บทที่ 434 ดอกไม้สวย ย่อมเหมาะกับคนงาม

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

บทที่ 434 ดอกไม้สวย ย่อมเหมาะกับคนงาม

“จริงหรือ?”

ตอนนี้หญิงชาวสวนไม่ได้สนใจแล้วว่าขโมยหรือไม่ขโมยของ ตอนนี้นางสนใจแต่เส้นทางการสอบขุนนางของลูกชาย

เพียงแค่สามารถสอบขุนนางได้อย่างราบรื่น ให้นางทำอะไรนางก็ยอม……

“จริงแน่นอน เจ้าก็รู้ว่าคุณหนูนั้นซื่อสัตย์จริงใจ เจ้าเพียงแค่ต้องช่วยเหลือเล็กๆน้อยๆ ก็จะสามารถเปลี่ยนเป็นไม่ต้องกังวลเรื่องใดๆของลูกชายอีกเลย เรื่องดีขนาดนี้ มีเพียงแต่เจ้าที่จะสัมผัสได้”

หญิงชาวสวนแทบไม่เชื่อหูตัวเอง

ทันใดนั้นนางก็หัวเราะทั้งน้ำตา คุณหนูถังมู่หวั่นนั้นดีต่อพวกเราคนสวนจริงๆ เพื่อลูกชายของตนแล้ว นางจึงพยักหน้าตอบรับอย่างไม่ต้องคิด

“ได้ ได้ๆๆ ตราบใดที่อนาคตของชิงเหยนไร้กังวลใดๆ ให้ข้าน้อยทำอะไรก็ยอม”

เสี่ยวเหลียนยิ้มอย่างพึงพอใจ แต่รอยยิ้มนั่นกลับทำให้ใจของหญิงชาวสวนนั้นเย็นวาบ เมื่อเห็นนางเดินเข้ามา หญิงชาวสวนก็ตกใจ “ท่านจะทำอะไร?”

“ทำอะไรได้? แน่นอนว่าจะบอกเจ้า เรื่องที่คุณหนูอยากให้เจ้าทำ”

มือข้างหนึ่งของเสี่ยวเหลียนวางไว้บนไหล่ของหญิงชาวสวน เอาปากมาใกล้ๆหูนาง และพูดเบาๆว่า: “เรื่องที่คุณหนูอยากให้เจ้าทำก็คือ……”

พูดยังไม่ทันจบ มืออีกข้างหนึ่งของเสี่ยวเหลียนก็ดึงมีดขึ้นมาเล่มนึง และแทงเข้าไปที่ร่างกายของหญิงชาวสวน

“ท่าน ท่าน……”

หญิงชาวสวนพูดไม่ออก มีเลือดไหลออกมาจากมุมปาก นางทำได้เพียงแค่ชัก จ้องมองคนที่แทงนาง

เสี่ยวเหลียนยิ้มเยาะ ดึงมีดออกมา และใช้เท้าเตะหญิงชาวสวนล้มลงไปกับพื้น “เรื่องที่คุณหนูอยากให้เจ้าช่วยก็คือให้เจ้าไปตาย”

หลังจากนั้น

เสี่ยวเหลียนก็กดตามองต่ำไปยังหญิงชาวสวนที่ชักกระตุกจนหมดลมหายใจ

“แอ๊ด……”

ประตูไม้เก่าบานนึงเปิดออก นอกห้องมีองครักษ์สองคนรักษาการอยู่ เมื่อเห็นเสี่ยวเหลียนเดินออกมา ก็ยกมือคำนับอย่างประจบประแจง

น่าเสียดายที่เสี่ยวเหลียนไม่เหลือบมองพวกเขาสักนิด

“เอาศพแก่ๆนั่นลากไปทิ้งที่ประตูเหล็กร้างนั่น”

“ขอรับ!”

องครักษ์สองนายก็รีบพุ่งเข้ามาในห้อง ยกศพของหญิงชาวสวนขึ้น และมุ่งไปยังสถานที่ที่เสี่ยวเหลียนบอก

ในสถานที่ที่ห่างจากห้องเครื่องมือเกษตรไม่ไกลนัก มีศาลาหกเหลี่ยมล้อมด้วยผ้าบางๆอยู่ สายลมพัดเบาๆ ผ้าบางๆปลิวว่อน ด้านในมีร่างคนสองคนเคลื่อนไหวอยู่

คนหนึ่งนั่งอยู่บนม้าหิน ถือชิมน้ำชา ท่าทางเหมือนกับอ๋องเย่ตอนดื่มชา อีกคนหนึ่งคุกเข่าอยู่ที่พื้น ไม่รู้ว่ากำลังร้องขออะไร

เสี่ยวเหลียนเช็ดคราบเลือดที่อยู่ในมือ และรีบไปยังศาลา ก็เห็นท่านชายที่ท่าทางเหมือนกับผู้เรียนหนังสือ กำลังก้มหัวให้ถังมู่หวั่นที่นั่งอยู่บนม้าหิน

