ตอนที่ 427 จบเรื่องกลับเมือง (4)

หวนคืนชะตาแค้น

​มู่​ชิง​อี​อมยิ้ม​พลาง​หยิบ​สุรา​อุ่น​บน​เตาผิง​ขึ้น​มาก​่อน​จะ​เอ่ย​ขึ้น​ ​“​เมื่อ​ครู่​มี​คน​ส่ง​สุรา​ดอก​เหมย​ที่​บ่ม​ไว้​กว่า​สิบ​ปี​มา​ให้​ ​จะ​ลอง​หน่อย​หรือไม่​”

​หรง​จิ​่น​สูด​ลมหายใจ​เข้า​ ​ใบหน้า​เปื้อน​ยิ้ม​ ​ ​“​มิน่าเล่า​ ​ข้า​ก็​ว่า​ใน​จวน​ไม่มี​ดอก​เหมย​ ​เหตุใด​ถึง​มีกลิ่น​ดอก​เหมย​ลอยมา​ได้​ ​ก่อนหน้านี้​นึก​ว่า​ชิง​ชิง​ปรุง​เครื่อง​หอม​ใหม่​เสียอีก​”​ ​มู่​ชิง​อี​หยิบ​จอก​สุรา​ขึ้น​มาสาม​ใบ​ก่อน​จะ​เทสุ​รา​แล้ว​ยก​ไป​วาง​ไว้​ตรงหน้า​พวกเขา​พลาง​เอ่ย​ ​“​หม่อมฉัน​คง​จนใจ​จะ​ทำ​เครื่อง​หอม​ดอก​เหมย​ใด​ได้​เท่า​เครื่อง​หอม​โยว​หัน​แล้ว​ ​คง​ไม่​ทุ่ม​แรง​เช่นนั้น​หรอก​เพ​คะ​ ​ซิวจู​๋​ลอง​ชิม​สุรา​นี้​ดู​ว่า​เป็น​เช่นใด​บ้าง​ ​หาก​ชอบ​ล่ะ​ก็​ ​พวกเขา​เอา​มา​ให้​หลาย​ไห​ทีเดียว​ ​เดี๋ยว​จะ​ให้​คน​เอา​ไป​ให้ท่าน​สัก​สอง​ไห​ก็แล้วกัน​”

​ใน​ตระกูล​กู้​ ​นอกจากเฝิง​จื่อ​สุ่ย​ก็​ไม่มีใคร​รู้​แล้ว​ว่า​มู่​ชิง​อี​เป็น​ผู้หญิง​ ​บัดนี้เฝิง​จื่อ​สุ่ย​ไป​เมือง​เผิง​แล้ว​ย่อม​ไม่มีใคร​รู้​สัก​คน​ ​ดังนั้น​ของกำนัล​ที่​ส่ง​มา​ให้​จึง​กลายเป็น​สุราชั​้น​ดีที​่​พวก​หนุ่ม​ๆ​ ​ชื่นชอบ​ทั้งสิ้น

​หร​งิจ​่น​จิบ​ไป​อึก​หนึ่ง​ก่อน​ก้มหน้า​กลั้น​ยิ้ม​กล่าว​ ​“​ชิง​ชิง​ ​สหาย​เซี​่ย​คง​ไม่​ชอบ​สุรา​เช่นนี้​หรอก​ ​หาก​เจ้า​อยาก​ให้​เขา​พอใจ​ก็​เลือก​มอบ​สุรา​แรง​ๆ​ ​ให้​เขา​จะ​ดีกว่า​”​ ถึงแม้​สุรา​บ่ม​ดอก​เหมย​นี่​จะ​เป็น​สุราชั​้น​ดี​ ​แต่กลับ​เบาบาง​นัก​ ​รสชาติ​ใกล้เคียง​กับ​สุรา​อวี​้​เฉวียน​ใน​วัง​ ​ดี​ก็ดี​อยู่​หรอก​ ​แต่​หาก​ให้​คอสุ​รา​แท้จริง​ดื่ม​คง​รู้สึก​ว่า​รสชาติ​ยัง​หนัก​ไม่พอ​ ​สู้​สุรา​แรง​ๆ​ ​สัก​สอง​ไห​ไม่ได้​ด้วยซ้ำ

