บทที่448 หญิงที่มีจิตใจไม่บริสุทธิ์
โม่เสี่ยวฮุ่ยในตอนนี้พูดแกมบังคับ เสียงเองก็ไม่ได้เบาเลย เพราะเจียงหยุนเอ๋อที่ยืนอยู่ด้านนอกยังได้ยินอย่างชัดเจนเลยล่ะ
พอจะรู้ว่าโม่เสี่ยวฮุ่ยไม่อยากจะยุ่งกับตัวเองเท่าไหร่ เจียงหยุนเอ๋อเองก็ไม่ได้รู้สึกอะไรมาก จึงยืนอยู่ด้านนอกตั้งแต่แรกอยู่แล้ว
แต่ว่าคิดไม่ถึงเลย ว่าโม่เสี่ยวฮุ่ยจะสงสัยตัวเองแบบนี้
เจียงหยุนเอ๋อรู้สึกใจหายเล็กน้อย ถึงกับคิดว่าการที่ตัวเองเลือกที่จะเข้าไปช่วยโม่เสี่ยวฮุ่ยตั้งแต่แรกนั้นเป็นความคิดที่ผิดหรือเปล่า
ไม่แน่……ถ้าตอนนั้นเธอทำเป็นไม่เห็น โม่เสี่ยวฮุ่ยอาจจะไม่คิดแบบนี้ก็ได้
ไม่ว่าอย่างไร เจียงหยุนเอ๋อก็คิดว่าความคิดของโม่เสี่ยวฮุ่ยนั้นแปลกไปหน่อย แต่จะเข้าไปอธิบายตอนนี้ โม่เสี่ยวฮุ่ยเองก็คงไม่อยากจะฟังเท่าไหร่
“แม่ ทำไมคุณคิดแบบนั้นล่ะ?” ลี่จุนถิงถามขึ้นด้วยความทำอะไรไม่ได้
พูดตามตรง ตอนนี้อันที่จริงในใจของเขาเองก็หงุดหงิดไม่แพ้กัน เพราะจัดการเรื่องความสัมพันธ์ของเจียงหยุนเอ๋อกับโม่เสี่ยวฮุ่ยไม่ได้สักที เลยทำให้ลี่จุนถิงรู้สึกไม่ดีต่อเจียงหยุนเอ๋อ
เขารู้ว่าเจียงหยุนเอ๋อมาส่งโม่เสี่ยวฮุ่ยที่โรงพยาบาลก็เพราะหวังดี แต่คิดไม่ถึงเลยว่าจะเป็นการหาเรื่องใส่ตัวเจียงหยุนเอ๋อเอง เขาไม่รู้จะมองหน้าเจียงหยุนเอ๋ออย่างไรแล้ว
โม่เสี่ยวฮุ่ยยังคงมีท่าทีทระนง เหมือนกับว่าทุกอย่างที่ตัวเองพูดนั้นเป็นเรื่องจริง
“ทำไมจะคิดแบบนี้ไม่ได้?ก็มันเป็นเรื่องจริงอยู่แล้วนี่!”
อันที่จริง โม่เสี่ยวฮุ่ยเกิดความคิดแบบนี้ขึ้นมาได้ ก็เพราะได้รับสายจากเคธี่
หลังจากที่จัดการกับบาดแผลเสร็จ โม่เสี่ยวฮุ่ยนั่งเหม่อลอยด้วยความเบื่อหน่ายอยู่บนเตียง จนสุดท้ายก็ได้รับสายจากเคธี่
“ฮัลโหล คุณป้า คุณทำอะไรอยู่น่ะ?ฉันว่าวันนี้อากาศไม่เลวเลยนะ จะมาเดินเล่นด้วยกันไหม?” เคธี่พูดขึ้นอย่างตื่นตาตื่นใจ
แต่ทว่า โม่เสี่ยวฮุ่ยเพียงแค่ถอนหายใจ ฟังแล้วเหมือนไม่ได้สนใจสักเท่าไหร่: “เห้อ เคธี่ ฉันเองก็อยากจะไปกับคุณนพ แต่ว่าเพิ่งเกิดอุบัติเหตุขึ้นกับฉัน คงไปด้วยไม่ได้แล้วล่ะ”
“อะไรนะ?อุบัติเหตุเหรอ?” เคธี่กลับถอนหายใจอย่างเยือกเย็น เหมือนไม่อยากจะเชื่อ “คุณป้า ตอนนี้คุณไม่เป็นไรใช่ไหม?”
