ตอนที่ 813 ถอยเพื่อรุก (3) / ตอนที่ 814 ถอยเพื่อรุก (4)
ตอนที่ 813 ถอยเพื่อรุก (3)
“ข้าจะถามเป็นครั้งสุดท้าย พวกเจ้าทุกคนเต็มใจช่วยข้าจริงๆ หรือ” เหลยเชินถามด้วยสีหน้ากระวนกระวาย
จวินอู๋เสียพยักหน้า
ทันใดนั้นเหลยเชินก็ทิ้งตัวลงบนเก้าอี้พร้อมกับอ้าปากหายใจ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเขาวิตกกังวลมากเกินไปหรือเพราะได้ยกก้อนหินใหญ่ออกจากอก เขาไม่รีบร้อนที่จะพูด เพียงแค่มองดูจวินอู๋เสีย ฮวาเหยา และคนอื่นๆ ทีละคน พยายามจะให้แน่ใจว่าทุกๆ คนจริงจังมากแค่ไหนจากสีหน้าของพวกเขา
แม้ว่าคนพวกนี้จะสำคัญต่อเขามาก แต่เขาสามารถเชื่อใจพวกเขาได้จริงหรือ
“ในเมื่อน้องจวินรู้แล้วว่าใครคือคนร้าย ก็คงรู้ถึงตัวตนของคนผู้นั้นแล้วสินะ เช่นนั้นเจ้าย่อมต้องรู้แก่ใจดีว่าในฐานะองค์รัชทายาท ข้าก็เป็นแค่เด็กคนหนึ่งที่ถูกใช้เป็นหุ่นเชิดในสายตาเขาเท่านั้น ทั้งยศตำแหน่งและอำนาจ ข้าด้อยกว่าเขาทั้งหมด ถ้าน้องจวินมีสิ่งที่อยากได้จากข้า คนผู้นั้นย่อมสามารถให้เจ้าได้มากกว่าที่ข้าทำได้ ถึงอย่างนั้นพวกเจ้าทุกคนก็ยังอยากจะช่วยข้าอย่างนั้นหรือ” เหลยเชินถามพร้อมกับมองจวินอู๋เสียตรงๆ เขาเข้าใจแล้วว่าในกลุ่มผู้เยาว์จากสำนักศึกษาเฟิงหัวนี้ คนที่เป็นผู้นำของทุกคนก็คือ ‘จวินเสีย’ ‘เด็กหนุ่ม’ ที่เด็กที่สุดในกลุ่มคนนี้นี่เอง
น้ำเสียงของเหลยเชินเปลี่ยนไปจากเดิม ยิ้มน้อยลง และแทนที่ด้วยความเคร่งขรึมจริงจัง
คำพูดของเขาทำให้เฉียวฉู่ทำตาโตอย่างประหลาดใจและเต็มไปด้วยความสับสน
น้องเสียรู้ตัวคนร้ายที่เล่นงานองค์รัชทายาทแล้วหรือ แล้วทำไมไม่มีใครรู้เรื่องนี้เลยเล่า
เฉียวฉู่หันไปมองจวินอู๋เสียด้วยสายตาสับสนงุนงง แต่จวินอู๋เสียกลับไม่ใส่ใจแม้แต่จะเหลือบหางตามองมาสักนิด เฉียวฉู่พยายามเค้นสมองนึก แต่ไม่ว่าจะนึกเท่าไรเขาก็จำไม่ได้ว่าเมื่อวานจวินอู๋เสียเคยพูดอะไรเกี่ยวกับเรื่องที่รู้ตัวคนร้ายที่เล่นงานองค์รัชทายาท!
