บทที่449 เธอเป็นผู้หญิงเลวคนหนึ่ง
“คุณไม่มีหลักฐาน คุณจะมาตัดสินว่าเจียงหยุนเอ๋อเป็นคนทำได้อย่างไร?” ลี่จุนถิงขมวดคิ้วมาชนกัน แม่ของตัวเอง ปกติก็มีเหตุผลดี ทำไมเมื่อมาเจอเรื่องของเจียงหยุนเอ๋อถึงได้คิดไปเรื่อยเปื่อยแบบนี้?
“หึ” โม่เสี่ยวฮุ่ยหัวเราะเสียงเย็นชา พลางนั่งพิงหัวเตียง “ไม่มีหลักฐานเหรอ? งั้นคุณบอกมาสิว่าทำไมอยู่ดีๆ เจียงหยุนเอ๋อถึงปรากฏตัวขึ้นตอนนั้นพอดี?แถมยังเป็นตอนที่ฉันถูกรถชนด้วย?”
ตอนนี้โม่เสี่ยวฮุ่ยมั่นใจแล้วว่าเจียงหยุนเอ๋อเป็นฆาตกรในเรื่องนี้
“หรือว่าคนที่ปรากฏตัวตอนนั้นต้องน่าสงสัยหมดเลยเหรอ?เจียงหยุนเอ๋อเองก็แค่ผ่านมาเท่านั้นเอง” ลี่จุนถิงแค่คิดว่าเหตุผลที่โม่เสี่ยวฮุ่ยพูดออกมามันไม่มีมูลเลย
“ผ่านมาพอดีอะไรกัน เหตุผลพวกนี้เอาไว้หลอกคุณเท่านั้นล่ะ เธอต้องมาดูเพื่อหัวเราะเยาะฉันแน่ๆ” โม่เสี่ยวฮุ่ยยังมีท่าทีมั่นใจในความคิดของตัวเองอยู่
“ถึงคุณจะบอกว่าเจียงหยุนเอ๋อเป็นคนทำ แล้วทำไมเธอถึงเข้ามาตอนนี้เรื่องเกิดไปแล้วล่ะ?อีกอย่าง เจียงหยุนเอ๋อจะทำแบบนั้นไปเพื่ออะไรกัน?” ลี่จุนถิงไม่เชื่อว่าเจียงหยุนเอ๋อจะทำเรื่องแบบนั้นได้
โม่เสี่ยวฮุ่ยมองบน พลางคิดว่าลูกชายของตัวเองจะต้องถูกนังแพสยาหลอกจนหลงหัวปักหัวปำแล้วแน่นอน ไม่ใช่แค่ไม่ฟังคำพูดของตัวเอง แต่สิ่งแรกที่เป็นห่วงหลังจากตัวเองบาดเจ็บ กลับเป็นการแก้ต่างให้ผู้หญิงคนนั้นด้วย
“ต้องเป็นเพราะปกติฉันไม่ได้ทำดีกับเธอ ดังนั้นเลยหาโอกาสมาแก้แค้นแน่นอน” ในหัวของโม่เสี่ยวฮุ่ยนั้นมีแต่ภาพที่เห็นเจียงหยุนเอ๋อยืนหัวเราะเยาะตัวเองอยู่ตรงทางเข้า
เธอหวังว่าจะได้เห็นตัวเองจะเลาะกับลี่จุนถิงแน่นอน
ลี่จุนถิงเชื่อเธออย่างหมดใจ เลยทำให้เธอมั่นใจเป็นอย่างมาก
คนที่นอนอยู่ข้างตัวเอง ลี่จุนถิงนั้นรู้จักดีที่สุด ถึงปกติโม่เสี่ยวฮุ่ยจะทำไม่ดีกับเจียงหยุนเอ๋อขนาดไหน แต่เจียงหยุนเอ๋อก็ไม่สามารถเอาชีวิตของโม่เสี่ยวฮุ่ยมาล้อเล่นได้
“ไม่มีทาง” ลี่จุนถิงปฏิเสธที่จะเชื่อความคิดของโม่เสี่ยวฮุ่ยอย่างหมดใจ
โม่เสี่ยวฮุ่ยเบิกตาโพลง พลางพูดด้วยเสียงโกรธแค้น: “ไม่มีทางงั้นเหรอ?ทำไมถึงเป็นไปไม่ได้ล่ะ? ไม่แน่ว่าเธออาจจะอยากเห็นท่าทีในตอนนี้ ที่คุณกับฉันทะเลาะกัน แล้วทำให้เธอมีที่ยืนมากขึ้น แล้วเธอเองก็จะคิดว่าฐานะคุณหญิงในตระกูลลี่นั้นจะมั่นคงมากขึ้น ฉันจะบอกคุณให้นะ ขอแค่ฉันยังอยู่ ฉันก็จะไม่มีทางรับเธอเป็นสะใภ้เด็ดขาด!”