เมื่อได้ยินน้ำเสียงที่เป็นห่วงของเคธี่ อารมณ์ของโม่เสี่ยวฮุ่ยก็ดีขึ้นเล็กน้อย พลางรู้สึกชอบเคธี่มากขึ้นด้วย
ทำไมลี่จุนถิงกลับไม่ชอบเคธี่นะ?ผู้หญิงคนนี้เก่งจะตาย แถมยังจิตใจดีอีกด้วย โม่เสี่ยวฮุ่ยคิดว่าตัวเองไม่เข้าใจลี่จุนถิงที่ดื้อดึงจะชอบเจียงหยุนเอ๋อเลยจริงๆ ชอบเสียจนไม่มองผู้หญิงคนอื่นไม่ได้อีกแล้ว
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ โม่เสี่ยวฮุ่ยก็อดไม่ได้ที่จะพูดขึ้น: “เคธี่ คุณนี่เป็นเด็กดีจริงๆ เลยนะ……ถ้าเกิดได้คุณมาเป็นสะใภ้คงจะดีมาก”
เคธี่ที่อยู่ปลายสายนั้นเงียบไป ก่อนจะพูดขึ้นอย่างรวดเร็ว: “คุณป้า ถึงจะไม่ใช่ แต่ก็ไม่ได้ทำให้ความสัมพันธ์ของพวกเราแย่ลงเลยไม่ใช่เหรอ?ตอนนี้คุณอยู่ที่โรงพยาบาลหรือเปล่า?มห้ฉันไปเยี่ยมคุณหน่อยไหม?”
“ไม่ต้องหรอก” โม่เสี่ยวฮุ่ยเองก็ไม่อยากทำให้เคธี่ลำบาก ถึงอย่างไรเคธี่เองก็ไม่ใช่คนที่มีเวลาว่างมาก “ฉันถูกส่งมาที่โรงพยาบาลแล้ว ไม่ได้มีปัญหาอะไรมากหรอก”
“งั้นก็ดี แต่มันเกิดอะไรขึ้นเหรอ?ทำไมจู่ๆ ถึงเกิดอุบัติเหตุขึ้นได้?” เคธี่ถามไถ่สถานการณ์ด้วยความเป็นห่วง
อันที่จริงโม่เสี่ยวฮุ่ยเองก็คิดว่าเรื่องทั้งหมดนี้มันอุบัติเหตุ เลยถอนหายใจอย่างหนักใจอีกครั้ง: “ฉันจะไปรู้ได้อย่างไรล่ะ?อาจจะเป็นเพราะฉันโชคร้ายละมั้ง เดินอยู่ดีๆ ก็ถูกชน แล้ว……แล้วก็เป็นเจียงหยุนเอ๋อที่อยู่แถวนั้นพอดีเลยพาฉันมาส่งที่โรงพยาบาลน่ะ”
ตอนที่พูดประโยชน์สุดท้ายออกมา เสียงของโม่เสี่ยวฮุ่ยเบาลงมาก เหมือนการที่ถูกเจียงหยุนเอ๋อมาส่งที่โรงพยาบาลนั้นไม่ใช่เรื่องที่น่าดีใจสำหรับเธอเท่าไหร่นัก
เคธี่คิดอยู่สักพัก พลางถามด้วยความลังเลเล็กน้อย: “ปรากฏตัวขึ้นมาพอดีงั้นเหรอ?นั้นมันบังเอิญเกินไปแล้วนะเนี่ย?”
ตอนแรกโม่เสี่ยวฮุ่ยเองก็ไม่ได้ติดอะไรเท่าไหร่ แต่เมื่อตอนนี้ได้ยินเคธี่พูดแบบนี้ ก็คิดมากขึ้นเยอะเลยทีเดียว
เมื่อคิดแบบนั้น โม่เสี่ยวฮุ่ยก็เหมือนจะคิดจริงๆ ว่าการที่เจียงหยุนเอ๋อปรากฏตัวขึ้นมาตอนนั้นมันบังเอิญเกินไปจริงๆ
ในเวลาที่พอดี และสถานที่ที่เหมาะเจาะ ทำไมเจียงหยุนเอ๋อถึงปรากฏขึ้นอย่างบังเอิญขนาดนั้น!