เขากำลังจะอ้าปากกระซิบถามฮวาเหยา แต่ฮวาเหยาก็ถลึงตาจ้องมาที่เขาแล้วเบนสายตาไปทางอื่น
“ข้าไม่คิดจัดการกับคนที่ไม่ได้เล่นงานข้าหรอก จริงอยู่ที่ว่าตอนแรกสำนักศึกษาเฟิงหัวไม่ได้คิดที่จะทำงานให้กับองค์ชาย แต่ก็ใช่ว่าเราจะหดหัวและต้องหวาดกลัวใคร ที่เราเป็นพันธมิตรกันตอนนี้ ไม่ใช่ด้วยเหตุผลอื่นเลยนอกจากเพราะอีกฝ่ายใช้สำนักศึกษาเฟิงหัวของเราเป็นเครื่องมือสร้างปัญหา ถึงแม้สำนักศึกษาเฟิงหัวจะไม่ได้ยิ่งใหญ่และเป็นที่เคารพนับถือเหมือนเมื่อก่อน แต่พวกเราก็ไม่ใช่พวกขี้แพ้ที่จะปล่อยให้ตัวเองถูกชักใยได้ง่ายๆ” จวินอู๋เสียพูดพร้อมกับหัวเราะเสียงเย็นยะเยือก
ดวงตาของเหลยเชินจับจ้องอยู่ที่จวินอู๋เสีย เป็นความจริงที่ก่อนเมื่อวาน จวินอู๋เสียและคนอื่นๆ ไม่เคยเป็นฝ่ายเข้าพบเขาเลยสักครั้ง มีเพียงหลังเกิดเรื่องขึ้นเท่านั้นที่พวกเขาทำตรงกันข้ามกับที่เคยทำตามปกติ
“ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง ก็โปรดรับการคารวะจากเหลยเชินผู้นี้ด้วย!” เหลยเชินยืนขึ้นและโดยไม่พูดอะไรอีก เขาทำการคารวะจวินอู๋เสียและคนอื่นๆ ด้วยการโค้งตัวต่ำจนถึงเอว
แม้กระทั่งต่อหน้าการคารวะครั้งใหญ่ที่แสดงถึงความนอบน้อมจากองค์รัชทายาท จวินอู๋เสียก็ยังไม่ขยับเขยื้อน นั่งรับการคารวะที่แสดงถึงความขอบคุณนั้นอย่างง่ายดาย
“ขอให้แขกผู้มีเกียรติของข้ารอสักครู่ ข้ามีบางอย่างอยากจะให้พวกเจ้าได้เห็น” เหลยเชินยืดตัวขึ้นและออกจากห้องอาหารไปทันที
หลังจากเหลยเชินออกไปแล้ว เฉียวฉู่ที่อดรนทนไม่ไหวอีกต่อไปก็หันไปมองจวินอู๋เสีย เขาถามขึ้นอย่างร้อนใจว่า “น้องเสีย! ใครเป็นคนเล่นงานองค์รัชทายาทหรือ แล้วเจ้ารู้ได้อย่างไร!”
จวินอู๋เสียยกถ้วยชาขึ้นจิบช้าๆ ก่อนจะพูดว่า “ข้าไม่รู้หรอก”
“ห๊ะ!” เฉียวฉู่ถึงกับพูดอะไรไม่ออก
ไม่รู้อย่างนั้นหรือ!
