จี้ฉงอี้กลับมาถึงห้องทำงาน ถอดรองเท้าออกแล้วหลับลงบนเตียงทันทีที่ล้มตัวลง
ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไร เขาตื่นขึ้นมาสะลึมสะลือ รู้สึกเพียงปวดหัวเหมือนจะระเบิด มีอาการคอแห้งและรู้สึกเจ็บ
“น้ำ…”
งึมงำเอ่ยขอ ริมฝีปากแตะกับขอบแก้ว
จี้ฉงอี้ไม่ได้คิดมาก พอได้ดื่มน้ำก็รู้สึกยิ่งดื่มยิ่งกระหาย เขาพยายามลืมตา จากนั้นก็แย่งแก้วน้ำไปดื่มใหญ่
“คุณชาย ระวังทำเสื้อเปียกเจ้าค่ะ” เรือนร่างที่นุ่มนวลประชิดตัวเขา
จี้ฉงอี้รู้สึกร้อนลุ่มจึงดึงเสื้อ เขาพบว่าเสื้อชั้นนอกถูกถอดออกไปตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้ เหลือไว้เพียงเสื้อชั้นในสีขาวดุจหิมะตัวเดียว
เขาจึงมองหน้าคนที่เอ่ยเสียง
เป็นสาวรับใช้ข้างกายของเฉี่ยวเหนียง
สาวรับใช้กลอกตาไปมาพร้อมกับยิ้มอ่อนให้
จี้ฉงอี้ไม่ได้คิดมาก เขาวางแก้วน้ำชาลงบนหัวเตียงและเอ่ยถาม “เซ่าไหน่ไนส่งเจ้ามาหรือ”
สาวรับใช้ก้มหน้า คออันเนียนขาวส่วนหนึ่งเผยออกมา “เซ่าไหน่ไนร้องไห้ทั้งบ่าย ภายหลังนอนหลับไป…บ่าวเห็นว่าคุณชายดื่มหนัก ตอนตื่นขึ้นมาอาจจะอยากดื่มน้ำ ก็เลยมาดูเสียหน่อย…”
จี้ฉงอี้ก้มศีรษะมองเสื้อหนึ่งที
สาวรับใช้รีบอธิบาย “บ่าวกลัวคุณชายสวมเสื้อนอนแล้วจะไม่สบายตัวก็เลยถอดออก คุณชายจะไม่โทษบ่าวใช้ไหมเจ้าคะ”
“ไม่เป็นไร เจ้าออกไปได้แล้ว” จี้ฉงอี้ยังรู้สึกร้อนลุ่มไปทั้งตัวราวกับมีไฟกำลังลุกไหม้อยู่ข้างใน จึงลุกขึ้นลงจากเตียง
เรือนร่างอ่อนนุ่มกลับประชิดเข้ามาใกล้อีก “คุณชาย บ่าวช่วยพยุงเจ้าค่ะ”
“ไม่เป็นไร…” จี้ฉงอี้ผลักสาวรับใช้ออกแล้วตัวก็เซ
“ระวังเจ้าค่ะคุณชาย” สาวรับใช้แนบเข้าไปทั้งตัว พร้อมด้วยเสียงพูดตอนท้ายอันหวานหยดย้อยเย้ายวนใจ
จี้ฉงอี้ขมวดคิ้ว กำลังจะผลักสาวรับใช้ออก แต่ประตูห้องพลันเปิดออก
เฉี่ยวเหนียงถือน้ำแกงแก้สร่างเมายืนอยู่ตรงประตูด้วยหน้าซีดเผือด
“เฉี่ยวเหนียง…”
น้ำแกงในมือเฉี่ยวเหนียงร่วงลงไปยังพื้นเสียงแตกดัง เพล้ง น้ำแกงหกเต็มพื้น
นางหันหลังแล้ววิ่งหนีทันที
จี้ฉงอี้เพิ่งสร่างเมาไม่นาน ในสมองยังมึนงงเล็กน้อย เมื่อชะงักไปครู่หนึ่งแล้วจึงวิ่งตามไป
สาวรับใช้จับประตูไว้ด้วยใบหน้าซีดเผือด
ยังทำไม่สำเร็จก็ถูกเซ่าไหน่ไนสามพบเข้า นางตายแน่!
