​เดือน​หก​ใกล้​จะ​สิ้นสุด​แล้ว​ ​อากาศ​ก็​ยัง​ร้อนระอุ

​บน​ถนน​แทบ​ไม่มี​ผู้คน​ ​ต่อให้​มี​คน​เดินผ่าน​ก็​ก้าว​เท้า​กัน​อย่าง​ไว​และ​เดินตาม​ริมถนน​เพื่อ​เลี่ยง​แดด​พิษ

​สุนัข​ตัว​ใหญ่​นอน​อยู่​มุม​หนึ่ง​ของ​กำแพง​ ​มัน​แลบลิ้น​ออกมา​อย่างไร​้​ชีวิตชีวา

​ชาย​คน​หนึ่ง​นั่ง​อยู่​โคน​กำแพง​ ​ซึ่ง​ห่าง​จาก​สุนัข​ตัว​ใหญ่​สีเหลือง​แค่​หนึ่ง​จั้ง​เท่านั้น

​สุนัข​ตัว​ใหญ่​รู้สึก​เบื่อ​ ​จึง​เอียง​หัว​มองดู​คน​ๆ​ ​นั้นแล​้ว​เห่า​สอง​ที

​เห็นได้ชัด​ว่า​สุนัขจรจัด​ตัว​นี้​คุ้นเคย​กับ​คน​นั้น​มาก​ ​มัน​ยอมให้​เขา​กระทำ​โดย​ไม่มีเหตุผล​ใน​อาณาเขต​ของ​มัน​ได้

​ทันใดนั้น​สุนัขจรจัด​ก็​ตั้ง​หู​ขึ้น​และ​จ้องมอง​ตาม​สัญชาตญาณ

​มีพ​วก​เดียวกัน​ตัว​หนึ่ง​ขน​เงา​แวววาว​กำลัง​เดิน​มา​อย่าง​ช้าๆ

​สุนัขจรจัด​ตื่นตัว​จน​ต้อง​ลุกขึ้น​มา​ ​มัน​ส่งเสียง​เตือน​ออก​ไป​เบา​ๆ​ ​เสียง​ที่​เปล่ง​ออกมา​แฝง​ไว้​ด้วย​ความ​ไม่ไว้ใจ

​เพราะ​เป็น​พวก​เดียวกัน​ ​มัน​จึง​สัมผัส​ได้​ถึง​การข่มขู่​ที่มา​จาก​ฝ่ายตรงข้าม

ไอ้​หมอนี​่​กิน​แต่​เนื้อ​แน่ๆ​ ​ตัว​แน่น​ขนาด​นี้​แค่​ทับ​ก็​ตาย​ได้​แล้ว​!

​สุนัข​ตัว​ใหญ่​ผู้​สง่า​ ​พอ​เดิน​มาถึง​ตรงหน้า​สุนัขจรจัด​ก็​ยก​เท้าหน้า​ขึ้น​ปัด​มัน​ไป​ข้างๆ

​สุนัขจรจัด​โมโห​จัด

​นี่​คือ​อาณาเขต​ของ​มัน​ ​มัน​ครอบครอง​มานาน​ ​มัน​ฉี่​เป็น​วงกลม​จอง​พื้นที่​วัน​ละ​หลาย​หน​ ​ไอ้​หมอนี​่​รังแก​สุนัข​มากเกินไป​แล้ว​!

​ถึง​ไอ้​หมอนี​่​จะ​สูง​กว่า​มัน​ ​ถึก​กว่า​มัน​ ​แต่​สุนัขจรจัด​ก็​มีศักดิ์ศรี​เหมือนกัน​ ​มัน​จะ​สู้​สุด​ชีวิต​!

