ตอนที่ 459 จักรวรรดิดวงดาวของเผ่ามนุษย์

สตรีมเมอร์สาว กินพิชิตอวกาศ

ตอนที่ 459 จักรวรรดิดวงดาวของเผ่ามนุษย์

ตอนที่ 459 จักรวรรดิดวงดาวของเผ่ามนุษย์

จักรวรรดิดวงดาวของเผ่ามนุษย์เป็นดาวเคราะห์ที่มีขนาดเล็ก ดาวเคราะห์ขนาดเล็กแห่งนี้ซ่อนตัวอยู่และมีลักษณะรกร้าง ถึงอย่างนั้นบนดาวเคราะห์ก็ยังมีจักรวรรดิขนาดย่อมปรากฏอยู่ พื้นที่แห่งนี้ถูกมนุษย์ผู้มากพรสวรรค์ซื้อไว้และแต่งตั้งมันให้กลายเป็นจักรวรรดิดวงดาวของเผ่ามนุษย์

ไม่มีใครสนใจสถานที่เล็ก ๆ แห่งนี้ แม้ว่าพวกเขาจะสังเกตเห็นมันก็ตาม มันเป็นเพียงดาวเคราะห์ขนาดเล็กที่มีอสุรกายร้ายบอนาร์อาศัยอยู่เป็นเวลานาน นอกจากนี้ยังมีอสุรกายระดับสูงคอยคุ้มกันอยู่ที่นี่ โดยปกติแล้วยานอวกาศมักจะบินผ่านไป รวมถึงสิ่งมีชีวิตประเภทอื่นจะไม่ลงมาจอดเทียบท่าที่นี่ พื้นที่แห่งนี้จึงมีแต่ความสงบสุขมาหลายปี

อวี้ซินกลับไปตรวจสอบสถานการณ์ที่จักรวรรดิดวงดาวอีกครั้ง ถึงแม้ว่าผู้ทรยศจะถูกจับกุมตัวแล้ว แต่เขาก็ยังรู้สึกไม่สบายใจ นอกจากนี้ ตามที่ซินหยาพูดไว้ เขาจะต้องตามหาหญิงสาวมนุษย์ไปดูแลคนพวกนั้น

อย่ากลัวความแน่นอน แต่จงกลัวสิ่งที่ไม่คาดฝัน หากคนพวกนั้นพลาดเหยียบกับดักเข้า มวลมนุษย์จะตกอยู่ในช่วงเวลาวิกฤต!

หลังจากผ่านการปรับเปลี่ยนมาหลายร้อยปี ในที่สุดมนุษย์ในจักรวรรดิดวงดาวก็สามารถเผยกายมนุษย์ได้ ยกเว้นผู้สูงวัยที่ยังคงยึดติดอยู่กับอดีตอันเลวร้ายของมวลมนุษย์ ขณะที่คนรุ่นใหม่เริ่มก้าวเข้าสู้เส้นทางชีวิตอันแสนสุข

ทุกคนมีสีหน้ายิ้มแย้ม เด็กน้อยที่อ่อนต่อโลกจ้องมองดวงดาวเปล่งประกายอยู่ในอ้อมกอดของผู้เป็นแม่ เฝ้ารอชีวิตภายนอกที่คุณครูมักจะพร่ำสอนว่ามีคนตัวใหญ่ใจร้ายคอยจับตัวพวกเขาไป และทำให้พวกเขากลายเป็นคนโง่เขลา ถูกขังอยู่ในเล้าหมูและถูกเลี้ยงดูแบบหมู ถึงอย่างนั้นพวกเขาก็ยังโหยหาท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาว

พวกเขาร้องตะโกนกู่ก้องว่าอยากจะออกไปพิชิตจักรวาล แต่แล้วก็ถูกพวกผู้ใหญ่ลากออกไปทุบตีและก่นด่าอย่างรุนแรง “จะบ้าหรือไง! ออกไปพิชิตจักรวาล! ระวังจะได้กลายเป็นคนโง่แทนแล้วกัน!”

การศึกษา เศรษฐกิจ ค่ารักษาพยาบาล…ทั้งหมดนี้ล้วนถูกจัดเป็นระเบียบ มีข้าราชการ ชาวนา นักธุรกิจที่ล้วนพึ่งพาตัวเอง ชีวิตที่ดูสวยงามจนไม่น่าเชื่อว่าโลกภายนอกจะดูโหดร้ายขนาดนี้?!

และนี่คือหญิงสาวอีกคนที่มากความสามารถ เธอมีดวงตากลมโตที่มักจับจ้องไปที่ดวงดาว เธอสอบเข้ามหาวิทยาลัยแสงดาวได้ก่อนเกณฑ์ ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในจักรวรรดิดวงดาว!

