“ผมคิด เฮียสามกลายเป็นอย่างตอนนี้ คงเป็นเพราะคุณ”
หรงจิ่นซิวพูดกับเป๋าฮวนหนึ่งประโยค พร้อมหันหน้าสั่งพยาบาล “ส่งเขาไปที่ห้องคนไข้ก่อน”
“ค่ะ!” พวกพยาบาลรับคำสั่ง
พยาบาลหนึ่งในนั้นจับมือเป๋าฮวนที่จับเฟิงหานชวนไว้ออก แล้วคนจำนวนหนึ่งเข็นเฟิงหานชวนจากไป
เป๋าฮวนอยากตามไป แต่หรงจิ่นซิวกลับเรียกเธอไว้อีกครั้ง
“คุณไม่อยากฟังหลายปีมานี้เฮียสามผ่านมายังไงเหรอ?”
เป๋าฮวนหยุดเดิน หันกลับมาพยายามให้ตัวเองสงบไว้ เปิดปากพูด“ขอโทษ ฉันไม่สนใจอดีตที่ผ่านมาของเขา”
“ถ้างั้นทำไมคุณเป็นกังวลสภาวะเขาขนาดนั้น?” หรงจิ่นซิวยักไหล่ เอ่ยถาม
อันที่จริงเขาเองนึกว่าเฉินฮวนฮวนตายไปนานแล้ว เขาคิดมาตลอดว่าเฉินฮวนฮวนเป็นผู้หญิงที่จิตใจอ่อนแอคนหนึ่ง เพราะการเข้าใจผิดครั้งเดียวเท่านั้น ก็ทิ้งชีวิตตัวเอง
แต่ว่าตอนนี้ เป็นเขาประเมินเฉินฮวนฮวนต่ำไป
ผู้หญิงที่สามารถทำให้เฟิงหานชวนหลงใหลจนสูญเสียความเป็นตัวเอง จะเป็นคนเรียบง่ายได้ยังไง?
และสามารถกุเรื่องฆ่าตัวตาย ถึงขนาดไม่มีพิรุธใดๆ เบื้องหลังของเฉินฮวนฮวน ประมาทไม่ได้จริงๆ
“เขาดื่มเหล้าที่เอามาจากห้องฉัน ถ้าหากเกิดเรื่องจริงๆ ยากจะปัดความรับผิดชอบ” เป๋าฮวนตอบหนักแน่น
“เป็นเพราะแค่นี้จริงๆเหรอ?” หรงจิ่นซิวอดถามไม่ได้
อันที่จริงชั่วพริบตาที่เห็นเป๋าฮวนนั้น เขาถึงขนาดสงสัยบางทีโลกนี้อาจมีคนที่เหมือนกันทุกอย่างอยู่ด้วย อาจจะเป็นแฝดที่พลัดพรากกัน อาจจะเกิดมาก็เหมือน…
แต่ความสงสัยนี้ หลังจากเป๋าฮวนเปิดปากพูด กลับถูกหรงจิ่นซิวปัดทิ้ง
เขาสวมชุดลำลอง และผ่านไปสามปีแล้ว ตอนนี้เขาไม่ใช่หมอในโรงพยาบาลรุ่ยเอินตั้งนานแล้ว และลงจากตำแหน่งรองผู้อำนวยการ
และผู้หญิงตรงหน้าคนนี้ กลับเรียกเขา “คุณหมอหรง” เป็นเพราะเรื่องเล็กๆน้อยๆนี้ ทำให้เป๋าฮวนเผยตัวตนออกมา
เป๋าฮวนไม่รู้ ภายใต้ความรีบของตัวเอง ทำให้หรงจิ่นซิวแน่ใจแล้วว่าเธอก็คือเฉินฮวนฮวน
“แค่นี้เท่านั้น” เธอพูดยืนยัน
แม้หรงจิ่นซิวสงสัย เธอก็ยังตอบคำตอบนี้เหมือนเดิม
“ผู้หญิง ปากไม่ตรงกับใจจริงๆ” หรงจิ่นซิวถอนหายใจเงียบๆ พูดว่า “สามปีที่ผ่านมานี้เฮียสามผ่านมาอย่างยากลำบาก”
“ฉันไม่เข้าใจว่าคุณหมายถึงอะไร พวกคุณจำคนผิดแล้วจริงๆ ” เป๋าฮวนตอบเสียงเย็น
“เฮียสามกินยามาโดยตลอด ร่างกายแย่มาก” หรงจิ่นซิวพูดเสริมต่อ
เป๋าฮวนกำลังจะเดินออกไป ได้ยินคำพูดนี้ เธอขมวดคิ้วพูดโพล่งออกมา “เขาป่วยเป็นอะไร?”