โม่เสี่ยวฮุ่ยตวาดเสียงดังออกมาในประโยคสุดท้าย
ลี่จุนถิงอ้าปากเล็กน้อย พลางหายใจเข้าลึกๆ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา
เขาไม่ใช่ว่าจะเถียงโม่เสี่ยวฮุ่ยไม่ได้ แต่เพราะตอนนี้โม่เสี่ยวฮุ่ยไม่มีเหตุผลอะไรอีกแล้ว
ตอนนี้ความคิดของโม่เสี่ยวฮุ่ยสุดโต่งมาก เธอเชื่อความคิดนี้จนไม่มีทางจะเปลี่ยนอะไรได้อีกแล้ว
จู่ๆ ในห้องพักผู้ป่วยก็เงียบลง บรรยากาศของสองแม่ลูกตึงเครียด ในห้องมีบรรยากาศที่นิ่งเงียบสงัด ทำให้ทั้งสองคนโกรธจนหน้าแดง
เจียงหยุนเอ๋อที่ยืนอยู่หน้าประตูเองก็ได้ยินสิ่งที่ทั้งสองคนคุยกันอย่างชัดเจน
หลังจากที่ได้ยินคำพูดของโม่เสี่ยวฮุ่ย เจียงหยุนเอ๋อก็เอามือปิดปาก พลางมั่งทรุดลงกับพื้น
เบ้าตาที่แดงก่ำ น้ำตาก็ไหลวนอยู่ในดวงตา
เจียงหยุนเอ๋อขบริมฝีปากแน่น แต่ก็พยายามจะควบคุมอารมณ์ของตัวเองเอาไว้ไม่ให้น้ำตาไหลออกมา
เธอไม่เข้าใจเลยจริงๆ ว่าทำไมตัวเองถึงทำให้โม่เสี่ยวฮุ่ยพอใจไม่ได้สักที?
ในตอนนั้นเอง ที่ทางเดินมีเสียงฝีเท้าก้าวเข้ามาอย่างเร่งรีบ
เจียงหยุนเอ๋อเงยหน้าขึ้นมอง ก็เห็นว่าเป็นลี่จุนซิน เลยรีบจับกำแพงพลางดันตัวขึ้นมา แล้วทักทาย: “พี่สาว”
ลี่จุนซินเพียงแค่พยักหน้า ก่อนจะรีบตรงเข้าไปในห้องพักผู้ป่วย
ตอนแรกตัวเองกำลังจะไปร่วมงานสามสัมพันธ์ แต่กลับได้รับสายของลี่จุนถิง บอกว่าเกิดอุบัติเหตุขึ้นกับโม่เสี่ยวฮุ่ย เลยรีบมาที่นี่
ตอนที่มาก็ได้เห็นเจียงหยุนเอ๋อนั่งทรุดลงอยู่คนเดียว ดวงตามีสีแดงก่ำ ไม่รู้ว่าร้องไห้หรืออะไร แต่ว่าเธอไม่มีเวลาสนใจขนาดนั้น เลยตรงเข้าไปดูอาการของโม่เสี่ยวฮุ่ยก่อน
“แม่!” ลี่จุนซินคิดว่าเกิดอะไรร้ายแรงขึ้นกับโม่เสี่ยวฮุ่ย เลยกังวล แต่หลังจากที่เข้าไปในห้องพักผู้ป่วย ก็พบว่าโม่เสี่ยวฮุ่ยกำลังนั่งอยู่พอดี นอกจากพันแผลเล็กน้อยก็ไม่มีอะไรมาก เลยวางใจลงได้
แต่ว่าเธอสังเกตเห็นว่าบรรยากาศในห้องพักผู้ป่วยมันแปลกไป เลยมองลี่จุนถิง แล้วมองสีหน้าของแม่ตัวเองที่ดูโกรธ เลยรู้ว่าทั้งสองคนทะเลาะกัน
“แม่ คุณไม่เป็นไรใช่ไหม?ได้ยินว่าเกิดอุบัติเหตุขึ้นกับคุณแล้วตกใจมากเลย” ลี่จุนซินเดินสองสามก้าวไปข้างเตียงของโม่เสี่ยวฮุ่ยพลางถามด้วยความเป็นห่วง
โม่เสี่ยวฮุ่ยเห็นลูกสาวมา จากตอนแรกที่ตึงเครียดอยู่ก็ผ่อนคลายลงเล็กน้อย เลยยิ้มขึ้นมาเล็กน้อย: “ไม่เป็นไร ยังดีที่คุณแม่โชคดี”
