บทที่ 318 มัวตามจีบผู้หญิง

อ้อนรัก คุณภรรยาคนสวย

“50ล้าน? คุณนี่มันโลภมากไม่รู้จักพอจริงๆ” เป๋าฮวนเยาะเย้ยแสดงความรังเกียจ

“ฮวนฮวน ฉันเป็นพ่อเธอนะ! ฉันเลี้ยงเธอมา 20 ปี ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าเฟิงหานชวนรวยแค่ไหน 50ล้านนั้นเทียบเท่าปลายเล็บของเขา ไม่จำเป็นต้องพูดมากเลย!”เฉินเจี้ยนหมินเอามือเท้าสะโพก ความกระสับกระส่ายก่อนหน้านี้หายไปหมด และท่าทางมั่นใจมาก

“แล้วทำไมคุณถึงไม่ขอ100ล้านเลยล่ะ?” เป๋าฮวนมองเขาด้วยรอยยิ้ม

ดวงตาของเฉินเจี้ยนหมินเป็นประกายขึ้นทันใด ดูตื่นเต้นไปทั้งตัว พูดติดอ่างว่า: “100ล้าน? จริง …จริงเหรอ รีบให้เฟิงหานชวนเอาเงินมาให้ฉันเลย!”

“เฉินเจี้ยนหมิน ทำไมคุณไม่ฝันเอาล่ะ?” สีหน้าของเป๋าฮวนเย็นลงทันที และกล่าวอย่างเย็นชาว่า “อาเหลิ่ง อามั่ว ไปกันเถอะ”

“ครับ คุณหนูใหญ่!” จิ่งเหลิ่งและจิ่งมั่ว ก้าวไปข้างหน้าทันที ดึงเฉินเจี้ยนหมินออกไป

เป๋าฮวนหันหลังเดินกลับ เฉินเจี้ยนหมินถูกดึงไว้โดยจิ่งเหลิ่งและจิ่งมั่ว แต่เขายังคงตะโกน:“ฮวนฮวน ถ้า100ล้านไม่ได้ 50ล้านก็ไม่ได้ ให้ฉัน10ล้านก็ได้…”

“ฮวนฮวน ห้ามไป แกห้ามไปนะ กลับมาเดี๋ยวนี้!”

ไม่รู้ว่าเฉินเจี้ยนหมินตะโกนมานานแค่ไหน ถูกจิ่งเหลิ่งและจิ่งมั่วลากออกไป

ในความสิ้นหวัง จิ่งมั่วทำได้เพียงใช้ฝ่ามือผลักเฉินเจี้ยนหมิน เฉินเจี้ยนหมินล้มลงกับพื้นทันที

หลังจากขึ้นรถ จิ่งมั่วสตาร์ทรถแล้วถามว่า: “คุณหนูใหญ่ เราจะกลับโรงแรมใช่ไหมครับ?”

“เที่ยงแล้ว หาร้านอาหารกินกันก่อน” เสียงของเป๋าฮวนดูทื่อเล็กน้อย

“ครับ คุณหนูใหญ่” จิ่งมั่วขับรถออกไป

ตลอดทาง เป๋าฮวนไม่ได้พูดอะไรสักคำ จิ่งเหลิ่งรู้สึกว่าบรรยากาศเคร่งขรืมเล็กน้อย เขาจึงถามว่า: “คุณหนูใหญ่ พ่อคุณ…”

“ฉันไม่น่ามาที่นี่เลย” เป๋าฮวนเสียใจ

“ใช่ครับ ตัวตนของคุณถูกเปิดเผยแล้ว” จิ่งเหลิ่งพยักหน้าเสริม

เป๋าฮวนเม้มริมฝีปาก เธอไม่ได้เสียใจกับเรื่องนี้ แต่เธอเสียใจที่ยอมใจอ่อน

เมื่อเห็นว่าเฉินเจี้ยนหมินยังคงเหมือนเดิม เธอไม่อยากรู้ข่าวคราวของเขาอีกต่อไป

ไม่ว่าเขาจะเป็นตายร้ายดียังไง ก็ไม่เกี่ยวกับเธออีก

มื้อกลางวัน เป๋าฮวนและจิ่งเหลิ่ง จิ่งมั่วมาที่ร้านอาหารหลานเซียง

เป๋าฮวนเคยมาที่นี่ครั้งหนึ่ง ตอนที่เธอท้อง เฟิงหานชวนพาเธอและหลีซืออวิ๋นมาทานข้าว

