บทที่ 439 หลี่คงเป็นคนดี

มารดาของหลี่คงยังจับขาของฝางเหมี่ยวไว้ไม่ปล่อย กู้หวนเนี่ยนต้องนางพูดว่า

“ปล่อยนาง!” นางหลี่ตกใจกับสายตาเย็นชาจนต้องรีบปล่อยออกทันที กู้หวนเนี่ยนมองฝางเหมี่ยว

“ไปกันเถอะ”

ฝางเหมี่ยวเดินตามเขาออกไปจนพ้นกลุ่มหญิงปากร้ายพวกนั้น

เมื่อเห็นกู้หวนเนี่ยนเดินไปกับฝางเหมี่ยวผู้หญิงพวกนั้นได้แต่ตะลึงอ้าปากค้าง

“นั่นใครกัน เขามาช่วยฝางเหมี่ยวได้อย่างไร?”

“ดูเสื้อผ้าและท่าทางแล้ว ไม่ธรรมดาเลย เขาเป็นขุนนางที่ไหนกัน?”

“น่าจะเป็นผู้พิพากษาของศาลต้าหลี่ ข้าเคยเห็นตอนที่เขาพิจารณาคดี”

“ใต้เท้าแห่งศาลต้าหลี่หรือ? มัจจุราชหน้าตายผู้นั้น” คนที่พูดอ้าปากค้างอย่างตกใจ

ผู้พิพากษาของศาลต้าหลี่เป็นขุนนางระดับสาม ถือได้ว่าเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูง บิดาของใต้เท้ากู้ผู้นี้ยังเป็นถึงแม่ทัพอีกด้วย เขามีสถานะที่สูงส่งกว่าเชื้อพระวงศ์บางคนเสียอีก

“ไม่น่าแปลกใจเลย ข้ากลัวแทบฉี่ราด”

“เขาช่วยฝางเหมี่ยว เขาไม่รังเกียจนางหรือ?”

“เจ้าพูดเรื่องไร้สาระอะไรกัน สองคนนี้อยู่ต่างกันราวฟ้ากับดิน ขนาดคนขายเนื้อในตลาดยังไม่เอานางเลย ใต้เท้ากู้จะเห็นหัวนางหรือ?”

“ใช่แล้ว! นางไม่สมควรแม้แต่จะถือรองเท้าให้เขาด้วยซ้ำ นางไม่ควรจะได้แต่งงานกับใครทั้งนั้น”

“นั่นก็ไม่แน่นัก พ่อม่ายลูกติดอาจจะอยากแต่งกับนางก็เป็นได้”

“พี่สะใภ้หลี่ ข้ามีหลานสาวน่ารักดูแล้วน่าจะเหมาะกับลูกชายของท่าน”

………

ฝางเหมี่ยวผู้เดินก้มหน้าตามหลังกู้หวนเนี่ยนไม่ได้ยินเสียงนินทาลับหลังนาง หญิงสาวแอบมองแผ่นหลังที่ใจดีของกู้หวนเนี่ยน

“ใต้เท้า ขอบคุณท่านมากที่ช่วยข้าออกมาจากคนเหล่านั้น”

“อืม” กู้หวนเนี่ยนตอบโดยไม่หันหลังกลับมา

“ใต้เท้า เมื่อครู่ ท่านได้ยินที่พวกเขาพูดมากน้อยเพียงใด?” ฝางเหมี่ยวกัดฟันถาม ไม่รู้ว่าเขาจะได้ยินไหม?

กู้หวนเนี่ยนไม่ตอบ เขากำลังคิดถึงหญิงสาวเหล่านั้นที่ใช้คำพูดดูถูกดูแคลนฝางเหมี่ยว เขารู้สึกโกรธ ทำไมถึงได้มองว่านางเป็นตัวอัปมงคล นางไม่สมควรจะแต่งงาน เห็นๆ อยู่ว่านางไม่ได้เป็นเช่นที่กล่าวหา แต่คนพวกนั้นไม่ได้ทำอะไรที่ผิดกฎหมายของต้าโจว เขาจำต้องยับยั้งตัวเองเอาไว้

