บทที่ 329 กล้าหลอกฉันงั้นเหรอ

อ้อนรัก คุณภรรยาคนสวย

ความมั่นใจของเฉินซินโหรวเมื่อกี้ ทำให้หลิวจงเริ่มสงสัย

เพราะยังไง เขาไม่เคยได้ยินชื่อเสียงตระกูลเป๋า นี่เป็นแค่คำพูดปากเปล่าของเป๋าฮวน

ทันใดนั้น มีพนักงานเดินมาทางหลิวจง แล้วโค้งถามว่า “ไม่ทราบว่าใช่ประธานหลิวจงไหมครับ?”

“ใช่ ผมเอง” หลิวจงเงยหน้า แล้วพูดออกมาอย่างมั่นใจ

“นี่เป็นรายชื่อแขกที่มางานครับ” พนักงานเอากระดาษผ่านหนึ่งออกมา แล้วยื่นให้หลิวจง

หลิวจงรีบรับไว้ทันที แล้วตรวจดูรายชื่อทีละคน หาไปตั้งนาน ตั้งแต่บนลงล่าง ก็ไม่เห็นชื่อของเป๋าฮวน

แต่ว่า เขาก็ไม่เห็นชื่อของเฉินฮวนฮวนเหมือนกัน นี่เลยทำให้หลิวจงงง

“คุณชื่ออะไรกันแน่? ใบรายชื่อแขกไม่มีชื่อเป๋าฮวน ไม่มีเฉินฮวนฮวนด้วย คุณเป็นใครกันแน่?” หลิวจงชี้เป๋าฮวน โมโหจนหน้าแดง

เขาเป็นถึงผู้บริหาร แต่กลับโดนผู้หญิงหลอก ตอนนี้เขาโมโหมาก โกรธจนหน้าแดง

ถ้าไม่ใช่เพราะเฉินซินโหรวให้เขาไปสืบเรื่องเฉินฮวนฮวนก่อน เขาจึงให้คนไปเอาใบรายชื่อ ไม่งั้นคงไม่ได้ใบรายชื่อเร็วขนาดนี้ แล้วรู้ว่าตัวเองโดนหลอกเร็วขนาดนี้

“อาจง คุณว่าอะไรนะ? ไม่มีทั้งสองชื่อเลยเหรอ? งั้นมันเข้ามาได้ยังไง?” เฉินซินโหรวขมวดคิ้วแน่น แย่งใบรายชื่อแขกจากหลิวจง แล้วมาเช็กดูทีละคน

แต่ว่า เธอดูอย่างละเอียดแล้ว ก็ไม่เห็นชื่อสองชื่อนั้นเหมือนกัน

ไม่ว่าจะเป็นเป๋าฮวน หรือว่าเฉินฮวนฮวน ก็ไม่มีเลย

“ฉันจะรู้ได้ยังไงว่ามันเข้ามาได้ยังไง? รีบเรียกยามมา! มีคนแอบเข้ามาในงาน!” หลิวจงโมโหมากๆ อยากจะสั่งสอนเป๋าฮวนด้วยซ้ำ

เฉินซินโหรวก็เหมือนกัน แล้วเธออยากให้เฉินฮวนฮวนหน้าแตก จึงรีบพูดว่า “ฉันจะไปเรียกยามเดี๋ยวนี้เลย!”

พูดไปด้วย เฉินซินโหรวก็จับกระโปรงขึ้นมาวิ่งพุ่งไปที่หน้าประตู

เป๋าฮวนมองทั้งสองคนอย่างหมดคำพูด มุมปากก็กระตุก แล้วหมุนแหวนที่นิ้วกลางเล่นอย่างขี้เกียจ “พวกคุณสองคนอยากทำอะไร?”

