ตอนที่ 303 ชีวิตที่ถูกจับตามอง (1)

ศิษย์พี่ของข้าจะมั่นคงเกินไปแล้ว

ตอนที่ 303 ชีวิตที่ถูกจับตามอง (1)

ในคืนฤดูใบไม้ร่วง เสียงแมลงก็มาพร้อมกับแสงจันทร์และหิมะ ในยามดึก ตรงทางเดินในสวนด้านหลังของวิหารเทพทะเล ขณะนี้ หลี่ฉางโซ่วในร่างตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์ที่มีตัวตนเป็นนักพรตเต๋าชรา เงยหน้าขึ้นมองไปยังเทพธิดา ซึ่งดูราวกับว่า นางได้เดินออกมาจากภาพวาดของเขา และทำให้เขาเบิกบานใจขึ้นมาทันที

ข้าน่าจะดีใจ

เมื่อข้าหลอก แค่กๆ เมื่อข้าพยายามโน้มน้าวเทพธิดาจินกวงและคนอื่นๆ ข้าก็เพียงแค่เปลี่ยนสำนวนโวหารเล็กน้อยเท่านั้นโดยไม่ได้บิดเบือนความจริงแต่อย่างใด

ไม่เช่นนั้น ในเวลานี้ ก็คงยากจะอธิบายตัวเองต่อหน้าเทพธิดาผู้นี้

เรื่องนี้ทำให้ หลี่ฉางโซ่วตระหนักถึงความสำคัญของการยึดมั่นในหลักการที่เขาตั้งเอาไว้ก่อนหน้านี้มากยิ่งขึ้น

บุรุษที่ดีควรต้องมุ่งมั่นพากเพียร

เทพธิดาผู้นี้คือใคร?

ในเมื่อนางมองหาข้าได้ในขณะนี้เพราะเรื่องของจ้าวกงหมิง ก็ทำให้ข้าใจสั่นเล็กน้อย… นางย่อมมิใช่ใครอื่น นอกจากเทพธิดาอวิ๋นเซียว ผู้ที่ทำให้อาจารย์ลุงจ้าวเกรงกลัว

หลี่ฉางโซ่วยิ้มและกล่าวว่า “ไม่รู้ว่า เทพธิดามาเยือนในยามราตรีเช่นนี้ด้วยเหตุใดหรือ?”

“ข้ามาจากสถานที่พักของพี่ใหญ่” อวิ๋นเซียวกล่าวเบา ๆ แต่ก็ชะงักลงกลางคัน จากนั้นก็ไพล่มืออ่อนนุ่มของนางไปไว้ข้างหลัง ในขณะนี้ นางสวมชุดกระโปรงยาวที่ทำจากผ้าไหมดูคล้ายเมฆ ให้เนื้อผ้าเบาและนุ่มนวล ทุกครั้งที่นางก้าวเดิน ดูพลิ้วไหวราวกับมีเมฆขาวบางเบาสองก้อนอยู่ใต้ฝ่าเท้าของนาง แม้นางจะเดินอยู่ในโลกมนุษย์ แต่ก็ดูแสนบริสุทธิ์ไร้สิ่งเจือปนใดๆ ทว่าหลี่ฉางโซ่วก็ไม่มีอารมณ์จะชื่นชมความงดงามที่อยู่ตรงหน้าเขา บัดนี้ ความคิดของเขาเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วขณะที่วิเคราะห์อย่างถ้วนถี่

เทพธิดาผู้นี้… มาไถ่ถามเอาความกับข้าหรือ?

ไม่น่าจะเป็นเช่นนั้น อย่างมากที่สุด อาจารย์ลุงจ้าวย่อมเพียงบอกนางว่า เขาได้หยุดเหล่าปรมาจารย์จากสำนักบำเพ็ญประจิมเท่านั้น ไม่น่าเป็นไปได้ที่เขาจะบอกอวิ๋นเซียวว่าเขาหยุดพวกเขาได้อย่างไร

หลี่ฉางโซ่วคิดวิธีจัดการปัญหาได้ในทันที เขายิ้มและกล่าวว่า “ผู้อาวุโสกงหมิงสบายดีหรือไม่”

