บทที่ 451 การลอบสังหารที่ธรรมดาเกินไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

บทที่ 451 การลอบสังหารที่ธรรมดาเกินไป

“คุณหนูขอรับ ก่อนหน้าที่ราชวงศ์เก่าจะสูญสิ้นไม่มี แต่คืนก่อนหน้าที่ราชวงศ์เก่าจะสูญสิ้นนั้น มีอยู่อย่างแน่แท้ เพียงแต่กลับเพราะว่าเรื่องราวที่ดังสะท้านของราชนิกุลของราชวงศ์เก่าถูกภัยธรรมชาติทำลาย ดังนั้นจึงไม่มีคนไปสนใจเรื่องอื่น

ราชวงศ์เก่าล่มสลายคืนนั้น?

ดูแล้วยังมีความจริงอีกมากมายที่ไม่ถูกผู้คนล่วงรู้

“พูดมา” หลานเยาเยาสนใจขึ้นมาทันใด

“อ๋องเย่เคยให้ข้าน้อยสืบข้อมูลเรื่องของเพราะอัคคีภัยธรรมชาติทำให้ราชวงศ์เก่าล่มสลาย คนส่วนใหญ่ก็รู้เหตุผล ดังนั้นในการสืบข้อมูลพบว่า ขณะเดียวกับที่พระราชวังประสบกับอัคคีภัยธรรมชาติ เหล่าขุนนางชั้นผู้ใหญ่ที่จงรักภักดีบางส่วน และผู้ใต้บังคับบัญชาที่จงรักภักดีปกป้องเจ้านาย ก็ร่วมกันฆ่าตัวตายทั้งหมดในคืนนั้น

สำหรับด้วยเหตุผลอะไรไม่มีผู้ใดรู้ แต่ว่า คำเล่าลือส่วนใหญ่ก็คือ พวกเขารับไม่ได้ที่ราชวงศ์เก่าถูกภัยธรรมชาติทำลายล้างอย่างกะทันหัน พวกเขาหดหู่สิ้นหวังจึงได้ฆ่าตัวตายขอรับ”

ฆ่าตัวตาย?

ใครจะเชื่อนะ?

แม้ว่าจะมีคนฆ่าตัวตายก็ตาม ก็ไม่สามารถที่จะฆ่าตัวตายทั้งหมดได้

การร่วมกันฆ่าตัวตายเป็นเพียงแค่ข้ออ้างที่ราชวงศ์เก่าถูกล้มล้างเท่านั้น ถึงอย่างไร ราชนิกุลของราชวงศ์เก่าก็ไม่มีแล้ว แต่ยังมีขุนนางชั้นผู้ใหญ่ที่จงรักภักดีอยู่จำนวนมาก

ที่เรียกว่าอำนาจเปลี่ยนผู้ใต้บังคับบัญชาเปลี่ยน

ขุนนางชั้นผู้ใหญ่และผู้ใต้บังคับบัญชาเหล่านั้นที่เหลืออยู่ ตั้งแต่เริ่มจนจบจะเป็นบ่อเกิดแห่งความหายนะ ดังนั้นจึงได้ฉวยโอกาสเอาเรื่องการล้มล้างของราชวงศ์เก่ามาทำลาย……

เรื่องเหล่านี้ นางไม่สามารถไปยุ่งได้ชั่วคราว ก็ให้ฮ่องเต้ปวดหัวไป

ด้วยเหตุนี้นางลุกขึ้น พาบรรดาผู้คนมาที่ประตูใหญ่ของสวนว่างฮัว ในไม่ช้าคนของราชสำนักก็เอาทหารม้ามาแล้ว

ของสิงปู้ ของศาลต้าหลี่ ทั้งหมดล้วนมาแล้ว

เพราะว่าเรื่องราวทำให้ผู้ได้ยินล้วนหวาดหวั่นเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังมีลูกชายลูกสาวของขุนนางตายเป็นจำนวนมากขนาดนั้น พวกเขาไม่ลงมายังจะรอให้ถูกถอดยศหรือ?

