บทที่443 ปฏิเสธอย่างชัดเจนไม่ได้เท่าไหร่
ซู่จี้งยี้เองก็ฉลาดไม่เบา บางทีก็พูดขึ้นมาบ้าง เพื่อเล่าให้เจียงหยุนเอ๋อรู้ว่างานของตัวเองยุ่งขนาดไหน
หวังว่าเจียงหยุนเอ๋อจะพูดอะไรดีๆ ให้ตัวเอง เพื่อให้งานของตัวเองเบาลงบ้าง
ถึงอย่างไรเจียงหยุนเอ๋อก็เป็นคนสำคัญของลี่จุนถิง คำพูดของเธอนั้นลี่จุนถิงต้องฟังอยู่แล้ว
“เห้อ ไม่เป็นไรหรอก จี้งยี้ร่างกายแข็งแรงดี ทำงานหนักไปก็ไม่เป็นไร” ลี่จุนถิงโบกมือ ถ้าเกิดว่าล้มเจ็บง่ายขนาดนั้น ลี่จุนถิงคงไม่ให้เขามาเป็นผู้ช่วยหรอก
เจียงหยุนเอ๋อหลุดขำออกมา เมื่อคิดว่าถ้าซู่จี้งยี้ที่กำลังทำงานอย่างหนักอยู่ที่บริษัทมาได้ยินคำนี้ คงจะโกรธจนกระอักเลือด
“แต่ว่าคุณทำแบบนี้จะทำให้พวกผู้ถือหุ้นเอาไปนินทาเอาได้หรือเปล่า?” เจียงหยุนเอ๋อรู้ว่าเหล่าผู้ถือหุ้นของบริษัทของลี่จุนถิงนั้นไม่ใช่พวกที่จะมีเรื่องด้วยได้
ถึงอย่างไรลี่จุนถิงที่เป็นผู้กุมอำนาจก็สบายอยู่แล้ว แต่ถ้ามีเพียงเรื่องไม่ดีแค่เล็กน้อยก็อาจจะถูกเอาไปว่าร้ายได้
“วางใจเถอะ ฉันบอกว่าไปทำธุระด้านนอก พวกเขาจะว่าอะไรได้ล่ะ?ฉันออกไปทำงานแล้วพาภรรยาไปด้วยมันผิดเหรอ?ฉันไม่วางใจให้ภรรยาที่ท้องอยู่ต้องอยู่คนเดียวไม่มีใครดูแล ไม่ได้หรือไง?ใครจะกล้ามาว่าอะไรได้?” ลี่จุนถิงพูดด้วยน้ำเสียงที่ดูเอาแต่ใจสุดๆ
“ก็ได้” เจียงหยุนเอ๋อรู้ว่าตัวเองพูดไปก็ไม่ชนะลี่จุนถิง เรื่องที่เขาอยากจะทำมันจะเปลี่ยนได้ง่ายๆ ซะที่ไหน
เจียงหยุนเอ๋อเข้ามาเก็บของในห้อง ตอนนี้เธอไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่เพราะร่างกายของตัวเอง ลี่จุนถิงเลยเรียกลูกน้องมาเก็บของพอประมาณแล้ว เจียงหยุนเอ๋อแค่มาเตรียมของติดตัวเล็กน้อยๆ เท่านั้น
ถึงแม้ว่าเจียงหยุนเอ๋อจะกังวลนั่นนี่ แต่ว่าในใจก็ดีใจไม่น้อย
ถึงอย่างไรลี่จุนถิงก็ดีกับตัวเองขนาดนี้ จะมีชายคนไหนที่ทำได้แบบนี้อีกไหมนะ?
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ ในใจของเจียงหยุนเอ๋อก็มีความสุขเปี่ยมล้น
สำหรับเรื่องที่ลี่จุนถิงพาเจียงหยุนเอ๋อออกไปนั้น โม่เสี่ยวฮุ่ยก็ไม่พอใจเป็นอย่างมาก
“คุณบอกมาสิ พวกเขาเป็นอย่างไรบ้างในตอนนี้?จุนถิงมีงานอยู่แท้ๆ แต่กลับทิ้งงานทั้งหมดไปเที่ยว เพราะเจียงหยุนเอ๋อคนเดียว ถ้าคนอื่นรู้เข้าก็ไม่รู้จะพูดอย่างไรแล้ว!”
