บทที่ 394 ปฐมเทพขั้นห้า พลังวิเศษต้าหลัว

ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ

บทที่ 394 ปฐมเทพขั้นห้า พลังวิเศษต้าหลัว

‘มหาเคราะห์ครั้งเดียวสามารถบรรลุเป็นต้าหลัวได้ วิชาสืบทอดของอริยะเยี่ยมยอดถึงเพียงนี้เชียวหรือ’

หานเจวี๋ยรู้สึกตกตะลึงกับอนาคตของสิงหงเสวียน

ความก้าวหน้าระดับนี้ช่างน่าเหลือเชื่อเกินไปแล้ว!

ทว่าหานเจวี๋ยสังเกตเห็นถึงบางอย่าง คู่บำเพ็ญเพียรแห่งเจ้าสำนักซ่อนเร้น นี่มันหมายความว่าอย่างไร

‘ถึงตอนนั้นหานเจวี๋ยก็จะมีศักดิ์ศรีทัดเทียมกับมหาจักรพรรดิไร้ขอบเขต ศิษย์อริยะและจักรพรรดินีเผ่ามนุษย์! อาจจะแข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิมก็เป็นได้!’ เมื่อคิดถึงตรงนี้ หานเจวี๋ยก็กระหยิ่มยิ้มย่อง

สมแล้วที่เป็นผู้หญิงที่เขาเลือก ใช้ได้ทีเดียว

เป็นครั้งแรกที่หานเจวี๋ยตระหนักว่าผู้ที่อยู่เคียงข้างเขาพิชิตดวงชะตาอันยิ่งใหญ่ได้จากมหาเคราะห์ ไม่ใช่บุตรแห่งสวรรค์ หรือผู้ทรงพลังยิ่งใหญ่คับโลกพวกนั้น แต่เป็นคนที่เขาคิดว่าธรรมดาสามัญอย่างสิงหงเสวียน

“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ข้าก็ไม่ต้องกังวลอีกต่อไป”

หานเจวี๋ยส่ายหน้าพลางคลี่ยิ้ม จากนั้นก็เข้าสู่สภาวะบำเพ็ญอีกครั้ง

เขาจะไม่ยอมให้สิงหงเสวียนตามทันอย่างเด็ดขาด!

ถ้าแม้แต่คนใกล้ชิดยังไล่ตามเขาทัน เช่นนั้นก็น่าอนาถเกินทน!

เวลาผ่านไป

ห้าสิบปีผ่านไปอย่างรวดเร็ว

ตั้งแต่ย้ายมาอยู่ที่แดนต้องห้ามอันธการ เกาะสำนักซ่อนเร้นก็ยังไม่เคยเผชิญแม้แต่ลมพายุ ข้างนอกเกาะเงียบสงัดจนน่ากลัว ไม่มีอะไรแม้สักอย่างเดียว

หานเจวี๋ยอุทิศกายใจฝึกบำเพ็ญ จนกระทั่งโอกาสในการทะลวงระดับมาถึง

ก่อนที่หานเจวี๋ยจะทะลวงระดับ เขาเปิดอ่านจดหมายเสียก่อน

เขาไม่ได้อ่านจดหมายมายี่สิบปี เกือบจะลืมติดตามความเป็นไปในแดนเซียนเสียแล้ว

[หลี่เต้าคงสหายของท่านเผชิญกับการโจมตีจากตี้หล่านเทียนสหายของท่าน]

[จิ่งเทียนกงสหายของท่านเผชิญกับคำสาปแช่งลึกลับ]

[ฟางเหลียงศิษย์หลานของท่านเผชิญกับการโจมตีจากเผ่าเทพอีกาทอง] x3072

[จี้เซียนเสินสหายของท่านเผชิญกับการโจมตีจากเผ่ากิเลน] x14097

[จักรพรรดิสวรรค์สหายของท่านเผชิญกับการโจมตีจากผู้ทรงพลังแห่งวังสวรรค์]

[สิงหงเสวียนคู่บำเพ็ญเพียรของท่าน ได้รับสืบทอดวิชาจากอริยะ ดวงชะตาเพิ่มพูน]

[ซูฉีลูกศิษย์ของท่านทะลวงสู่อาณาจักรมรรคาสวรรค์ ถูกมรรคาสวรรค์สะท้อนกลับ ได้รับบาดเจ็บสาหัส]

[เจียงตู๋กูสหายของท่านเข้าสู่แดนเทพหวนปัจฉิม]

มหาสงครามอุบัติขึ้นแล้ว!