“ข้าแค่ตบตาเขาเท่านั้น” จวินอู๋เสียตอบพร้อมกับหันไปมองเฉียวฉู่นิ่งๆ
“…” ตบตาหรือ… เฉียวฉู่จ้องมองจวินอู๋เสียตาโตเท่าไข่ห่าน ทุกคำพูดของจวินอู๋เสียทั้งเฉียบขาดและตรงประเด็น ต้อนเหลยเชินไปเรื่อยๆ อย่างต่อเนื่อง กระทั่งตัวเขาเองก็ยังตื่นเต้นมาก แต่ว่า…
นางหลอกตบตาเหลยเชินมาตลอดเลยหรือ
“ถ้าอย่างนั้น…ถ้าอย่างนั้น…” เฉียวฉู่เริ่มติดอ่าง
จวินอู๋เสียรู้ว่าเขาอยากถามอะไร นางจึงตอบเขาไปตรงๆ “ไม่ฮ่องเต้ก็องค์ชายสี่นั่นแหละ จะให้เหลยเชินเชื่อว่าเราตั้งใจช่วยเขาจริงๆ เราก็ต้องทำให้เขาคิดว่าเรารู้ตัวคนร้ายแล้ว และเราก็ไม่สนใจเรื่องยศตำแหน่งอะไรของอีกฝ่าย เขาถึงจะยอมเชื่อ”
ตอนที่ 814 ถอยเพื่อรุก (4)
“เจ้ารู้ได้อย่างไรว่าถ้าไม่ใช่ฮ่องเต้ก็เป็นองค์ชายสี่น่ะ ฮ่องเต้…อย่างไรก็เป็นบิดาของเหลยเชิน ถึงแม้เหลยเชินจะดูว่ามีความคิดเป็นของตัวเอง แต่เขาก็ยังทำหน้าที่ในฐานะองค์รัชทายาทได้ดี อย่างน้อยดูเผินๆ เขาก็ทำได้ค่อนข้างดีนะ ทำไมฮ่องเต้ถึงจะ…ทำแบบนั้นกับเขาเล่า” เฉียวฉู่กำลังรู้สึกว่าตัวเองอาจจะใช้งานสมองมากเกินไปหน่อย
จวินอู๋เสียนิ่งเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะถามขึ้นว่า “เจ้ารู้หรือไม่ว่าใครคือฮ่องเต้ของรัฐชี”
เฉียวฉู่คิดแล้วตอบว่า “ข้ารู้ คนที่เคยเป็นองค์รัชทายาทมาก่อนใช่หรือไม่” เนื่องจากจวินอู๋เสียคือคุณหนูใหญ่แห่งจวนหลินอ๋องของรัฐชี ดังนั้นกระทั่งเฉียวฉู่ก็เคยได้ยินเรื่องของรัฐชีมาบ้าง
“ถ้าอย่างนั้นเจ้ารู้หรือไม่ว่าตอนที่เขาเป็นองค์รัชทายาท มารดาของเขากับญาติทางฝั่งมารดาทั้งหมดถูกสังหารโดยอดีตฮ่องเต้” จวินอู๋เสียถาม
“จะเป็นไปได้อย่างไร” เฉียวฉู่ถาม ดวงตาเบิกกว้าง
“ไม่มีอะไรเป็นไปไม่ได้” จวินอู๋เสียพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉยราวกับกำลังบอกเล่าเรื่องราวที่ไม่เกี่ยวกับตัวเองเลยแม้แต่น้อย “อดีตฮ่องเต้ชิงชังองค์รัชทายาท เขาวางแผนจะทำให้องค์ชายรองขึ้นเป็นรัชทายาทของเขา แต่เนื่องจากเขาห่วงเรื่องชื่อเสียงในสายตาประชาชน เลยไม่สามารถกำจัดรัชทายาทได้อย่างโจ่งแจ้ง ก็เลยใช้วิธีลอบวางแผนทำร้ายแทน ในขณะที่เขาผลักองค์รัชทายาทไปสู่ความตายอย่างช้าๆ เขาก็ยังทำลายชื่อเสียงของรัชทายาทในสายตาของประชาชนอีกด้วย พร้อมๆ กับดันองค์ชายรองให้ขึ้นมา ถ้าไม่ใช่เพราะเกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้น ฮ่องเต้ของรัฐชีองค์ปัจจุบันก็คงเป็นอีกคนไปแล้ว”
ความลับอันสลับซับซ้อนภายในวังหลวง นั่นเป็นครั้งแรกที่เฉียวฉู่และคนอื่นๆ ได้ฟังเรื่องราวเช่นนี้ ถึงแม้จวินอู๋เสียจะเล่าด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งก็ตาม แต่คนอื่นๆ ก็พากันตกใจกลัวเมื่อได้ฟัง