เมื่อเห็นพวกเขามา หลานเยาเยาก็รู้ เย่หลีเฉินทำให้ฮ่องเต้เชื่อว่าคนโดนมนต์ดำมีอยู่จริงได้สำเร็จแล้ว ตอนนี้ถึงได้พาคนจำนวนมากมาทำเรื่องเช่นนี้ คาดว่าฮ่องเต้ก็หวั่นผวาแล้ว

“เทพธิดา”

สิงปู้ช่างชูและส้าวชิงจากศาลต้าหลี่ล้วนทำความเคารพต่อนางอย่างเกรงอกเกรงใจ

เคารพนอบน้อมมากกว่าเวลาปกติ

ล้อเล่น

คนโดนมนต์ดำอันตรายขนาดนี้ พวกเขาไม่มีประสบการณ์แม้สักนิด ตอนนี้ไม่ขอคำชี้แนะดีๆสักหน่อย พอไม่ทันได้ระวังตัวก็กลายเป็นคนโดนมนต์ดำ เช่นนั้นก็จบเห่แล้ว

หลานเยาเยาเหลือบมองพวกเขาแวบหนึ่ง ให้จื่อซีบอกตำแหน่งอย่างละเอียดของสถานที่เลี้ยงบำรุงดอกกระดูกขาว จากนั้นยังบอกอีกว่าพบศพที่สระบัว

ทำให้บรรดาผู้คนหวั่นสะพรึงเป็นอย่างมาก

จากนั้นก็มีเสียงอาเจียนอย่างบ้าคลั่งดังมาจากสระบัวทางนั้น หลานเยาเยาเผยรอยยิ้มออกมา และคนด้านหลังหลานเยาเยา แม้ในใจมีความหวาดผวา แต่เวลานี้ก็ล้วนรู้สึกโล่งใจมาก

เทพธิดาเคลื่อนไหวลงโทษคนผิดเช่นนี้!

แต่ทว่า

โชคร้ายที่สุดก็ไม่เกินไปจากถังเฉิงเสี้ยง สวนว่างฮัวเป็นของเขา สวนว่างฮัวแห่งเล็กๆแห่งหนึ่ง คิดไม่ถึงว่าจะเป็นที่ซ่อนศพเป็นพันหมื่นศพ

ในฐานะที่ถังเฉิงเสี้ยงเป็นผู้ที่น่าสงสัยที่สุด แน่นอนว่าจะต้องมาด้วยตัวเอง เขามองดูที่เลี้ยงบำรุงดอกกระดูกขาวอย่างสั่นเทา ขุนนางชั้นผู้ใหญ่ไม่กี่คนที่อาเจียนเต็มที่แล้ว หลอกพาเขาไปที่สระบัว หลังจากที่เห็นเขาอาเจียนได้สำเร็จแล้ว ในที่สุดก็หาความรู้สึกสมดุลได้

น่าเสียดาย……

ถังเฉิงเสี้ยงยอมรับความจริงนี้ไม่ได้ หลังจากที่อาเจียนจนปกติแล้ว ตาเหลือกขาวแขนตึงโดยตรง เป็นลมตายไปแล้ว

เพราะกลัวว่ายังมีพิษกู่จิ้นที่มีชีวิตอยู่ ก่อนที่จัดการให้เรียบร้อยฮ่องเต้จึงให้เย่หลีเฉินนำศพคนโดนมนต์ดำกลับไป และรีบให้เขามาที่สวนว่างฮัวอย่างเร่งรีบอีก

เดิมทีเย่หลีเฉินคิดวางแผนว่าจะมาหาเทพธิดาเอปรึกษาเรื่องสักหน่อย เมื่อเงยหน้ามองหานางไปทั่วๆ กลับไม่เห็นเงาคน หลังจากนั้นมีองครักษ์ผู้หนึ่งบอกเขา เทพธิดาไปแล้ว

เย่หลีเฉินผิดหวังเล็กน้อย

แต่ก็คิดได้ในทันใด เทพธิดาทำมามากแล้ว ร่างกายจิตใจต้องเหนื่อยล้าเป็นแน่ กลับไปพักผ่อนก็ดี

เพียงแต่…..

