ตอนที่ 469 ทุกคนหายไปไหน

สตรีมเมอร์สาว กินพิชิตอวกาศ

ตอนที่ 469 ทุกคนหายไปไหน?

ตอนที่ 469 ทุกคนหายไปไหน?

ตลอดช่วงชีวิตที่ผ่านมาเขาไม่เคยคิดว่าจะได้เห็นชัยชนะของเผ่ามนุษย์ และไม่ได้คาดหวังว่าสวี่หลิงอวิ๋นจะนำพาข่าวดีมาให้เขา! อีกทั้งเขายังได้เห็นข่าวดีนี้ด้วยตัวเอง!

ความสุขอัดแน่นอยู่ในใจ เขาอยากจะกรีดร้องขึ้นไปจนถึงฟ้า ระบายความขุ่นเคืองที่แสนอัดแน่นตลอดทั้งปีที่ผ่านมา!

“ผมพอจะมีเกียรติเป็นองค์รักษ์ของท่านได้ไหมครับ?” อวี้ซินถาม เขาไม่รู้ว่าจะขอบคุณที่สวี่หลิงอวิ๋นคอยช่วยเหลือเขาอย่างไรดี และดูเหมือนว่านี่จะเป็นเพียงสิ่งเดียวที่เขาทำได้เท่านั้น

สวี่หลิงอวิ๋นส่ายหัว “ท่านคิดว่าฉันต้องการให้ท่านมาปกป้องเหรอคะ?”

เธอยิ้มพลางมองดูอวี้ซิน “ท่านอย่าถือว่าฉันช่วยเหลือท่านเลยค่ะ ถ้าเป็นแบบนั้น ท่านคงจะดูเป็นคนนอกเกินไป!”

“เผ่ามนุษย์เป็นหนึ่งเดียว ไม่ว่าจะอยู่นอกต้นไม้แห่งชีวิตหรืออยู่ในต้นไม้แห่งชีวิตก็ตาม ทุกคนล้วนเป็นมนุษย์ ไม่สามารถแยกออกจากกันได้”

“ถ้าท่านอยากจะขอบคุณฉันจริง ๆ เอาไว้หลังจากทุกอย่างเข้าที่เข้าทางแล้ว ท่านมาเป็นนายพลที่จักรวรรดิชิงเหย้าของเราก็แล้วกัน! ชิงเหย้าของเราต้อนรับคุณเสมอ!”

อวี้ซินเป็นคนมากความสามารถ จึงไม่ควรปล่อยไปให้เสียเปล่า!

ความสามารถในการแฝงตัวอยู่ในเคทเลอร์โดยปราศจากหน้ากากเป็นอะไรที่ไร้ข้อกังขามาก อีกทั้งยังสามารถไต่เต้าจนกลายเป็นผู้จัดการตลาดมืดได้ นี่ไม่ใช่สิ่งที่คนธรรมดาจะทำได้!

อวี้ซินพยักหน้า “ขอบคุณครับ ตราบใดที่ท่านต้องการ ผมก็จะทำมัน”

สวี่หลิงอวิ๋นพยักหน้า “เอาแบบนี้แล้วกัน ท่านไปหาโอคาซีก่อนเถอะค่ะ ไปดูว่าเผ่ามนุษย์จะถูกย้ายเข้าไปในต้นไม้แห่งชีวิตได้เมื่อไหร่!”

อวี้ซินเห็นด้วย ใช่ ยังต้องจัดการเรื่องนี้ด้วย! เขาจึงรีบเข้าไปดูการเคลื่อนย้ายดาวเคราะห์ทันที!

ตอนนี้เป็นการต่อสู้แบบไม่มีเงื่อนไข

สวี่หลิงอวิ๋นนั่งนิ่ง ไม่ว่าจักรวรรดิอื่นจะพยายามติดต่อสื่อสารกับพวกเธออย่างบ้าคลั่งขนาดไหน การร้องขอความเมตตาก็ไม่มีประโยชน์อยู่ดี เช่นเดียวกับอีกสี่จักรวรรดิใหญ่ เดิมทีสวี่หลิงอวิ๋นจะไม่ปล่อยให้จักรวรรดิเอลฟ์รอดชีวิตออกไป ทว่าชิงเย่เอาแต่อ้อนวอนขอความเมตตาอยู่ด้านข้าง!

นอกจากนี้ผู้อาวุโสลี่หย่ายังส่งข้อความมาอธิบายว่าพวกเขามาที่นี่เพื่อมองดูการเปลี่ยนแปลง ไม่ได้ตั้งใจจะมาจับตัวเผ่ามนุษย์ หวังว่าสวี่หลิงอวิ๋นจะเข้าใจกัน!