“ป่วยทางจิต โรคคลุ้มคลั่งแบบนั้น” หรงจิ่นซิวถอนหายใจ พูดว่า“มีบางครั้งอาการกำเริบ ซูอวี่ทำได้ฉีดยาระงับประสาท”
จู่ๆ เป๋าฮวนรู้สึกเหมือนหัวใจถูกคนกระชากแรงๆ หายใจลำบากเล็กน้อย
สามปีก่อน เฟิงหานชวนปกติทุกอย่าง ไม่มีอะไรผิดปกติ น่าจะเป็นโรคในสามปีนี้?
“มองไม่ออกว่าเขาเป็นโรคแบบนี้ เขาดูเหมือนปกติดี” เป๋าฮวนกัดริมฝีปาก สีหน้าหงิกงอมาก
“เพราะคุณไม่ได้เห็นตอนเขามีอาการ พูดจริง สามปีมานี้ นิสัยเขาเปลี่ยนไปมาก ทำงานทั้งวัน ไม่มาสังสรรค์กับพี่น้องเลย”
“หากไม่ใช่วันนี้เขาถูกส่งมาโรงพยาบาล ผมกับเขาไม่เจอหน้ากันมาเกือบหนึ่งเดือนแล้ว เจอหน้ากันเดือนก่อน เป็นผมกับเหวินโจวไปหาเขาที่บริษัทเอง”
“ถ้าหากเป็นเพราะปีนั้นที่เขาปกปิด คุณถึงจากไป การทรมานสามปีนี้คงพอแล้ว เฉินฮวนฮวน”
หรงจิ่นซิวพูดประโยคยาวออกมา หลังจากเขาพูดเสร็จ ไม่สนคำตอบของเป๋าฮวน เดินตรงไปข้างหน้า
เป๋าฮวนอึ้งอยู่กับที่
หรงจิ่นซิวเดินไปสักระยะหนึ่ง หยุดฝีเท้า หันกลับมาเตือน “เฮียสามอยู่ห้อง V808 ผมเชื่อว่าคุณคุ้นกับเลขนี้”
เป๋าฮวนมองด้านหลังหรงจิ่นซิว ครุ่นคิดอย่างหนัก
…
หลังจากนั้นครึ่งชั่วโมง เธอมาถึงห้องคนไข้
ในห้องไม่มีพยาบาล มีเพียงเฟิงหานชวนนอนนิ่งอยู่ตรงนั้นคนเดียว
บนมือยังมีสายน้ำเกลือ
เป๋าฮวนสูดลมหายใจ ยกเท้าคิดจะเดินไปทางชายหนุ่ม ทันใดนั้น มือถือในกระเป๋าสั่นขึ้น
เธอล้วงมือถือออกมาดู คุณตาเป๋าเยี่ยนโทรมา เธอถอยออกจากห้องคนไข้ทันที เดินมารับโทรศัพท์ที่ทางเดิน
ชั่วพริบตาที่เธอออกมา ผู้ชายบนเตียงลืมตาขึ้น
ตรงทางเดิน เป๋าฮวนถามเสียงเบา “คุณตามีอะไรเหรอคะ?”
“ที่หนูอยู่ตอนนี้คงจะรุ่งสางแล้ว? ทำไมยังไม่นอน?” เป๋าเยี่ยนเสียงอ่อน กลับเต็มไปด้วยพลัง
“หนู…เพราะเจ็ทแลค หนูนอนไม่หลับ” เป๋าฮวนปกปิดสถานการณ์ที่นี่
“ตาได้ยินอามั่วรายงานว่า หนูไม่แค่เจอเฟิงหานชวนที่โรงแรมเท่านั้น ยังสืบข่าวเรื่องเฉินเจี้ยนหมินด้วย?” เป๋าเยี่ยนจี้ถาม
เป๋าฮวนเบะปาก เธอรู้อยู่แล้วไม่ว่าเรื่องอะไรจิ่งมั่วต้องรายงานคุณตาทั้งหมด
“คุณตา รู้ข่าวของเฉินเจี้ยนหมินไหมคะ?” อันที่จริงเป๋าฮวนกำลังเดา คุณตาจะล้างแค้นเฉินเจี้ยนหมินหรือเปล่า แต่คุณตาไม่เคยพูดถึงเลย
“ตารู้ แต่ก่อนหน้านี้ไม่รู้” เป๋าเยี่ยนตอบตามจริง “จิ่งมั่วสืบได้แล้ว รายงานตาก่อน”
เป๋าฮวน “???”
เธอพูดด้วยความไม่พอใจทันที “คุณตา จิ่งมั่วเป็นคนของคุณตา หรือเป็นคนของหนูกันแน่?”