ก่อนหน้าวันนี้

ทีแรกเขาคิดว่าตัวเองและเทพธิดาเป็นเพื่อนร่วมทุกข์กันแล้ว วันนี้จึงพบว่า เขาไม่เข้าใจเทพธิดา ไม่เข้าใจแม้แต่น้อย

ไม่เป็นไร เขายอมใช้เวลาที่เหลือในชีวิตค่อยๆทำความเข้าใจ

……

รถม้าสีแดง หลังจากที่ออกจากสวนว่างฮัว ดำเนินจากถนนสายเล็กมาถึงถนนสายใหญ่ หลังจากเข้าถนนสายใหญ่ รถม้าเสถียรแล้ว ในรถม้า หญิงที่งามหยาดเยิ้มผู้หนึ่งตกอยู่ในห้วงความคิด

สำหรับ จื่อซีที่นั่งอยู่ที่ตำแหน่งคนขับรถม้าเรียกนางแล้วสองสามรอบนางก็ไม่ได้ยิน จนเมื่อนางดึงสติกลับมาได้ จื่อซีก็ค่อยๆยกม่านขึ้น มองดูนางด้วยความกังวล

“คุณหนูขอรับ ไม่ต้องคิดแล้ว เรื่องที่คิดไม่ตกพักผ่อนสักหน่อยก็จะคิดออกโดยธรรมชาติแล้วขอรับ”

หลานเยาเยาค่อนข้างแปลกใจ

นางคิดไม่ถึง มีวันหนึ่งที่จื่อซียังสามารถชี้แนะนางได้ เพียงแต่เขารู้ว่าที่ตัวเองคิดไม่ตกคือเรื่องอะไรหรือ?

แต่นางก็ไม่ได้ปัดความหวังดีของเขา พยักหน้าตอบ :

“ดี ควรจะผ่อนคลายสักหน่อยจริงๆ”

เรื่องราวดำเนินมาถึงตอนนี้แล้ว ไม่ว่าอย่างไรก็รีบร้อนไม่ได้อีกเด็ดขาด เพียงแต่ในใจมีปัญหา นางไม่มีทางผ่อนคลายได้ จึงถามไปหนึ่งเสียง

“มีข่าวคราวของหลานเฉินมู๋แล้วหรือ?”

ตั้งแต่ที่นางวางแผนให้ตราราชลัญจกรหยกแห่งราชวงศ์เก่าตกอยู่ในมือของฮ่องเต้แล้ว หลานเฉินมู๋ก็ถูกบังคับให้สำนึกผิดในจวน หลังจากนั้นก็ถูกค้นบ้านยึดทรัพย์ปลดออกจากตำแหน่ง เขาก็หายตัวไปแล้ว

ทีแรกคิดว่าฮ่องเต้จะแอบยอมอนุญาตให้เขากระทำการ ด้วยเหตุนี้จึงส่งไปสืบข่าวที่พระราชวัง กลับพบว่าฮ่องเต้ได้ละทิ้งเขาแล้ว ให้เขาดำเนินชีวิตไม่ว่าจะอยู่หรือตายด้วยตัวเอง ดังนั้นถึงวันนี้ก็ยังหาเบาะแสของเขาไม่เจอ

หลานเฉินมู๋……

จะซ่อนที่ไหน?