​“​โฮ่ง​!​”​ ​เอ้อร​์​หนิว​แยกเขี้ยว​พร้อม​ทำ​หน้า​ดุ

​สุนัขจรจัด​วิ่งหนี​เตลิด​ ​พอ​วิ่ง​ไป​ไกล​พอสมควร​ ​มัน​ถึง​หยุด​ลง​และ​หันกลับ​มา

​เอ้อร​์​หนิ​วนอ​นลง​ตรง​บริเวณ​ที่​สุนัขจรจัด​เคย​นอน​ ​จากนั้น​ก็​วาง​ปาก​ลง​ที่​พื้น​อย่าง​พอใจ

​ผนัง​กำแพง​มี​ความ​ร่มเงา​ ​บางที​อาจะ​เพราะ​ภูมิประเทศ​ค่อนข้าง​ต่ำ​ ​ต่อให้​มีส​ภาพ​อากาศ​เช่นนี้​ ​ก็​ยัง​มีตะ​ไคร้​โต​เติบโต​ขึ้น​ที่​โคน​กำแพง

​เอ้อร​์​หนิว​เขม่น​ตา​ใส่​สุนัขจรจัด​ที่อยู่​ไม่​ไกล​หนึ่ง​ที​อย่าง​ภาคภูมิใจ

ไอ้​หมอนี​่​ไม่มี​ตาดู​ ​แต่​ก็​เลือก​ที่​เก่ง​ไม่เบา​ ​มี​แค่​ตรงนี้​เท่านั้น​ที่​เย็นสบาย​ที่สุด

​สุนัข​สอง​ตัว​แย่ง​อาณาเขต​กัน​ ​ไม่ได้​สร้าง​ความสนใจ​ให้​กับ​ชายหนุ่ม​เลย​แม้แต่น้อย​ ​เขา​เพียงแค่​มอง​ ​แล้วก็​หันไป​เหม่อลอย​ต่อ

​รองเท้า​ปัก​ลาย​สีเขียว​ดุจ​ทะเลสาบ​คู่​หนึ่ง​หยุด​ลง​ตรงหน้า​ชายหนุ่ม

​ชายหนุ่ม​ที่​ก้มหัว​อยู่​ ​ไม่มี​ปฏิกิริยา​ใดๆ​ ​ตอบโต้​กับ​รองเท้า​ปัก​ลาย​ดอก​ที่​พลัน​ปรากฏ​ขึ้น​ต่อหน้า​เขา

​หลาย​วัน​มานี​้​ ​ชายหนุ่ม​ปรากฏตัว​ขึ้น​ที่นี่​เป็นประจำ​ ​แต่ละครั้ง​ที่นั่ง​คือ​หนึ่ง​วัน​เต็ม​ ​บางครั้ง​ก็​มี​คน​คิด​ว่า​เขา​เป็น​ขอทาน​ ​จึง​โยน​แผ่นทอง​แดง​สลัก​หรือห​มัวห​มัว[1] ​ให้

​เวลา​ที่​ชายหนุ่ม​เดินทาง​กลับ​ ​เขา​ไม่เคย​นำ​สิ่ง​เหล่านั้น​ไป​ด้วย

​คนที​่​พัก​บริเวณ​ใกล้​ๆ​ ​มัก​พูดว่า​เขา​คือ​คนบ้า​และ​ไม่รู้​ว่า​เขา​มาจาก​ที่ไหน

​“​จู​จื่อ​อวี​้​”​ ​เสียง​เรียก​หวาน​จาก​หญิงสาว​ดัง​ขึ้น

​ความอ่อนหวาน​นี้​เป็นปกติ​ของเสียง​ ​แต่​น้ำเสียง​ที่​เรียก​เต็มไปด้วย​ความ​เย็นชา

​ชายหนุ่ม​ผู้​ไม่มี​ปฏิกิริยา​ใดๆ​ ​เงยหน้า​ขึ้น​มอง​หญิงสาว​ด้วย​แววตา​ที่​ลุกโชน​ไป​ด้วย​ความดุร้าย

​ต่อให้​ผู้หญิง​ตรงหน้า​สวม​ไว้​ด้วย​หมวก​เหวย​เม่า​ ​เขา​ก็​ยัง​จำ​เสียง​นั้น​ได้​ไม่เคย​ลืม

จะ​ว่า​ไป​แล้ว​ ​การ​ที่​เขา​ตกต่ำ​มาถึง​จุด​นี้​ได้​เขา​เกลียด​ใคร​ยิ่งกว่า​?

