บทที่ 452 ต้องการจะขายตำหนักเทพธิดา

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

บทที่ 452 ต้องการจะขายตำหนักเทพธิดา

ขณะที่กลับถึงตำหนัก หลานเยาเยาเพิ่งได้ก้าวเข้าประตูใหญ่ตำหนักเทพธิดา ด้านหลังก็มีเสียงของหนักตกพื้นดังมา หันกลับไปดู องครักษ์ที่ได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยล้มลงที่พื้น

“ปึง……”

“ปึงปึงปึง……”

ตามด้วยคนที่สอง คนที่สาม คนที่สี่ล้มลงเรียงกัน จนถึงสุดท้ายองครักษ์เกือบครึ่งล้มลงที่พื้น จื่อซีและจื่อเฟิงก็เข้าไปตรวจดูสถานการณ์ของพวกเขาอย่างรวดเร็ว

หลังจากนั้นทั้งสองคนก็สบตากับ ส่ายหัวพร้อมกัน

แววตาของหลานเยาเยาเย็นชา เดินเข้าไปตรวจสอบชีพจรของพวกเขาอย่างรวดเร็ว

โดนยาพิษตาย!

และเป็นเลือด โดนยาพิษ

ปกติแล้วหลังจากคนผ่านการกินยาพิษทำให้เกิดการโดนยาพิษ เลือดของพวกเขากระเซ็นถูกร่างของอีกคน เพียงแค่สัมผัสโดนผิวหนัง คนที่โดนเลือดกระเซ็นใส่ผู้นั้นก็จะโดนยาพิษตาย

มิน่าล่ะครั้งนี้นักฆ่ามีจำนวนมาก จื่อเฟิงพวกเขากลับใช้เวลาสั้นขนาดนั้นก็จัดการได้ราบคาบ ที่แท้ก็ยังมีกลยุทธ์อยู่ด้านหลังอีก!

นางเงยหน้ามองไปทางองครักษ์ที่ยังเหลือ จากนั้นก็เคลื่อนสายตาไปมองบนร่างกายของจื่อเฟิง

บนร่างกายของเขาก็เปื้อนคราบเลือดของนักฆ่า…….

เวลานี้!

จื่อเฟิงก้าวขึ้นมาหนึ่งก้าว คุกเข่าลงที่พื้นรับโทษ

“เป็นความผิดของข้าน้อย ก่อนหน้านี้ข้าน้อยรู้สึกผิดปกติ แต่ไม่ได้รายงานทันที ไม่เช่นนั้นพวกเขาก็คงไม่……”

“ไม่เกี่ยวกับเจ้า พิษชนิดนี้ใช้ชีวิตแลกชีวิต เมื่อเลือดกระเซ็นโดนผิวหนังของพวกเขา ก็ไม่สามารถช่วยได้แล้ว”

สำหรับจื่อเฟิงทำไมถึงไม่มีปัญหา สามารถพูดได้เพียง จื่อเฟิงโดนพิษกู่จิ้นแล้ว อีกทั้งกินยาถอนพิษแล้ว ทำให้เกิดการต้านพิษเชื้อโรค เพียงแค่สารพิษของยาพิษชีวิตแลกชีวิตไม่เกินกว่าพิษกู่จิ้น จื่อเฟิงก็ไม่มีปัญหา

“คุณหนู…….”

จื่อเฟิงอยากพูดว่า การลอบสังหารครั้งนี้ไม่เหมือนเดิม แต่มองดูสีหน้าที่เข้าใจแจ่มแจ้งของหลานเยาเยาแล้ว เขาก็ปิดปาก

“ฝังศพให้ดีๆ!”

องครักษ์เหล่านี้ล้วนซื้อมาจากตลาดดำ ไม่มีญาตินานแล้ว ไร้ห่วงไร้กังวล เมื่อซื้อพวกเขา นางก็ได้พูดเรื่องความเป็นความตายล่วงหน้าแล้ว พวกเขายินยอมติดตามนางด้วยตนเอง

ตอนนี้ตายแล้ว

นางสามารถทำได้ก็คือฝังศพให้ดีๆ

หลังจากที่กลับถึงตำหนัก หลานเยาเยาก็ได้ให้องครักษ์และสาวใช้ในตำหนักทั้งหมด รวมตัวกัน คืนสัญญาขายตัวให้พวกเขา ยังจะให้เหรียญเงินบางส่วนแก่พวกเขา จากนั้นก็ให้พวกเขาออกจากตำหนัก ให้ความอิสระต่อพวกเขา

ตำหนักเทพธิดาไม่ปลอดภัยแล้ว

คนที่ลงมือกับนางคราวนี้ไม่ใช่ปกติที่ก่อเรื่องวุ่นวาย องครักษ์และสาวใช้เหล่านี้มีผลต่อนางไม่มาก เอาไว้ต่อไปมีเพียงทำให้พวกเขาเสียสละโดยเปล่าประโยชน์

เมื่อพ่อบ้านเจากลับมาถึงตำหนัก มองดูตำหนักที่ว่างเปล่าแห่งหนึ่ง หลังจากที่ได้เข้าใจสถานการณ์ ก็ไม่พูดอะไรอีก

ตอนนี้นอกจากจื่อซีและจื่อเฟิง ก็เหลือเพียงผู้เฒ่าสิบคนแล้ว

ณ ขณะนี้!