รวมทั้งหวังว่าต้นไม้แห่งชีวิตผู้ยิ่งใหญ่จะเห็นแก่พระแม่พฤกษาห่าวหลาน และเปิดทางให้พวกเอลฟ์ออกไป

เธอจึงปล่อยพวกเอลฟ์ไปโดยไม่คิดติดใจอะไร

ในที่สุดชาวเอลฟ์ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก

โชคดีที่ผู้อาวุโสของพวกเขาได้ตกลงกับอีกฝ่ายแล้ว ไม่อย่างนั้นพวกเขาจะต้องโดนทิ่มแทงจนเป็นรูโบ๋เหมือนจักรวรรดิอื่นแน่ และหลงเหลือแค่ผิวหนังล่องลอยอยู่ในอวกาศ!

ขณะนี้เมืองหลวงจากจักรวรรดิต่าง ๆ กำลังรอฟังข่าวจากแนวหน้า เพราะกองกำลังก่อนหน้านี้ได้รับความเสียหายอย่างสาหัส พวกเขาจึงยิ่งรู้สึกสงสัยเกี่ยวกับการต่อสู้ในครั้งนี้ และกองกำลังที่พวกเขาส่งออกไปในครั้งนี้ก็เป็นถึงยอดฝีมือ

ทุกคนในอาณาจักรเอลฟ์รู้ดีว่าเกิดอะไรขึ้น จึงไม่มีใครถามและพูดคุยถึงเรื่องนี้

ทว่าจักรวรรดิเซียร์กับจักรวรรดิจื่อจินนั้นต่างกันออกไป พวกเขากำลังคำนวณเวลา หากตอนนี้สงครามผ่านไปด้วยดี จักรวรรดิดวงดาวของเผ่ามนุษย์ควรจะล่มสลายไปแล้ว พวกเขาควรจะต้องได้รับข่าวดี

แต่ตอนนี้กลับไม่มีข่าวคราวอะไรเลย มีปัญหาอะไรเกิดขึ้นอีกหรือเปล่า?

“เจฟ เจ้าส่งข้อความไปหาหม่าเอิ่น ถามพวกนั้นว่าตอนนี้เกิดอะไรขึ้น ทำไมป่านนี้ยังไม่ตอบข้อความกลับมาอีก?”

เจฟที่เป็นเจ้าหน้าที่ประสานงานรีบติดต่อหาหม่าเอิ่นอย่างรวดเร็ว ทว่าสิ่งที่แปลกก็คือข้อความจำนวนนับไม่ถ้วนที่เขาส่งออกไปเป็นเหมือนกับก้อนหินที่จมดิ่งลงในท้องทะเลลึก ไม่มีคลื่นสัญญาณตอบรับกลับมา

“ติดต่อไม่ได้? หมายความว่ายังไงที่ว่าติดต่อไม่ได้? พวกนั้นไปตกอยู่ในหลุมดำหรือเปล่า?” จักรพรรดิแห่งจักรวรรดิจื่อจินโบกมืออย่างไร้ความอดทน และพูดว่า “ลองใหม่! อุปกรณ์การสื่อสารที่พวกเขาติดตั้งมีความทันสมัยที่สุดในจักรวาล ต่อให้ตกหลุมดำยังไงก็ต้องได้รับข้อความ!”

เจฟลองติดต่อหาเขาอีกครั้ง ทว่าผลลัพธ์กลับเป็นเหมือนเดิม ไม่สามารถเชื่อมต่อได้ นับประสาอะไรกับการตอบรับจากอีกฝ่าย

“ส่งคนไปตรวจสอบ ข้าอยากจะเห็นแหล่งที่อยู่ของเผ่ามนุษย์ ที่นั่นมันมีผีหรือยังไง?” จักรพรรดิแห่งจักรวรรดิจื่อจินสั่งการ “พวกเจ้าจงไปถามจักรวรรดิอื่นว่าเกิดอะไรขึ้น พวกเขาติดต่อได้ไหม?”

เจฟไม่จำเป็นต้องติดต่อพวกเขา เพราะว่าจักรวรรดิอีกสามแห่งที่เหลือเป็นคนติดต่อมาหาจักรวรรดิจื่อจินก่อน พวกเขาเอ่ยถามว่ายานรบที่จักรวรรดิจื่อจินส่งออกไปกลับมาหรือยัง? ติดต่อกับคนพวกนั้นได้หรือไม่?

“เฮ้อ…พวกเขาหายไปไหนกัน? ถูกเผ่ามนุษย์ล้มล้างหรือเปล่า? เป็นไปไม่ได้ เผ่ามนุษย์จะล้มล้างจักรวรรดิมากมายในเวลาเดียวกันได้ยังไง หรือว่าจะถูกอสุรกายจับกิน?”

จักรพรรดิแห่งจักรวรรดิจื่อจินไม่อยากจะเชื่อ สิ่งเดียวที่เขาคิดได้คือคนพวกนั้นกำลังแก่งแย่งผลประโยชน์กันอยู่ และฆ่าคนของพวกเขาทิ้ง!

