ตอนที่ 315 สาเหตุที่ทำให้ฉางโซ่วผมร่วง (1)

ศิษย์พี่ของข้าจะมั่นคงเกินไปแล้ว

ตอนที่ 315 สาเหตุที่ทำให้ฉางโซ่วผมร่วง (1)

ในช่วงชีวิตในโลกบรรพกาลของเขา สมบัติระดับสมบัติวิญญาณแสวงบุญโฮ่วเทียนชิ้นแรกของหลี่ฉางโซ่วคือ เจดีย์ไร้นามขนาดเล็กที่ผู้อาวุโสอวิ๋นจงจื่อ มอบให้เพื่อเห็นแก่ปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่ หลี่ฉางโซวจึงใช้มันเพื่อป้องกันตัว

ทว่าสมบัติวิญญาณแสวงบุญโฮ่วเทียนชิ้นแรกในชีวิตของเขาคือ… ต้นไม้สมบัติเซียงซือที่ถูกย้ายออกมาจากตำหนักแห่งการครองคู่ของศาลสวรรค์!

ในขณะที่เขากำลังจะเลิกเป็นนักจับคู่ เขาก็ถูกรางวัลจากองค์เง็กเซียนฟาดหน้า แล้วผู้ใดจะให้เหตุผลในเรื่องนี้ได้บ้าง?

ในห้องลับใต้ดินเล็กๆ ของวิหารเทพทะเลที่รายล้อมไปด้วยค่ายกล บัดนี้ ตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์ของหลี่ฉางโซ่วถือกระถางต้นไม้และนั่งนิ่งเฉยอย่างรู้สึกหัวเราะไม่ได้ร้องไห้ไม่ออกอยู่ที่นั่น…

ไม่ต้องพูดถึงว่า เขาเรียนไม่จบมหาวิทยาลัยในชาติก่อน เขาได้พบกับหมอดูคนหนึ่งที่ดูเหมือนคนโกหกในโลกนี้ หมอดูคนนั้นได้หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาแล้วใช้โปรแกรมทำนายดวงชะตาในโทรศัพท์มือถือทำนายดวงชะตาเขา จากนั้นก็บอกว่าต้องมีสักวันที่หลี่ฉางโซ่วจะสวมชุดคลุมแต่งงานสีแดง

และเพื่อจะทำลายความเชื่อโชคลางของเขา หลี่ฉางโซ่วจึงสั่งตัดสูททักซิโด้สีดำล้วน เพื่อเตรียมไว้สำหรับการแต่งงานในชีวิตก่อนหน้านี้ของเขา!

ทว่าในท้ายที่สุด เขาก็ไม่ได้ใช้มัน

แต่ดูเหมือนว่า วันนั้นจะมาถึงจริงๆ โดยไม่คาดคิด ทว่าเขาหาใช่เจ้าบ่าวไม่ แต่… เขากลายเป็นเทพจันทราน้อย

ว้าว น่าสนใจดีนะ

หลี่ฉางโซ่วมองไปที่ต้นเซียงซือและมีท่าทีลังเล

ของชิ้นนี้ใช้กับร่างหลักของเขาโดยตรงไม่ได้ และย่อมไม่มีประโยชน์อะไรมากเช่นกัน

หรือจะเป็นว่า ยามที่เขาต่อสู้กับศัตรู เขาจะเสียสละต้นเซียงซือโดยใช้กิ่งไม้ทีละก้าน ทิ่มแทงอีกฝ่ายเพื่อล่อลวงอีกฝ่ายให้ใจเต้นและเปลี่ยนสงครามให้เป็นหยก[1]?

เอ่อ วิธีนี้ก็ไม่เลว

เมื่อใคร่ครวญดูแล้ว หลี่ฉางโซ่วจึงตัดสินใจจะวางของชิ้นนี้ไว้ในเมืองอันสุ่ยเพื่อยับยั้งชะตากรรมของสำนักเทพทะเล!