เธอรู้สึกว่าอาหารของร้านหลานเซียงสดและอร่อย ดังนั้นเธอจึงเลือกทานมื้อกลางวันที่นี่

เมื่อทานเสร็จแล้ว จิ่งมั่วถามอีกครั้ง: “คุณหนูใหญ่ กลับโรงแรมเลยไหม?”

“พาฉันไปที่สุสาน” พูดจบเป๋าฮวนก็สวมแว่นกันแดด

เธอเดินไปข้างหน้า จิ่งเหลิ่งและจิ่งมั่วเดินตามหลัง ภาพนี้สง่างามชนะขาดลอย

เมื่อเป๋าฮวนเดินไปที่ประตูร้านอาหารหลานเซียง เธอก้มศีรษะลงคิดอะไรบางอย่าง เธอไม่ได้สังเกตคนที่อยู่ข้างๆ เธอเพิ่งเดินผ่านไป

ทันใดนั้น หลีซืออวิ๋นหยุดและมองย้อนกลับไป เธอมองและขมวดคิ้ว

“พี่อวิ๋น พี่กำลังดูอะไร? ผู้หญิงคนนั้นเหรอ?” เด็กสาวที่อยู่ข้างๆจับแขนของหลีซืออวิ๋นถามด้วยความสงสัย

หลีซืออวิ๋นไม่ได้ปิดบัง และพูดตามความจริงว่า: “ผู้หญิงคนเมื่อกี้ เหมือนฉันจะคุ้นๆ…”

“ใคร?” เฟิงหย่าสงสัย

เธอไม่ได้สังเกตรูปร่างหน้าตาของผู้หญิงคนนั้น เพราะเธอมองโทรศัพท์และตอบข้อความ แต่เห็นบอดี้การ์ดหล่อสองคนที่เดินตามเธอ เธอพูดขึ้นว่า: “ลูกคุณหนูตระกูลไหนล่ะมั้ง พี่อาจจะเคยเห็นในงานเลี้ยง ”

“ไม่ ไม่ใช่ รูปร่างเหมือน เหมือนเธอ…” แม้ว่าหลีซืออวิ๋นและเฉินฮวนฮวนจะไม่ได้เจอกันหลายครั้ง แต่เธอก็จำรูปร่างของเธอได้

เพราะเธอมักจ้องดูรูปถ่ายของเฉินฮวนฮวน และศึกษาเธออย่างรอบคอบหลายครั้ง

“เหมือนเธอ? เธอเป็นใคร?” เฟิงหย่ายิ่งงุนงงมากขึ้นไปอีก

“เฉินฮวนฮวน” หลีซืออวิ๋นโพล่งออกมา

“เฉินฮวนฮวน!?” เฟิงหย่าอุทาน แสดงท่าทางรังเกียจ และกล่าวว่า:“พี่อวิ๋น พี่จะพูดถึงผู้หญิงคนนั้นทำไม? เสียบรรยากาศ! เธอฆ่าตัวตายเมื่อ3ปีที่แล้ว!”

“ตอนนั้นฉันไม่เข้าใจจริงๆ อาสามดีกับเธอมาก ก็แค่ความเข้าใจผิดนิดเดียวไม่ใช่เหรอ? เขาก็พยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อชดเชยให้เธอ แต่เธอก็ไม่พอใจ แถมยังฆ่าตัวตายอีก ไม่รู้ว่าผู้หญิงคนนี้มีปัญหาทางจิตหรือเปล่า!”

