บทที่ 409 หาเงินแบบนี้เองสินะ

เก้าพี่น้องเลี้ยงซาลาเปาสุดแสบ

บทที่ 409 หาเงินแบบนี้เองสินะ

บทที่ 409 หาเงินแบบนี้เองสินะ

ข่าวนี้ไม่ได้สร้างความโกลาหลแค่ในหมู่เด็ก ๆ เท่านั้น แต่ยังลือกระฉ่อนในหมู่ครูด้วย

ฮวางเหวินป่ายไม่คิดว่านักเรียนของเขาจะกระทำเรื่องเลวร้ายแบบนี้ แม้ว่าเขาจะไม่ชอบนักเรียนแบบซ่งหลิงหลิง แต่เขาก็ไม่ต้องการให้อีกฝ่ายเดินบนเส้นทางที่ไม่มีวันหวนกลับเช่นนี้

“มะ…ไม่มีทางเป็นไปได้หรอกครับ ซ่งหลิงหลิงกับซูเสี่ยวเถียนไม่น่าเกลียดกันขนาดนั้นหรอกครับ”

“คุณฮวาง คุณต้องให้ความสนใจพวกนักเรียนให้มากกว่านี้นะ สถานการณ์ในตอนนี้มันน่าจะเป็นจริงแล้วล่ะ!”

กู้ลี่เหรินพูดอย่างเศร้าใจ

ในฐานะครูใหญ่ เขาเสียใจมากที่มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นในโรงเรียน

ตอนนี้เขาเสียใจจริง ๆ ที่ทำไมตนถึงสร้างห้องเรียนพิเศษขึ้นมานะ?

ตั้งแต่ที่เปิดรับสมัครจนถึงตอนนี้ ผ่านไปนานแค่ไหนแล้วนะ?

มีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมาย ถ้ารู้ก่อนหน้านี้ก็คงไม่เปิดห้องเรียนหรอก!

กลุ่มอันธพาลอายุน้อยมันถึงได้มีเยอะแยะมากมายขนาดนี้?

แต่ตอนนี้สายเกินไปที่จะเสียใจแล้ว

ช่างเถอะ ปล่อยทุกอย่างให้เป็นหน้าที่ของตำรวจในการจัดการก็แล้วกัน

เราจะต้องเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับห้องเรียนนี้ในภายภาคหน้า

ฮวางเหวินป่ายกลับไปที่สำนักงานด้วยหัวใจที่หนักอึ้ง

มันคือเรื่องจริง เรื่องจริง!

เด็กวัยสิบกว่าปีทำร้ายเพื่อนร่วมชั้นอย่างเหี้ยมโหด และมันทำให้ทัศนคติทั้งสามของเขาแตกเป็นฝอย!

ตัวเสี่ยวเถียนเองไม่อยากให้ความสนใจกับมันมากนัก ควรจะบอกว่าเธอพูดออกไปอย่างชัดเจนตั้งแต่วันแรกแล้ว

จากนั้นก็ไม่มีใครมาหาเรื่องเธออีก

สรุปแล้วก็กลับมาใช้ชีวิตตามปกติเหมือนเดิม

เวลาอยู่ที่โรงเรียน เธอง่วนอยู่กับการเรียนและอ่านหนังสือ

พอกลับมาบ้านก็แปลงานหาเงินให้ได้มากที่สุด

การแปลเอกสารพวกนี้ทำให้เสี่ยวเถียนมีพื้นฐานอย่างลึกซึ้งในความสามารถด้านความเข้าใจศัพท์และการแปล เธอเชื่อว่าแม้จะไม่ได้ใช้หนังสือที่ตัวระบบมอบให้เธอ แต่ก็ยังสามารถแปลได้อย่างสมบูรณ์โดยไม่มีผิดพลาด

สิบวันให้หลัง เสี่ยวเถียนก็ทำจนเสร็จ

มือของเธอถือเอกสารปึกหนา หัวใจรู้สึกเป็นสุขอย่างยิ่ง

พรุ่งนี้เป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ เธอเลยให้พี่ใหญ่พาไปโรงงานไฟฟ้าตงเฟิงเพื่อส่งงาน

ตอนนั้นหัวหน้าหลี่มาพอดี

พอเห็นอีกฝ่ายกำลังรีบร้อน เธอก็ตกใจมาก

“หัวหน้าหลี่ ยังไม่ถึงเวลาส่งงานใช่ไหมคะ?”