จากนั้น เขาก็ได้ยินอวิ๋นเซียวกล่าวเบาๆ ว่า “พี่ชายสบายดี ข้าได้ยินเรื่องราวมาจากเขาแล้ว เมื่อสหายเต๋า พยายามเกลี้ยกล่อมศิษย์พี่หวงหลงให้ช่วยเผ่ามังกร เขาจึงรู้สึกว่าถึงเวลาแล้วที่เขาจะต้องช่วย จึงยื่นมือไปช่วยเขาและก่อให้เกิดกรรมโดยไม่มีเหตุผล ข้ามาที่นี่เพื่อถามว่า ในตอนนั้น สหายเต๋ามีเจตนาทำเช่นนั้นหรือไม่”

หลี่ฉางโซ่วกล่าวอย่างจริงจังว่า “ไม่ นี่เป็นเพียงเรื่องบังเอิญจริงๆ มีเหตุผลสำหรับเหตุการณ์นั้นในวันนั้น หวงหลงเจินเหรินถูกใครบางคนวางอุบายทำร้าย ผู้อาวุโสกงหมิงเข้าไปช่วยเขาแล้วหวงหลงเจินเหรินมาเรียกหาข้า…” หลี่ฉางโซ่วชี้แจงถึงเหตุการณ์ปะทะกันในสถานการณ์หลอกลวงในทะเลทักษิณอย่างรวบรัด

สำหรับผู้ทรงพลังอำนาจเฉกเช่น อวิ๋นเซียว และปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่เสวียนตูแล้ว การยึดมั่นกับการใช้กลยุทธ์ของ “การใช้ความจริงใจเพื่อขอโอกาส” โดยไร้ซึ่งเล่ห์เหลี่ยมใดๆ ย่อมจะเป็นการดีที่สุด และยังต้องวางตัวเองให้เหมาะควรอีกด้วย

เมื่อได้ยินเช่นนั้น อวิ๋นเซียวก็ถอนหายใจออกมาเบาๆ แล้วกล่าวอย่างกังวลว่า “ในยามนี้ พี่ชายได้ละทิ้งความระมัดระวังที่เขาเคยมีในสมัยโบราณ พวกเราทั้งสี่คน พี่ชายน้องสาว ล้วนฝึกบำเพ็ญเพียรมาตั้งแต่ยุคโบราณ ยิ่งฐานพลังของพวกเราสูงขึ้น ก็ยิ่งมีความสามารถแข็งแกร่งขึ้น และยิ่งมีศัตรูในโลกมากขึ้นเท่านั้น มีเหล่าจอมปราชญ์ในโลกบรรพกาล ยิ่งก้าวเดินไปในดินแดนนี้มากเท่าใด พวกเขาก็จะยิ่งรู้ว่า นี่คือ ภูเขาที่ไม่อาจผ่านไปได้ หากผู้ดำรงอยู่เหล่านั้น หมายสังหารพวกเรา ก็จะเป็นเรื่องง่าย แต่ดูเหมือนว่า พี่ชายจะลืมเรื่องเหล่านี้ไปแล้ว”

หลี่ฉางโซ่วเงียบงันทันที

ในภายหน้า หากจดจำหลักการเหล่านี้ให้ขึ้นใจเอาไว้ได้ตลอดเวลา และคอยหลีกเลี่ยงปัญหา แน่นอนว่า ย่อมจะไม่ดับอนาถอย่างแน่นอน

หลี่ฉางโซ่วกล่าว “เทพธิดา ผู้อาวุโสกงหมิงครองฐานพลังสูงและยังมีสมบัติวิญญาณที่ทรงพลัง เขาเปรียบดั่งดวงตะวันบนฟากฟ้า จึงไม่จำเป็นต้องกังวลมากเกินไป”

อวิ๋นเซียวหัวเราะเบา ๆ และกล่าวอย่างอ่อนโยนว่า “ในเมื่อสหายเต๋าคิดหาวิธีการอันล้ำเลิศสำหรับเรื่องระหว่างสำนักบำเพ็ญเต๋าเจี๋ยและสำนักบำเพ็ญประจิม กอบกู้เผ่ามังกร และตอบสนองต่อศาลสวรรค์ จึงสามารถมองผ่านสิ่งเหล่านี้ได้เป็นธรรมดา เช่นนั้นชาติแล้ว ไยถึงยังพยายามเกลี้ยกล่อมข้าเช่นนี้?”