โม่เสี่ยวฮุ่ยพูดขึ้นอย่างโกรธเคือง
ลี่จุนซินได้ยินโม่เสี่ยวฮุ่ยบ่นแบบนี้ไม่รู้ตั้งเท่าไหร่แล้ว ตอนนี้ก็ได้แค่นั่งอยู่ด้านข้างอย่างทำอะไรไม่ได้ พลางไม่รู้ว่าตัวเองควรจะพูดอะไรออกไป
สุดท้าย ลี่จุนซินเองก็ส่ายหัวเบาๆ พลางพูดขึ้น: “แม่ คุณเองก็ไม่ต้องพูดแบบนี้แล้วก็ได้ จุนถิงได้ยินจะไม่พอใจเอานะ”
“เขาไม่พอใจงั้นเหรอ?เขาตัวติดกับเจียงหยุนเอ๋อขนาดนี้ คิดว่าฉันชอบมากงั้นสิ?” โม่เสี่ยวฮุ่ยพูดขึ้นด้วยความไม่แยแส
ลี่จุนซินถอนหายใจ พลางอยากจะโน้มน้าวโม่เสี่ยวฮุ่ยต่อ: “แม่ ตอนนี้พวกเขาก็อยู่ด้วยกันดีๆ ทำไมต้องไปวุ่นวายขนาดนั้นด้วย?ถึงอย่างไรก็เป็นชีวิตของพวกเธอ”
ถึงแม้ว่าลี่จุนซินจะพูดแบบนี้หลายคั้งแล้ว แต่ทุกๆ ครั้งก็ยังเปลี่ยนความคิดของโม่เสี่ยวฮุ่ยไม่ได้สักที ตอนนี้เองก็เช่นกัน
แต่เมื่อเห็นท่าทีของลี่จุนซินที่ไม่เข้าข้างตัวเอง โม่เสี่ยวฮุ่ยเองก็รู้ว่าจะบ่นต่อไปไม่ได้แล้ว เลยพยักหน้าเบาๆ พลางพูดขึ้นอย่างไม่สบอารมณ์: “ฉันรู้แล้วล่ะ”
“ตอนนี้ถ้าเกิดคุณยังเป็นแบบนี้ต่อไป ไม่แน่ว่าจุนถิงอาจจะโกรธอีก แม่ คุณคงไม่อยากให้เป็นแบบนั้นใช่ไหมล่ะ?” ลี่จุนซินมองโม่เสี่ยวฮุ่ย พลางพูดขึ้นอย่างตั้งใจ
โม่เสี่ยวฮุ่ยเงียบไปสักพัก แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ
ช่วงนี้เจียงหยุนเอ๋อเที่ยวเล่นกับลี่จุนถิงตลอด แต่ไม่เคยไปที่เดิมเลยแม้แต่ครั้งเดียว ตอนแรกเจียงหยุนเอ๋อก็ไม่ได้คิดอะไรมาก แต่ว่าสุดท้ายเธอก็พบว่าลี่จุนถิงคอยรับโทรศัพท์ตลอดเวลา เลยทำให้เจียงหยุนเอ๋อเริ่มเห็นปัญหา
ถึงแม้ว่าลี่จุนถิงจะไม่ได้บอกอะไรตัวเองต่อหน้า แต่อันที่จริงลี่จุนถิงก็มีเรื่องมากมายที่ยังต้องจัดการอยู่ ทุกๆ คืนตอนที่พวกเขากลับไป ลี่จุนถิงต้องมารับสายมากมาย
ตอนแรกเจียงหยุนเอ๋อไม่ได้พูดอะไร เพราะถึงอย่างไรลี่จุนถิงก็หวังดีอยากจะให้เธอมาผ่อนคลาย เธอเองก็ไม่อยากปฏิเสธแบบชัดเจนเกินไป
แต่ว่าช่วงนี้ ลี่จุนถิงมีเรื่องที่ต้องจัดการมากมายอย่างเห็นได้ชัด ทำให้เจียงหยุนเอ๋อเริ่มคิดว่าปล่อยเอาไว้ไม่ได้แล้ว
“จุนถิง คุณมีงานให้ต้องจัดการเยอะมากเลยใช่ไหม?”