เป๋าเยี่ยนอดหัวเราะออกมาไม่ได้ “เป็นคนของหนูแน่นอน หลานสาวที่น่ารักของตา”
“งั้นคุณตาบอกหนู เฉินเจี้ยนหมินตอนนี้…” เป๋าฮวนสูดหายใจลึกๆ ปวดหางตานิดๆ ไม่ได้พูดจบประโยค
แต่เป๋าเยี่ยนรู้ เป๋าฮวนอยากถามสภาพตอนนี้ของเฉินเจี้ยนหมิน เขาก็ถอนหายใจยาวๆ พูดว่า “ตอนนี้เขาเก็บขยะเพื่อดำรงชีวิต หลังจากเฉินซื่อกรุ๊ปล้มละลายเฉินเหม่ยเจวียนกับเฉินซินโหรว ก็จากเขาไป”
“เก็บขยะ?” เป๋าฮวนขมวดคิ้ว
“เขาเช่าบ้านอยู่ที่หมู่บ้านตงเจียวเฉิงผิง หมายเลข24 หากหนูอยากไปเยี่ยม จำไว้ว่าต้องพาจิ่งมั่วกับ
จิ่งเหลิ่งไปด้วย ตาเป็นห่วงความปลอดภัยของหนู” เป๋าเยี่ยนพูดอย่างปลงๆ “ได้ยินมาว่าชีวิตไม่ดีนัก”
“ไม่ดีเหรอคะ? ไม่ดีก็คือดี” เป๋าฮวนยิ้มเยาะ
แรกเริ่มเฉินเจี้ยนหมินชั่วร้ายมากแค่ไหน ตอนนี้ก็คืนสนองเขา
คุยโทรศัพท์กับคุณตาเสร็จ เป๋าฮวนหันกลับไปเข้าห้องคนไข้อีกครั้ง ครั้งนี้เข้าไปไม่เหมือนกับเมื่อกี้ที่เข้าไป เพราะเธอเห็นเฟิงหานชวนนั่งอยู่
“คุณตื่นแล้ว?” เป๋าฮวนเดินเข้าไปด้วยความประหลาดใจ
“คุณเป็นคนส่งผมมาโรงพยาบาล?” เฟิงหานชวนทำเหมือนไม่รู้อะไรเลย เอ่ยถามก่อน
“ฉันเอง” เป๋าฮวนตอบ บนหน้าไม่ได้แสดงออกมากมาย
เฟิงหานชวนพยักหน้าเงียบๆ พูดเสียงเบา “ขอบคุณ”
เขาท่าทางเย็นชา ต่างจากตอนอยู่โรงแรมก่อนหน้านี้ เหมือนเป็นคนละคน
จู่ๆเป๋าฮวนก็นึกถึงท่าทางของเขาสองวันมานี้ เดี๋ยวบ้าคลั่ง เดี๋ยวเย็นชา เดี๋ยวเป็นมิตร เดี๋ยวก็เปลี่ยนท่าทีไปอีกแบบ
เชื่อมโยงไปถึงคำพูดนั้นของหรงจิ่นซิว เฟิงหานชวนน่าจะมีปัญหาทางจิตจริง?
“ดึกขนาดนี้ รบกวนการพักผ่อนของคุณเป๋าแล้ว คุณเป๋ารีบกลับไปเถอะ” เฟิงหานชวนหลบตา พูดเสียงเย็น
เป๋าฮวนขมวดคิ้วทันที ถามว่า “อยู่ ๆ คุณดื่มเหล้ามากขนาดนั้นทำไม? คุณรู้ไหมเหล้าทำร้ายร่างกายมากแค่ไหน?”
“เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับคุณเป๋า ไวน์ 9 ขวดนั้น ผมจะให้คนคืนให้คุณ” เฟิงหานชวนหน้านิ่ง น้ำเสียงเรียบเฉย เหมือนไม่เคยมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นมาก่อน
“นี่เป็นเรื่องคืนหรือไม่คืนเหล้าเหรอ? ฉันได้ยินคุณหมอหรงพูด คุณ…คุณเป็นโรคทางจิต?” เป๋าฮวนอดจี้ถามไม่ได้
สามปีมานี้ สำหรับเรื่องทั้งหมดในประเทศจีน เธออยู่ในสถานะที่ไม่รับรู้ และไม่มีความคิดที่จะรับรู้
เพราะในความคิดของเธอ หลังจากตัวเอง “ตาย” เฟิงหานชวนคงใช้ชีวิตสำมะเลเทเมาแน่นอน เพราะฉะนั้นเธอถึงไม่อยากรับรู้ความเป็นอยู่ของเขาเลย ว่า “เต็มที่”มากขนาดไหน
แต่ตอนนี้ เป๋าฮวนเกิดความสงสัย ความจริงจะเหมือนที่เธอคิดแบบนั้นไหม?