“เอ่อ… มีบางอย่างที่เทพธิดาพูดได้ แต่ข้ามิอาจทำได้”

“สหายเต๋า ข้าละอายใจในตัวเองนัก ข้าได้ยินถ้อยคำที่สหายเต๋ากล่าวกับน้องสาวจินกวงเมื่อครู่ก่อนนี้ ข้าเองก็รู้สึกสะเทือนใจเล็กน้อย” อวิ๋นเซียวหันไปมองเซียนชราข้างกายนางและถามอย่างอ่อนโยนว่า “เห็นได้ชัดว่า สหายเต๋าเป็นเพียงชายหนุ่มที่มีหัวใจเต๋าในระดับกลาง แล้วไฉนถึงยังแสร้งทำเป็นผู้ชรา?”

หลี่ฉางโซ่วยิ้มแหย เทพธิดาอวิ๋นเซียวช่างเป็นผู้… เลิศล้ำปัญญายิ่งนัก นางเกือบจะมองผ่านเห็นเขาแล้ว! “รูปลักษณ์นี้ มีไว้เพื่อความสะดวกเท่านั้น” หลี่ฉางโซ่วกล่าวพลางถอนหายใจ “เป็นชายหนุ่มจะดูโดดเด่นเกินไป ชายวัยกลางคน ก็ดูมืดทะมึนเล็กน้อย มีเพียงชายชราหน้าตาท่าทางใจดีเช่นนี้เท่านั้น ที่จะทำให้ผู้อื่นไว้ใจได้มากขึ้น”

อวิ๋นเซียวกล่าวชมเชยว่า “สหายเต๋าช่างคิดละเอียดรอบคอบ และน่าไว้ใจได้จริงๆ”

“เป็นเพียงเพราะข้าไม่แข็งแกร่งพอเท่านั้น จึงทำได้เพียงปกป้องตัวเองด้วยวิธีนี้เท่านั้น”

หลี่ฉางโซ่วกล่าวหัวเราะเยาๆ และมองไปยังรูปลักษณ์ด้านข้างของเทพธิดาอวิ๋นเซียว

หรือว่าวันนี้… เทพธิดาอวิ๋นเซียวผู้นี้มาที่นี่เพื่อพูดคุยกับข้าอย่างเปิดอกและเป็นกันเองเท่านั้น

แต่เขาก็ได้ยินอวิ๋นเซียวกล่าวว่า “สหายเต๋าน่าจะเห็นว่ามีอันตรายซ่อนเร้นอยู่มากมายในสำนักบำเพ็ญเต๋าเจี๋ย ผู้ฝึกบำเพ็ญในสำนักมีคุณภาพแตกต่างกันไป บางเรื่องอาจพูดไม่ได้ว่า พวกเขากระทำผิด แต่เพราะพวกเขายังเขลาและอาจถูกผู้อื่นหลอกใช้ วันนี้น้องสาวจินกวงมาที่นี่ และข้าก็รู้คำตอบของสหายเต๋าหมดแล้ว กล่าวได้ว่าน้ำไม่รั่วไหลแม้สักหยดเดียว[1]จริงๆ”

อวิ๋นเซียวหยุดไปชั่วครู่ขณะมองไปที่หลี่ฉางโซ่วและกล่าวว่า “ข้าไม่มีเจตนาจะแอบฟัง เพียงแค่ไม่อยากปรากฏตัวแล้วพบกับพวกเขาด้วยเกรงว่าจะสร้างปัญหาโดยเปล่าประโยชน์เท่านั้น”

“ผู้น้อยเข้าใจ หลี่ฉางโซ่วยิ้มพลางกล่าวว่า “และผู้น้อยก็เข้าใจดีว่าเทพธิดาจินกวงเป็นห่วงผู้อาวุโสกงหมิงเช่นกัน”