หานเจวี๋ยสังเกตเห็นว่าจักรพรรดิสวรรค์ถูกผู้ทรงพลังแห่งวังสวรรค์โจมตี คราวนี้ฝีมือของคนทรยศหน้าไหนอีก

อย่างไรก็ตามจักรพรรดิสวรรค์ไม่ได้รับบาดเจ็บสาหัส ดังนั้นหานเจวี๋ยจึงไม่คิดจะใส่ใจ

จักรพรรดิสวรรค์ก็คือจักรพรรดิสวรรค์ ไม่ต้องการให้เขาเป็นพี่เลี้ยงคอยประคบประหงม

เห็นความเคลื่อนไหวของซูฉี หานเจวี๋ยก็อดรู้สึกละเหี่ยใจไม่ได้ เหตุใดเจ้าเด็กนี่ถึงอยากกลับมาอยู่ได้ เขาไม่ได้แค่ถูกโจมตีแต่ถูกมรรคาสวรรค์สะท้อนกลับเลยด้วยซ้ำ ใครบอกให้เจ้าออกไปกันเล่า ออกไปแล้วยังมีหน้าจะกลับมาอีก!

หานเจวี๋ยไม่มีความคิดที่จะช่วยซูฉี ตัวเขาเองก็ไม่มีความสามารถที่จะทำเช่นนั้นด้วย

หลังจากเดินทางมาถึงแดนต้องห้ามอันธการแล้ว ความเคลื่อนไหวของแดนเซียนก็มาถึงแดนต้องห้ามอันธการได้ยากมาก เช่นเดียวกับเสียงระฆังบรรพกษัตริย์ของตี้หล่านเทียนที่บางเบาลง

ดูจากจดหมาย หานเจวี๋ยไม่สามารถรับรู้ถึงสถานการณ์ที่แน่ชัดของวังสวรรค์ได้เลย

ขอเพียงจักรพรรดิสวรรค์ยังไม่ตายก็พอแล้ว

หานเจวี๋ยได้ปูทางให้กับวังสวรรค์ไว้มากมาย ถึงเวลาต้องพึ่งพาตนเองบ้างแล้ว

หลังจากอ่านจดหมายจบ หานเจวี๋ยก็เริ่มการทะลวงระดับ

เวลาผ่านไปประมาณสี่ปี หานเจวี๋ยก็ทะลวงระดับได้สำเร็จลุล่วง

[ชื่อ: หานเจวี๋ย]

[อายุขัย: 5671/669,999,999,999,999,999]

[เผ่าพันธุ์: เทพมารอนธการ]

[ตบะ: ปฐมเทพขั้นห้า]

[วิชายุทธ์: มหามรรควัฏจักรอนธการ วิชาชุบร่างวัฏจักรดารา]

[มหามรรค: มหามรรคเวียนว่ายตายเกิด มหามรรคแห่งกรรม]

ปฐมเทพขั้นห้า!

อายุขัยเพิ่มขึ้นเกือบหนึ่งในสาม!

พลังเวทปฐมเทพของหานเจวี๋ยเกิดความเปลี่ยนแปลง จิตรับรู้ทวีความแข็งแกร่งขึ้น

เขาใช้เวลาอีกสามปีในการทำตบะให้เสถียร

หลังจากตบะของเขามั่นคงแล้ว หานเจวี๋ยก็ไม่ทิ้งขว้างอายุขัยของตนเองอย่างสูญเปล่า

เขาใช้มันในการปรับปรุงพลังวิเศษต่างๆ และเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้ตนเอง

เขาพบว่าหลังจากมาถึงแดนต้องห้ามอันธการแล้ว ก็ไม่สามารถเข้าสู่แม่น้ำมรรคกระบี่ได้อีก ทว่าพลังวิเศษมรรคกระบี่ก็ยังแข็งแกร่งขึ้นอยู่ดี

หรือกล่าวได้ว่า ภายในแดนต้องห้ามอันธการ เขาสามารถเลี่ยงหลี่เต้าคงและยกระดับพลังวิเศษของตนให้ถึงขีดสุดได้!

