บทที่ 404 ราชาปีศาจซูเสี่ยวเถียน

เก้าพี่น้องเลี้ยงซาลาเปาสุดแสบ

บทที่ 404 ราชาปีศาจซูเสี่ยวเถียน

บทที่ 404 ราชาปีศาจซูเสี่ยวเถียน

“พวกแกทำเรื่องเลวร้ายมามากมาย พระเจ้าก็เลยส่งฉันมาไถ่บาปพวกแกไงล่ะ!” น้ำเสียงของเสี่ยวเถียนทุ่มต่ำลงเล็กน้อย

ถ้าไม่ใช่คนที่มีความคิดซ่อนเร้น ในใจก็คงไม่รู้สึกอะไรอยู่แล้ว

แต่กับคนที่สร้างเรื่องไว้มาก พวกเขาจึงเกิดความกลัวโดยไม่รู้ตัว

“สวรรค์ครับ ผมผิดไปแล้ว ผมไม่กล้าทำชั่วอีกแล้วครับ!”

“ท่านเทพธิดา ยกโทษให้ผมด้วยครับ ผมไม่กล้าทำอีกแล้ว ผมจะวางดาบลงและบรรลุพุทธะครับ!”

“ผมจะกลับตัวกลับใจเริ่มต้นชีวิตใหม่ และไม่ทำร้ายคนอื่นอีกแล้วครับ”

“พระเจ้าครับ อย่าให้ปีศาจกินผมเลย ผมยังมีคนแก่ ยังมีเด็ก ๆ อยู่ ผมยังตายไม่ได้”

ชายคนนั้นน้ำหูน้ำตาไหล ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเศร้าใจหรือโดนพริกเข้าตากันแน่ แต่ท่าทางในตอนนี้บ่งบอกได้เลยว่าน่ากลัวมาก

เสี่ยวเถียนเข้าใจแล้วว่าประสิทธิภาพของบะหมี่พริกป่นเป็นอย่างไร

ของในระบบร้านค้าเป็นของคุณภาพสูงอยู่แล้ว แต่ก็ไม่ได้สงสัยอะไร ทว่าไม่คิดเลยว่ามันจะดีขนาดนั้น

เห็นท่าทางของคนพวกนี้ บะหมี่พริกในตอนนี้กับยุคหลัง ๆ ก็น่าจะไม่ต่างกันมากใช่ไหมล่ะ?

มันเป็นอาวุธที่ใช้เพื่อความยุติธรรมและสังหารคน!

“ต้าเหมา แกจะเอาแต่หอนเป็นหมาไปทำไม? ยังไม่รีบเข้ามาช่วยพวกฉันอีก?”

ตอนนั้นเองไอ้หัวหน้าในกองพะเนินทนไม่ไหวในที่สุด

เขาอยากจะให้ลูกน้องเข้ามาช่วย แต่กลับได้ยินคำสารภาพของอีกฝ่ายแทน

ในความคิดพี่ใหญ่คือ ต้าเหมาร้องไห้เป็นเด็กยักษ์หนักร้อยโลเลย มีที่ไหนจะฟังล่ะ?

เพราะเขาเอาแต่ร้องไห้อย่างขมขื่น แถมยังสารภาพบาปออกมาอีก ราวกับหวังว่าปีศาจสาวตรงหน้าจะไว้ชีวิตเพราะเห็นแก่ที่เขาร้องไห้อย่างน่าสังเวช

จะพี่ใหญ่หรืออะไรก็ไว้ก่อนเถอะ ช่วงเวลาคับขันแบบนี้ต่อให้สหายตายแต่ตนยังไม่ตาย เรายังมีโอกาสอยู่!

“พอได้แล้ว เลิกร้องไห้สักที มันหนวกหู”

เสี่ยวเถียนทนไม่ไหวจริง ๆ

มันจะร้องไห้ได้หนวกหูขนาดนี้ได้อย่างไร?

ต้าเหมาได้ยินเช่นนั้นก็รีบหยุดทันที

เขาเชื่อจริง ๆ ว่าเสี่ยวเถียนเป็นปีศาจ ไม่ใช่มนุษย์

เด็กหญิงอายุสิบกว่าปีจะเอาชนะผู้ชายร่างใหญ่ห้าหกคนได้อย่างไร?