​ชุย​หมิง​เย​่ว​์ยัย​หญิง​ชั่ว​นั่น​อยู่​อันดับ​แรก​ ​ผู้หญิง​ที่อยู่​ตรงหน้า​อยู่​อันดับ​ที่สอง​!

​น้องสาว​ของ​ภรรยา​ของ​เขา​ ​เป็น​ปีศาจ​ที่​ผลัก​เขา​ลง​สู่​นรก​ตั้งแต่​วินาที​ที่​เขา​นัดพบ​กับ​ภรรยา​ที่​วัด​ไป๋​อวิ​๋น​

​แววตา​ของ​จู​จื่อ​อวี​้​ดุร้าย​มาก​ ​เขา​แทบ​อยาก​ฉีก​ผู้หญิง​ตรงหน้า​ให้​แหลก​เป็นผง​ธุลี

​แต่​แล้ว​ความ​พิฆาต​ใน​ดวงตา​ก็​ถูก​ความเฉื่อยชา​เข้าปก​คลุม​อย่างรวดเร็ว​ ​และ​เขา​ก็​หย่อน​ตา​จ้อง​ไป​ยัง​พื้น​ด้วย​สภาพ​เหม่อลอย​อีกครั้ง

​เจียง​ซื่อ​มอง​ลง​ไป​ยัง​ชายหนุ่ม​ผู้​อยู่​ตรงหน้า​ที่​มี​ลักษณะ​คล้าย​ขอทาน​ผ่าน​ผ้าคลุม​บาง​ๆ​ ​ในขณะที่​ได้​ขจัด​ความโกรธ​ออก​ไป​ ​ก็​มีความรู้สึก​ปลงใจ​ปน​อยู่​ด้วย

​นี่​ก็​คือ​ ​ซู่​จี๋​ซื่อ​ผู้​เคย​รุ่งโรจน์​ไร้​ที่​ติ​ ​ซึ่ง​เวลานี้​ได้​สูญเสีย​ชื่อเสียง​ไป​หมดสิ้น​ ​ทั้ง​ยัง​ถูก​ไล่ออก​จาก​วงศ์ตระกูล​ ​เวลา​เพียง​ไม่​กี่​เดือน​ก็​ตกต่ำ​ได้​ถึง​เพียงนี้​เชียว​หรือ

​เรื่อง​ที่​จู​จื่อ​อวี​้​วางแผน​คิดร้าย​ภรรยา​ตนเอง​ ​หวัง​ตีสนิท​คน​มีอำนาจ​กลายเป็น​กระแส​ร้อนแรง​ ​ทั้ง​ยัง​ถูก​ตัดสินโทษ​โดย​ฮ่องเต้​ ​เพียงพริบ​ตาเดียว​ตระกูล​จู​ก็​ถูก​คน​เป็น​หมื่น​เป็น​พัน​ชี้หน้า​ด่า​กราด​ ​ไม่ว่า​ใคร​ออกมา​ข้างนอก​ก็​ไม่มีใคร​กล้า​เงยหน้า​ขึ้น​เลย​สัก​คน

​เมื่อ​เป็น​เช่นนี้​ ​สมาชิก​ตระกูล​ย่อม​ไม่ยอมรับ​ชะตากรรม​นี้​แน่​ ​จึง​มีหัว​หน้า​ตระกูล​ออกหน้า​ทำการ​ลบ​ชื่อ​จู​จื่อ​อวี​้​ออกจาก​หนังสือ​รายชื่อ​วงศ์ตระกูล​และ​ไล่ออก​จาก​ตระกูล​จู

​เพียง​เวลา​แค่​หนึ่ง​วัน​ ​จู​จื่อ​อวี​้​ก็ได้​ตก​จาก​ปลาย​เมฆ​ลง​สู่​บ่อ​โคลน​ ​เขา​มี​อาการ​เสียสติ​อยู่​บ้าง​แล้ว​ ​ยิ่ง​ถูก​ไล่ออก​จาก​วงศ์ตระกูล​อีก​ ​อาการ​ก็​ยิ่ง​หนัก​ขึ้น