จื่อเฟิงที่เดิมทียืนอยู่นิ่งๆ มองเห็นเงาร่างคนเดินมาจากที่ไกลๆ แววตาเคลื่อนไหวเล็กน้อย

เห็นเพียงเย็นหงเดินมาทีละก้าวๆ ดวงตาแดงเล็กน้อย

ในมือนางกำสัญญาขายตัวแผ่นหนึ่ง มาถึงหน้าหลานเยาเยาแล้วคุกเข่าลง โขกหัวกับพื้นเสียงดังสามครั้งทำความเคารพอย่างเป็นทางการ

“ขอบคุณเทพธิดาที่คืออิสรภาพให้แก่ข้าน้อยเจ้าคะ”

“ไปเถอะ! ไปได้ยิ่งไกลยิ่งดี หลังจากนี้ใช้ชีวิตดีดี เจ้ามีค่าพอที่จะมีอนาคตที่ดีกว่านี้”

“ข้าน้อยรู้เจ้าค่ะ”

เทพธิดาไม่ได้เอาพวกเขาออกมาขายอีกรอบก็เป็นพระคุณที่ใหญ่ที่สุดแล้ว วันนี้มีสัญญาขายตัวแล้ว อีกทั้งมีเหรียญเงินตั้งตัว ทั้งหมดก็สามารถเริ่มต้นใหม่ได้

เพียงแต่……

เย็นหงไม่ได้ลุกขึ้น จากนั้นก็เอาสัญญาขายตัวออกมาด้านหน้าตัวเอง “ฉึก” เสียงฉีกเป็นสองส่วน

“เทพธิดาเจ้าคะ เป็นทาสหนึ่งวันก็เป็นทาสทั้งชีวิต ข้าน้อยยินยอมจะติดตามเทพธิดาไปตลอดชีวิต เป็นตายจะไม่ละทิ้ง คุณหนูไปที่ไหน ข้าน้อยก็ไปที่นั่น คุณหนูมีอันตราย ข้าน้อยก็ยินยอมใช้ร่างกายขวางกั้นไว้ด้านหน้า ขอให้เทพธิดาโปรดอย่าไล่ข้าน้อยออกจากตำหนัก ข้าน้อยยอมอยู่เองเจ้าค่ะ

กริยาเหมาะสม คำพูดคำจาจริงใจ พูดจาใบหน้าไม่กระดิกนั้นคือปลอม

หลานเยาเยามองดูนางนิ่งๆ ริมฝีปากสีแดงเปิดขึ้นเล็กน้อย :

“เจ้ารู้หรือไม่ หลังจากนี้จะอันตรายเป็นพิเศษ จะเป็นตายแม้ข้าก็ยากจะคาดเดา?”

“ข้าน้อยรู้เจ้าค่ะ!”

“เช่นนั้นเจ้ายังไม่ไปอีก?” นางให้โอกาสนางจากไปครั้งสุดท้าย

“ข้าน้อยไม่ไปเจ้าค่ะ ข้าน้อยต้องการติดตามเทพธิดาเจ้าค่ะ” ตอนนี้เย็นหงยิ่งเพิ่มความหนักแน่นที่ตัวเองตัดสินใจอยู่ต่อ

“ดี เช่นนั้นก็เป็นตายไปด้วยกันเถอะ!”

หลานเยาเยาก้าวไปข้างหน้า พยุงนางให้ลุกขึ้นด้วยตัวเอง

……

เหล่าคุณชายและคุณหนูที่ได้ไปชมดอกได้ที่สวนว่างฮัว หลังจากกลับจวนด้วยความหวาดกลัว เวลาไม่ถึงสองชั่วยาม ทั้งเมืองหลวงก็เดือดพล่านขึ้นมา

คำในประโยคของคนโดนมนต์ดำดังก้องไปทั้งตรอกซอยน้อยใหญ่ “หวาดผวา” “ติดต่อ” และคำอื่นๆ พูดออกจากปากของประชาชนตลอดเวลา ผู้คนตื่นตระหนกทันที ล้วนคิดว่าต้องเผชิญกับภัยพิบัติแล้ว

มีบางคนเริ่มขายบ้านและหน้าร้าน คิดอยากออกจากสถานที่ที่วุ่นวายแห่งนี้ แม้แต่ในราชวังก็เริ่มสั่นคลอนไม่สงบ

เพื่อปลอบขวัญราษฎร ฮ่องเต้ออกราชโองการสามฉบับอย่างต่อเนื่อง

ฉบับหนึ่งปลอบขวัญราษฎร์ บอกว่า คนโดนมนต์ดำได้ตายไปหมดเกลี้ยงแล้ว

ฉบับหนึ่งตรวจสอบสวนว่างฮัวอย่างละเอียด และได้ปิดสวนว่างฮัวอย่างถาวร

ฉบับสุดท้าย กักบริเวณถังเฉิงเสี้ยงไว้ในจวน หากตรวจพบว่าคนโดนมนต์ดำกับเขา จะประหารทันที

มีราชโองการปลอบขวัญราษฎรแล้ว บวกกับการตั้งใจเน้นย้ำในราชโองการทุกฉบับ เทพธิดาเชี่ยวชาญในการต่อกรกับคนโดนมนต์ดำเป็นอย่างมาก ให้พวกเขาไม่ต้องเกรงกลัว

นี่จึงทำให้ประชาชนค่อยๆสบายใจลงบ้าง

ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม!