“ขอร้องคุณหนูถังได้โปรดปล่อยท่านแม่ของข้าไป ข้าจะยอมทำทุกอย่าง”

คนที่พูดอยู่คือหลี่ชิงเหยน ลูกชายของหญิงชาวสวน เขารู้ว่าท่านแม่ทำเพื่อให้ตนเองได้สอบขุนนางอย่างสบายใจ จึงขโมยเมล็ดพันธุ์ดอกไม้ไปขายเปลี่ยนมาเป็นเงิน ให้ตนเองได้กินได้ใช้ ตอนนี้ถูกขังเอาไว้

หลี่ชิงเหยนเลื่อมใสถังมู่หวั่น แต่เพื่อท่านแม่ของตนแล้ว เขาจำเป็นต้องคุกเข่าอ้อนวอนเพื่อท่านแม่

ใบหน้าของถังมู่หวั่นนั้นมีความลำบากใจ สุดท้ายก็ตัดสินใจพูดว่า:

“ท่านชายหลี่ ท่านแม่ของเจ้าแม้จะเป็นแค่คนสวนในสวนว่างฮัว แต่นางก็ซื่อสัตย์มาโดยตลอด ข้อนี้ข้ารู้ดี ถ้าบอกว่านางขโมยเมล็ดพันธุ์……ข้าเองก็ไม่เชื่อ แต่เมื่อข้อเท็จจริงมันอยู่ตรงหน้า ข้าเองก็ทำอะไรไม่ได้

ประเทศก็มีกฎหมายของประเทศ บ้านก็มีกฎของบ้าน เรื่องการขโมยแบบนี้อภัยให้ไม่ได้เด็ดขาด”

ทันใดนั้นสีหน้าของท่านชายหลี่ก็ซีด และเขาก็อ้อนวอนอีกครั้ง

“คุณหนูถัง ท่านแม่ไม่ใช่คนเช่นนั้น ต้องมีการเข้าใจผิดกันแน่ๆ แม้เรื่องนี้จะเป็นเรื่องจริง แต่นั่นก็ทำเพื่อข้า

เอาเช่นนี้แล้วกัน ข้า ข้าจะรับแทนท่านแม่เอง ท่านจะลงโทษข้าอย่างไรก็ได้ ได้โปรดปล่อยนางไป นางอายุเยอะแล้ว ร่างกายก็ไม่ค่อยดี รับความทรมานไม่ได้”

“เอาหล่ะ มันก็เป็นแค่เพียงเมล็ดพันธุ์ก็เท่านั้น ข้าไม่เอาชีวิตท่านแม่เจ้าหรอก เห็นแก่ที่เจ้ามีใจกตัญญู งั้นข้าจะให้เจ้ารับโทษแทนท่านแม่เจ้าแล้วกัน! ข้ามีเรื่องเล็กๆน้อยๆ ต้องการให้เจ้าช่วยพอดี เจ้าช่วยข้าสักครั้งก็พอแล้ว”

“ได้ ข้าซาบซึ้งในบุญคุณของคุณหนูถังนัก”

……

ตอนที่หลานเยาเยาและเย่หลีเฉินมาถึงศาลา ทุกคนก็อดไม่ได้ที่จะกลั้นหายใจ

องค์ชายรัชทายาทในตอนนี้ ไม่เหมือนกับองค์ชายรัชทายาทในปีนั้นอีกแล้ว เขาไม่ดื่มเล่นสำราญ เที่ยวผู้หญิงอีก มีความสุขุมมากขึ้น มีความน่าหลงใหลยิ่งขึ้น

ส่วนเทพธิดา ใบหน้างดงามเตะตา เบื้องหลังลึกลับ ช่วงนี้โดนวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก เพราะลอบสังหารอ๋องเย่ ทำให้ทั้งสองฝั่งแตกร้าว ทำเอาโจษจันไปทั่วเมือง

ทุกคนไม่พอใจกับการลอบสังหารอ๋องเย่ แต่นอกจากนี้แล้ว สติปัญญาและความกล้าหาญของนางนั้นอยู่ห่างไกลจากทุกคน ทำให้ทุกคนชื่นชมนาง

แน่นอน!

หานแสที่ยืนอยู่ข้างหลังหลานเยาเยาและเย่หลีเฉิน

ใบหน้าธรรมดา ไม่มีชื่อเสียง มีเพียงไม่กี่คนที่สนใจเขา

ตอนที่ถังมู่หวั่นมาถึง ก็เห็นเทพธิดาผู้ดึงดูดสายตากับองค์ชายรัชทายาทนั่งอยู่ข้างๆ กลายเป็นที่สนใจของทุกคน ตอนที่ได้ยินทุกคนพูดถึงเรื่องอาการบาดเจ็บของอ๋องเย่ขึ้นมา เทพธิดาก็ทำเป็นหูทวนลม ทำท่าทางราวกับไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับนาง

ถังมู่หวั่นหรี่ตาเล็กน้อย!