“คุณดื่มเหล้ามากขนาดนั้น เป็นเพราะ…อาการกำเริบเหรอ?” เป๋าฮวนถามลึกลงไป
เฟิงหานชวนเพียงแค่มองไปข้างหน้าเงียบๆ ดวงตาสีดำเผยความลึกล้ำ ทำให้คนเดาความคิดไม่ออก
เป๋าฮวนคิดถึงช่วงเวลาที่อยู่ด้วยกันกับเฟิงหานชวนเมื่อสามปีก่อนอีกครั้ง เวลานั้นในสายตาเธอ
เฟิงหานชวนเป็นผู้ชายที่เจ้าระเบียบคนหนึ่ง ไม่เคยติดเหล้าสูบบุหรี่
แม้ว่าเธอจะเคยเห็นเขาสูบบุหรี่ ก็แค่บุหรี่ม้วนเดียวเท่านั้น
เพราะฉะนั้น ในความทรงจำของเธอ เฟิงหานชวนเป็นคนเจ้าระเบียบมาก ไม่มีทางทำเรื่องบ้าคลั่งแบบนี้ได้
“อาจจะ” เฟิงหานชวนตอบเสียงเรียบ
“คุณ…ป่วยเมื่อไร?” เป๋าฮวนอดไม่ได้ที่จะถามต่อ
เฟิงหานชวนหันหน้ามา ดวงตาลึกคู่นั้นมองที่เธอ สายตาที่จ้องนั้น ทำให้เป๋าฮวนร้อนตัวขึ้นมาเล็กน้อย
“ขอโทษ ฉันถามมากไป คุณพักผ่อนเถอะ ฉันต้องกลับโรงแรมแล้ว” ท่าทางของเป๋าฮวนสงบลงมาก เธอหันหลัง เพิ่งเดินได้สองก้าว เสียงของชายหนุ่มกับดังขึ้นมา
ได้ยินเสียงเขาพูดเบาๆ “หลังภรรยาผมตาย ผมก็ป่วย”
ในเรื่องนี้ เฟิงหานชวนไม่ได้โกหก เพียงแต่อาการป่วยนั้น หลังจากเจอเฉินฮวนฮวนอีกครั้ง เหมือนดีขึ้นทันใด
ที่เรียกว่า ป่วยใจต้องใช้ยาใจรักษา คงจะเป็นแบบนี้
หลังจากได้ยินคำตอบของเฟิงหานชวน เป๋าฮวนนิ่งไป รอจนเธอได้สติ หันกลับไปมองผู้ชายที่นั่งอยู่บนเตียง
เธอพยายามรักษาอารมณ์ให้นิ่ง ทำเหมือนพูดล้อเล่น “ถ้างั้นคุณหาภรรยาคนใหม่ อาจจะรักษาได้?”
“ผมว่าน่าจะใช่ และผมก็หาเจอแล้ว” เฟิงหานชวนยกมุมปากช้าๆ ตอบเรียบๆ
เป๋าฮวน “…”
หัวใจเธอ จู่ๆ รู้สึกถูกมีดที่แหลมคมแทงเข้าไป เธอกัดฟันแน่น รู้สึกแค่ความห่วงใยของตัวเองเมื่อกี้ เสียเปล่าจริงๆ
เธอเกือบจะ เกือบจะ โดนผู้ชายคนนี้หลอกอีกแล้ว
“โอ้? ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นก็อวยพรให้คุณเฟิงกับภรรยาใหม่ของคุณ ขอให้รักกันตลอดไป ใจผูกพันกันชั่วนิรันดร” เป๋าฮวนแค่นยิ้มออกมา
ในความเป็นจริง เธอกำลังกัดฟันอยู่
“คุณเป๋า คุณแน่ใจจะอวยพรแบบนี้จริงๆ?” เฟิงหานชวนหัวเราะเบาๆ เป็นเสียงหัวเราะที่มาจากก้นบึ้งของหัวใจ
เป๋าฮวนเห็นท่าทางดีใจแบบนั้นของเขา แทบอยากจะเตะเขาให้ปลิว แต่เธอทนเอาไว้ ตอบกลับว่า “ใช่ คนจีนไม่ใช่อวยพรคู่บ่าวสาวแบบนี้กันเหรอ?”
“เห็นที คุณเป๋าจะยอมแต่งงานกับผม” เฟิงหานชวนมองเธออย่างจริงจัง พูดทีละคำ“ภรรยาใหม่ที่ผมเลือก ก็คือคุณเป๋า”