“เฮ้อ ข้าเป็นห่วงพี่ชายจริงๆ” อวิ๋นเซียวจ้องมองไปที่จันทร์เสี้ยวเดียวดายบนท้องฟ้าและกล่าวเสียงเบาหวิวว่า “น้องสาวสองคนของข้าก็มักชอบเล่นสนุกแผลงๆ เช่นกัน ในยามนี้ พี่ชายก็ไม่ได้สนใจผู้ใดจริงจัง เมื่อไม่นานมานี้ ข้ารู้สึกไม่สบายใจในระหว่างบำเพ็ญเพียร ข้ากลัวว่าจะมีสิ่งเลวร้ายเกิดขึ้นกับพี่ชาย ข้าสามารถกักบริเวณน้องสาวทั้งสองคนของข้าเอาไว้ที่เกาะซานเซียนได้ แต่พี่ชายก็ยังคงเป็นพี่ชายของข้า … ตอนนี้เขาชื่นชมสหายเต๋ามาก แต่กำลังหลบหน้าข้า คำพูดของสหายเต๋าอาจได้ผลมากกว่าที่ข้าโน้มน้าวเขา ขอสหายเต๋าโปรดช่วยคิดสักหน่อยได้หรือไม่?”

“นี่…”

หลี่ฉางโซ่วครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เขาย่อมมีความคิดและมีวิธีแก้ปัญหาหลากหลาย ทว่าความคิดทั่วไปของเขาคือ การทำร้ายอาจารย์ลุงจ้าวจนน่วมและทำให้ความคิดของอาจารย์ลุงจ้าววุ่นวาย

แต่มันมีกรรมเกี่ยวข้องมากเกินไป และไม่สมควรจะทำเช่นนั้น ทางที่ดีจึงน่าจะอยู่ห่างๆ เอาไว้ “ข้ายังต้องรอให้ผู้อาวุโสกงหมิงต้องประสบกับความเจ็บปวดสูญเสีย และชนกำแพง การบังคับแทรกแซงอย่างรุนแรงนั้นย่อมไร้ประโยชน์” หลี่ฉางโซ่วคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วกล่าวว่า “หากเทพธิดาเป็นเขา จะรู้สึกอย่างไรเมื่อน้องสาวทั้งสองสั่งสอนเทพธิดาในยามนี้”

อวิ๋นเซียวกล่าวเบา ๆ ว่า “หากสิ่งที่พวกนางกล่าวมานั้นสมเหตุสมผล ข้าย่อมจะฟังอย่างแน่นอน”

“แต่ผู้อาวุโสกงหมิง…ห่วงใบหน้าอย่างยิ่ง” หลี่ฉางโซ่วกล่าว “กล่าวตามตรงว่า ข้าเป็นเพียงผู้น้อย ย่อมไม่กล้าจะพูดอะไรมากนัก เทพธิดาสามารถหาวิธีแก้ปัญหาเช่นนี้ได้”

“เฮ้อ…”

อวิ๋นเซียวถอนหายใจช้าๆ และยืนอยู่ที่ด้านข้างของทางเดินพลางขมวดคิ้วและยังคงครุ่นคิดต่อไป นางยังเป็นห่วงพี่ชายบุญธรรมของนาง หลี่ฉางโซ่วเองก็รู้สึกเช่นเดียวกัน เขาอยากจะให้คำแนะนำอีกสองสามคำ แต่ก็ปิดปากเงียบไปอย่างชาญฉลาด

ประการแรก เขาไม่มีตำแหน่งที่เหมาะสม และประการที่สอง เขาจะไม่แตะต้องกรรมโดยไม่จำเป็น

เมื่อเห็นว่าอวิ๋นเซียวมีท่าทีหดหู่เล็กน้อย หลี่ฉางโซ่วก็หาหัวข้อสนทนาอื่นและเริ่มพูดคุยในเรื่องภาพวาด อวิ๋นเซียวมาหาหลี่ฉางโซ่วถึงสถานที่ของเขา แต่ก็ยังไม่อาจหาวิธีจัดการปัญหาใดๆ จากหลี่ฉางโซวเพื่อเกลี้ยกล่อมพี่ชายของนางได้ จึงทำได้เพียงเก็บเรื่องนั้นเอาไว้ในใจและเดินเล่นพลางพูดคุยกับหลี่ฉางโซ่วในวิหารเทพทะเล

แต่หลี่ฉางโซ่วไม่คิดว่าเขาจะเดินเล่นไปเรื่อยๆ เช่นนี้เป็นเวลาถึงหนึ่งชั่วยาม…

……………………………………………………………..

[1] เข้มงวด มิดชิด ไร้ข้อบกพร่อง หรือสมบูรณ์แบบ