แต่ในไม่ช้านางก็เงยหน้ายกยิ้มขึ้นมา หลังคารวะและเอ่ยคำพิธีรีตองกับทุกคนเสร็จ ก็พาทุกคนไปชมดอกไม้

แน่นอนว่า ถังมู่หวั่นเชื้อเชิญหลานเยาเยาเป็นพิเศษ ในตอนที่คารวะ นางก็ตั้งใจขอโทษอีกครั้ง

การชมดอกไม้เริ่มขึ้น ทุกคนก็ลงจากศาลา มุ่งไปยังทุ่งดอกไม้ พลางชมดอกไม้ไปพร้อมๆกับแสดงความสามารถในการแต่งกลอนของตัวเอง

พวกเขากระจายกันเป็นกลุ่มๆ กลุ่มนึงมีเจ็ดแปดคน ล่องลอยไปยังผืนดอกไม้ที่เต็มไปด้วยกลิ่นหอม

ในศาลาใหญ่ เหลือเพียงแค่สองคน

คนนึงคือหลานเยาเยาที่ปฏิเสธดอกไม้ตามสัญชาตญาณ อีกคนคือเย่หลีเฉินที่อยากอยู่ข้างกายเทพธิดา พูดคุยดื่มชากับนาง

สำหรับการชมดอกไม้ เย่หลีเฉินรู้สึกว่าการอยู่กับเทพธิดา แม้จะไม่ได้พูดอะไรสักประโยค แต่ก็รู้สึกผ่อนคลายและมีความสุข

พวกเขาหาอะไรคุยเล่นเรื่อยเปื่อยแก้เขิน

ทันใดนั้น!

“ตึก ตึก ตึก……”

เสียงฝีเท้ารีบเร่งดังมาจากข้างล่าง วิ่งขึ้นมาด้านบน หลังจากที่เสี่ยวเหลียนสาวใช้ข้างกายของถังมู่หวั่นมาถึงตรงหน้าของพวกเขา แล้วทำการคารวะ ก็รีบพูดอย่างร้อนรนว่า:

“องค์ชายรัชทายาท กลอนคู่ที่สัมผัสยากที่สุดของท่านเมื่อสามปีก่อน ตอนนี้ได้มีคนคิดกลอนออกมาสัมผัสต้องกันแล้ว คุณหนูของข้าน้อยเชิญท่านไปดู”

สามปีก่อน ตอนที่เย่หลีเฉินชมดอกไม้อยู่ ได้คิดกลอนออกมาหนึ่งท่อน เป็นที่ขนานนามมาแต่โบราณว่าเป็นกลอนคู่ที่สัมผัสยากที่สุด ตอนนี้ได้มีคนคิดมันออกมา แววตาของเย่หลีเฉินเป็นประกาย เกิดความแปลกประหลาดใจขึ้นมาทันที

“เอ? เป็นผู้ใดกัน?”

“มิทราบ ท่านชายผู้นั้นมาร่วมงานชมดอกไม้ครั้งแรก ยังไม่ทราบชื่อเสียงเรียงนาม”

คนที่สามารถคิดท่อนมาสัมผัสกันได้ ความสามารถในการแต่งกลอนนั้นต้องดีมาก แน่นอนว่าเย่หลีเฉินต้องอยากไปดูสักครั้ง เขาจึงรีบหันกลับมาเชิญหลานเยาเยาให้ไปด้วยกันทันที

“เทพธิดา พวกเราไปดูด้วยกันดีไหม?”

หลานเยาเยาปฏิเสธไปตรงๆ

“ไม่ไป ความเงียบสงบที่หายากเช่นนี้ ข้านั่งชมดอกไม้ตรงนี้ดีกว่า”

“งั้นข้าจะไปแล้วกลับมา”

“ตามใจเจ้า”

มองเย่หลีเฉินลงศาลาไปอย่างรีบร้อน หลานเยาเยาก็อดไม่ได้ที่ยิ้มขึ้นมาอย่างเอ็นดู

กลอนคู่นั่น เป็นนางที่เอาท่านชายระบบการรักษาโรคภัยไข้เจ็บ บังคับให้กลายเป็นท่านชายที่มีพรสวรรค์ด้านการแต่งกลอน แล้วก็แต่งกลอนออกมา จากนั้นนางก็ไปซื้อท่านชายที่ดูไม่เตะตาของตระกูลร่ำรวยมา สั่งให้เขาไปแต่งกลอนคู่ เพื่อดึงดูดเย่หลีเฉิน

เย่หลีเฉินจากไป

หลานเยาเยาก็เอนไปด้านหลังพิงราวบันได หันหัวมองไปยังใต้ต้นไม้ใหญ่ที่อยู่ด้านล่าง ร่างสีม่วงเข้มก็ปรากฏขึ้นในสายตา

หานแสในตอนนั้นก็มองมา เขาเด็ดดอกไม้ที่อยู่ข้างๆ ยกดอกไม้ขึ้นมาแล้วยิ้มชั่วร้ายให้นาง

เมื่อหลานเยาเยาบินลงไป พวกเขาก็หาที่อำพรางเพื่อคุยกัน

“ดอกไม้สวย ย่อมเหมาะกับสาวงาม”