เธอเรียนวิชาเอกวิศวกรรมสารสนเทศ มีงานวิจัยเกี่ยวกับเรื่องความถี่ของแถบสัญญาณเป็นของตัวเอง หญิงสาวคนนี้เป็นลูกของครอบครัวในตำนาน แล้วใครล่ะจะไม่ชอบเธอ?

เธอมีอวี้ซินที่ต่อสู้เพื่อมวลมนุษย์เป็นไอดอล! เธอถึงกับจินตนาการว่าวันหนึ่งเธอจะได้ไปต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับอวี้ซิน ทว่าความฝันกลับยากที่จะเป็นจริง เพราะเธอไม่สามารถออกจากจักรวรรดิดวงดาวแห่งนี้ได้!

มีเพียงผู้ชายที่มีพละกำลังการต่อสู้ที่แข็งแกร่ง หรือผู้ที่ได้รับการฝึกฝนเป็นพิเศษเท่านั้นที่จะเดินออกจากที่นี่ไปได้

ยิ่ง ‘แมรี่’ มีความรู้มากเท่าไหร่ เธอก็ยิ่งได้รับเกียรติมากเท่านั้น แต่มันกลับกลายเป็นความมืดหม่นสำหรับเธอ เธอพบว่าความเป็นเลิศของเธอคอยกีดขวางไม่ให้เธอออกไปจากที่นี่

ทุกคนบอกว่าเธอเป็นอัจฉริยะ จึงต้องได้รับการปกป้องดูแลเป็นพิเศษ แต่ทั้งหมดที่เธอต้องการคือออกไปจากที่นี่ และต่อสู้เคียงข้างกับคนที่เธอชอบ! ทำไมถึงไม่มีใครช่วยเหลือตามคำขอของเธอ?!

อวี้ซินมาถึงจักรวรรดิดวงดาวของเผ่ามนุษย์ ขณะที่คนทั้งหลายได้รับสัญญาณของเขา เข้ามารอคอยที่ท่าเทียบจอด

เจ้าหน้าที่ทั้งหลายกล่าวทักทายด้วยรอยยิ้ม แต่ในใจคิดอะไรอยู่นั้นใครเล่าที่จะรู้?! ต้องบอกว่าเผ่ามนุษย์ฉลาดมาก! ฉลาดเกินไปจนเริ่มสร้างปัญหา คิดเหลวไหลและไม่รับฟังความเห็นจากผู้อื่น

“ยินดีต้อนรับครับ! ท่านอวี้ซิน กลับมาแล้วสินะครับ! ไม่ทราบมีอะไรให้พวกเรารับใช้ไหมครับ?”

เจ้าหน้าที่ราชการพุงพลุ้ยก้าวไปข้างหน้าด้วยรอยยิ้มและทักทายอวี้ซิน

“พอดีมีเรื่องจะมาแจ้งทุกคนน่ะ” อวี้ซินมองดูเจ้าหน้าที่ราชการ ก่อนจะเดินเข้าไปหาอีกคนที่พยักหน้าเงียบ ๆ และเดินตรงไปข้างหน้า

ใบหน้าของเจ้าหน้าที่ราชการชะงักเล็กน้อย เลขานุการที่อยู่ข้างหลังเขารับรู้ได้ถึงการแสดงออกอย่างคนที่ทำอะไรไม่ถูก “ท่านรัฐมนตรี ทำไมอวี้ซินถึงหยิ่งขนาดนี้นะครับ?”

“หุบปาก!” เจ้าหน้าที่ราชการหันกลับไปด่าทอเลขานุการ “นายมีสิทธิ์พูดถึงท่านอวี้ซินด้วยหรือไง?!”

เจ้าหน้าที่ราชการเดินตามไปอีกครั้ง พูดทักทายจากทางด้านหลัง และหอบเล็กน้อย “ท่านครับ ข้างนอกนั่นโอเคไหมครับ?”

“โอเค!” อวี้ซินหยุดและมองดูเหงื่อบนใบหน้าของอีกฝ่าย “กินให้น้อยลงและออกกำลังกายให้มากกว่านี้!”

เจ้าหน้าที่ราชการหัวเราะ ‘ฮิฮิ’ แล้วตอบรับ “ครับท่าน!”

เจ้าหน้าที่ราชการอีกคนถึงกับเยาะเย้ยโดยไม่พูดอะไรออกมาเมื่อเห็นเหตุการณ์ดังกล่าว เจ้าคนขี้ประจบสอพลอ โดนสวนกลับเข้าให้แล้วไหมล่ะ?!