“นังสารเลว กล้าหลอกฉันงั้นเหรอ คอยดูว่าฉันจะให้คนจัดการแกยังไง!” สีหน้าหลิวจงบึ้งตึง รูจมูกก็เปิดกว้างจนคนอื่นมองเห็นขนในรูจมูก

เป๋าฮวน: “……”

เธอเบะปาก ไม่อยากสนใจ

ตอนที่จะหันเดินไป แต่แขนกลับโดนหลิวจงดึงไว้ เป๋าฮวนเจ็บจนขมวดคิ้ว จากนั้นจึงเปลี่ยนมาทุ่มหัวไหล่หลิวจงแทน

เสียงดึง”ปึก” ถึงหลิวจงไม่อ้วนมาก แต่ก็ไม่ผอม ร่างกายกำยำ ตอนที่โดนทุ่มลงพื้น เสียงจึงดังมาก

ทีนี้ คนทั้งงานก็เริ่มมองมาทางนี้ จากนั้นก็ค่อยๆเดินมามุงที่นี่

“โอ๊ย ใครก็ได้! รีบจับผู้หญิงคนนี้ไว้ โอ๊ยเอวฉัน……” หลิวจงนอนอยู่ที่พื้น รู้สึกปวดไปทั้งตัว แล้วเอาแต่โอดครวญ

คนอื่นก็ซุบซิบว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น แต่ก็ไม่มีใครไปพยุงตัวเขา

ทันใดนั้น เฉินซินโหรวก็พายามสองคนวิ่งมา เห็นหลิวจงนอนอยู่ที่พื้น จึงสะดุ้งตกใจ รีบพุ่งไปพยุงหลิวจง

เธอพยุงหลิวจงไปด้วย แล้วหันไปพูดกับยามว่า “รีบจับตัวผู้หญิงคนนี้ไว้! มันแอบเข้ามาในงาน ต้องคิดไม่ดีแน่นอน แถมยังทำร้ายประธานหลิวขนาดนี้ รีบจับตัวมันซะ!”

ถึงเฉินซินโหรวจะตะโกนพูดแบบนี้ แต่ยามทั้งสองคนก็ลังเลที่จะไปจับตัวเป๋าฮวน

พวกเขาเห็นกับตาว่าเป๋าฮวนเข้างานมาพร้อมการ์ดเชิญ จึงไม่มีทางจับตัวแขกผู้มีเกียรติเพราะแค่คำพูดปากเปล่าของเฉินซินโหรว ไม่งั้นถ้าเกิดเรื่องอะไรพวกเขาคงรับผิดชอบไม่ไหว

เฉินซินโหรวเห็นว่ายามไม่ลงมือ จึงใจร้อนมาก แต่ก็ยังพยุงตัวหลิวจงขึ้นมาก่อน

ตอนที่หลิวจงลุกขึ้น เขากัดฟันแน่น ดูท่าทางเหมือนจะเจ็บมาก วินาทีที่เขาลุกขึ้นแล้ว เขาจึงจ้องเป๋าฮวนอย่างโกรธแค้น แล้วง้างมือขึ้น

เป๋าฮวนกำลังจะหลบ แต่มีมือมาจับแขนของหลิวจงไว้ก่อน

ทันใดนั้น เสียงรอบข้างเงียบลงทันที ทุกคนกำลังดูเหตุการณ์อยู่ รอคอยว่าจะเป็นยังไงต่อ

หลิวจงเงยหน้าขึ้น จึงเห็นใบหน้าที่หล่อเหลา แล้วใบหน้านี้ คงเกือบทั้งประเทศรู้จัก

ไม่ใช่คนอื่น แต่เป็นนักแสดงยอดเยี่ยม–เวินซือเหยี่ยน

“เวินซือเหยี่ยน คุณจะทำอะไร? กล้ายุ่งเรื่องของผมเหรอครับ?” หลิวจงถามอย่างโมโห

จากที่เขาดูมา ตัวเองเป็นนักธุรกิจ ถึงเวินซือเหยี่ยนจะเป็นนักแสดงชื่อดัง แต่ก็แค่ดาราในวงการบันเทิง เขาไม่จำเป็นต้องแยแส