“งั้นก็ดี” ลี่จุนซินพูดพลางมองลี่จุนถิงเล็กน้อย แต่ลี่จุนถิงมองไปทางคนอื่นตลอดเวลา เพราะไม่รู้ว่าทำไมเหมือนกัน “แม่ คุณกับจุนถิงทะเลาะกันอีกแล้วเหรอ? ”
“หึ” โม่เสี่ยวฮุ่ยหันไปอีกทางเพราะไม่อยากมองลี่จุนถิง “ทำไมต้องทะเลาะกันด้วย ถ้าฉันไม่ถูกรถชน ก็คงถูกเขาทำให้โกรธตาย”
ลี่จุนซินได้ยินโม่เสี่ยวฮุ่ยพูดเว่อร์มากขนาดนั้น ก็ตกใจไม่น้อย
ในช่วงเวลานี้ ความบ่อยของการทะเลาะของโม่เสี่ยวฮุ่ยกับลี่จุนถิงน่าจะไม่ใช่การทะเลาะกันแบบธรรมดาๆ แล้วล่ะ
“มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่นะ?ทำไมจู่ๆ ถึงทะเลาะกันขึ้นมาล่ะ?” ลี่จุนซินไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ไม่ใช่ว่าเพราะโม่เสี่ยวฮุ่ยถูกรถชนหรอกเหรอ?
“จุนถิง มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?ทำไมคุณถึงยั่วโมโหแม่ล่ะ? ” ลี่จุนซินเป็นพี่สาวแต่ก็ไม่สามารถโทษโม่เสี่ยวฮุ่ยได้ เลยต้องสอนน้องชายตัวเองเท่านั้น
ลี่จุนถิงพึมพำออกมา พลางมองไปทางโม่เสี่ยวฮุ่ย แล้วค่อยๆ พูดขึ้น: “คุณถามแม่เถอะ ว่าทำอะไรที่ไม่มีเหตุผลออกมา”
ลี่จุนซินมองไปทางแม่ตัวเองด้วยความแปลกใจ ไม่รู้ว่าช่วงนี้โม่เสี่ยวฮุ่ยเป็นวัยทองหรือเปล่า ถึงได้ทำอะไรที่แต่ก่อนไม่เคยทำ หรือว่าโม่เสี่ยวฮุ่ยทำเกินไปจริงๆ งั้นเหรอ?
“แม่ พวกคุณเป็นอะไรกันแน่?” หัวของลี่จุนซินแทบจะระเบิดแล้ว
“ลี่จุนซิน คุณไม่รู้เหรอ ว่าน้องชายคุณโตแล้ว จนไม่สนใจแม่เลย” โม่เสี่ยวฮุ่ยพูดพลางบีบน้ำตา แล้วเช็ดน้ำตาบนใบหน้าของตัวเอง “เขาปกป้องนังแพศยาตลอด แก้ตัวให้เธอ ฉันไม่ถูกชะตาด้วยเลย เลยว่าเขาไปสักหน่อย สุดท้ายเขายังจะมาขัดขืนกับฉันอีก!”
“นังแพศยาเหรอ?” ลี่จุนซินสงสัยว่าตัวเองได้ฟังผิดหรือเปล่า เลยมองไปทางลี่จุนถิงด้วยความอึ้งไป
ในแววตามาความงุนงง
นังแพศยานั่นไม่ใช่จ้าวเฟยเฟยเหรอ?
ทำไมลี่จุนถิงต้องปกป้องจ้าวเฟยเฟยด้วย?
ตอนที่ตัวเองไม่อยู่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?
ลี่จุนถิงรู้ว่าลี่จุนซินเข้าใจผิด เลยถอนหายใจ: “เธอหมายถึงเจียงหยุนเอ๋อ”
ลี่จุนซินตกใจจนแทบตกจากเก้าอี้: “แม่ ทำไมจู่ๆ เจียงหยุนเอ๋อถึงกลายเป็นนังแพศยาล่ะ?”
“ก็เธอเป็นไงล่ะ!” โม่เสี่ยวฮุ่ยประชด “เธอทำให้น้องชายคุณหลงจนลืมโคตรตระกูลไปหมดแล้ว”
ลี่จุนซินคิดว่าโม่เสี่ยวฮุ่ยพูดแรงเกินไป ถึงอย่างไรตอนนี้เจียงหยุนเอ๋อก็ยังอยู่ใกล้ๆ ถ้าเกิดเธอได้ยินเข้า เจียงหยุนเอ๋อจะเสียใจขนาดไหนกัน