สิ่งแรกที่เขาบรรลุคือสัจธรรมยอดปราณกระบี่

ทุกครั้งที่ทะลวงระดับ ความเข้าใจในมรรคของหานเจวี๋ยก็จะลึกซึ้งยิ่งขึ้น บวกกับความรู้แจ้งขั้นสูงสุดของมรรคกระบี่ ทำให้เขาสามารถทำลายขีดจำกัดของพลังวิเศษมรรคกระบี่ได้

ในขณะเดียวกัน

ทุกคนในสำนักซ่อนเร้นหันไปมองที่ถ้ำเทวาฟ้าประทานเป็นตาเดียว

พวกเขาทั้งหมดรับรู้ได้ถึงแรงกดดันอันทรงพลังและแข็งแกร่ง

เจียงอี้เกิดความกลัวขึ้นเล็กน้อย “เขาทำอะไรอยู่ ทะลวงระดับหรือ”

ฉู่ซื่อเหรินความคิดหลุดไปในภวังค์

คนอื่นๆ ต่างแสดงสีหน้าแตกต่างกันออกไป

ไก่คุกรัตติกาลมองไปยังอู้เต้าเจี้ยน และกล่าวด้วยรอยยิ้ม “เมื่อก่อนเวลานายท่านทะลวงระดับมักจะไล่เจ้าออกมาทุกครั้ง ตอนนี้เจ้าอยากกลับเข้าไปก็น่าจะยากเสียแล้ว ใครใช้เจ้าย้ายออกมาจากถ้ำเทวาเล่า”

อู้เต้าเจี้ยนถลึงตากล่าวด้วยความโกรธเคือง “เจ้าจะไปรู้อะไร ข้ากลัวจะรบกวนนายท่านต่างหากเล่า!”

“ข้าเห็นว่าเจ้าคือลี่เหยาจอมโลภนั่นเอง”

“ไร้สาระ!”

อู้เต้าเจี้ยนจ้องมองไก่คุกรัตติกาลด้วยความโมโห สายตาของลี่เหยาเองก็ฉายแววไม่พอใจเช่นกัน

ถูหลิงเอ๋อร์เอ่ยอย่างทอดถอนใจ “ถ้าเป็นข้า ข้าไม่ยอมออกมาแน่”

มู่หรงฉี่หันไปถามฉู่ซื่อเหริน”เจ้าเห็นอะไรบ้างหรือไม่”

ฉู่ซื่อเหรินหลับตาลง ก่อนจะกล่าว “ข้าไม่เห็นอะไรเลย!”

สองปีต่อมา หานเจวี๋ยยกระดับพลังวิเศษของตนเองจนถึงขีดจำกัด

พลังวิเศษมรรคกระบี่ของเขาพัฒนาจนถึงระดับพลังวิเศษต้าหลัว

หานเจวี๋ยสำแดงยอดปราณกระบี่ และสามารถดึงพลังเวทปฐมเทพทั้งหมดในร่างกายออกมาได้ในพริบตา พิสูจน์ให้เห็นว่าพลังวิเศษต้าหลัวนั้นน่าสะพรึงกลัวเพียงใด

หานเจวี๋ยเริ่มแบบจำลองการทดสอบ เขาเลือกท้าทายหลี่เสวียนเอ้าเป็นคนแรก!

ผ่านไปไม่กี่อึดใจ หานเจวี๋ยลืมตาขึ้น เขายังไม่พึงพอใจสักเท่าไร

ไม่มีทางฆ่าหลี่เสวียนเอ้าในเวลาสั้นๆ ได้เลย!

ไม่ได้ ยังแข็งแกร่งไม่พอ!

แม้ว่ากระบี่ของหลี่เสวียนเอ้าจะไม่ธรรมดา แต่ของวิเศษของเขากลับทรงพลังยิ่งกว่า หากไม่สามารถสังหารศัตรูระดับเทพภายในพริบตาได้ เขาจะเทียบชั้นหลี่เต้าคงได้อย่างไร

หานเจวี๋ยจงใจมองข้ามเรื่องที่ว่าหลี่เต้าคงเคยสังหารผู้แข็งแกร่งระดับเทพทั้งหมดได้ในพริบตาก่อนที่จะก้าวสู่ต้าหลัว

เขาจะต้องตั้งเป้าหมายและคอยกระตุ้นตนเอง

หานเจวี๋ยลองท้าทายหลี่เต้าคงอีกครั้ง!