เขาเป็นพ่อแท้ๆของเจ้าของเดิม แต่กลับเลือดเย็นไร้ความเมตตา เพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง คิดอยากทำให้นางตกอยู่ในความตายครั้งแล้วครั้งเล่า

ในเมื่อสำหรับนางแล้วจะไม่ได้ใส่ใจต่อความเป็นตายของเขา เพียงแต่เกรงว่าเขาจะเป็นระเบิดเวลา ระเบิดขึ้นมาในช่วงเวลาที่สำคัญ เช่นนั้นก็เป็นการโจมตีที่ถึงแก่ชีวิต

ดังนั้นนางจำเป็นต้องหาเขาให้เจอก่อน กักขังก็ดี คุมขังก็ได้ จัดการทิ้งก็ได้

ไม่ว่าอย่างไรก็แล้วแต่!

เขาหายตัวไปไม่ใช่เรื่องที่ดี

“รายงานคุณหนู ยังไม่มีขอรับ”

หลานเฉินมู๋หายตัวไปไร้ร่องรอยไร้ข่าวสารเช่นนี้

“เช่นนั้นก็ส่งคนออกไปหามากหน่อย”

“ขอรับ!”

ทันใดนั้น ลมเย็นพัดผ่านใบหน้า ความรู้สึกที่คุ้นเคยโจมตีมา แรงสังหารปรากฏขึ้นรอบด้าน

ริมฝีปากสีแดงของหลานเยาเยายกขึ้นเล็กน้อย แววตาเผยถึงความเย็นยะเยือก

หลายวันแล้วที่ไม่ได้พบกับการลอบสังหาร คิดๆแล้วก็ไม่คุ้นเคยจริงๆ ตอนนี้แรงสังหารปรากฏ นางกลับรู้สึกจิตใจสงบขึ้นมาก

“ออกมา!” จื่อซีตะโกนอย่างเยือกเย็นเสียงหนึ่ง

เมื่อคำพูดนี้โพล่งออกไป

นักฆ่าที่ระเกะระกะกลุ่มหนึ่ง แต่ละคนดวงตาแดงก่ำ พุ่งเข้ามาด้วยแรงสังหารที่ร้อนแรง ราวกับว่าต้องการจะฆ่าพวกเขาทิ้งซะถึงจะยอมเลิกรา

จื่อซีงงงันเล็กน้อย!

แค่กลุ่มนักฆ่าที่ฝีมือน้อยนิดที่น้อยไปกว่านี้ไม่ได้แล้ว ต้องการจะมาลอบสังหารเทพธิดาจริงๆหรือ?

เขาไม่กระดิก

อากาศด้านบนรถม้าสีแดงสดเคลื่อนไหว

“ชิ้ง!”

จื่อเฟิงที่ได้ชักดาบออกมาแล้วข้ามมาที่รถม้าในพริบตา พวกองครักษ์ที่ตามอยู่หลังรถม้า ก็ได้ชักดาบพกที่อยู่ที่เอวออกมาแล้วขึ้นไป

นักฆ่าเหล่านี้แปลกประหลาดมาก นอกจากเป็นนักฆ่าที่ธรรมดาแล้ว หากว่าพวกเขาไม่ได้ตัดสินใจมาลอบสังหารพร้อมความมุ่งมั่นที่จะตาย จื่อเฟิงพวกเขาก็ขี้เกียจที่จะลงมือ

ภายใต้ความดื้อรั้นของพวกเขา จื่อเฟิงได้จัดการพวกเขาอย่างราบคาบด้วยความรวดเร็ว ในเวลาไม่นาน ก็ถูกฆ่าหมด

ในองครักษ์ นอกจากผู้หนึ่งที่ได้รับบาดเจ็บด้านนอกเล็กน้อย คนอื่นก็ปลอดภัย

แววตาของจื่อเฟิงมีแววความประหลาดใจแวบผ่าน!

สองสามก้าวก่อนที่จะเดินถึงรถม้า ทำมือคารวะรายงาน : “คุณหนู จัดการเรียบร้อยแล้วขอรับ”

เร็วขนาดนี้?

หลานเยาเยาก็ไม่ได้คิดมาก : “อืม! ไปเถอะ”

“……ขอรับ!”

จื่อเฟิงอยากพูดอะไร แต่กลับส่ายหน้า สุดท้ายก็ไม่ได้พูดอะไร