เสี่ยวเถียนรับรู้โดยจิตใต้สำนึกว่าตนส่งงานช้าไปหรือเปล่า?

“เสี่ยวเถียน ฉันได้ยินว่าวันนั้นที่เธอออกจากโรงงานเราไป เกิดเรื่องด้วยใช่หรือเปล่า?”

หัวหน้าหลี่วางถุงแอปเปิ้ลในมือลงบนโต๊ะแล้วรีบถามอย่างร้อนรน

เขายังสำรวจเสี่ยวเถียนด้วยความระมัดระวังด้วย เมื่อแน่ใจว่าเธอสบายดีถึงค่อยวางใจ

เสี่ยวเถียนตกใจ เรื่องเลวร้ายแบบนี้แพร่สะพัดมาไกลถึงนี่เลยหรือ?

มันไม่ควรสิ!

“เสี่ยวเถียน ถ้ามีเอกสารอะไรที่ต้องแปลอีก ฉันจะเอาไปส่งให้นะ แต่ถ้าฉันไปไม่ได้ก็จะให้คนเอาไปส่งแทน!” หัวหน้าหลี่เอ่ยต่อทันที

เด็กสาวยิ้ม “ไม่เป็นไรหรอกค่ะหัวหน้าหลี่ มันแค่อุบัติเหตุเอง!”

หัวหน้าหลี่ “อุบัติเหตุก็ไม่ได้!”

จะให้พรสวรรค์เช่นนี้ถูกทำลายโดยบังเอิญไม่ได้หรอกนะ!

“หัวหน้าหลี่ หนูขอถามคุณทีค่ะ คุณรู้ได้ยังไงคะ?”

“ฉันไปถามเพราะสงสัยน่ะ ได้ยินว่าพวกมีอำนาจตระกูลโจวโดนไล่ออก”

สิ่งที่หัวหน้าหลี่ไม่ได้พูดคือ เขาไปสอบถามตระกูลโจวมา เพราะตระกูลว่านและตระกูลโจวมีความขัดแย้งกัน อาจจะบอกได้ว่าเป็นศัตรูก็ได้นะ

เสี่ยวเถียนตกใจมากเมื่อได้ยินเช่นนั้น

ผู้มีอำนาจทุกคนโดนถอดถอนทั้งยังโดนสอบสวน แน่นอนว่าทุกคนต้องรู้อยู่แล้วล่ะ

คนตระกูลนี้ฆ่าตัวตายชัด ๆ

พอเห็นท่าทางงุนงนของเสี่ยวเถียน หัวหน้าหลี่ก็อดบอกเรื่องราวให้ฟังไม่ได้

ผู้มีอำนาจตระกูลว่านก็เกือบโดนกำจัดเกือบหมดเหมือนกัน เหลือแค่ไม่กี่คนเท่านั้น

แต่ดูจากสถานการณ์ในตอนนี้แล้วไม่น่าจะได้อยู่นานเท่าไรนะ

หัวหน้าหลี่มีความสุขมากเมื่อเขาพูดเรื่องนี้

ทั้งสองตระกูลถูกกำจัดเพราะกระทำแต่เรื่องผิดกฎหมายมากมายในยุคสมัยพิเศษ และการที่พวกเขาไปถึงขนาดนั้นได้เพราะปีนขึ้นไปเหยียบไหล่และเลือดผู้อื่นมาไม่น้อยเลย

กระทั่งตอนนี้กำแพงได้เริ่มสั่นคลอน ผู้คนจึงช่วยกันผลักให้ล้ม*[1] และเมื่อต้นไม้ล้ม พวกลิงค่างชะนีจึงแยกย้ายกันไป*[2]

ไม่มีคนช่วยไม่พอ แต่ยังฉวยโอกาสเปิดโปงอีก

“ทำไมหรือคะ?” เสี่ยวเถียนถามด้วยความสับสน

ที่ทั้งสองตระกูลโชคร้ายแบบนี้ก็น่าจะมีปัญหาจากเรื่องอื่นด้วยใช่ไหม?