​เซี​่ย​ซิวจู​๋​คลี่​ยิ้ม​ ​ซึ่ง​เห็นได้ชัด​ว่า​เห็นด้วย​กับ​คำพูด​ของ​หรง​จิ​่น​ ​มู่​ชิง​อี​เลิก​คิ้ว​ ​ความชอบ​ระหว่าง​ชาย​หญิง​แตกต่าง​กัน​อย่าง​สิ้นเชิง​ ​ใช่​ว่านาง​แต่งตัว​พราง​กาย​เป็น​ชาย​แล้ว​จะ​ชดเชย​สิ่ง​เหล่านี้​ได้​ ​นาง​เลย​ทำได้​แค่​เอ่ย​ขึ้น​ว่า​ ​“​เอาเถิด​ ​หนา​นก​งบ​อก​ว่า​สุรา​ดอก​เหมย​ปี้​สี่​ไม่มี​รสชาติ​เช่นกัน​ ​สุราชิง​จู๋​ที่​บ่ม​มาสา​มสิบ​ปี​ยัง​เหลืออยู่​อีก​ไห​ ​เดี๋ยว​ให้​ซิวจู​๋​เอา​ไป​ก็แล้วกัน​”

​“​ขอบคุณ​มาก​”​ ​เซี​่ย​ซิวจู​๋​เอ่ย​พลาง​ประสานมือ​ ​วีรบุรุษ​ฝีมือ​ชั้นสูง​ชอบ​ดื่ม​สุราชั​้น​ดี​ ​ถึงแม้​เซี​่ย​ซิวจู​๋​จะ​เกิด​มาจาก​ตระกูล​ผู้ดี​แต่กลับ​เติบโต​มากับ​ตระกูล​นักรบ​ ​ฉะนั้น​ย่อม​ซึมซับ​นิสัย​ของ​นักรบ​มามาก​เป็นธรรมดา​ ​สุราชิง​จู๋​เป็น​สุรา​ขึ้นชื่อ​ของ​แคว้น​เย​่ว​์​โดยเฉพาะ​ ​บ่ม​มา​เป็น​สามสิบ​ปี​ยิ่ง​หายาก​เข้าไป​ใหญ่​ ​หาก​ปฏิเสธ​คง​ดู​ไม่​ให้เกียรติ​เท่าไร​นัก

​หรง​จิ​่​นม​อง​มู่​ชิง​อี​แล้ว​เอ่ย​อย่าง​ไม่พอใจ​ว่า​ ​“​ชิง​ชิง​ยก​สุรา​กว่า​ครึ่ง​ให้​หนา​นก​งอ​วี​้​ ​ที่​เหลือก​็​ยก​ให้​สหาย​เซี​่ย​ ​ข้า​กลับ​ไม่ได้​ลิ้มรส​แม้แต่​จอก​เดียว​”

​มู่​ชิง​อี​เหลือบมอง​เขา​แวบ​หนึ่ง​อย่าง​ไม่สบอารมณ์​กล่าว​ ​“​สุขภาพ​ของ​ท่าน​ดื่ม​สุรา​แรง​ๆ​ ​ได้​หรือ​เพ​คะ​ ​มีสุ​ราบ​่​มด​อก​เหมย​นี่​ดื่ม​ก็​ควร​ดีใจ​ได้​แล้ว​”

​หรง​จิ​่น​แค่น​เสียง​เบา​ ​“​ข้า​จะ​ไป​ขโมย​สุรา​ของ​สหาย​เซี​่ย​”

​มู่​ชิง​อีกุม​ขมับ​ ​เป็น​ถึง​อ๋อง​คน​หนึ่ง​แต่​ดัน​กล้า​พูด​แบบนี้​ต่อหน้า​เขา​โดย​ไม่อาย​สถานะ​ของ​ตนเอง​บ้าง​เลย​ ​นาง​จึง​โบก​ไม้​บอก​มือ​เอ่ย​ ​“​ตามใจ​เถิด​ ​ถ้า​ท่าน​แตะต้อง​ซิวจู​๋​ได้​ ​ต่อให้​ดื่ม​ทั้ง​ไห​ก็​ไม่มีใคร​สนใจ​ท่าน​หรอก​”