เฟิงหย่าไม่เคยเห็นตัวจริงของเฉินฮวนฮวน เรื่องทั้งหมดได้ยินมาจากครอบครัวตระกูลเฟิง เธอเป็นเด็กผู้หญิงที่รักการใช้ชีวิต ผู้หญิงที่ฆ่าตัวตายง่ายๆแบบนี้เธอไม่อยากสนใจ

เธอชื่นชมอาสามเฟิงหานชวนมาก สถานการณ์ของอาสามตอนนี้แย่มาก เธอหวังว่าอาสามจะหาผู้หญิงที่เหมาะสมได้โดยเร็วที่สุด กำจัดเงาของเฉินฮวนฮวนออกไป

และคนที่เธอเห็นสมควรก็คือ หลีซืออวิ๋น

เพราะเธอมีความสัมพันธ์ที่ดีกับหลีซืออวิ๋น หลีซืออวิ๋นปฏิบัติต่อเธอเหมือนเป็นน้องสาว ถ้าหลีซืออวิ๋นเป็นอาสะใภ้ของเธอ เธอจะต้องมีความสุขมากแน่ๆ

“ใช่ เธอฆ่าตัวตายเมื่อสามปีที่แล้ว ฉันคงตาฝาดไปเอง” หลีซืออวิ๋นส่ายหัว ราวกับกำลังตอบเฟิงหย่า และกำลังทบทวนตัวเอง

เฟิงหย่าดึงแขนของเธอแล้วกล่าวว่า:”พี่อวิ๋น ฉันจองที่นั่งไว้แล้ว อย่าไปนึกถึงเฉินฮวนฮวนผู้หญิงคนนั้นเลย เดี๋ยวพี่อวิ๋นก็จะได้เป็นอาสะใภ้สามของฉันแล้ว!”

“เสี่ยวหย่า อย่าพูดไปเรื่อย หานชวนยังไม่แสดงออกเลย!” เมื่อพูดเช่นนี้ แก้มของหลีซืออวิ๋นก็แดงอย่างเขินอาย

เฟิงหย่าหัวเราะและพูดติดตลกว่า: “อาสามประมูลไฟลิน5พันล้าน พวกเรารู้ว่าอาสามต้องมอบไพลินให้พี่ ไม่งั้นจะให้ใคร?”

นอกจากหลีซืออวิ๋นกับผู้นำหญิง เฟิงหานชวนไม่มีผู้หญิงคนอื่นรอบตัวเขา ทัศนคติของเขาที่มีต่อผู้นำหญิงปฏิบัติอย่างเท่าเทียม ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่จะเป็นผู้นำหญิงคนนั้น

เฟิงหย่ารู้สึกว่าตำแหน่งของหลีซืออวิ๋นในฐานะอาสะใภ้สาม ไม่มีใครแย่งไปได้

“เสี่ยวหย่า!” หลีซืออวิ๋นคร่ำครวญ แต่ไม่ปฏิเสธ

“เดี๋ยวฉันจะช่วยพี่ถามอาสามเอง” เฟิงหย่าพาหลีซืออวิ๋นไปที่ที่นั่ง และโทรหาเฟิงหานชวนทันที

ไม่นาน โทรศัพท์ก็เชื่อมต่อ เฟิงหย่าเปิดลำโพงแล้วพูดขึ้นว่า: “อาสาม ไม่เจอกันนาน!”

“เสี่ยวหย่า มีอะไรหรือเปล่า?” เสียงที่นุ่มนวลของผู้ชายดังขึ้น

เฟิงหย่าในฐานะหลาน ทัศนคติของเขาค่อนข้างใจดี

“ไม่มีอะไร ก็แค่อาสามไม่ได้กลับบ้านเก่านานแล้ว คุณปู่ถามว่าอาจะกลับมาอีกเมื่อไหร่?” คุณปู่ที่เฟิงหย่าเอ่ย ก็คือนายท่านเฟิงเหลยถิง

“ตอนนี้ยังไม่กลับ ไว้จะบอกอีกที” เฟิงหานชวนตอบตามความจริง

“ตอนนี้? อาสามยุ่งมากเลยเหรอ? อาสามมัวทำอะไร?” เฟิงหย่าหันไปกระพริบตาให้หลีซืออวิ๋น

หลีซืออวิ๋นกังวลว่าเฟิงหย่าจะถามตรงเกินไป เธออยากห้าม แต่ก็อยากได้ยินคำตอบ เฟิงหานชวนตอบอย่างใจเย็น: “มัวตามจีบผู้หญิง”