“คุณกำลังจะหมายความว่า……ทั้งหมดนี้เธอเป็นคนวางแผนเอาไว้หมดแล้วเหรอ?” โม่เสี่ยวฮุ่ยพูดขึ้นพลางขมวดคิ้ว
เคธี่เลยรีบอธิบาย: “คุณป้า ฉันไม่ได้หมายความว่าแบบนั้น แต่แค่สงสัยเฉยๆ คุณหนูเจียงน่าจะไม่ทำเรื่องแบบนั้นหรอก?ไม่ว่าอย่างไร คุณเองก็เป็นแม่ของจุนถิงนะ”
แต่ทว่า ถึงเคธี่จะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกในตอนนี้ แต่ก็กลับทำให้ในใจของโม่เสี่ยวฮุ่ยเกิดความสงสัยขึ้นมา
ถึงแม้ว่าเธอจะดูเหมือนไม่ได้สงสัยอะไรเท่าไหร่ แต่อันที่จริงก็เกิดความโกรธขึ้นในใจเป็นอย่างมาก แต่อารมณ์นี้ก็ถ่ายทอดออกมาจากน้ำเสียงของเธอเหมือนกัน
“อือ ฉันรู้แล้วล่ะ แต่ถึงอย่างไร……เรื่องนี้ก็ยังไม่มั่นใจเหมือนกัน แต่ฉันคิดว่าก็น่าจะเป็นแบบนั้นล่ะ คิดไม่ถึงเลยจริงๆ ว่าเธอจะใจโหดเหี้ยมได้ขนาดนี้ จนเกิดความคิดแบบนี้ขึ้นมา”
เมื่อเห็นว่าโม่เสี่ยวฮุ่ยเริ่มสงสัยในตัวเจียงหยุนเอ๋อเหมือนที่ตัวเองคิดแล้ว ในใจของเคธี่ก็รู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก
“คุณป้า คุณอย่าเพิ่งด่วนสรุปเลย?ถ้าเกิดว่าเป็นเพียงแค่ความบังเอิญล่ะ?ถึงแม้ว่า……จะดูบังเอิญเกินไปจริงๆ ก็ตาม” เคธี่เหมือนจะกำลังแก้ต่างให้เจียงหยุนเอ๋อ แต่อันที่จริงมีแต่จะทำให้ความสงสัยในใจของโม่เสี่ยวฮุ่ยที่มีต่อเจียงหยุนเอ๋อนั้นมากขึ้น
เป็นไปตามที่คิด หลังจากที่ได้ฟังเคธี่พูดแล้ว โม่เสี่ยวฮุ่ยก็กัดฟันกรอดพลางพูดขึ้น: “เคธี่ ฉันรู้ว่าคุณเป็นเด็กที่จิตใจดี ทำเรื่องแบบนั้นไม่ลง แต่ว่าเจียงหยุนเอ๋อไม่เหมือนกับคุณ ไม่รู้ว่าจะร้ายได้สักเท่าไหร่”
เมื่อได้ยินโม่เสี่ยวฮุ่ยพูดแบบนี้ เคธี่เองก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ขึ้นมา เรื่องทั้งหมดเป็นไปตามที่เธอคิด การที่เจียงหยุนเอ๋อจะถูกไล่ออกจากตระกูลลี่เองก็คงไม่ใช่เรื่องที่ต้องรออีกนานเท่าไหร่แล้วใช่ไหม?
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ ไม่ต้องบอกเลยว่าเคธี่นั้นดีใจมากขนาดไหน
เพื่อไม่ให้น่าสงสัย เคธี่เลยไม่ได้พูดอะไรให้มากกว่านี้ก่อนจะวางสายไปในไม่ช้า ก่อนจะวางสายก็ยังปลอบใจโม่เสี่ยวฮุ่ยอยู่สักพัก พลางบอกว่าไม่ให้เธอด่วนสรุปเกินไป
แต่หลังจากที่ลี่จุนถิงปรากฏตัวขึ้น โม่เสี่ยวฮุ่ยก็ยังระเบิดอารมณ์ออกมา เธอคิดๆ ดูแล้วก็ยังคิดว่าคนที่อยู่เบื้องหลังของเรื่องนี้คือเจียงหยุนเอ๋อ
เธอไม่ชอบเจียงหยุนเอ๋ออยู่แล้วไม่ใช่เหรอ?ก่อนหน้านี้เจียงหยุนเอ๋อทำท่าทีเหมือนเชื่อฟังนอบน้อม สุดท้ายตอนนี้ก็เปิดเผยตัวตนของตัวเองออกมาแล้วไม่ใช่เหรอ?
โม่เสี่ยวฮุ่ยหัวเราะเสียงเย็นชาอยู่ในใจ พลางคิดว่าเจียงหยุนเอ๋อหน้าไหว้หลังหลอกจริงๆ ยังดีที่ก่อนหน้านี้ตัวเองไม่ได้ถูกเจียงหยุนเอ๋อหลอก
มีเพียงแต่ลูกชายของตัวเองอย่างลี่จุนถิง ที่ไม่รู้ว่าหลงอะไรนักหนา ถึงได้ชอบหญิงที่จิตใจไม่บริสุทธิ์แบบนี้ได้