เฉี่ยวเหนียงวิ่งกลับมาที่ห้องนอนกอดหมอนนอนร้องไห้อย่างเจ็บปวด
จี้ฉงอี้เดินเข้ามาเห็นเฉี่ยวเหนียงที่ร้องไห้หนักจนแทบหายใจไม่ทัน พลางเอ่ยขึ้นอย่างทำตัวไม่ถูก “เฉี่ยวเหนียง เจ้าเข้าใจผิดแล้ว…”
เฉี่ยวเหนียงพลิกตัวกลับมานั่ง ดวงตาที่เอ่อล้นด้วยน้ำตากำลังมองจี้ฉงอี้ “ไหนเจ้าลองพูดสิ ข้าเข้าใจผิดอย่างไร”
“บ่าวรับใช้ เพียงแค่ยกน้ำให้ข้าดื่ม ไม่มีอะไรมากไปกว่านั้น…”
เฉี่ยวเหนียงปาดน้ำตาแล้วยิ้มเย็นชา “เพียงยกน้ำดื่มแล้วเจ้าถึงต้องถอดเสื้อออกเลยรึ ข้าไม่ได้ตาบอดนะ เมื่อครู่นี้พวกเจ้าทำอะไรกันข้าเห็นเต็มสองตา!”
จี้ฉงอี้พลันเกิดอารมณ์ขึ้นหัว เขาดึงข้อมือเฉี่ยวเหนียงมาไว้แล้วกล่าวขึ้นอย่างไม่พอใจ “ข้าดื่มหนัก เจ้าก็ไม่มาดูแล แล้วยังเข้าใจผิดอย่างไร้เหตุผลอีก หรือว่าในใจของเจ้า ข้าเป็นคนที่ได้ใหม่ลืมเก่ารึไง”
วันนี้เฉี่ยวเหนียงถูกเว่ยซื่อบังคับไม่ให้ร่วมงานเลี้ยงกินข้าว แค่นึกถึงจี้ฉงอี้จะได้พบหน้ากับพระชายาเยี่ยนอ๋องก็วิตกกังวลอยู่แล้ว จากนั้นยิ่งได้ยินบ่าวรับใช้พูดว่าพระชายาเยี่ยนอ๋องโดดเด่นมาก หัวใจดวงนี้ก็ยิ่งไม่เป็นสุข
นางเฝ้ารอแล้วรอเล่า แต่สิ่งได้กลับมากลับเป็นผู้ชายที่ดื่มจนเมา
บางทีอาจเป็นเพราะความอัดอั้นที่สะสมมาหลายวันทำให้ระเบิดออกมาทีเดียวในวันนี้ เฉี่ยวเหนียงหยิบหมอนขึ้นมาฟาดจี้ฉงอี้ นางทั้งฟาดทั้งตำหนิ “ถ้าไม่ใช่เพราะได้ใหม่แล้วลืมเก่า แล้วทำไมเจ้าถึงดื่มจนเมาเล่า ก็เพราะว่าเจ้าเห็นว่าพระชายาฉีอ๋องเป็นคนรูปงาม เลยรู้สึกคิดผิดที่ยกเลิกการหมั้นกับนาง…”
จี้ฉงอี้พลันเอามือปิดปากเฉี่ยวเหนียงและกล่าวอย่างโมโห “เจ้าหยุดไร้เหตุผลได้แล้ว ถ้าคำพูดแบบนี้แพร่งกระจายออกไป เจ้ารู้หรือไม่ว่าผลที่ตามมาจะเป็นอย่างไร”
เฉี่ยวเหนียงยังคงดิ้นรนกล่าวตำหนิ “กลัวรึไง เจ้ารู้สึกคิดผิดถึงได้ยอมไปนอนห้องหนังสือไม่ยอมอยู่ในห้องนอน ไม่แน่ ตอนที่ผู้หญิงชั่วช้านั่นล่อลวงเจ้า เจ้ายังคิดถึงพระชายาฉีอ๋องอยู่เลย…”
จี้ฉงอี้ฟาดลงไปหนึ่งที ดวงตาถูกไฟโทสะแผดเผาจนเป็นสีแดง “เฉี่ยวเหนียง ทำไมเจ้าถึงกลายเป็นคนที่หยาบช้าเช่นนี้”
พูดว่าเขาคิดไม่ซื่อกับพระชายาฉีอ๋อง หากว่าคำพูดนี้แพร่งกระจายออกไป สิ่งที่ได้กลับมาไม่เพียงแค่การหัวเราะเยาะ แต่ยังจะนำความเดือดร้อนมาสู่จวนอันกั๋วกงด้วย!