​ถึง​จะ​มีมา​รดา​คอย​ดูแล​ลับ​ๆ​ ​แต่​ก็​ไม่​สามารถ​ควบคุม​อาการ​ไม่เต็มบาท​ ​วัน​ๆ​ ​เตร็ดเตร่​ไป​ทั่ว​ของ​จู​จื่อ​อวี​้​ได้​ ​นาน​วัน​เข้า​เลย​กลาย​มา​เป็น​สภาพ​นี้

​“​จู​จื่อ​อวี​้​ ​ข้า​รู้​ว่า​เจ้า​ไม่ได้​บ้า​และ​ไม่ได้​โง่​”

​เนื้อตัว​จู​จื่อ​อวี​้​สั่น​ระริก

​เมื่อ​เห็น​ปฏิกิริยา​ของ​เขา​ ​เจียง​ซื่อ​ยก​มุม​ปาก​ขึ้น​เงียบๆ

​ผู้ชาย​ที่สามา​รถ​วางแผน​เล่นงาน​ภรรยา​ได้​ถึง​ระดับ​นั้น​ ​หากว่า​นาง​ไม่ได้​เกิด​เป็น​มนุษย์​ทั้งสอง​ชาติ​ ​จะ​มี​ใคร​มองออก​ว่า​ผู้ชาย​ที่​ภายนอก​ดู​อ่อนโยน​ดุจ​หยก​ ​แต่​แท้จริง​ภายใน​กลับเป็น​คนที​่​มี​จิตใจ​โหดเหี้ยม

​คน​เช่นนี้​ ​จะ​กลายเป็น​บ้า​หรือ​คนโง่​ไป​ง่ายๆ​ ​ได้​อย่างไร​ ​นาง​ไม่เชื่อ

​การ​แกล้ง​บ้า​หรือ​แกล้ง​โง่​ ​เป็น​เสมือน​การนำ​ผ้า​มาบั​งค​วาม​อับอาย​จาก​สายตา​ของ​ผู้คน​เพียง​เท่านั้น

​“​จู​จื่อ​อวี​้​ ​เจ้า​ไม่​อยาก​แก้แค้น​รึ​ไง​”​ ​กับ​ผู้ชาย​ที่​ไม่ยอม​เอ่ย​คำ​ใด​ ​เจียง​ซื่อ​เอ่ย​ถาม​อีกครั้ง

​มือ​ของ​จู​จื่อ​อวี​้​เกาะ​ไว้​กับ​พื้น​ ​เส้นเอ็น​พัน​ไขว้​และ​ปูด​เป็น​สีเขียว​ ​รูปร่าง​ก็​ซูบผอม​จน​ดู​น่า​ตกใจ

​เจียง​ซื่อ​ยิ้มอ่อน​ ​“​ข้า​รู้​ว่า​เจ้า​เกลียด​ข้า​ ​รู้สึก​ว่า​เป็น​เพราะ​การแทรก​แซง​ของ​ข้า​ทำให้​เจ้า​ต้อง​ตกต่ำ​มา​อยู่​จุด​นี้​ ​เจ้า​เกลียด​แม้กระทั่ง​พี่สาว​ข้า​ใช่​หรือไม่​ ​เกลียด​นาง​ที่​ไม่รู้​จัก​ชั่งน้ำหนัก​ ​ไม่ยอม​ไป​ตายดี​ๆ​ ​แต่​ครอบครอง​ตำแหน่ง​จู​เซ่า​ไหน​่​ไน​ไม่​ขยับ​พื้นที่​ว่าง​ให้​คนอื่น​…​”

​จู​จื่อ​อวี​้​กำมือ​แล้ว​เงยหน้า​ขึ้น​ช้าๆ

​สายตา​ที่​คม​ดุจดา​บอยาก​จะ​แทง​คนตรง​ข้าม​ให้​ทะลุ​เป็น​รู

นัง​หญิง​ชั่ว​ ​เขา​กลายเป็น​สภาพ​นี้​แล้วยัง​ไม่​ปล่อย​เขา​ ​ยัง​มา​พูด​สิ่ง​เหล่านี้​อีก​!