“เธอไม่รู้หรือ?” หัวหน้าหลี่ประหลาดใจ

เขาไปถามคนมามากเลย และสิ่งที่พบคือ คนพวกนั้นไปยุ่งกับคนที่ไม่สมควรยุ่ง และคนคนนั้นคือซูเสี่ยวเถียน สาวน้อยคนนี้

แต่ทำไมเจ้าตัวทำเหมือนไม่รู้อะไรเลยล่ะ?

“หนูควรรู้ไหมคะ?” เสี่ยวเถียนยิ่งสับสนกว่าเดิม

“ไม่รู้ก็ดีแล้วล่ะ ๆ!”

เพราะอีกฝ่ายไม่รู้ หัวหน้าหลี่จึงไม่คิดจะบอก

“หัวหน้าหลี่มาพอดีเลย ดูเอกสารที่หนูแปลหน่อยค่ะ”

เธอยื่นเอกสารที่แปลแล้วใส่มือของหัวหน้าหลี่

หัวหน้าหลี่ตกใจมาก “เธอแปลเสร็จแล้วหรือ?”

เขายังคิดว่าสภาพจิตใจของเสี่ยวเถียนอาจจะยังไม่ดีขึ้นหลังจากเจอเรื่องมา และเธอจะต้องแปลยังไม่เสร็จสิ? หรืออาจจะยังไม่ได้เริ่มทำด้วยซ้ำ

“ใช่ค่ะ!” เด็กสาวพยักหน้า

เพราะหัวหน้าหลี่มาพอดี จึงจะให้เขารับไปเลย จะได้ไม่ต้องมาอีกรอบ

หัวหน้าหลี่ละอายใจนัก เพราะคิดว่าเสี่ยวเถียนยังทำงานไม่เสร็จจึงไม่ได้เอาเงินค่าแปลงานมาให้เธอ

เสี่ยวเถียนเห็นท่าทางของเขาก่อนจะเข้าใจ

“พรุ่งนี้หนูมาเอาค่าจ้างได้ไหมคะ?” เสี่ยวเถียนถาม

หัวหน้าหลี่รีบส่ายหน้า “ไม่ได้ ๆ ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับเธออีกจะทำยังไง?”

“พรุ่งนี้เป็นวันหยุดค่ะ เดี๋ยวหนูให้พี่ชายมาเป็นเพื่อนนะ!” เสี่ยวเถียนรีบเอ่ย

หัวหน้าหลี่ตอบตกลง

ขอแค่มีพี่ชายตามมาด้วยก็พอแล้ว

อันที่จริงเขาจะรู้ได้อย่างไรล่ะว่า ไม่ว่าพี่ชายคนไหนก็ไม่สามารถสู้เสี่ยวเถียนได้เลย

ในบรรดาพี่น้องทั้งหมด เสี่ยวเถียนเก่งที่สุด

ตอนเย็น โส่วเวินไม่ได้กลับมาด้วย

หลังจากที่รู้ว่าเสี่ยวเถียนกำลังจะไปที่โรงงาน ซื่อเลี่ยงก็ยืนยันจะมาเป็นเพื่อนด้วย

เสี่ยวเถียนไม่มีท่าทางเลือกนอกจากให้พี่ตามเธอไปด้วย

อันที่จริง เสี่ยวเถียนคิดว่าเธอจัดการเรื่องนี้เองได้ แต่ก็มีจุดอ่อนหนึ่งที่เรียกว่าพวกพี่ชายคิดว่าเธออ่อนแอ เอาเถอะ! บางครั้งตามใจพี่ชายสักหน่อยก็ได้

เสี่ยวเถียนเดินตามพี่ต้อย ๆ ไปถึงโรงงาน

หลังจากพี่รองเห็นมันก็ประทับใจมาก

กระทั่งเขาเห็นเงินที่เสี่ยวเถียนได้รับ ซื่อเลี่ยงหัวหมุนทันที

เสี่ยวเถียนได้เงินหนึ่งพันหนึ่งร้อยหยวน กองหนาเตอะ

เห็นค่าจ้างเยอะขนาดนี้ เขาก็ตกใจ นี่คือวิธีหาเงินสินะ?

ทำไมไม่รู้มาก่อนเลยว่าน้องเก่งขนาดนี้?

*[1] เมื่อมีคนตกต่ำ ผู้คนก็รุมซ้ำเติม

*[2] เมื่อผู้มีอำนาจล้มเหลวหรือหมดอำนาจไป พวกลูกน้องก็จะตีตัวออกหาก