“ฉัน… ฮึก… ฉันไม่ร้องแล้ว เธออย่ากินฉันเลยนะ…”

เสี่ยวเถียนเกือบจะหัวเราะออกมาเสียแล้ว แต่ทำไม่ได้

เธอผ่อนลมหายใจออกมาเบา ๆ ซ่อนรอยยิ้มเอาไว้

“งั้นบอกฉันสิ ว่าใครใช้ให้พวกแกตามฉันมา มีจุดประสงค์อะไรกัน?”

เสี่ยวเถียนคิดไม่ออกจริง ๆ ว่าตนไปทำอะไรให้คนเขาเกลียดขนาดนั้น ถึงขนาดหาคนมาจัดการเลย

เธอถามตัวเอง ตั้งแต่มาเมืองหลวงเธอไม่เคยทำให้ใครเขาเคืองอะไรเลยนะ

เอ๊ะ! เดี๋ยว ๆ ไม่ใช่สิ เหมือนจะมีนะ

โจวหรุ่ยซู?

ตระกูลโจว?

หรือตระกูลว่าน?

จู่ ๆ เธอก็กระจ่าง และเริ่มสืบทันทีว่าใครทำให้เธอตกอยู่ในสถานการณ์ลำบากกันแน่

เธอตัดโจวหรุ่ยซูออกเลย

อีกฝ่ายยังเป็นแค่เด็ก จะทำเรื่องแบบนี้ได้อย่างไร

ตระกูลว่านและตระกูลโจวที่คอยหนุนหลังตกเป็นผู้ต้องสงสัย

ทว่าทั้งสองตระกูลต่างก็มีเบื้องลึกเบื้องหลังทั้งนั้น คิดจะหาคนมาจัดการเธอก็ไม่น่าเป็นปัญหาอยู่แล้ว

“ฉัน คือ…” ต้าเหมาลังเล ไม่รู้จะพูดอย่างไร

เพราะคิดว่าในเมื่อตนไปนอนกับผู้หญิงแล้ว ก็ไม่ควรเอามาแพร่งพรายให้คนอื่นรู้

ไม่อย่างนั้นจะเป็นลูกผู้ชายอยู่หรือเปล่าล่ะ?

โดยเฉพาะสัตว์ประหลาดตรงหน้าที่คิดจะจัดการโจวหรุ่ยซูด้วย อีกฝ่ายจะไม่ตายเอาหรือ?

เสี่ยวเถียนเหลือบมองก่อนจะยกยิ้มเย็น ไม่คิดเลยว่าเป็นพวกคิดเล็กคิดน้อยด้วย!

เธอไม่คิดจะต้อนคนคนเดียวไปจะตนถึงที่สุดอยู่แล้ว จึงหันไปถามคนอื่น ๆ “พวกนายล่ะ? มีอะไรจะพูดไหม?”

คนที่นอนกองรวมกันไม่มีใครสนใจคำพูดของเสี่ยวเถียนเลย

พวกเขาคิดอยู่ว่าตนน่าจะแขนขาหักแน่ ๆ

เด็กสาวรออยู่ครู่หนึ่ง ทว่าไม่มีใครพูดอะไรออกมาเลยจึงรู้สึกรำคาญ

“ฉันจะถามอีกครั้งนะ หลังจากผ่านหมู่บ้านนี้ไปจะไม่มีบ้านที่ไหนอีกแล้ว พวกแกคิดให้ดีเถอะ!”

มันเป็นคำพูดที่อ่อนโยนมาก แต่ที่คนอื่น ๆ ได้ยินมันน่ากลัวราวกับสายฟ้าฟาด

โดยเฉพาะคนที่นอนกองอยู่กับพื้น พวกเขาได้ยินชัดเจนจนเสียวสันหลังวาบ

เสี่ยวเถียนกอดอกแล้วมองคนพวกนี้ที่หน้าหูน้ำตาไหลเปรอะเต็มไปใบหน้า

“ยังไม่บอกอีกใช่ไหม?” หลังจากรอหนึ่งนาทีกว่า เสี่ยวเถียนก็หมดความอดทนและเอ่ยออกมา

“ฉันพูดเอง!”