​เจียง​ซื่อ​โน้มตัว​ลง​เล็กน้อย​อย่าง​ไม่​เกรงกลัว​ว่า​จู​จื่อ​อวี​้​จะ​เกิด​อาการ​บ้าคลั่ง​แล้ว​ทำร้าย​คน

​“​ข้า​ขอ​เตือน​ว่า​อย่า​ทำ​อะไร​ผลีผลาม​ ​เห็น​สุนัข​ตัว​ใหญ่​ข้างๆ​ ​นั่น​หรือไม่​ ​มัน​มีชีวิตรอด​มาจาก​กอง​ศพ​ใน​สนามรบ​ ​ฟัน​ของ​มัน​กัด​คนตาย​ไป​จำนวน​ไม่น้อย​”

​จู​จื่อ​อวี​้​จึง​มอง​สุนัข​ตัว​ใหญ่​ที่นอน​อยู่​ไม่​ไกล

​เอ้อร​์​หนิว​ให้ความร่วมมือ​เป็น​อย่างดี​ด้วย​การ​แยกเขี้ยว​ใส่

​เขี้ยว​แหลมคม​ส่อง​ประกาย​กลางแดด​ ​นี่​ต่างหาก​ที่​แหลมคม​ดุจดาบ​ของจริง

​จู​จื่อ​อวี​้​ถึงกับ​ใจเสาะ​ทันที

​เขา​ไม่ใช่​คนที​่​เอาตัวรอด​ด้วย​กำลัง

​มุม​ปากของ​เจียง​ซื่อ​เผย​รอยยิ้ม​ที่​ดูถูก​ออกมา

​วิธี​รับมือ​กับ​ชาย​เช่นนี้​ ​ต่อให้​มี​เอ้อร​์​หนิ​วอ​ยู่​ด้วย​ ​หรือ​ถึง​เอ้อร​์​หนิว​ไม่อยู่​ตรงนี้​ ​นาง​ก็​ไม่​กลัว

​ขอ​เพียง​ไม่ใช่​คู่ต่อสู้​ที่​มี​ศิลปะ​การต่อสู้​ที่​เก่ง​มาก​ ​สำหรับ​นาง​ ​การ​จัดการ​คน​ทั่วไป​เป็นเรื่อง​ที่​ง่าย​มาก

​“​จู​จื่อ​อวี​้​ ​ความจริง​เจ้า​เข้าใจ​เป็น​อย่างดี​ ​ต้นตอ​ที่​ทำให้​เจ้า​กลายเป็น​เช่นนี้​ไม่ใช่​ข้า​ ​และ​ไม่ใช่​พี่ใหญ่​ของ​ข้า​ ​แต่​คือ​ชุย​หมิง​เย​่ว​์​”

​เมื่อ​ได้ยิน​ชื่อ​นี้​ ​สีหน้า​ของ​จู​จื่อ​อวี​้​มี​การเปลี่ยนแปลง​อย่างเห็นได้ชัด

​เป็นความ​เกลียด​ที่​แสดงออก​มา​อย่าง​ควบคุม​ไม่ได้

ใช่​ ​เขา​รู้ดี​ ​ชุย​หมิง​เย​่ว​์​นัง​หญิง​ชั่ว​นั่น​คือ​ต้นตอ​ของ​เรื่อง​!