ความน่ากลัวของข่าวลือที่ลึกลับของคนโดนมนต์ดำ ได้มาพบกับจุดที่ต้องตายแล้ว

ตำหนักเทพธิดา

หลานเยาเยาแทะขาหมูไปพลาง มองดูสิ่งก่อสร้างด้านบนของประตูใหญ่ที่ทรงอำนาจสง่างามไปพลาง จากนั้นก็ถอยหลังไปสองสามก้าว เดินลงบันได แล้วก็มองดูตำหนักเทพธิดาที่อยู่ได้ไม่นานแห่งนี้อีกครั้ง

ข้างๆของนางมีตาแก่ที่หน้ามุ่ยอยู่

“สองสามวันมานี้มีเวลาไปหาตัวกลาที่สามารถกุมความลับได้ ประเมินราคาของตำหนักแห่งนี้ รู้สึกว่าเหมาะสมแล้ว หลังจากพิธีเซ่นไหว้ใหญ่ก็ขาย”

ได้ยินดังนั้น!

ตาแก่มองดูหลานเยาเยาราวกับว่าเจอผี เขาไม่เข้าใจเป็นอย่างมาก

“ขาย? ทำไมต้องขาย? อาศัยอยู่ดีๆ นี่เป็นถึงตำหนักเทพธิดา แม้ว่าเจ้าจะจากไป ก็ไม่สามารถขายอย่างเปิดเผยได้นะ! ยิ่งไปกว่านั้น นี่เป็นตำหนักที่ฮ่องเต้พระราชทานให้ นางไปแล้ว ฮ่องเต้ก็อาจจะเรียกคืนกลับไป ขายไปไม่ดีละมัง! เป็นถึงเทพธิดาที่สง่างาม ทำเรื่องประเภทนี้ หลังจากนี้ยังจะพบเจอผู้คนเช่นไร?”

หลานเยาเยากุมหน้าผากอย่างจนปัญญา

เหลือบมองเขาแวบหนึ่ง “เรื่องประเภทนี้ก็ไม่ใช่ว่าไม่เคยทำ ฮ่องเต้ประเทศเชียนหลิงและประเทศซีเม่าพระราชทานตำหนักให้ข้าก็ไม่ใช่ว่ายังขายไปแล้วเหมือนกัน พวกเขากล้าพูดอะไร?

พระราชทานความหมายก็คือมอบให้ มอบให้ก็มอบให้แล้ว ของของตัวเองยังไม่มีสิทธิ์ที่จะขายอีกเชียวหรือ?”

“แต่……นี่นี่นี่……”

นางอธิบายจนตาแก่ไม่มีอะไรจะพูดแล้ว

แบบนี้ดีจริงๆหรือ?

หลังจากพิธีเซ่นไหว้ใหญ่ก็คือการเดินทางไปทะเลทราย ถึงเวลานั้นนาง เย่แจ๋หยิ่ง หานแสและราชครูเทียนเวิงก็จะเอากันให้ตายไปข้างหนึ่ง

หากล้มเหลว ขายตำหนักเทพธิดาได้เงินทรัพย์สินมาก็สามารถนำไปใช้ที่สถานที่แห่งวิญญาณได้! ติดสินบนติดสินบนท่านยมราชก็ยังดีนะ!

หากสำเร็จ ก็ดีเป็นที่สุดแล้ว

นางสามารถรวบรวมอาหารรสเลิศทั้งหมดของโลก เป็นนักกินที่มีความสุขผู้หนึ่ง

พิธีเซ่นไหว้ใหญ่

เป็นฮ่องเต้ที่ป่าวประกาศต่อผู้คนทั้งโลก ตราราชลัญจกรหยกแห่งราชวงศ์เก่ากลับมาอยู่ในมือของตัวเอง เพื่อสลัดข้อครหาของผู้อื่นที่แอบว่าเขาวางแผนยึดครองบัลลังก์

แน่นอน!

นอกจากนี้

ที่สำคัญที่สุดฮ่องเต้คิดอยากใช้ประโยชน์จากตราราชลัญจกรหยก ต้องการจะจับบุคคลอันตรายของราชวงศ์เก่าที่ยังเหลืออยู่ไม่กี่ปีมานี้ มักจะมีคนของราชวงศ์เก่าสองสามคนมาล้างแค้นเขาอยู่บ่อยๆ ซึ่งทำให้เขาโกรธเคืองเป็นอย่างมาก

ไม่รีบฆ่าให้สิ้นซาก เขาจะนอนหลับได้อย่างไร?