คนที่พูดคือคนที่ขี้ขลาดที่สุดชื่อเหล่าซู่

พอเสี่ยวเถียนเห็นว่าเป็นเขาก็คิดว่าตลกดี ชื่อเล่นไม่ได้มีไว้เรียกเฉย ๆ สินะ

เหล่าซู่*[1] ขี้ขลาดเหมือนหนูเลย

“งั้นบอกฉันสิ ฉันมีรางวัลให้!”

“เหล่าซู่ บอกไม่ได้นะ!” ต้าเหมารีบตะโกน

“พวกแกสองคน คนหนึ่งหนู คนหนึ่งแมว*[2] จะไปอยู่ด้วยกันได้ยังไง”

เสี่ยวเถียนอยากรู้มาก แต่สำหรับสองคนนี้ไม่ใช่เช่นนั้น

หมายความว่าอย่างไร?

คิดจะกินคนทั้งสองเข้าไปเลยหรือ?

เหล่าซู่ตกใจมากจนเกือบฉี่ราด กลัวว่าถ้าพูดช้าไปจะโดนกิน

“ฉันพูดแล้ว ๆ มีผู้หญิงคนหนึ่งที่ชื่อโจวหรุ่ยซูบอกว่าเธอไปทำลายเขา ก็เลยสั่งให้พวกเรามาทำลายเธอแทน!”

“โจวหรุ่ยซู?” เสี่ยวเถียนถามด้วยความไม่เชื่อ

มันไม่ควรเป็นแบบนี้สิ

ถ้าเป็นตระกูลโจวหรือตระกูลว่านจะจัดการเธอ เสี่ยวเถียนพอเข้าใจได้

แต่นี่เป็นโจวหรุ่ยซูแทน ไม่ว่าจะคิดอย่างไรก็ไม่เข้าใจ

อีกอย่างเจ้าตัวคิดอะไรอยู่น่ะ กะว่าจะทำลายกันใช่ไหม?

ที่ผ่านมามีแต่เราไม่ใช่หรือที่โดนจัดการน่ะ

หรือเพราะคิดว่าพอจัดการเธอได้เมื่อไรก็นั่งรอเฉย ๆ แทนก็พอ?

สมองมีปัญหาจริง ๆ ยัยคนนี้!

มีเหตุผลให้จ่ายเงินเพื่อให้คนพวกนี้ลงมือช่วยเลยหรือไง ไม่รู้ว่าจ่ายไปเท่าไรกันแน่

“แน่ใจหรือว่าโจวหรุ่ยซูน่ะ ไม่ใช่คนอื่นใช่ไหม?” เสี่ยวเถียนเดินเข้ามาถาม

น้ำเสียงของเธอไม่อ่อนหวานเหมือนเมื่อก่อนเลย แต่มันทุ่มต่ำเพราะระงับความโกรธเอาไว้ เลยทำให้พวกเขากลัวขึ้นไปอีก

“ไอ้เลวนี่ แกเคยมีช่วงเวลาดี ๆ กับเด็กสาวคนนั้นมาครั้งนึง แล้วกล้าหักหลังเธอได้ยังไง?” ต้าเหมาตวาดเสียงแหบพร่า

ถ้าไม่กลัวเสี่ยวเถียนมากเกินไป คงพุ่งเข้าไปจัดการเหล่าซู่แล้ว

“ฉันมันเลวเองแหละ ก็ฉันกลัวนี่!” เหล่าซู่ตัวสั่น

ถ้าเอาชนะเสี่ยวเถียนได้ก็คงไม่กลัวหรอก

แต่เพราะมองไม่เห็น ภาพเสี่ยวเถียนก่อนหน้านี้ได้กลายเป็นราชาปีศาจไปเสียแล้ว เขาเลยยิ่งกลัวกว่าเดิม

“ดีจริง ๆ ไอ้พวกตระกูลโจว ไอ้พวกตระกูลว่าน!”

แม้ว่าจะเป็นความผิดของโจวงหรุ่ยซู แต่เธอก็ยังเก็บความแค้นนี้ไว้กับตระกูลโจวด้วย

ใครใช้ให้คนบ้านนั้นให้กำเนิดลูกสาวแล้วสั่งสอนไม่ดีล่ะ?

*[1] ซู่ ในชื่อเหล่าซู่ แปลว่า หนู

*[2] เหมา ในชื่อต้าเหมา แปลว่า แมว