ความแข็งแกร่งของหลี่เต้าคงเมื่อครั้งตำหนักเอกอนันต์แสดงโอวาทนั้นห่างไกลจากปัจจุบันหลายโยชน์ แต่ถึงกระนั้นก็ยังสร้างปัญหาให้กับหานเจวี๋ยอย่างมากอยู่ดี หานเจวี๋ยใช้เวลากว่าครึ่งชั่วยามกว่าจะเอาชนะอีกฝ่ายได้

หานเจวี๋ยรู้สึกรำคาญใจนัก

หากไม่มีบัวดำล้างโลกสามสิบหกวัฏจักร เขาคงเอาชนะหลี่เต้าคงไม่ได้

ไม่สิ! ต้องเอาชนะหลี่เต้าคงให้ได้!

หานเจวี๋ยเรียกขวัญกำลังใจ และเริ่มท้าทายหลี่เต้าคงอย่างบ้าคลั่ง

หลังจากผ่านการต่อสู้นับหมื่นครั้ง หานเจวี๋ยได้รับทั้งความพ่ายแพ้และชัยชนะ

เขาค้นพบจุดอ่อนของหลี่เต้าคง ชายผู้นี้จองหองอย่างยิ่ง เขาไม่ยอมใส่พลังเต็มที่ตั้งแต่ยกแรกๆ และยังชอบอวดลีลาวิชากระบี่ของตนเพื่อข่มศัตรู

หากหานเจวี๋ยปะทุพลังทั้งหมดตั้งแต่ช่วงแรกของการต่อสู้ โอกาสที่เขาจะชนะย่อมเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล

คู่ต่อสู้ในแบบจำลองการทดสอบก่อนๆ มักจะปะทุพลังทั้งหมดตั้งแต่ต้น หลี่เต้าคงถือเป็นพวกแปลกประลาดหายาก

แต่ถึงกระนั้นหานเจวี๋ยก็ไม่ได้รู็สึกว่าตนเองไล่หลี่เต้าคงทันแต่อย่างใด ตั้งแต่สิ้นสุดการแสดงโอวาทของตำหนักเอกอนันต์ พลังของหลี่เต้าคงก็เพิ่มพูนขึ้นเรื่อยๆ หานเจวี๋ยที่อยู่ในขั้นก่อนทะลวงระดับต้าหลัว ไม่น่าจะเป็นคู่ต่อสู้ของเขา

“ถึงพลังวิเศษต้าหลัวจะแข็งแกร่งมากก็จริง แต่พลังเวทกลับเทียบไม่ติด”

หานเจวี๋ยครุ่นคิดอย่างเงียบงัน เขาเป็นถึงกายดาราอนธการ กระนั้นแม้แต่เขาก็ยังเป็นเช่นนี้ ผู้อื่นยิ่งไม่มีทางสำแดงพลังวิเศษต้าหลัวออกมาได้

ระดับต้าหลัว เป็นดินแดนที่ซับซ้อนล้ำลึกเกินจะเทียบได้

ไม่ว่าจะเป็นมรรควิถีหรือพลังวิเศษ เมื่อก้าวสู่ระดับต้าหลัวแล้ว ทุกอย่างล้วนเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง!

หานเจวี๋ยเคยต่อสู้กับต้าหลัวอยู่หนหนึ่ง จุดแข็งที่โดดเด่นที่สุดของผู้แข็งแกร่งต้าหลัวคือความลึกลับคาดเดาไม่ได้ ราวกับไม่มีทางที่จะโจมตีพวกเขาได้เลย

ต้าหลัวสำแดงพลังวิเศษได้โดยไม่ต้องยกมือขึ้นด้วยซ้ำ แค่ปรายตาเพียงครั้งเดียว สรรพวิชาก็สำแดงออกมาได้ทั้งหมด!

หลังจากได้รับรู้ถึงพลังวิเศษต้าหลัวแล้ว หานเจวี๋ยก็ยิ่งคาดหวังในระดับต้าหลัวมากขึ้นกว่าเดิม

“ข้าต้องรีบฝึกบำเพ็ญ มุ่งมั่นบรรลุต้าหลัวให้ได้ภายในหนึ่งพันปี!”

“ไม่สิ หนึ่งพันปีกระชั้นชิดเกินไป สองพันปีดีกว่า”

หานเจวี๋ยตกลงใจเช่นนี้

………………………………….