ ​เกรง​ว่า​คนแก่​และ​เด็กน้อย​อย่าง​พวกเรา​คง​หนาว​ตาย​แน่​ ​บุญคุณ​ล้น​ฟ้า​ของ​พวก​ท่าน​ทั้งสอง​ตอบแทน​ไม่มีวัน​หมด​”

​มู่​ชิง​อี​ยิ้ม​กล่าว​ ​“​เรื่อง​ภัยพิบัติ​ยาก​จะ​เลี่ยง​ได้​ ​ดังนั้น​ไม่มี​หนี้บุญคุณ​ใด​ทั้งสิ้น​ ​พวกเรา​ก็​แค่​ช่วย​ใน​เรื่อง​ที่​พวกเรา​พอ​จะ​ช่วย​ได้​เท่านั้น​ ​ท่าน​ผู้เฒ่า​สุขภาพ​ไม่ดี​ก็​อย่า​มัว​แต่​ทน​หนาว​อยู่​เลย​รีบ​กลับ​ไป​พักผ่อน​เถิด​”

​ไม่​ง่าย​เลย​กว่า​ทุกคน​ที่​ซาบซึ้งใจ​พวกเขา​จะ​ยอม​จากไป​แต่​โดยดี​ ​มู่​ชิง​อี​หันไป​มอง​หรง​จิ​่​นที​่​เผย​สีหน้า​มึนงง​ข้าง​กาย​แล้ว​ยิ้ม​บาง​กล่าว​ ​“​ท่าน​อ๋อง​คิด​อะไร​อยู่​หรือ​”

​หรง​จิ​่​นขมวด​คิ้ว​เอ่ย​ ​“​เหมือน​ชิง​ชิง​จะ​มีความสุข​มาก​?​”​ พวก​คนธรรมดา​เหล่านี้​ซาบซึ้งใจ​แล้ว​มี​อะไร​ให้​น่า​ดีใจ​กัน​ ​พวกเขา​ช่วย​อะไร​พวก​ตน​ไม่ได้​สักหน่อย​ ​อีกทั้ง​ยัง​นำพา​ผลประโยชน์​ใด​มา​ให้​พวก​ตน​ก็​ไม่ได้​ด้วย​ ​รอ​วันใด​ที่​คนอื่น​ดี​กับ​พวกเขา​บ้าง​ ​พวกเขา​ก็​ต้อง​ไป​ขอบคุณ​คนอื่น​เช่นกัน

​มู่​ชิง​อี​ยิ้ม​เอ่ย​ ​“​ชาวบ้าน​เหล่านี้​อ่อนแอ​ ​อีกทั้ง​นำพา​ผลประโยชน์​ใดๆ​ ​มา​ให้​พวกเรา​ไม่ได้​ ​กระทั่ง​บางครั้ง​อาจจะ​หูเบา​ได้​ง่าย​ ​หรือ​พอได้​ฟัง​ข่าวลือ​ใด​ก็​ยิ่ง​เชื่อ​ว่า​เป็นความ​จริง​ได้​ง่าย​มาก​ ​แต่​…​พวกเขา​กลับ​จริงใจ​มากกว่า​ใคร​ ​ท่าน​ช่วย​พวกเขา​ ​พวกเขา​ก็​จะ​ซาบซึ้งใจ​ท่าน​โดย​ไม่​หวังผล​ใด​ทั้งสิ้น​ ​ยิ่งไปกว่านั้น​…​ท่าน​อ๋อง​เป็น​เชื้อพระวงศ์​ก็​คง​เคย​ได้ยิน​ประโยค​ที่ว่า​…​หาก​ได้ใจ​ปวงชน​ก็​จะ​ปกครอง​ใต้​หล้า​ได้​กระมัง​”

​หรง​จิ​่น​ผงะ​ไป​ ​งุด​หน้า​พลาง​ขบคิด​พัก​หนึ่ง​ถึง​เอ่ย​ ​“​ชิง​ชิง​มีความสุข​ก็ดี​แล้ว​ ​ข้า​รู้​แล้ว​ว่าวัน​หลัง​ควร​ทำ​อย่างไร​”

​มู่​ชิง​อี​ถอนหายใจ​อย่าง​เหนื่อยหน่าย ​นาง​รู้​ว่า​คง​อธิบาย​ให้​เขา​เข้าใจ​ไม่ได้​ใน​ระยะเวลา​สั้น​ๆ​ ​นาง​คง​บังคับ​ขอร้อง​ให้​เขา​ชอบ​ชาวบ้าน​ตาดำๆ​ ​เหล่านี้​ไม่ได้​ ​ขอ​แค่​เขา​รู้​ว่า​ควร​ทำ​อะไร​ก็​พอแล้ว