​หรง​จิ​่​นม​อง​เซี​่ย​ซิวจู​๋​อย่าง​ชอบใจ​ ​เซี​่ย​ซิวจู​๋​ลังเล​ครู่หนึ่ง​ก่อน​เอ่ย​จาก​ใจจริง​ ​“​สุขภาพ​ของ​ท่าน​อ๋อง​ไม่​ค่อย​ดีนัก​ ​ท่าน​ดื่ม​…​สุรา​ดอก​เหมย​จะ​ดีกว่า​”​ ดื่ม​สุรา​ไม่ใช่​แค่​ทำลาย​สุขภาพ​เท่านั้น​ ​แต่​หาก​สุขภาพ​ไม่ดี​แล้ว​ดื่ม​สุรา​มั่วซั่ว​ก็​เป็นการ​ทำลาย​รสชาติ​สุรา​เช่นกัน

​รอยยิ้ม​บน​ใบหน้า​ของ​หรง​จิ​่น​เรียบ​ตึง​ในทันที​ ​จากนั้น​ก็​มอง​รอยยิ้ม​บาง​บน​ใบหน้า​ของ​มู่​ชิง​อี​ที่อยู่​ข้าง​เตาผิง​อย่าง​เงียบๆ​ ​มู่​ชิง​อี​ยก​จอก​สุรา​ตรงหน้า​เขา​ขึ้น​ก่อน​กรอก​ใส่​ปาก​แล้ว​เอ่ย​ ​“​เลิก​โวยวาย​ได้​แล้ว​”

​หรง​จิ​่​นค​ว้า​มือ​ของ​นาง​ไว้​ ​จากนั้น​ก็​เอา​สุรา​บ่ม​ดอก​เหมย​กลิ่น​อ่อน​ๆ​ ​มา​ลิ้มรส​ด้วย​ท่าที​สบาย​ๆ​ ​เอ่ย​ชื่นชม​ ​“​ชิง​ชิง​เป็น​คน​ริน​สุรา​ให้​เอง​ ​สุรา​บ่ม​ดอก​เหมย​ก็​มีรส​ชาติ​อยู่​เหมือนกัน​”

​จากนั้น​มู่​ชิง​อีก​็​ใช้​มือ​ดัน​ปากของ​ใคร​บางคน​ไป​อีก​ฝั่ง​ ​ขณะที่​นาง​อยาก​พูด​อะไร​บางอย่าง​ปู้​อวี​้​ถัง​ก็​ขอ​เข้าพบ​ ​“​ทูล​ท่าน​อ๋อง​ ​หัวหน้า​ผู้ดูแล​กู้​ ​คนใน​วัง​บอกว่า​ขอให้​พวก​ท่าน​ทั้งสอง​เข้า​วัง​”

​หรง​จิ​่​นมุ​่​นคิ​้ว​เอ่ย​ ​“​เรียก​เข้า​วัง​ตอนนี้​มีเรื่อง​อัน​ใด​กัน​”

​ปู้​อวี​้​ถัง​เงียบ​ไป​พัก​หนึ่ง​ถึง​เอ่ย​ ​“​เหมือนว่า​จวง​อ๋อง​ ต​วน​อ๋อง​และ​ฉิน​อ๋อง​จะ​กลับมา​จาก​นอกเมือง​แล้ว​”

​“​ฝ่า​บาท​ให้​ข้า​เข้า​วัง​ไป​กับ​ท่าน​อ๋อง​หรือ​”​ ​มู่​ชิง​อี​ขมวดคิ้ว​เอ่ย​ถาม

​ปู้​อวี​้​ถัง​พยักหน้า​กล่าว​ ​“​ใช่​แล้ว​ ​ฝ่า​บาท​ทรง​รับสั่ง​ให้​หัวหน้า​ผู้ดูแล​กู้​และ​ท่าน​อ๋อง​เข้า​วัง​ไป​ด้วยกัน​”