จี้ฉงอี้รู้สึกโมโหกับคำพูดของเฉี่ยวเหนียงมาก
ภาพที่เกิดขึ้นในห้องหนังสือเมื่อครู่นี้กระตุ้นความรู้สึกของเฉี่ยวเหนียงจนเสียสติ นางเงยหน้าตอบโต้ “ก็ข้าเป็นเพียงลูกชาวไร่ เจ้าไม่ใช่เพิ่งรู้ สุดท้ายพอเห็นความงามของพระชายาเยี่ยนอ๋องเข้า ไม่ว่าข้าจะทำอะไรก็ไม่มีความเจริญตา แถมยังรู้สึกว่าสู้นังหญิงชั่วนั่นไม่ได้ด้วยใช่หรือไม่”
“ใช่ ยัยเด็กรับใช้นั่นเจริญตาข้ามาก พอใจหรือยัง”
เฉี่ยวเหนียงหยิบหมอนและผ้าห่มขึ้นมาฟาดจี้ฉงอี้ด้วยอึดใจเดียว “งั้นเจ้าก็ไปนอนกับมันเลย ไปนอนเลยสิ ยังมาห้องนอนข้าทำไมอีก”
“เจ้าพูดเองนะ” จี้ฉงอี้ถามออกไปด้วยหน้ามึนตึง
“หรือว่าข้าพูดผิด”
จี้ฉงอี้จ้องหน้าเฉี่ยวเหนียง จากนั้นยกมือขึ้นปัดผ้าเช็ดหน้าออกจากไหล่ “งั้นก็ตามที่เจ้าต้องการ”
เขาหันหลังแล้วจากไปทันที
เฉี่ยวเหนียงวิ่งตามไม่กี่ก้าวก็หยุดลงพร้อมกับเกาะกำแพงและร้องไห้ขึ้นมาอย่างเจ็บปวดใจ
สาวรับใช้ยังคงเหม่อลอยอยู่ในห้องหนังสือ
ล่อลวงเจ้านายผู้ชายยังไม่ทันสำเร็จก็ถูกเจ้านายผู้หญิงจับได้ เจ้านายผู้ชายไม่มีทางปกป้องนางแน่ๆ
เซ่าไหน่ไนสามจะลงโทษนางอย่างไรนะ
ประตูพลันถูกเปิดออก ลมพัดยามค่ำคืนพัดผ่านเข้ามา
“คุณ คุณชาย”
จี้ฉงอี้เดินมาแล้วดึงสาวรับใช้ขึ้นจากพื้น เขาช้อนตัวนางขึ้นแล้ววางลงตรงที่นั่งพร้อมโน้มตัวลงจูบคนที่อยู่ด้านล่างอย่างร้อนแรง
การจูบของเขาเต็มไปด้วยไฟโทสะ จึงดูมีความรุนแรงมากกว่าปกติ
ตอนแรกสาวรับใช้ตะลึงตกใจ ตอนหลังเต็มไปด้วยความดีใจ นางเริ่มตอบสนองด้วยการใช้สองแขนโอบกอดเอวของคนที่อยู่ด้านบน
จี้ฉงอี้พลิกตัวอย่างรุนแรงและผลักสาวรับใช้ออก
“คุณชาย?”