​“​ชิง​ชิง​ ​พวกเรา​กลับ​เมืองหลวง​กัน​ดีกว่า​ ​อย่า​ยืน​ตากลม​หนาว​อยู่​เลย​”​ ​หรง​จิ​่น​จูงมือ​มู่​ชิง​อี​เดิน​ออก​ไปนอก​หมู่บ้าน

​หลังจาก​หมุนตัว​ก็​หันไป​เจอ​หรง​ไหว​ยืน​อยู่​ตรง​ถนน​อีก​ฝั่ง​จาก​มุม​ที่​ไม่​ไกล​นัก​ด้วย​สีหน้า​ดุดัน​จับจ้อง​มาทาง​พวกเขา​สอง​คน​ ​หรง​จิ​่น​เลิก​คิ้ว​แล้ว​ลาก​มู่​ชิง​อี​เดิน​จากไป​ด้วย​ท่าที​หยิ่งผยอง

​ทันทีที่​มาถึง​จวน​อวี​้​อ๋อง​ ​ฮ่องเต้​แคว้น​เย​่ว​์​ก็​ส่ง​คน​เอา​ของ​มาป​ระทาน​ให้​มากมาย​ ​อีกทั้ง​ยัง​ชื่นชม​การกระทำ​ใน​สอง​วันนี้​ของ​หรง​จิ​่​นอย​่า​งมาก​ ​บอก​หรง​จิ​่น​ให้​ระวัง​สุขภาพ​และ​พัก​ดูแล​ตน​อยู่​ใน​จวน​ดี​ๆ​ ​หรง​จิ​่​นลา​กมู​่​ชิง​อี​ไป​เก็บตัว​อยู่​ใน​เรือน​เล่น​หมากรุก​และ​อ่านหนังสือ​โดย​ไม่สน​ใจ​สายตา​ของ​คนที​่​เดิน​เข้า​ๆ​ ​ออก​ๆ​ ​สักนิด​ ​แถม​วางตัว​อย่างเป็นธรรม​ชาติ​ ​ผ่าน​ไป​ไม่​กี่​วันหลัง​จากนั้น​ก็​จัดการ​เรื่อง​ภัยพิบัติ​หิมะ​ถล่ม​นอกเมือง​เรียบร้อย​ ​รวมถึง​เนี่ย​อวิ​๋​น.​..​เซี​่ย​ซิวจู​๋​ที่อยู่​ใน​จวน​อวี​้​อ๋อง​ก็​พักฟื้น​ร่างกาย​เกือบ​หาย​ดี​แล้ว​ ​เพราะเหตุนี้​สีหน้า​ของ​หรง​จิ​่น​จึง​ดูรื​่น​เริง

​หลัง​จวน​อวี​้​อ๋อง​ปรากฏ​เงา​คน​ร่าง​สูงใหญ่​ปะทะ​ฝีมือ​กัน​อย่าง​ดุเดือด​ ​ที่นี่​เป็น​จุด​ที่อยู่​ด้านใน​สุด​ของ​จวน​อวี​้​อ๋อง​ ​ปกติ​นอกจาก​คน​เข้ามา​ทำความสะอาด​แล้วก็​มี​เพียง​อวี​้​อ๋อง​และ​หัวหน้า​ผู้ดูแล​กู้​เท่านั้น​ที่​เข้าออก​ได้​อย่าง​อิสระ​ ​หาก​คนอื่น​เข้าออก​โดยพลการ​ก็​จะ​ถูก​สังหาร​ทันที​ ​หลาย​วัน​มานี​้​หรง​จิ​่น​ถือโอกาส​เอา​คนที​่​พามา​จาก​เมือง​เทียน​เช​วีย​วาง​ไว้​ตาม​จุด​ต่างๆ​ ​ใน​จวน​ ​ยิ่งไปกว่านั้น​ยัง​จัดสรร​วาง​ไว้​ที่​เรือน​ชิง​หนิง​ของ​มู่​ชิง​อี​ ​รวมถึง​จวน​อ๋อง​และ​สวนหย่อม​พักผ่อนหย่อนใจ​ของ​ตัวเอง​โดย​ป้องกัน​อย่าง​หนาแน่น​ ​ทำให้​คนที​่​อยู่​ที่นี่​สามารถ​ใช้ชีวิต​ได้​อย่าง​อิสระ

​เพราะเหตุนี้​หรง​จิ​่น​และ​เซี​่ย​ซิวจู​๋​จึง​กล้า​ประมือ​กันที่​นี่​อย่างโจ่งแจ้ง