แม้อาจเป็นเพียงสมบัติวิญญาณแสวงบุญโฮ่วเทียนที่ล้ำค่า และก็ไม่สำคัญว่าขายุงจะบางเพียงใดกัน…

แค่กๆ นั่นไม่สำคัญ!

มันก็ดีกว่าไม่มีอะไร การมีบางสิ่งบางอย่าง ไม่ว่าจะมากหรือน้อย แต่ก็ยังดีกว่าไม่มีอะไรเลย

หลี่ฉางโซ่วควบคุมตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์นี้และใช้หลีกลี้ปฐพีซ่อนกาย มุ่งหน้าไปยังใต้ดินของเมืองอันสุ่ย

เมื่อพุ่งผ่านเข้าไปจนถึงในรัศมีสิบลี้ของวิหารหลักเทพทะเลในเมืองอันสุ่ยแล้ว ตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์ก็เริ่มใช้หลีกลี้ปฐพีซ่อนกายเบี่ยงออกนอกเส้นทางจากเส้นทางที่ซ่อนอยู่ไปเรื่อยๆ ซึ่งเรียกว่าทางสิบแปดโค้ง

ไม่นานหลังจากนั้น ตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์ก็มาถึงที่แห่งหนึ่งในชั้นหินใต้ดิน เขาเปิดใช้กฎห้ามต่างๆ อย่างชำนาญ จากนั้น ตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์ก็เปลี่ยนจากรูปเซียนชรามาเป็นตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์ตัวหนาแล้วสะพายถุงผ้าพลางกระโดดลงไปในรอยแยกของหิน

ภายในรอยแยกของหินไม่มีถ้ำ

มีอีกโลกหนึ่งอยู่ในรอยแยกนั้น

ภายในนั้นมีลานกว้างสามสิบฉื่อ มันคล้ายกับโรงงานกระดาษที่มีขั้นตอนเข้มงวดและรายล้อมไปด้วยค่ายกลที่ยอดเยี่ยมหลายชั้น

นี่คือ คลังเก็บตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์ที่ใหญ่ที่สุด ซึ่งหลี่ฉางโซ่วจัดวางเอาไว้ด้านนอกในขณะนี้!

ในบ้านหลังเล็กสองแถว มีตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์หนาวางซ้อนเป็นกองกันอยู่ ซึ่งไม่สามารถนับจำนวนตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์ทั้งหมดได้อย่างละเอียด และนานๆ ครั้ง ตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์ที่เต็มไปด้วยพลังเซียนก็จะถูกส่งมาที่นี่…

นอกจากนั้น ยังมีตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์ดั้งเดิมจำนวนมากที่ได้รับคำสั่งง่ายๆ คอยทำหน้าที่กวาดพื้น ลาดตระเวน ป้องกันอัคคีภัยและป้องกันขโมยอยู่ที่นี่ ตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์ดั้งเดิมเป็นเพียงเครื่องประดับประดาที่ช่วยให้สถานที่แห่งนี้ดูมีชีวิตชีวามากขึ้น

ตรงมุมของลานบ้าน มีกระท่อมเล็กๆ สองหลัง ซึ่งเต็มไปด้วยถั่วเซียน ซึ่งทั้งหมดล้วนผ่านการคัดสรรมาอย่างดีจนเป็นสินค้าชั้นยอดที่มีคุณภาพสูงกว่าชุดถั่วที่เขามอบให้กับศาลสวรรค์ก่อนหน้านี้มาก

เพื่อไม่ให้ทำร้ายมนุษย์ หลี่ฉางโซ่วจึงไม่ได้วางถั่วเซียนพิษเอาไว้ที่นี่ ซึ่งเป็นปราการป้องกันชั้นสุดท้ายของวิหารเทพทะเลหลัก