อวี้ซินมองดูสำนักงานที่มีการตกแต่งอย่างหรูหราโดยไม่พูดอะไร สถานที่แห่งนี้ถือได้ว่าเป็นห้องประชุม

หลังจากนั่งลงแล้ว เขาก็หันไปมองเจ้าหน้าที่ราชการทั้งหลายที่อยู่ในสำนักงานและพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

“ผมมาที่นี่เพราะเหตุผลหลักสองข้อ ข้อแรกคือ มาสอบสวนนักโทษเฉียนเฉียน ส่วนข้อที่สอง ผมต้องการให้พวกคุณจัดสรรผู้หญิงที่มีคุณสมบัติยอดเยี่ยมไปร่วมงานกับผมในเมืองหลวงเคทเลอร์”

“เมืองหลวงเคทเลอร์? ผู้หญิง?!” เจ้าหน้าที่ราชการทั้งหลายกระซิบกระซาบ “ท่านอวี้ซิน ทำไมอยู่ ๆ ถึงจะพาพวกผู้หญิงไปล่ะครับ?!”

สถานะของมนุษย์เพศหญิงในจักรวรรดิดวงดาวย่อมได้รับการปกป้อง เนื่องจากพวกเธอมีหน้าที่สืบพันธุ์ นอกจากนี้ลักษณะนิสัยของพวกเธอค่อนข้างขี้อาย ยากที่จะรับผิดชอบงานใหญ่หลวงเช่นนี้ได้

หากผู้หญิงถูกส่งตัวออกไป หมายความว่าสถานการณ์ภายนอกกำลังยากที่จะควบคุมใช่ไหม?

เจ้าหน้าที่มนุษย์จึงรู้สึกกังวลเล็กน้อย

อวี้ซินรู้สึกโล่งใจทันทีที่เห็นท่าทีของพวกเขา แม้พวกเขาจะมีความโลภ แต่ก็น่ายินดีที่พวกเขายังยืนหยัดในสิ่งที่ถูกต้อง

“ไม่มีอะไรหรอก แค่พวกผู้ชายที่นั่นไม่สามารถเป็นโสดได้ตลอดไป เพราะงั้นเราจะต้องพาพวกผู้หญิงไปสร้างครอบครัวกับพวกเขา แต่ว่าจะต้องเป็นไปตามความสมัครใจ”

สมัครใจ? แน่นอนว่าจะต้องสมัครใจอยู่แล้ว!

ผู้ชายคนไหนก็ตามที่ได้ออกไปข้างนอกนั่นล้วนเป็นคนชั้นสูงของชนชั้นสูงอีกทีไม่ใช่หรือไง? และจะต้องมีหน้าตาหล่อเหลากับพรสวรรค์อันยอดเยี่ยมถึงจะถูกคัดเลือกไป!

“ถ้างั้นก็ได้ครับ! ได้เลย! ท่านไม่ต้องห่วง! เรายังมีพวกนักเรียนจากมหาวิทยาลัยอยู่เยอะ ไม่ว่าจะเป็นด้านความรู้หรืออนุปริญญาก็เลือกเอาตามที่ต้องการได้เลยครับ”

เจ้าหน้าที่ทั้งหลายทำท่ายกกำปั้นทุบอก

อวี้ซินพูดขึ้นอีกว่า “ผมไม่ได้ต้องการคนที่หน้าตาดีหรือมีความรู้หรอก ขอแค่ระวังตัวไม่ให้คนอื่นจับได้ก็พอ”

“ท่านวางใจได้เลยครับ! พวกเราจะฝึกพวกเขาอย่างดี!”

เมื่อการประชุมสิ้นสุดลง อวี้ซินก็เข้าไปหาเฉียนเฉียน

เฉียนเฉียนถูกขังอยู่ในกรง ใบหน้าของเธอซีดเซียว เธอยังคงดูขี้อายเหมือนกระต่ายน้อย ความเป็นสายลับหายไปไหนกัน? ทั้งที่ผู้หญิงคนนี้เคยทำเรื่องต่าง ๆ ด้วยตัวเองมาแล้ว

“มีอะไรอยากจะพูดไหม?”

อวี้ซินนั่งลงข้างหน้าเฉียนเฉียน มองดูใบหน้าผอมซูบของเธอ แม้ว่าในคุกจะมีการอำนวยความสะดวก และมีข้าวปลาอาหารค่อนข้างสมเหตุสมผลก็ตาม

“ไม่มี!” เฉียนเฉียนจ้องมองชายที่อยู่ตรงหน้า “ท่านคืออวี้ซินใช่ไหม? ท่านคือเทพบุตรของพวกผู้หญิง”