“ออกไป!”
“คุณชาย…”
“เรื่องอย่างวันนี้ หากมีครั้งที่สอง ข้าจะให้พ่อบ้านขายเจ้าออกไป ไสหัวออกไป!”
สาวรับใช้กลัวจนตัวสั่นไม่กล้าพูดสิ่งใดอีก นางก้มหัวต่ำแล้วเดินออกไปอย่างรวดเร็ว
ภายในห้องหนังสือเงียบลงชั่วขณะ
จี้ฉงอี้นั่งยิ้มอย่างขมขื่นบนที่นั่ง
ถึงจะโกรธแค่ไหน เขาก็ยังไม่สามารถทำตัวใกล้ชิดกับหญิงสาวที่ตนเองไม่ชอบ
ท้องฟ้ามืดลงเรื่อยๆ อาการปวดหัวจากการเมาเริ่มออกอาการ มาพร้อมกับความรู้สึกไม่แน่นอนในอนาคต
จี้ฉงอี้ข่มตาไม่ลงพลิกตัวไปมาและจ้องมองที่ประตู
สุดท้ายเฉี่ยวเหนียงก็ไม่มาหา ถึงแม้เขาพูดไปว่าจะหลับนอนกับสาวรับใช้
ค่ำคืนแห่งความเงียบเหงา เสียงร้องของแมลงดูฟังชัดกว่าเดิม
จี้ฉงอี้หลับตาลงแล้วถอนใจหาย
เขาอาจจะ…รู้สึกคิดผิดจริงๆ…
……
ภายในเรือนเจี่ยวเย่ว์จวนองค์หญิงใหญ่ ชุยหมิงเย่ว์ไม่แสดงสีหน้าใด นางกำลังถือเข็มยาวหนึ่งเล่มแล้วทิ่มลงบนหลังสาวรับใช้เป็นพักๆ
สาวรับใช้ไม่กล้าหลบ นางกัดผ้าเช็ดหน้าไว้ไม่กล้าแม้แต่จะพูดออกมาว่าเจ็บ จนถึงกระทั่งชุยหมิงเย่ว์ทิ่มจนเหนื่อย นางถึงคุกเข่าและร้องขอ
“คุณหนู บ่าวไม่กล้าอีกแล้ว คุณหนูปล่อยบ่าวไปเถอะนะเจ้าคะ”
คุณหนูสั่งให้นางใช้น้ำกุหลาบเป็นกับดัก แต่นางเทออกมาส่วนหนึ่งเพราะเกิดความโลภ ปรากฏว่าพระชายาฉีอ๋องแทรกแซงเข้ามาจนทำให้ไม่สามารถปกปิดต่อไปได้…
“นังตัวดี ถ้าตาของเจ้าโลภมากถึงเพียงนี้ ข้าควรจะทิ่มที่ตาของเจ้าถึงจะถูก!” เล่นงานเจียงซื่อไม่สำเร็จ ไฟโทสะในทรวงอกของชุยหมิงเย่ว์เดือดจัดและระบายกับบ่าวรับใช้ทั้งหมด
บ่าวรับใช้ตัวสั่นระริก แม้แต่ร้องขอชีวิตก็ยังไม่กล้าเอ่ย ได้แต่หลับตาลงยอมรับชะตากรรม
คุณหนูยิ่งอยู่ก็ยิ่งน่ากลัว ต่อไปนี้นางจะทำอย่างไรดี
ไม่ ถ้าคุณหนูแต่งเข้าจวนเซียงอ๋องแล้วคงควบคุมอารมณ์ตัวเองได้อย่างแน่นอน อดทนอีกสักหน่อยก็พอ
……
แต่งเข้าจวนเซียงอ๋อง? เจียงซื่อพัดพัดกลมเบาๆ แววตาแสดงไว้อย่างเย็นชา
ชุยหมิงเย่ว์ไม่น่ามีโอกาสนี้แล้ว!