​พวกเขา​ที่​กำลัง​นั่ง​ใน​ศาลา​ต่าง​สบตา​กัน​ ​ไม่รู้​ว่า​ตา​เฒ่า​นั่น​คิด​จะ​ทำ​อะไร​อีก

​หลังจาก​เปลี่ยนเสื้อ​ผ้า​เข้า​วัง​แล้วก็​มี​คน​พา​เดิน​เข้าไป​พบ​ฮ่องเต้​แคว้น​เย​่ว​์​ภายใน​พระตำหนัก​ขณะที่​องค์​ชาย​คนอื่นๆ​ ​และ​ขุนนาง​สำคัญ​บางส่วน​ต่าง​อยู่​กัน​พร้อมหน้า​ ​รวมถึง​ผู้ว่าการ​ผู้​โชคร้าย​เอง​ก็​กำลัง​นั่งคุกเข่า​ด้วย​หน้านิ่วคิ้วขมวด​แต่​ไม่รู้​ว่า​กำลัง​คิด​อะไร​อยู่

​ครั้น​เห็น​หรง​จิ​่น​เข้ามา​ ​ฮ่องเต้​แคว้น​เย​่ว​์​ที่​เดิมที​สีหน้า​ดุดัน​ก็​คลาย​ลง​ไปมาก​ ​จากนั้น​ก็​กวักมือ​เรียก​หรง​จิ​่​นพ​ลาง​ตรัส​ ​“​จิ​่น​เอ๋อร​์​ ​รีบ​เข้ามา​เร็ว​เข้า​”

​หรง​จิ​่​นมุ​่​นคิ​้ว​แล้ว​สับ​เท้า​เดิน​ขึ้นไป​ทำความเคารพ​ ​“​เสด็จ​พ่อ​เรียก​ลูก​เข้าเฝ้า​ตอนนี้​มีเรื่อง​อัน​ใด​หรือ​”​ ​ฮ่องเต้​แคว้น​เย​่ว​์​มอง​เขา​พลาง​ตรัส​ ​“​เมื่อก่อน​เห็น​ว่า​จิ​่น​เอ๋อร​์​ยัง​เป็น​เพียง​เด็ก​คน​หนึ่ง​ ​คิดไม่ถึง​ว่า​พริบตาเดียว​จะ​เติบใหญ่​ขนาด​นี้​แล้ว​”

​หรง​จิ​่​นก​วาด​ตาม​อง​เหล่า​องค์​ชาย​ด้าน​ข้าง​อย่าง​ฉงน​ ตา​เฒ่า​นี่​เป็นบ้า​อะไร​ขึ้น​มา

​องค์​ชาย​คนอื่นๆ​ ​ต่าง​ก้มหน้า​อย่าง​ละอายใจ​ ​ทว่า​มี​เพียง​หวง​จั่ง​ซุน​หรง​ไหว​คนเดียว​ที่​เผย​สีหน้า​เกรี้ยว​โกรธ

​คน​มากมาย​ใน​พระตำหนัก​เงียบกริบ​ ​มู่​ชิง​อี​ย่อม​ไม่​พูด​อะไร​อยู่​แล้ว​ ​หลังจาก​ทำความเคารพ​เสร็จ​ก็​มายื​นข​้า​งกาย​หรง​จิ​่น​ด้วย​สีหน้า​นิ่ง​สงบ​ ​หรง​จิ​่น​เอ่ย​อย่าง​หงุดหงิด​ใจ​ว่า​ ​“​เสด็จ​พ่อ​เรียก​ลูก​มาด​้วย​เรื่อง​อัน​ใด​กัน​แน่​”

​ฮ่องเต้​แคว้น​เย​่ว​์​ตรัส​ว่า​ ​“​ฉิน​อ๋อง​มารา​ยงา​นว​่า​เจ้า​เฆี่ยน​ขุนนาง​ ​แย่ง​ที่พักอาศัย​ชาวบ้าน​ ​เรื่อง​นี้​จิ​่น​เอ๋อร​์​มีสิ​่ง​ใด​จะ​พูด​หรือไม่​”