“ประธานหลิวครับ รักษาภาพลักษณ์ตัวเองด้วยครับ” เวินซือเหยี่ยนพูดอย่างเรียบนิ่ง แต่น้ำเสียงกลับแฝงไปด้วยความเสียดสี

หลิวจงจึงเดือดกว่าเดิม เมื่อกี้เพิ่งโดนผู้หญิงหลอก ตอนนี้ยังโดนดารามาเยาะเย้ย เขาเป็นนักลงทุน เป็นถึงบอส คนพวกนี้เหมาะแค่ถือรองเท้าให้เขา

“มึงกล้าสั่งสอนกูเหรอ? เวินซือเหยี่ยน มึงคิดว่ามึงเป็นใคร?” หลิวจงชี้หน้าเวินซือเหยี่ยน แล้วเริ่มด่าอย่างดูถูก “กล้ามาขัดใจกู เดี๋ยวกูจะให้เฉินฟานขึ้นบัญชีดำพวกมึง”

เป๋าฮวนเห็นหลิวจงที่กำลังเดือด ปากจึงกระตุก พูดอะไรไม่ออกเลย

เพราะว่า เธอหมดคำพูดมาก

หมดคำพูดมากๆ มากถึงมากที่สุด

พอหลิวจงพูดแบบนี้ ดารารอบข้างจึงเริ่มซุบซิบกัน

ดาราชายเหมือนสะใจมาก ถ้าเวินซือเหยี่ยนดับ งั้นโอกาสในวงการบันเทิงของพวกเขาก็จะเพิ่มขึ้น

แล้วดาราหญิงก็ประหลาดใจมาก ถึงเวินซือเหยี่ยนจะเป็นนักแสดงแนวหน้า มีสิทธิ์ที่จะเอาแต่ใจ ปกติชอบทำตัวสูงส่งก็ช่างเถอะ ทำไมถึงกล้าเสียมารยาทกับหลิวจง ไม่กลัวว่าจะโดนหลิวจงขึ้นบัญชีดำเหรอ?

“ขึ้นบัญชีดำ?” น้ำเสียงของเวินซือเหยี่ยนนิ่งเฉย “ประธานหลิวก็แค่ลงทุนละครไปไม่กี่เรื่อง มีสิทธิ์มายุ่งเรื่องในวงการบันเทิงแล้วเหรอครับ?”

“เหอะ ขอแค่มีเงิน ทำไมจะยุ่งไม่ได้? ถึงกูไม่ได้ทำธุรกิจในวงการบันเทิง แต่กูมีเงิน กูก็ลงทุนสร้างละครได้!” พอหลิวจงพูดถึงเรื่องเงิน จึงรู้สึกมั่นใจมาก

“อย่างนี้เหรอครับ!” เวินซือเหยี่ยนเหมือนเข้าใจ

หลิวจงคิดว่าเวินซือเหยี่ยนยอมแล้ว จึงหัวเราะเสียงดัง เขามองแขนตัวเองที่เวินซือเหยี่ยนจับอยู่ แล้วพูดเสียงเข้มว่า “ยังไม่ปล่อยอีก? กูบอกมึงไว้เลย มึงต้องคุกเข่าขอโทษกู ไม่งั้น กูจะให้เฉินฟานไล่พวกมึงออก!”

เป๋าฮวน: “……”

เธออึ้งไปหนึ่งวินาที จากนั้นจึงทนไม่ได้ แล้วหลุดขำออกมา

“ฮ่าฮ่าฮ่า……”

เสียงหัวเราะของเธอ ดังไปทั่วงาน

เวินซือเหยี่ยนหันไปทางเป๋าฮวน จึงเห็นหน้าด้านข้างของเธอที่กำลังหัวเราะอยู่ ให้ความรู้สึกน่ารักมีชีวิตชีวามาก

เขาเคยเห็นผู้หญิงที่ชอบยิ้มปลอมๆมาเยอะ รอยยิ้มของเป๋าฮวน ทำให้เขาเหม่อ

เขาจึงนึกถึงเธอเมื่อสามปีก่อน