​ตอนนั้น​ ​หาก​ชุย​หมิง​เย​่ว​์​ไม่​ริเริ่ม​แสดง​ความเป็นมิตร​หรือ​ใช้​คำพูด​บอกเป็นนัย​ๆ​ ​แล้ว​เขา​จะ​คิด​อะไร​กับ​สตรี​ชั้นสูง​ที่​เอื้อม​ไม่​ถึง​เช่นนั้น​ได้​อย่างไร

​ชาติตระกูล​ของ​เขา​ไม่ได้​แย่​ ​หากว่า​ไม่มี​ภรรยา​ ​ด้วย​สถานะ​ของ​ครอบครัว​กับ​อนาคต​ก้าวไกล​อย่าง​ไม่มีที่สิ้นสุด​ใน​ตำแหน่ง​ซู่​จี๋​ซื่อ​ ​การ​ที่จะ​ได้​แต่งงาน​กับ​องค์​หญิง​ก็​ใช่​ว่า​เป็นเรื่อง​ที่​เป็นไปไม่ได้​ ​แต่​เขา​มี​ภรรยา​ที่​หมั้น​หมาย​ตั้งแต่​เด็ก​ ​ต่อให้​ภรรยา​เกิด​การ​ป่วย​จน​เสียชีวิต​ ​ก็​ไม่​สามารถ​ให้​องค์​หญิง​มา​แต่งงาน​กับ​พ่อหม้าย​ได้

​ความคิด​นี้​ ​ชุย​หมิง​เย​่ว​์​เป็น​คน​กระตุ้น​ให้​มัน​เกิดขึ้น​มา​!

​จู​จื่อ​อวี​้​รู้สึก​เกลียด​ ​แต่​เขา​ตก​มา​อยู่​ใน​สภาพ​เช่นนี้​ ​สูญเสีย​แม้กระทั่ง​กำบัง​จาก​วงศ์ตระกูล​ ​ต่อให้​เกลียด​แค่ไหน​ก็​ทำ​อะไร​ไม่ได้

​“​ชุย​หมิง​เย​่ว​์​จะ​ออกเรือน​แล้ว​ ​และ​กำลังจะ​กลายเป็น​พระ​ชายา​เซียง​อ๋อง​ ​มีตำ​แหน่ง​สูงส่ง​นัก​”​ ​เจียง​ซื่อ​บอกกล่าว​ด้วย​เสียง​เรียบ​และ​สังเกต​ผู้ชาย​ที่อยู่​ตรงหน้า​โดย​ไม่​แสดง​สีหน้า​ใด

​คำพูด​ที่​พูด​ออกมา​ ​ยิ่ง​ทิ่มแทง​หัวใจ​คน

​“​ต่อจากนี้​ไป​ ​นาง​อยู่​บน​ปลาย​เมฆ​ ​เจ้า​อยู่​ใน​บ่อ​โคลน​ ​เจ้า​พอใจ​หรือ​”

​จู​จื่อ​อวี​้​ชก​ใส่​พื้น​หนึ่ง​ที​พร้อมกับ​ใบหน้า​ที่​บูดเบี้ยว

พอใจ​?

​เขา​มีชีวิต​อย่าง​คน​ก็​ไม่ใช่​ ​ผีก​็​ไม่เชิง​ ​ฝั่ง​ตรงข้าม​กลับ​จะ​มีชีวิต​ที่​รุ่งโรจน์​ ​เขา​จะ​พอใจ​ได้​อย่างไร​!

​ถ้า​สามารถ​ใช้ชีวิต​ของ​เขา​ทำให้​ชุย​หมิง​เย​่ว​์​ตก​สู่​บ่อ​โคลน​ได้​เหมือนกัน​ ​เขา​จะ​ตาย​โดยที่​ยัง​ยิ้มอยู่

​จู​จื่อ​อวี​้​มอง​เจียง​ซื่อ​ไม่​ขยับ​ไป​ไหน​และ​กล่าว​อย่าง​ชัดถ้อยชัดคำ​ ​“​ข้า​ไม่พอใจ​!​”

—————————

[1]ห​มัวห​มัว ​เป็น​อาหาร​ทำ​จาก​แป้ง​มี​ลักษณะ​คล้าย​หมั่น​โถว​ ​มีต​้​นกำ​เนิด​จาก​ทิเบต​และ​เป็นที่นิยม​กินใน​เทือกเขา​หิมาลัย