​คิ้ว​ทรง​ดาบ​ของ​หรง​จิ​่น​เลิก​ขึ้น​เล็กน้อย​ ​จากนั้น​ก็​กวาดตา​มอง​หรง​ไหว​ที่อยู่​อีก​ฝั่ง​ ​เชิด​คาง​ขึ้น​เอ่ย​ ​“​ข้า​ก็​ตี​ไป​แล้ว​ ​จะ​เอาอย่าง​ไร​อีก​”

​หรง​ไหว​ก้าว​ขึ้น​มาก​่อน​เอ่ย​เสียง​ขรึม​ ​“​อา​เก้า​ ​ต่อให้​ขุนนาง​จะ​บกพร่อง​ใน​หน้าที่​ ​แต่​เสด็จ​ปู่​ก็​ไม่ได้​ถอดถอน​ตำแหน่ง​ของ​เขา​ออก​สักหน่อย​ ​ท่าน​อา​เฆี่ยนตี​เขา​ต่อหน้า​คน​มากมาย​เช่นนั้น​ ​ท่าน​อา​เอา​อำนาจ​และ​ศักดิ์ศรี​ของ​เสด็จ​ปู่​ไป​ไว้​ที่ใด​”

​หรง​จิ​่น​ยิ้ม​เย้ย​ ​“​เหตุใด​ข้า​ถึง​ไม่รู้​เลย​เล่า​ว่า​อำนาจ​และ​ศักดิ์ศรี​ของ​เสด็จ​พ่อ​ต้อง​อาศัย​ผู้ว่าการ​ตัวเล็ก​ๆ​ ​คน​หนึ่ง​มาช​่ว​ยดู​แล​รักษา​”

​“​ท่าน​อา​เถียง​ข้างๆ​ ​คู​ๆ​!​”​ ​หรง​ไหว​ตวาด​เสียง​สูง​ ​“​ทั้งๆ​ ​ที่​ก็​รู้​ว่า​ผู้ว่าการ​เป็น​ขุนนาง​ที่​เสด็จ​ปู่​ทรง​แต่งตั้ง​ให้​เอง​กับ​มือ​ ​ทว่า​กลับ​เฆี่ยนตี​เขา​ต่อหน้า​คน​มากมาย​ ​แบบนี้​ก็​เท่ากับ​ว่า​ไม่เห็น​เสด็จ​ปู่​อยู่​ใน​สายตา​เลย​มิใช่​หรือ​”

​“​ข้า​รู้​ว่า​เจ้า​เป็น​หลาน​แท้ๆ​ ​ของ​เสด็จ​พ่อ​ ​แต่​ก็​ยัง​เฆี่ยนตี​เจ้า​ ​แล้ว​เจ้า​อยาก​เอาคืน​หรือไม่​เล่า​”​ ​หรง​จิ​่น​เอ่ย​เย้ยหยัน

​หรง​ไหว​ใบหน้า​แดงก่ำ​ ​จากนั้น​ก็​กวาดตา​มอง​สีหน้า​อึมครึม​ของ​ทุกคน​ตรงนั้น​อย่างรวดเร็ว​ ​เอ่ย​ยิ้ม​เย็นชา​ ​“​หลาน​มิบั​งอาจ​ ​มี​ใคร​ไม่รู้​บ้าง​ว่า​อา​เก้า​เป็น​องค์​ชาย​คนโปรด​ของ​เสด็จ​ปู่​ ​อย่า​ว่าแต่​เฆี่ยนตี​สั่งสอน​หลาน​เลย​ ​ต่อให้​หลาน​ต้องตาย​หลาน​ก็​มิบั​งอาจ​ตัดพ้อ​ใดๆ​ ​ทั้งสิ้น​ ​เพียงแต่​ผู้ว่าการ​เมืองหลวง​ก็​อาวุโส​น้อยกว่า​ท่าน​อา​หรือ​อย่างไร​”