​มู่​ชิง​อีนั​่​งอม​ยิ้มอยู่​หลัง​เตาผิง​ใน​ศาลา​ด้าน​ข้าง​ที่​ไม่​ไกล​นัก​พลาง​อ่าน​ม้วน​กระดาษ​ใน​มือ​ด้วย​ท่วงท่า​สบาย​ๆ​ ​ครั้น​ได้ยิน​เสียงดัง​ที่​แว่ว​มา​เป็นระยะ​ก็​แย้มยิ้ม​บาง​แต่ง​แต้ม​ใบหน้า

​พวกเขา​ที่​สู้​กัน​อย่าง​ดุ​เดือน​ต่าง​ผละ​ตัว​ออก​แล้ว​เซ​ถอย​ไป​ด้านหลัง​หลาย​ก้าว​ ​หรง​จิ​่น​เก็บ​มีด​ซิว​หลัว​ใน​มือ​พลาง​ยัก​คิ้ว​กล่าว​ ​“​หอก​เหมันต์​ภูษา​ขาว​นี้​สม​คำ​ร่ำ​ลือ​เสีย​จริง​ ​เพียงแต่​น่าเสียดาย​…​ที่​ไร้​วาสนา​ได้​เห็น​ฝีมือ​ของ​สหาย​เซี​่ย​”

​ครั้น​เห็น​หรง​จิ​่น​เช็ด​มีด​ซิว​หลัว​ใน​มือ​อย่างทะนุถนอม​ ​เซี​่ย​ซิวจู​๋​ก็​ยิ้ม​เจื่อน​อย่าง​จนใจ​ ​เวลานี้​เขา​อายุ​ใกล้​เลข​สาม​เข้าไป​ทุกที​ ​อีกทั้ง​ก่อนหน้านี้​เพิ่ง​เลื่อนขั้น​ไป​ครั้งหนึ่ง​ไม่นาน​ ​ทว่า​ฝีมือ​กลับ​แค่​พอ​ๆ​ ​กับ​อวี​้​อ๋อง​เท่านั้น​ ​ความจริง​เรื่อง​นี้​ไม่ใช่​เรื่อง​ที่​น่าภาคภูมิใจ​อะไร​เลย​ ​ในเมื่อ​อวี​้​อ๋อง​เป็น​เพียง​หนุ่มน้อย​ที่​อายุ​ยัง​ไม่​ถึง​ยี่สิบ​ปี​เสียด​้วย​ซ้ำ​ ​หาก​เมื่อ​ครึ่ง​ปีก่อน​คุณชาย​อวิ​๋​นอิ​่น​หาเรื่อง​ตน​ที่​แคว้น​หวา​ ​เซี​่ย​ซิวจู​๋​กลัว​ว่า​ตน​คง​เอาชนะ​อีก​ฝ่าย​ได้​ยาก

​“​ฝีมือ​ของ​ท่าน​อ๋อง​เอง​ก็​เป็นเลิศ​ไม่​แพ้​กัน​ ​กระหม่อม​นับถือ​ยิ่งนัก​ ​วันหน้า​หาก​มีโอกาส​หวัง​ว่า​จะ​ได้​ประลอง​กับ​ท่าน​อ๋อง​อีก​”​ ​เซี​่ย​ซิวจู​๋​เอ่ย​ด้วย​รอยยิ้ม​บาง

​หรง​จิ​่น​ถือ​มีด​พลาง​เดิน​ไป​ทาง​ศาลา​ด้วย​ท่าที​พึงพอใจ​ ​“​ชิง​ชิง​”

​มู่​ชิง​อี​วาง​ม้วน​กระดาษ​ลง​ก่อน​จะ​เงยหน้า​ขึ้น​มอง​พวกเขา​ทั้งสอง​ด้วย​รอยยิ้ม​ ​“​ดูท่าทาง​คงจะ​สมใจ​แล้ว​กระมัง​ ​ซิวจู​๋​นั่ง​ก่อน​เถิด​”

​เซี​่ย​ซิวจู​๋​เอ่ย​ขอบคุณ​เสียง​เบา​แล้ว​นั่งลง​ฝั่ง​ตรงข้าม​มู่​ชิง​อี​ ​ทว่า​หรง​จิ​่​นก​ลับ​นั่งลง​ข้าง​กาย​มู่​ชิง​อี​โดย​ไม่​คิด​เกรงใจ​สักนิด​ ​จากนั้น​ก็​สอดส่อง​กาสุ​ราบน​เตาผิง​ตรงหน้า​นาง​พร้อม​เอ่ย​ถาม​อย่างประหลาดใจ​ ​“​ชิง​ชิง​จะ​ดื่ม​สุรา​?​”