หากมีผู้ใดโจมตีสำนักเทพทะเล บรรดาตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์และถั่วเซียนก็จะปลดปล่อยพลังการต่อสู้ที่เทียบเท่ากับเหล่าทหารสวรรค์ชั้นยอดและแม่ทัพสวรรค์หลายหมื่นคนได้ในช่วงเวลาสั้นๆ เพื่อปกป้องเมืองอันสุ่ยและวิหารเทพทะเล

หากเหล่าตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์และถั่วเซียนถูกทำลายไปหมดสิ้น หลี่ฉางโซ่ว…ก็ทำได้เพียงหนีไปเท่านั้น

ในขณะนั้น ตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์ที่สะพายถุงผ้าก็เดินไปที่กลางลานก่อนจะหยิบ “กระถางต้นไม้” ออกมาจากถุงผ้าแล้ววางไว้ที่กลางลาน ทันใดนั้น ต้นสมบัติเซียงซือก็เปล่งแสงระยิบระยับ สาดประกายสว่างเจิดจ้าไปทั่วทั้งลาน และตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์ก็ได้รับบุญและพรเพิ่มขึ้นทันที

เมื่อกล่าวถึงบุญแล้ว… หลี่ฉางโซ่วก็ฉุกคิดถึงบางอย่างเพิ่มขึ้นในใจ แม่ทัพตงมู่กล่าวเมื่อครู่นี้ว่า ต้นเซียงซือน้อยนี้ได้รับการหล่อเลี้ยงมาจากรากฐานของต้นเซียงซือดั้งเดิม เช่นนั้นแล้ว ข้าจะใช้บุญของข้าหล่อเลี้ยงต้นเซียงซือน้อยนี้และแพร่กระจายรากวิญญาณของมันออกไปได้หรือไม่?

กลยุทธ์การต่อสู้ที่เขาเคยคิดมาก่อนหน้านี้ เป็นไปได้จริง ๆ หากเขาใช้ต้นสมบัติเซียงซือร่วมกับโอสถพิษเพลิงหัวใจสัมผัสเซียน ซึ่งจะรบกวนสภาพจิตใจของอีกฝ่ายในช่วงเวลาวิกฤติได้…

ได้ผลสองเท่า พลังเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว!

แม้กลยุทธ์การต่อสู้นั้นจะชั่วร้ายไปสักหน่อย แต่ก็เป็นการต่อสู้เอาเป็นเอาตายได้แล้ว การเอาชีวิตรอดย่อมเป็นสิ่งสำคัญที่สุด

ไม่เพียงเท่านั้น แต่ใบและกิ่งก้านของต้นเซียงซือน้อยนี้ ยังอาจใช้หลอมโอสถได้…

ข้ายังจะพยายามหาวิธีต่อกิ่ง รวมทั้งวางรากวิญญาณและกิ่งวิญญาณเอาไว้เพื่อให้มันออกผลเซียงซือด้วย

เนื่องจากผลโสมมีลักษณะเหมือนทารก ผลเซียงซือจึงอาจแบ่งเป็นผู้และเมียได้…

หากเขามีโอกาสไปที่อารามอู่จวงในภายหน้า เขา นักพรตเต๋าฉางเกิงจะถือผลเซียงซือแล้วไปสักการะบรรพชนเซียนพิภพ และเขายังกล่าวว่า “ท่านผู้อาวุโส ผลไม้ของเรามีพรหมลิขิต ไยไม่ลองแลกสักสองสามร้อยคู่เล่าขอรับ?”

แค่กๆ ช่างฝันไกลจริงๆ

“ข้าจะใช้มันให้เกิดประโยชน์สูงสุดได้อย่างไร”

เขาได้รับของทั้งหมดแล้ว แม้จะไม่ใช่โอสถวิญญาณที่เขาต้องการ แต่จะปล่อยให้รากวิญญาณสมบัติวิญญาณแสวงบุญโฮ่วเทียนเสียเปล่าไปไม่ได้

ไม่รู้ว่า เมื่อต้นเซียงซือต้นนี้เติบโตขึ้น จากนั้นก็นำเยื่อไม้ของต้นเซียงซือมาทำตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์ แล้วจะมีผลอย่างไร… เอ่อ บัดนี้ โครงการตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์ ‘เสน่หา’ ได้เริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการแล้วใช่หรือไม่?