​หรง​จิ​่น​หัวเราะ​เสียงทุ้ม​ต่ำ​ ​“​เขา​อาวุโส​น้อยกว่า​ข้า​หรือไม่​ ​เจ้า​ถาม​เสด็จ​พ่อ​ก็​รู้​แล้ว​มิใช่​หรือ​”

​“​เจ้า​…​”​ ​หรง​ไหว​หน้า​เขียวปั​๊ด​ด้วย​ความโมโห

​ฮ่องเต้​แคว้น​เย​่ว​์​คลึง​หว่าง​คิ้ว​ที่​เต้น​ตุบๆ​ ​แล้ว​ตรัส​ขึ้น​อย่าง​ไม่พอ​พระทัย​ว่า​ ​“​พวก​เจ้า​เงียบ​ไป​เลย​ ​พูดจา​เหลวไหล​อะไร​กัน​ ​จิ​่น​เอ๋อร​์​ ​เจ้า​เอง​ก็​โต​แล้ว​ ​วันหลัง​อย่า​ลง​ไม้​ลงมือ​กับ​ขุนนาง​ใหญ่​โดย​ไร้​สาเหตุ​ ​เข้าใจ​หรือไม่​”

​หรง​จิ​่น​เลิก​คิ้ว​กล่าว​ ​“​ลูก​ลง​ไม้​ลงมือ​กับ​ขุนนาง​ใหญ่​โดย​ไร้เหตุผล​ตั้งแต่​เมื่อใด​กัน​” ​ทุกครั้งที่​เขา​ทำ​สิ่งใด​ย่อม​มีเหตุผล​เสมอ​มิใช่​หรือ

​ฮ่องเต้​แคว้น​เย​่ว​์​เพิกเฉย​ทำเป็น​ไม่ได้​ยิน​คำพูด​ของ​เขา​แล้ว​ตรัส​ต่อไป​ ​“​แต่​ครั้งนี้​…​เจ้า​หมอนี​่​สมควร​โดน​จริงๆ​ ​ไม่ใช่​แค่​สมควร​โดน​ ​แต่​ควร​ตาย​ซะ​ด้วยซ้ำ​!​ ​องค์​ชาย​เก้า​ทำ​ไป​เพื่อ​แบ่งเบาภาระ​เรา​ ​เรื่อง​นี้​จบ​เพียงเท่านี้​ก็แล้วกัน​”

​เพราะเหตุนี้​เรื่อง​ที่​องค์​ชาย​เฆี่ยนตี​ขุนนาง​ชั้นผู้ใหญ่​ก็​ถูก​ไกล่เกลี่ย​ลง​อย่างง่ายดาย

​หรง​ไหว​ทั้ง​ร้อนรุ่ม​ใจ​ทั้ง​โมโห​ ​เอ่ย​ด้วย​ความ​เดือดดาล​ว่า​ ​“​เสด็จ​ปู่​!​ ​อวี​้​อ๋อง​แย่ง​ที่พักอาศัย​ของ​ชาวบ้าน​ ​อีกทั้ง​บีบ​ให้​ตระกูล​เฉิน​บริจาค​ทรัพย์สิน​เกิน​กว่า​ครึ่ง​ ​ทั้งๆ​ ​ที่​เขา​เอา​เงิน​ค่า​ซื้อ​เสบียง​เหล่านั้น​กลับคืน​ไป​แล้ว​”

​“​พอได้​แล้ว​!​”​ ​ฮ่องเต้​แคว้น​เย​่ว​์​ขมวดคิ้ว​แล้ว​ตัดบท​หรง​ไหว​ที่​พยายาม​พูด​ไม่​เลิก​อย่าง​ไม่​ชอบใจ​นัก​ ​ตรัส​กับ​เขา​ว่า​ ​“​เรา​ไม่ได้ความ​จำ​เลอะเลือน​ ​เจ้า​กลับ​ไป​ยืน​ประจำ​ที่​เสีย​ ​จิ​่น​เอ๋อร​์​เป็น​ถึง​อา​ของ​เจ้า​ ​แต่​เจ้า​อยาก​เห็น​เขา​ต้อง​เผชิญ​กับ​เรื่อง​เลวร้าย​มาก​ขนาด​นั้น​เชียว​หรือ​”