“ใต้เท้า พวกเขาพูดเรื่องไร้สาระ ข้าไม่ได้เป็นเช่นที่เขากล่าวหา” ฝางเหมี่ยวอธิบาย

“อืม” เขาเชื่อนาง

“ใต้เท้า…ทำไมท่านถึงได้มาอยู่แถวนี้ล่ะเจ้าคะ?” ฝางเหมี่ยวถามเบาๆ

กู้หวนเนี่ยนตัวแข็งไปชั่วครู่ เขาไม่พูดอะไร ผู้ติดตามฉีอันได้แต่กลอกตา

ทำไมถึงได้มาอยู่ที่นี่นะหรือ? พวกเขามาเดินเล่นในยามว่างกระมัง…เขาอยู่กับกู้หวนเนี่ยนมานานนับเป็นสิบปีแล้ว เดิมทีเขาคิดว่าใต้เท้ากู้คือต้นไม้เหล็กที่จะไม่มีวันออกดอกได้เสียแล้ว

“ข้ามีกิจธุระที่ต้องผ่านมาแถวนี้”

“อ้อ” ฝางเหมี่ยวพยักหน้า

อาฉี “………………..”

ต้นไม้เหล็กกำลังออกดอก เพียงแต่เขาไม่มีประสบการณ์ในการไล่ตามหญิงสาว หากไม่ใช่ความแตกต่างระหว่างนายกับบ่าวแล้ว เขาย่อมอยากพูดจาสั่งสอนนายท่านเสียบ้าง

นายท่าน ! หากท่านพูดไม่เป็นก็ไม่ต้องพูดก็ได้!

ใต้เท้ากู้เป็นพวกหน้าตาย ปากอมพะนำ ทำอย่างไรก็ไม่รู้วิธีเกลี้ยกล่อมหญิงสาว

ต้องอาศัยหน้าด้าน อายอด คือวิธีจีบหญิงที่ถูกต้องแล้ว!

“ใต้เท้า ท่านจะกลับไปที่ศาลต้าหลี่หรือไม่?” ฝางเหมี่ยวถาม

“หากเจ้าว่างก็กลับไปทำงานที่ศาลต้าหลี่” กู้หวนเนี่ยนพูดเรียบๆ

“เจ้าค่ะ” ฝางเหมี่ยวเดินตามเขาไปทำงานที่ศาลต้าหลี่ นางยุ่งตลอดทั้งวันจนลืมเรื่องราวที่เกิดขึ้นในตลาดเสียสนิท หญิงสาวทำงานจนถึงบ่าย จากนั้นจึงได้กลับบ้าน

เมื่อฝางเหมี่ยวกลับถึงบ้านจึงได้พบว่า มารดาของตนจมูกช้ำ ใบหน้าบวม

นางรีบวิ่งเข้าไปหา ถามอย่างกังวลว่า

“ท่านแม่เป็นอะไรไปหรือเจ้าคะ?”

นางฝางส่ายหน้า “ไม่เป็นไร ข้าแค่หกล้มเท่านั้น” ฝางเหมี่ยวมองใบหน้าของมารดาที่เต็มไปด้วยรอยเล็บข่วน จะหกล้มได้อย่างไร

“ท่านแม่ ท่านทะเลาะกับใครมาเจ้าคะ?”

“จะเป็นใครก็นางหลี่ปากหมาผู้นั้นนะสิ!”

นางฝางได้ยินเรื่องที่เกิดขึ้นในตลาด ว่านางหลี่ดูถูกบุตรสาวของนาง นางโกรธมากจึงได้ไปขอคำอธิบายเป็นผลให้นางหลี่เอานิ้วจิ้มหน้าผากและกล่าววาจาดุด่านาง ทั้งคู่จึงได้ทะเลาะวิวาทกัน นางหลี่พาสามีมาทุบตีนางฝางทำให้นางฝางได้รับความเจ็บปวด การทะเลาะกันในครั้งนี้ทำให้ทั้งสองครอบครัวมองหน้ากันไม่ติดอย่างสิ้นเชิง

ที่จริงแล้วนางฝางยังอดเสียดายไม่ได้ พ่อหนุ่มหลี่คงนั้นเป็นคนดีจริงๆ แต่ครอบครัวของเขารับมือยากเกินไป

เมื่อฝางเหมี่ยวได้ยินก็รู้ว่าเป็นเพราะตนเองเป็นต้นเหตุปลายจมูกของนางแสบร้อนขึ้นมา

“ท่านแม่เจ็บมากไหม?”