หากกล่าวตามหลักเหตุผลแล้ว ข้าต้องมั่นคง

ข้าน่าจะวางของชิ้นนี้ไว้ที่นี่ก่อนดีกว่า จากนั้น ก็ยืมบุญเครื่องสักการะมาส่วนหนึ่งเพื่อใช้หล่อเลี้ยงมันช้าๆ แล้วค่อยพูดถึงเรื่องนี้ภายหลังเถิด

หลังจากวางต้นเซียงซือที่เพิ่งได้รับมาแล้ว หลี่ฉางโซ่วก็กลับไปที่ร่างหลักของเขาแล้วหลอมโอสถต่อไป

หากรู้มาก่อนว่าองค์เง็กเซียนจะมอบสมบัติล้ำค่าเช่นนี้ให้แก่เขา ก็ย่อมจะช่วยบรรเทาความวุ่นวายในการจัดการปัญหาให้เขาได้ เขาจะใช้มันทิ่มหวังฟู่กุ้ย โดยตรง… สักสองสามร้อยครั้ง แล้วเช่นนี้จะยังไม่พอช่วยจัดการให้เรื่องคลี่คลายได้อีกหรือเล่า?

เมื่อคิดอย่างรอบคอบแล้ว หลี่ฉางโซ่วก็รู้สึกว่าเขา ในฐานะเป็นศิษย์น้อยแห่งสำนักตู้เซียนนั้น ไม่ตรงกับที่ควรเป็นเลย

เมื่อบรรดาศิษย์ในรุ่นเดียวกันกำลังคิดถึงเรื่องระหว่างยอดเขาต่างๆ เขาก็กำลังลอยขึ้นๆ ลงๆ อยู่ในกระแสวังวนของสำนักใหญ่

เมื่อบรรดาศิษย์ในรุ่นเดียวกับเขาส่วนใหญ่ กังวลในเรื่องการข้ามผ่านทัณฑ์สวรรค์ขึ้นสู่เซียน เขาก็อดจะกังวลถึงเรื่องการข้ามผ่านทัณฑ์สวรรค์เซียนจินและวิธีที่จะบรรลุสู่ความเป็นอมตะอย่างมั่นคงไม่ได้…

สิ่งต่าง ๆ ในโลกนี้วิเศษมากจริงๆ

การเดินทางไปยังดินแดนเทวะอุดรเพียงครั้งเดียวนั้น ได้ทำให้ชีวิตการฝึกบำเพ็ญของเขาไม่สงบสุขอีกต่อไป

สำนักเทพทะเลทักษิณ มีต้นกำเนิดมาจาก ‘คณะละโมบ’ ซึ่งเบื้องหลังนั้น มีกรรมอยู่มากมาย … โลกบรรพกาลนั้นเต็มไปด้วยอันตรายนับไม่ถ้วน และมีคลื่นวิจิตรงดงามและอัศจรรย์ ซึ่งทำให้เขารู้สึกพอใจเช่นกัน

สิ่งที่เขาผ่านมาจนถึงยามนี้ ก็ไม่สูญเปล่าแล้ว

แน่นอนว่าเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะพุ่งทะยานขึ้นสู่ฟ้าด้วยปณิธานอันสูงส่งอย่างสง่าผ่าเผย การหัวเราะลั่นและเผยจิตวิญญาณที่ห้าวหาญ ออกมานั้น มันไร้ความสำคัญใดในทางปฏิบัติจริงๆ

การฝึกบำเพ็ญเป็นวิถีทางที่ถูกต้อง

………………………………………………………………..

[1] ประหนึ่งเปลี่ยนศัตรูให้เป็นมิตร เปลี่ยนการต่อสู้ให้เป็นไมตรี