ตอนดึก หลังจากที่ลี่จุนถิงวางสายไป เจียงหยุนเอ๋อก็เดินเข้ามาในห้อง พลางถาม
เมื่อเห็นเจียงหยุนเอ๋อมีท่าทีไม่สบายใจ ลี่จุนถิงเลยรีบพูดขึ้น: “ไม่เป็นไร สัญญาไว้แล้วว่าจะไปเที่ยวเล่นกับคุณ ฉันยังห่วงเรื่องอื่นอีก พูดแล้วก็รู้สึกผิดไปหน่อย”
“คุณมีอะไรให้ต้องมารู้สึกผิดเหรอ?” เจียงหยุนเอ๋อรีบส่ายหัว “ฉันรู้ว่าคุณแค่กังวลว่าฉันจะไม่มีความสุข แต่อันที่จริงช่วงนี้ฉันมีความสุขมากเลยนะ ดังนั้นพวกเรากลับไปเร็วกว่านี้หน่อยก็ไม่เป็นไร”
จากนั้น ท่าทีของลี่จุนถิงกลับเปลี่ยนไปเป็นท่าทีจริงจังขึ้นมา: “ไม่ได้หรอก เรื่องที่สัญญาเอาไว้แล้ว ฉันจะผิดสัญญาไม่ได้ โอเค ในเมื่อออกมาแล้ว คุณเองก็ไม่ต้องคิดอะไรมาก ได้ไหม?”
เมื่อเห็นท่าทีที่อ่อนโยนของลี่จุนถิง เจียงหยุนเอ๋อก็เบ้ปาก สุดท้ายก็ไม่ได้พูดอะไรออกไป
ตอนที่ลี่จุนถิงพาเจียงหยุนเอ๋อไปเที่ยวรอบๆ ลี่เจี้ยนหวาเองก็เอาเรื่องนี้ไปบอกลี่หุย
อันที่จริง ถึงลี่เจี้ยนหวาจะไม่พูด สายสืบที่ลี่หุยจัดมาเองก็รู้ข่าวนี้เหมือนกัน ตอนแรกเขามีท่าทีดีใจเป็นอย่างมาก ถึงอย่างไรในเมื่อลี่จุนถิงออกไปแล้ว ก็มีโอกาสให้เขาเยอะขึ้นแล้วไม่ใช่เหรอ?
ถึงแม้ว่าลี่จุนถิงจะไปเพียงช่วงเดียว แต่ว่าสำหรับลี่หุยมันเป็นโอกาสหนึ่งเลยล่ะ ถ้าเกิดสามารถใช้ช่องโหว่นี้ได้ ก็จะสามารถพัฒนาให้มันกลายเป็นจุดแข็งในอนาคตได้ไม่ใช่เหรอ?
ในเมื่อตัวลี่จุนถิงอยู่นอกเมือง เรื่องต่างๆ ในบริษัทมากมายก็จัดการอะไรไม่ได้ ส่วนลี่หุยก็กำลังใช้การปั่นหัวต่อหน้าท่านปู่ลี่ จากนั้นตัวเองก็จะแสดงศักยภาพออกมา ท่านปู่ลี่เองก็น่าจะยอมรับตัวเองแล้วไม่ใช่เหรอ?
จากนั้นลี่หุยก็คิดว่ามันไม่เลวเลย ถึงอย่างไรท่านปู่ลี่ก็ฝากความหวังไว้กับลี่จุนถิงเยอะมาก คงไม่มีทางหวั่นไหวเพราะเรื่องเล็กๆ ดังนั้นเลยไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนไปอย่างชัดเจนเท่าไหร่
ตอนที่ลี่หุยรู้สึกร้อนใจนั้น โม่เสี่ยวฮุ่ยเองก็พอจะรู้ว่าเขาคิดจะทำอะไร เลยรีบโทรไปหาลี่จุนถิง
“ฮัลโหล แม่”
เมื่อได้รับสายของโม่เสี่ยวฮุ่ย ที่จริงลี่จุนถิงก็แปลกใจเล็กน้อย
ก่อนหน้านี้โม่เสี่ยวฮุ่ยยังประชดเพราะตัวเองพาเจียงหยุนเอ๋อออกมาเที่ยวอยู่เลย คิดไม่ถึงส่จู่ๆ จะโทรมาหาตัวเองก่อนแบบนี้
“จุนถิง ช่วงนี้ลูกนอกสมรสคนนั้นชอบมาโผล่หน้าให้ท่านปู่เห็น คุณเองก็อย่าลืมทำงานนะ รีบกลับมาหน่อย อย่าให้เขาใช้โอกาสนี้ได้ตำแหน่งอะไรไปนะ!” โม่เสี่ยวฮุ่ยพูดขึ้นอย่างเป็นกังวล
“อือ ฉันรู้แล้วล่ะ” ลี่จุนถิงตอบรับเบาๆ แต่จะฟังแค่ไหนนั้น ก็ไม่มีใครรู้ได้?