“ไม่เจ็บมากหรอกแค่เรื่องเล็กน้อยเท่านั้น” นางฝางตอบบุตรสาว

“ไปหาหมอกันเถอะ…” ฝางเหมี่ยวดึงแขนมารดากำลังจะพานางออกไป

หากมารดาของนางกลับรั้งเอาไว้

“เจ็บนิดๆ หน่อยๆ เท่านั้นจะไปหาหมอทำไมกัน” นางฝางพูด

“แม่…” ดวงตาของฝางเหมี่ยวเป็นสีแดงก่ำ นางกอดมารดาเอาไว้

“เจ้าโตแล้ว อย่าร้องไห้สิ!”

“เจ้าค่ะ” ฝางเหมี่ยวสูดจมูก แต่น้ำตากลับไหลออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่ นางฝางถอนหายใจเบาๆ กอดนางเอาไว้

ทำไมชีวิตของนางสองคนแม่ลูกจึงได้ลำบากเช่นนี้?

หากครอบครัวของนางมีผู้ชายสักคนคงจะดี ไม่เช่นนั้นแล้วเวลาทะเลาะวิวาทกับผู้ใดก็ไม่อาจเอาชนะได้ ในตอนที่นางทะเลาะกับนางหลี่ก็อดแวบความคิดเช่นนี้ขึ้นมาไม่ได้ นางแค่อยากให้บุตรสาวได้แต่งงานกับผู้ชายที่ดีจะได้ปกป้องนางได้เท่านั้นเอง ทำไมถึงได้ยากเข็ญเช่นนี้นะ?

แม่ลูกยืนกอดกันสักพัก ทันใดนั้นมีเสียงเคาะประตูดังขึ้น หญิงสาวเช็ดน้ำตาผละออกจากอ้อมอกของมารดา

“ท่านแม่ ข้าจะไปเปิดประตูก่อน”

ฝางเหมี่ยววิ่งไปเปิดประตู แต่เมื่อได้เห็นหญิงสาวแทบอยากจะปิดประตูใส่หน้า เป็นหลี่คงและมารดาของเขาที่ยืนอยู่ข้างนอก

“แม่นางฝาง ข้าและมารดามาที่นี่เพื่อกล่าวขอโทษท่าน”

“ข้าขอโทษ” หลี่คงพูด หากใบหน้าของนางหลี่กลับไม่เต็มใจ แต่เมื่อบุตรชายของนางยืนยันว่าจะแต่งฝางเหมี่ยวเข้าบ้าน นางจึงไม่มีทางเลือกนอกจากต้องมาขอโทษ

นางฝางเดินมาที่ประตู

“ข้า…ข้าขอโทษ” นางหลี่พูดตะกุกตะกักอย่างเคอะเขิน

หลี่คงกล่าวขอโทษด้วนท่าทางที่จริงใจ

“ท่านป้า ฝางเหมี่ยว ข้าขอโทษ มารดาของข้าทำเกินกว่าเหตุ …ข้าไม่ได้คิดว่านางจะ…ทั้งหมดเป็นความผิดของข้าแต่ผู้เดียวข้าจัดการทุกอย่างไม่ดี ท่านแม่ข้าเป็นฝ่ายผิด ต่อไปนี้จะไม่เกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นมาอีก” หลี่คงพูดจบเขาหันไปมองมารดาพูดย้ำกับนางว่า

“ท่านแม่ ข้ากล่าวถูกต้องหรือไม่?”

“ใช่ๆ ต่อไปจะไม่เกิดขึ้นอีก” นางหลี่พูด นางฝางมองหลี่คง นางเกิดความประทับใจต่อเด็กหนุ่มผู้นี้จริงๆ