“ในฐานะองค์รัชทายาท…เขาต้องมีชีวิตที่อันตรายและอับจนหนทางขนาดนั้นเลยหรือ” แค่คิดเฉียวฉู่ก็รู้สึกเห็นใจฮ่องเต้แห่งรัฐชีในตอนนี้เป็นอย่างมาก
ฟ่านจัวกลับมองจวินอู๋เสียอย่างใช้ความคิดแล้วพูดว่า “เจ้าคิดว่าเหลยเชินจะตกอยู่ในสถานการณ์เหมือนกับที่ฮ่องเต้แห่งรัฐชีเคยเจอมาก่อนอย่างนั้นหรือ”
จวินอู๋เสียพยักหน้าช้าๆ “ตอนแรกข้าก็ไม่แน่ใจ แต่เมื่อวานนี้ข้ายืนยันได้แล้ว ศึกประลองภูติวิญญาณปีนี้เป็นกับดักที่ฮ่องเต้แห่งรัฐเหยียนวางไว้เพื่อโค่นองค์รัชทายาท”
“แต่ทำไมเขาต้องทำอย่างนั้นด้วยเล่า ฮ่องเต้มีโอรสสี่พระองค์ นอกจากองค์รัชทายาท องค์ชายรองก็โง่เง่า องค์ชายสามขี้ขลาดอ่อนแอ ส่วนองค์ชายสี่ยังเด็กเกินไป นอกจากนั้นทั้งองค์ชายสี่กับเหลยเชินต่างก็ถูกฮองเฮาที่เป็นมารดาแท้ๆ ของเหลยเชินเลี้ยงดูมา ในขณะที่องค์ชายสี่กำเนิดจากสนมต่ำต้อยคนหนึ่งเท่านั้น ต่อให้ฮ่องเต้อยากจะเปลี่ยนผู้สืบทอดบัลลังก์จริงๆ มันก็ไม่มีตัวเลือกที่ดีกว่าเหลืออยู่แล้ว!” เฟยเยียนพูดแทรกขึ้นมา บรรยายคุณสมบัติขององค์ชายทั้งสี่แห่งรัฐเหยียนอย่างรวดเร็ว และได้ข้อสรุปว่านอกจากเหลยเชินก็ไม่มีใครเหมาะสมอีกแล้วจริงๆ
“การสถาปนารัชทายาทผู้สืบทอดบัลลังก์คนใหม่ไม่ใช่สิ่งที่ทำได้ในเวลาสั้นๆ ถึงแม้องค์ชายสี่จะยังเด็กอยู่ แต่อีกไม่กี่ปีเขาจะกลายเป็นผู้มีคุณสมบัติที่เหมาะสม ถึงเวลานั้นชื่อเสียงขององค์รัชทายาทก็ตกต่ำลงแล้ว มันจะเป็นเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการดันองค์ชายสี่ขึ้นแทน” จวินอู๋เสียพูดนิ่งๆ
“องค์ชายสี่หรือ เจ้าคิดจริงๆ หรือว่าเป็นเขา” ฮวาเหยาถามพร้อมกับขมวดคิ้ว
จวินอู๋เสียพยักหน้า “ข้าเดาว่าเหลยเชินก็รู้เหมือนกัน ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่หลบเลี่ยงองค์ชายสี่ขนาดนั้น”
แค่เพราะองค์ชายสี่อยู่ในตำหนักที่ประทับของฮองเฮา เหลยเชินก็เลือกที่จะไม่เข้าไปถวายพระพรฮองเฮา ระดับความรังเกียจที่แสดงออกมาในเหตุการณ์นั้นไม่อาจจะชัดมากไปกว่านี้ได้แล้ว
“แต่ต่อให้ฮ่องเต้มีความตั้งใจเช่นนั้น ข้าก็คิดว่าฮองเฮาไม่น่าจะเห็นด้วย ตระกูลของฮองเฮาแห่งรัฐเหยียนมีตำแหน่งสูงและอำนาจของพวกเขาก็ค่อนข้างมากทีเดียว เหลยเชินเป็นพระโอรสแท้ๆ ของฮองเฮา จะเป็นไปได้อย่างไรที่ฮองเฮาจะเห็นองค์ชายสี่ที่เป็นบุตรบุญธรรมดีกว่า แล้วปล่อยให้ฮ่องเต้ดำเนินแผนการทำร้ายโอรสของตัวเองโดยไม่พูดอะไรเลย” ฟ่านจัวยังเห็นว่ามีบางส่วนของเรื่องนี้ที่ขาดหายไป