“ส่งคนไปตรวจสอบสถานการณ์ที่เผ่ามนุษย์ก่อน ดูว่าพอจะหาเบาะแสอะไรได้บ้าง” จักรพรรดิแห่งจักรวรรดิจื่อจินพูดเย้ยหยัน ถ้าไอ้สารเลวคนไหนมันกล้าเล่นตุกติกลับหลังเขา เขาจะทำให้คนพวกนั้นต้องชดใช้อย่างสาสม!

ณ เมืองหลวงเคทเลอร์

ชนชั้นสูงทั้งหลายกำลังหารือกันว่าการทำลายล้างเผ่ามนุษย์จะได้ผลประโยชน์มากน้อยเพียงใด ส่วนพระราชโองการของจักรพรรดิล่ะ? ท่ามกลางความสนใจอย่างล้นหลาม พวกเขาเพิกเฉยต่อบทบัญญัติดังกล่าวอย่างสมบูรณ์แบบ

จอมพลเอเดนไปพบจักรพรรดิองค์ปัจจุบันที่พระราชวังเป็นการส่วนตัว ซึ่งก็คือซินหยาที่ยังคงปลอมเป็นโมยาต

“ฝ่าบาท ท่านต้องคิดหาหนทางนะพ่ะย่ะค่ะ ถ้ายังปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไป เผ่ามนุษย์จะต้องพังพินาศ!” จอมพลเอเดนวิตกกังวล ชนชั้นสูงที่ไม่ยอมแก่ตายพวกนี้กำลังรวมตัวต่อต้านเขากับจักรพรรดิ และสิ่งนี้ทำให้จักรพรรดิมือใหม่กับจอมพลเอเดนทำอะไรไม่ถูก

อวี้ซินก็ติดต่อไม่ได้เช่นกัน และไม่รู้ว่าที่นั่นเกิดอะไรขึ้นบ้าง!

“เราจะทำยังไงดี??” ซินหยาถอนหายใจ หากถามว่ามีใครบ้างที่กังวล เขาคงจะเป็นคนที่กังวลมากที่สุด!

อวี้ซินไม่ให้เขาติดต่อกับเผ่ามนุษย์ และเขาก็ไม่สามารถติดต่อได้เลย! เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตอนนี้เผ่ามนุษย์ล่มสลายหรือได้รับการช่วยเหลือแล้วหรือยัง?

ถึงแม้ว่าเขาจะร้อนรน แต่เขาก็ไม่กล้าแสดงออก เพราะหากถูกคนอื่นจับได้ ทุกสิ่งทุกอย่างที่เผ่าพันธุ์มนุษย์ทุ่มเทลงไปอย่างหนักมาตลอดหลายปีจะสูญเปล่า

ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีกลุ่มเจ้าหน้าที่จากเผ่ามนุษย์ยืนอยู่ข้างหลังเขาอีก เขาต้องการทำให้อารมณ์ของพวกเขาคงที่

“ถ้าอย่างนั้นเรานั่งรอความตายดีไหมพ่ะย่ะค่ะ?” จอมพลเอเดนพูดตะคอก “ก็ได้ ในเมื่อฝ่าบาทไม่อยากลงมือ กระหม่อมจะลงมือเอง!”

จอมพลเอเดนพูดพลางถกแขนเสื้อขึ้น “พอฝ่าบาทได้ขึ้นครองเป็นจักรพรรดิก็ห่วงชื่อเสียงขึ้นมาทันที ฝ่าบาทกลัวว่าพวกชนชั้นสูงจะหลงลืมบุญคุณของเผ่ามนุษย์ที่มีต่อท่านหรือไง?”

“ท่านกลัว แต่กระหม่อมไม่กลัว ตอนนี้ท่านสั่งเคลื่อนย้ายกองกำลังทหารซะ! กระหม่อมจะไปช่วยจักรวรรดิดวงดาวของพวกมนุษย์เอง ถ้าใครกล้าทำร้ายมนุษย์ ก็ถือว่าทำร้ายกระหม่อมด้วย!”

จอมพลเอเดนมีบุคลิกที่ค่อนข้างใจร้อน เขาโกรธจัดเมื่อเห็นจักรพรรดิแสดงอารมณ์จืดชืดเหมือนกับแป้งสาลีมาตลอดช่วงสองวันที่ผ่านมา!

ก่อนหน้านี้ยังเคยบอกว่าจักรพรรดิมีความประสงค์ดี แต่ตอนนี้ก็ดีมั้ง ทั้ง ๆ ที่เผ่ามนุษย์กำลังตกอยู่ในช่วงวิกฤต แต่เขากลับไม่พูดอะไรออกมา อีกทั้งยังยินยอมให้มีการส่งคนไปบุกรุกดินแดนของเผ่ามนุษย์อีกเหรอ?!